Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 193 สร้างเรื่อง
โรงพยาบาลในเครือของสถานีตํารวจ
ฟูเสียวห่าวกําลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลมองดูเจ้าหน้าที่ของกองสารวัตรตํารวจด้วยสีหน้าซีดเผือด
“ไม่ต้องเครียด” หัวหน้าสารวัตรโบกมือให้ฟูเสี่ยวห่าวผ่อนคลาย “เรามาที่นี่เพื่อถามรายละเอียดการตายของหลิ วเป่าเฉินน่ะ”
“ครับ” ฟูเสี่ยวห่าวพยักหน้าและตอบตะกุกตะกัก “ผม. ผมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”
หัวหน้าสารวัตรเริ่มเข้าประเด็นทันที “ตอนที่ผู้หมวดหมวดหลิวเปาเฉินตายมีแค่นายกับฉินอวีเท่านั้นที่อ ยู่ในที่เกิดเหุตแถมผู้ต้องสงสัยสองคนก็ดันมาตายหมด เพราะงันตามข้อปฏิบัติแล้วฉันจะบอกไว้ก่อนว่าหลังจากนี้ทีมสืบสวนของเราจะเริ่มต้นแทรกแซงคดีทุกประโยคที่นายพูดต่อไปนี้จะถูกบันทึกเข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วครับ” ฟูเสี่ยวห่าวพยักหน้า
“นายฝึกงานในสํานักงานตํารวจพื้นทมิฬมานานแค่ ไหนแล้ว?” หัวหน้าสารวัตรถาม
“เอ่อ…ไม่ถึงหนึ่งเดือนครับ” ฟูเสี่ยวห่าวประหม่าอย่าง เห็นได้ชัด
หัวหน้าสารวัตรยิ้มและถามอีกครั้ง “ใจเย็นก่อนเสี่ยวฟูเราแค่ถามตามขั้นตอนปฏิบัติ ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้”
“ครับ เข้าใจแล้ว”
หัวหน้าสารวัตรเปิดฝาขวดน้ําและถามอย่างสบายๆว่า “พอได้เข้าทํางานก็ติดตามฉินอวี่เลยใช่ไหม?”
“ใช่ครับ ผมอยู่ในทีมที่สาม ภายใต้การดูแลของรองผู้หมวดฉิน”
“ฮ่าๆๆ เขาคงดูแลอย่างดีเลยสิท่า”
“ใช่ครับ เขาอดทนกับเด็กใหม่อย่างผมมากเลย”
“อา…” หัวหน้าสารวัตรยกขวดน้ําขึ้นดื่ม “ถ้าอย่างนั้นหมวดหลิวเป่าเฉินล่ะ เคยคุยกันบ้างไหม?”
“ครั้งเดียวอย่างเป็นทางการตอนเข้ามาหมวดสี่ใหม่ๆ ครับ”
“ตอนนั้นคิดว่าไง โอเคกับเขาไหม?” หัวหน้าสารวัตรพยายามถามด้วยน้ําเสียงปกติที่สุด
ฟูเสี่ยวห่าวชะงักไปครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ “ผมติดต่อกับเขาน้อยมากก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเป็นการส่ว นตัวครับ”
“อืม…เห็นว่าในสํานักงานมีเรื่องซุบซิบกันด้วยหนิ” หัวหน้านั่งตัวตรงและถามต่อ “ผมได้ยินมาว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลิวเปาเฉินกับฉินอวีไม่ค่อยดีเท่าไหร่?”
“ผม…ผมเพิ่งมาใหม่และทํางานแค่ในส่วนของผมเท่านั้นก็เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจน่ะครับ” ฟูเสี่ยวห่าวส่ายหัวตอบ
“ไม่รู้หรือไม่กล้าบอก”
“หัวหน้าสารวัตร ผมเป็นแค่ตํารวจหน้าใหม่ ไม่ทันได้เห็นความขัดแย้งของพวกระดับสูงหรอก” ฟูเสี่ยวห่า วรีบแก้ตัว
“ก็นะ” หัวหน้าครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนถามต่อ “งั้นบอกฉันได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่หลิวเปาเฉินถูกฆ่า?”
ฟูเสี่ยวห่าวชะงัก เขาจ้องหน้าเจ้าพนักงานก่อนจะตอบกลับ “ตอนแรกผมเรียกขอกําลังสนับสนุนผ่านอินเตอร์คอมไม่นานหมวดหลิวก็มาหาแค่คนเดียว เขา บอกให้ผมเข้าไปในตึกเพื่อจับคนร้ายด้วยกันเพราะกลัวว่าคนร้ายจะฆ่าตัวตายหรือเรียกพวกมาเสริมซะก่อน”
“แล้วตอนนั้นฉินอวี่ทําอะไรอยู่?”
“เขาเจ็บหนักครับ” ฟูเสี่ยวห่าวตอบโดยไม่ลังเล
“แน่ใจว่าเขาหมดสติใช่ไหม?”
“แน่ใจครับ” ฟูเสี่ยวห่าวพยักหน้า
“งั้นก็หมายความว่านายเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องทั้งหมด” หัวหน้าสารวัตรจ้องหน้าฟูเสี่ยวห่าว
“ครับ…”
“โอเค เล่าต่อเลย”
ฟูเสี่ยวห่าวตั้งสตินึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นและเริ่มอธิบายต่อ “หลังจากที่หมวดหลิวกับผมเข้าไปในตึกและกําลังจะวิ่งขึ้นบันไดก็บังเอิญเจอกับคนร้ายที่กําลังวิ่งลงมาพอดีหมวดหลิวสั่งให้พวกมันวางปืนลงตอนนั้นเหมือนพวกมันจะพูดอะไรสักอย่างแต่ผมจําได้ไม่แม่นเพราะกําลังตกใจอยู่ถ้าได้ยินไม่ผิดเหมือนจะพูดว่า “คิดจะฆ่าพวกเราปิดปากหลังจากทํางานเสร็จงั้นเหรอถ้างั้นก็ตายไปพร้อมกันนี่แหละ” ล่ะมั้งครับพอพวกมันพูดจบหมวดหลิวก็พยายามโน้มน้าวใจวางปืนแต่พวกมันไม่ฟังและหันมายิงโดนหน้าท้องผมส่วนหมวดหลิวโดนจ่อยิงระยะประชิดก่อนตายเขายิงสวนจนจัดการพวกมันได้สองคน”
“ทุกคนสวมเสื้อเกราะกันกระสุนก่อนบุกจับกุม ทําไมหมวดหลิวเป่าเฉินไม่ใส่ล่ะ?”
“เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้…อาจเพราะเขารับหน้าที่เป็นคงสั่งการก็เลยไม่ใส่มั้งครับ”
“นายแน่ใจใช่ไหมว่าที่เล่ามาเป็นเรื่องจริง?”
“นะ…แน่ใจครับ” ฟูเสี่ยวห่าวพยักหน้าอย่างประหม่า
หัวหน้าสารวัตรกระซิบคําสองสามคํากับผู้ช่วยที่อยู่ถัดจากเขาแล้วหันกลับมาถามฟูเสียวห่าวถึงรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับคดีในคืนนั้น
หลังจากสอบปากคําไปสองชั่วโมงหัวหน้าสารวัตรก็ลุกขึ้น “วันนี้พอแค่นี้ก่อนเราจะมาใหม่ในช่วงเวลานี้ขอให้เก็บเป็นความลับด้วย”
ฟูเสี่ยวห่าวพยักหน้าก่อนจะถาม “หัวหน้าสารวัตรครับ คือผม..ผมจะถูกไล่ออกไหมครับ? ตอนนั้นผมกลัวมากก็เลยไม่กล้าทําอะไรหลังจากที่หมวดหลิวล้มพอผมตั้งสติได้ก็รีบเข้าไปจับคนที่เหลืออยู่ทันทีจะให้ใครมาสอบสวนผมก็ได้ว่าผมพูดจริงๆ”
“ไว้มารอดูกันว่าหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุจะตรงกับที่ นายพูดรึเปล่า”หัวหน้าสารวัตรพูด “อย่าเพิ่งคิดมากเลยรีบรักษาตัวเองให้หายก่อนเถอะ”
หลังจากนั้นทุกคนก็เดินออกไป
เมื่อสารวัตรตํารวจไปหมดแล้วฟูเสี่ยวห่าวก็ดูผ่อนคลายลงอย่างมาก
บริเวณโถงทางเดินด้านนอกประตู ผู้ช่วยถามเบาๆ ว่า “หัวหน้าจางผมคิดว่าคดีนี้มีอะไรแปลกๆ”
“ใช่” หัวหน้าสารวัตรพยักหน้า “ดูจากอาการตื่นกลัวของเด็กคนนี้คิดว่าคงไม่ได้พูดโกหกหรอกแถมยังพูดตรงประเด็นซะด้วยเช่น ทําไมหลิวเปาเฉินถึงไปที่อ พาร์ตเมนต์คนเดียวหลังได้รับการขอกําลังเสริม? มันไม่น่าแปลกไปหน่อยเหรอ?แต่ถึงยังไงตอนนี้ก็เชื่อได้ว่าเด็กมันพูดความจริงล่ะนะ”
“มีหลักฐานยืนยันเหรอครับ?”
“เหมือนเด็กคนนั้นจะจําฝังหัวที่คนร้ายตะโกนว่า “คิดจะ ฆ่าพวกเราปิดปากหลังจากทํางานเสร็จงั้นเหรอถ้างั้นก็ตายไปพร้อมกันนี่แหละสินะฉันเองก็ว่ามันแปลก…นายลอ งคิดดูให้ดีสิว่าทําไมจู่ๆ ฉินอวีถึงถูกพวกนั้นยิ่ง”
ทุกคนตกตะลึง
“ทีนี้ลองบอกซิว่าเราจะไขคดีน่าปวดหัวนี้กันได้ยังไง?” หัวหน้าสารวัตรถอนหายใจ “เอาเถอะ กลับไปหาข้อมูลกันก่อนคงพอมีเบาะแสอะไรบ้าง”
“อย่าบอกนะว่าหลิวเปาเฉิน…”
“สิ่งที่เราพอจะทําได้ตอนนี้คือการไว้ทุกข์ให้เขาอย่างสุด ซึ้งในพิธีรําลึกเฮ้อ…มาเถอะ ไปกินข้าวกัน”
จากการสอบสวนเมื่อกี้ฟูเสียวห่าวไม่ได้พูดถึงฉินอวีว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของหลิวเป่าเฉินอย่างไร บอกไปแค่ว่าบาดเจ็บสาหัสเขาจึงภาวนาว่าคําให้การนี้คงช่วยฉันอวีได้ไม่มากก็น้อย
เจ้าหน้าที่ตํารวจระดับผู้บังคับการหมวดถูกยิงเสียชีวิตคนร้ายที่อยู่ในที่เกิดเหตุถูกฆ่าตายทั้งหมด คดีนี้ไม่ใช่ เรื่องเล็กๆถ้าตอนนั้นฉินอวี่ไม่ได้เจ็บหนักของต้องถูกสอบสวนอย่างหนักแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงการตรวจสอบภายในและการตัดสินโทษของสํานักงานตํารวจที่จะโดนอีกบางทีถ้าฉินอวีพูดผิดเพียงเล็กน้อยอาจก่อให้เกิดหายนะ ที่แก้ไขไม่ได้อีกเลย
แต่โชคดีที่คําให้การของฟูเสี่ยวห่าวช่วยหยุดทุกอย่างไว้ได้เพราะแม้แต่เฒ่าหลี่เองก็ยังจนปัญญาที่จะแก้ไข
แต่ใครใครบอกไม่ต้องกังวล?
หลังจากนี้ต่างหากที่น่ากังวล
สถานที่วางแผน
หลังจากก้มดูโทรศัพท์ แมวเฒ่าเงยหน้าพูดกับทุกคนว่า“ฉินอวี่เจ็บหนักอยู่โรงพยาบาลขยับตัวไม่ได้ ฉันคงต้องกลับไปซ่งเจียงเพื่อจัดการในส่วนของหมอนั่นทันที”