Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 204 เงินนําจับ
ห้องสอบปากคําทีมสาม
แมวเฒ่านั่งอยู่ที่โต๊ะสอบปากคําและถามหม่าใจว่า “คนที่ หยวนเค่อจับตัวไปคายข้อมูลออกมารียัง?”
“นะ…น่าจะคายออกมาหมดแล้ว” หม่าใจพยักหน้าหลัง จากลังเลครู่หนึ่ง
“ขอคําตอบที่แน่นอน ตกลงมันได้ข้อมูลไปรึยัง?!”
“คายหมดแล้วครับ…” หม่าใจตอบหลังครุ่นคิดครู่หนึ่ง “เมื่อสองวันก่อน ผมได้ยินพี่โทรคุยกับใครบางคนในรถประ มาณว่าจะมีคนจากกรมป้องกันการระเบิดมาซ่งเจียงเพื่อรับ ตัวเยี่ยจือเซียวหลังเกิดเรื่องที่อพาร์ตเมนต์ถนนเมเปิล”
“พอจะรู้รึเปล่าว่าหมอนั่นชื่ออะไรแล้วมาจากไหน?” แมวเฒ่าถามอย่างเร่งรีบ
“ผะ..ผมไม่รู้” หม่าใจตอบ “ผมแค่บังเอิญได้ยิน”
“กรมป้องกันการระเบิดนั้นใหญ่มาก บอกมาแค่นี้อย่าบ อกเลยดีกว่า” แมวเฒ่าจ้องเขม็ง “คิดดูดีๆ มีเบาะแสอื่นอีก ไหม?”
“ผมไม่รู้ครับ…” หม่าใจตอบตะกุกตะกัก “อ้อ แต่ได้ยิ นมาว่าชายคนนั้นหัวล้านนะ”
“หัวล้าน?” แมวเฒ่าชะงัก “กรมป้องกันการระเบิดมีแต่ คนนั่งออฟฟิศหัวล้านอายุสามสิบห้าปีขึ้นไปทั้งนั้น จะเล่นต ลกกับฉันรึไง รีบบอกมาให้หมด”
หม่าใจตกตะลึง “ผมบอกเท่าที่รู้ไปหมดแล้วไม่ได้คิดจะ กักอะไรเลย”
สิบนาทีต่อมา
แมวเฒ่าออกจากห้องสอบสวนด้วยสีหน้าไม่สู้ดี เขาโบ กมือเรียกสมาชิกทีมหลักเพื่อเข้าประชุม
“ว่าไง ได้เรื่องแล้วเหรอ?” รู้เหว่ยถามทันที
แมวเฒ่าครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะตอบ “เรียกว่าแทบไม่ได้ อะไรเลยมากกว่า รู้แค่ว่าหยวนเค่อมันง้างปากคนที่จับไปได้ แล้ว บอกแค่ว่าคนจากกรมป้องกันการระเบิดจะมารับ เยี่ยจือเซียวส่วนข้อมูลอื่นๆ ไม่รู้อะไรเลย”
“งั้นก็เป็นปัญหาน่ะสิ! ในกรมป้องกันการระเบิดมีคนตั้ง ไม่รู้เท่าไหร่ จะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นคนมารับเยี่ยจือเซียว!” วันเส้นสบถ
“นั่นสิ” รู้เหว่ยพยักหน้า “เป็นเบาะแสที่ไม่มีประโยชน์ เอาซะเลย”
แมวเฒ่าก้มศีรษะและหยิบถ้วยน้ําขึ้นมา “เปลี่ยนทิศทาง ภารกิจหันไปจับตาดูฝั่งหยวนเค่อไว้ ดูเหมือนหมอนั่นคิดจะ ช่วยหรูเวินเซิ่งจับตัวเยี่ยจือเซียว”
“ก็คงทําได้เท่านี้แหละนะ” จี้เหว่ยทําได้เพียงพยักหน้า
“โอเค รีบไปจัดการให้เรียบร้อยเถอะ” แมวเฒ่าโบกมือไล่
บนถนนฟูอัน หนิวตงจอดรถไว้ข้างถนนก่อนจะลงมาสูบบุหรี่
ตรงข้ามกับแผงขายอาหาร ชายหนุ่มมองไปที่หม้อก๋วยเตี ยวร้อนๆ แล้วสั่งว่า “เอาซุปก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ มาให้ฉันที่หนึ่ง ใส่มันฝรั่งด้วย”
เจ้าของร้านพยักหน้าด้วยรอยยิ้มขณะเตรียมซุปก๋วยเตี๋ยว
ให้ชายหนุ่ม
ไม่กี่นาทีต่อมา ชายหนุ่มก็หิ้วถุงซุปก๋วยเตี๋ยวเดินไปหาห นิวตงที่เปิดท้ายรถรออยู่
ทั้งสองคุยกันไม่นานก็ล็อกรถและรีบขับออกไปตามถนน เข้าไปในซอยที่อยู่ไม่ไกล
เฒ่าสามที่สังเกตการณ์อยู่รีบเช็ดปาก แล้วก้มหัวไปที่ อินเตอร์คอมตะโกนว่า “มีคนมารับหนิวตงแล้ว”
“รับทราบ
คนปลายสายตอบกลับผ่านช่องอินเตอร์คอมอย่างรวดเร็ว
ภายในซอย
หนิวตงถือของบางอย่างอยู่ในมือก่อนพูดขึ้นด้วยเสียง ทุ่มต่ํา “ฉันว่านายเป็นจุดสนใจไปหน่อยนะ”
“สบายใจได้” อาเซียวตอบ “ฉันรับมือได้อยู่แล้ว”
“นายนี่ไม่ชอบฟังคําแนะนําจริงๆ” หนิวตงส่ายหัว
“ฮ่าๆๆ” อาเซียวหัวเราะ “นายไม่อยู่อย่างฉัน นายไม่ เข้าใจหรอก”
หนิวตงเงียบปากทันที
ทั้งสองข้ามตรอกที่ยาวและแคบกระทั่งถึงขอบถนนก่อน จะเลี้ยวเข้าไปในลานทางด้านซ้ายในรถ
“พี่สาม มันคือเยี่ยจือเซียว ฉันเห็นหน้ามันแล้ว” เสียงหนี้ งดังขึ้นผ่านอินเตอร์คอม
เฒ่าสามพ่นบุหรี่พลางยิ้มมุมปาก “โทรหาหยวนเค่อเลย”
บนถนน
หวังปิงนั่งอยู่ในรถมองดูหรูเวินเซิ่งอย่างงุนงงและพูดว่า “เวินเซิง ฉันคิดว่าเราควรค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่านะ ถ้าเรา รีบร้อนอาจเป็นเรื่องได้”
หวี่เหวินเฉิงตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องห่วง คนพวกนั้นก ลัวฉันจะตาย”
หวังปิงเงียบ
“ตราบใดที่ยังมีเงินอยู่ ฉันก็สามารถทํางานได้ทุกที่ที่ต้อง การ แต่ลูกชายของฉันมีคนเดียว แค้นนี้ต้องถูกชําระ” หรู่ เวินเซิงกัดฟันตอบ
หวังปิงมองหภู่เงินเพิ่งอย่างกังวล หลังจากที่รถขับเข้า ไปในตึกสีดํา หวังปิงก็ออกจากรถขณะที่วูเวินเซิงและคน อื่นๆ เดินทางต่อ
ในเวลาเดียวกันเสี่ยวจิ๋วได้นํารถสามคันตรงไปยังถนนฟูอัน
ภายในบ้านหลังหนึ่ง
อาเซียววางอาหารลงบนโต๊ะแล้วโบกมือ “ทุกคนมากินข้าเร็ว”
ริมถนน
หลังจากที่หรูเวินเซิ่งก้าวลงจากรถ เขาพูดกับเสี่ยวจิ๋วว่า “บอกพวกลูกน้องว่าฉันมีเงินอยู่หมื่นดอลลาร์ ใครจับ เยี่ยจือเซียวได้เอาไปเลย”
เสี่ยวจิ๋วหันไปตะโกนบอกทุกคน “ได้ยินแล้วใช่ไหม?”
“ได้ยิน!”
ทุกคนตะโกนรับพร้อมกัน
เสี่ยวจิ๋วออกคําสั่ง “ไปหาตัวมันได้เ”
เมื่อพูดจบฝูงชนก็รุมเข้าไปในตรอก