Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 192 หนอน บ่อนไส้

ตอนที่ 192 หนอน บ่อนไส้

Special District 9 ตอนที่ 192 หนอน บ่อนไส้

กลางดึก

ผู้กํากับหวังฉวนและรองผู้กํากับแอนโธนี่ขึ้นรถคันเดียวกันมาถึงอาคารสถานีตํารวจซ่งเจียง

สิบนาทีต่อมา

เฒ่าหลีได้รับโทรศัพท์จากผู้กํากับหวังฉวน เขายืนตอบอยู่ข้างหน้าต่างอพาร์ตเมนต์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ได้ยืมฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

หลังจากคุยเสร็จ เฒ่าหลี่ขมวดคิ้วและก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ครู่หนึ่งก่อนต่อสายหาเหวินหยงกัง

บ้านเมียน้อย

เหวินหยงกังนั่งบนเตียงพลางโบกมือให้เด็กสาวข้างๆ “ออกไปข้างนอกก่อนฉันจะรับโทรศัพท์

หญิงสาวหยิบเสื้อคลุมของเธอและออกจากห้องนอนไปด้วยเท้าเปล่า

“ฮัลโหล วะ…ว่าไงครับเฒ่าหลี่?” เหวินหยงกังรับสายเสียงแผ่ว

“หยงกัง นายอยู่ไหน?”

“อยู่บ้านครับ…”

“ภารกิจจับกุมที่อพาร์ตเมนต์ถนนเมเปิลหลิวเปาเฉินแจ้งนายแล้วใช่ไหม?” เฒ่าหลี่ถามอย่างตรงไปตรงมา

เหวินหยงกังเงียบไปครู่หนึ่งก่อนถามด้วยน้ําเสียงมีพิรุธ “ภารกิจจับกุมที่อพาร์ตเมนต์ถนนเมเปิลเหรอ? ภารกิจเมื่อไหร่? แล้วจับใครครับ?”

“นายไม่รู้เรื่องหรอกเหรอ?”

“ผะ..ผมไม่รู้” เหวินหยงกังส่ายหัวตอบ “วันนี้ผมรู้สึกไม่สบายมีไข้ตั้งสี่สิบองศาก็เลยเลิกงานกลับมานอนได้สักพักแล้วครับ”

“หลิวเปาเฉินนําทีมไปที่อพาร์ตเมนต์ถนนเมเปิลเพื่อ เข้าจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าหรู่เหย้า”

“จริงเหรอ?” เหวินหยงกังถาม “แล้วสําเร็จไหม?”

“ไม่ หลิวเป่าเฉินถูกคนร้ายฆ่าตาย เจ้าหน้าที่ตํารวจของเราเสียชีวิตสองได้รับบาดเจ็บสาหัสห้าคน” เฒ่าหลี่ตอบเสียงแผ่ว

เหวินหยงกังปัดผมหน้าม้าอย่างเคยชินพลางสบถ “ไอ้หลิวเปาเนินโง่! ใครสั่งให้ออกทําภารกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตแถมไม่แจ้งหน่วยพิเศษเข้าสนับสนุนอีกคิดอะไรอยู่กันแน่?”

เฒ่าหลีกลอกตาก่อนจะตอบอย่างใจเย็น “ตอนนี้ผู้กํากับ หวังเรียกฉันไปพบไปด้วยกันไหวไหม?”

“วะไหวครับเดี๋ยวผมขอแต่งตัวก่อน” เหวินหยงกังตอบทั้งที่ยังนอนอยู่บนเตียง

“แต่นายไม่สบายนี่นะ ถ้าไม่ไหวก็ไม่เป็นไรนอนพักไปเถอะ” เฒ่าหลี่ตอบ “ฉันจะเข้าไปรายงานเอง”

“ถ้างั้นไว้ผมจะติดต่อกับผู้กํากับหวังเองครับ” เหวินหยงกังพูดต่อ “อันที่จริงผมเองก็เพิ่งมาทํางานที่นี่ได้ไม่นาน ยังไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรในสํานักงานตํารวจดี แต่ก็ไม่ติดว่าหลิวเป่าเฉินจะกล้าทําอะไรแบบนี้”

เฒ่าหลี่ยิ้มอย่างเย็นชา “อืม พักผ่อนเถอะ ฉันจะไปรายงานคดีแล้ว”

“ครับ”

หลังจากที่ทั้งสองวางสาย เหวินหยงกังนั่งบนเตียงกดหมายเลขโทรศัพท์หาสํานักงานตํารวจ “ใช่ครับ ผมเพิ่งมาทําที่สํานักงานตํารวจนี้ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก ที่ผ่านมาผมร่วมมือกับเฒ่าหลี่มาตลอดครับ ใช่ ในส่วนคดีของหรู่เหย้า เฒ่าหลี่กดดันผมมากจริงๆก็เลยทําให้ลูกน้องหลายคนทนไม่ไหวรวมไปถึงหลิวเป่าเฉินด้วยเขาคงร้อนใจอยากไขคดีให้จบและผมอยากให้ทุกคนได้รู้เรื่องนี้”

สี่สิบนาทีต่อมา

ในห้องประชุมเล็กๆ ของสํานักงานตํารวจหวังฉวนกอดอกมองเฒ่าหลีก่อนถาม “คดีนี้ไม่ใช่เล่นๆคุณที่ดูแลรัฐพื้นทมิฬอยู่มีอะไรจะพูดไหม?”

“ถ้ามีอะไรผิดพลาด ฉันจะรับผิดชอบเอง” เฒ่าหลี่ขมวดคิ้วตอบ “ฉันไม่มีข้อแก้ตัวใดและจะเร่งแก้ปัญหาให้ไวที่สุด”

“เฒ่าหลี ผมอยากรู้เรื่องการปฏิบัติภารกิจ ทําไมหลายคนในสํานักงานถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน?” แอนโธนี้ชายผมบลอนด์ถามหน้านิ่ง

“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” เฒ่าหลี่ตอบ “ตอนเหวินหยงกังย้ายมาทํางานที่นี่เขาขอรับผิดชอบหน่วยคดีอาช

ญากรรมทั้งสามเองในการประชุมครั้งแรก ผมเห็นด้วยเพราะเขาเป็นรองผู้กํากับที่โอนย้ายมาเพื่อทํางานสายนี้โดยตรงหมวดสี่ของหลิวเปาเฉินเองก็ขึ้นตรงกับเขา หากเกิดปัญหาสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้”

หวังฉวนขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง

“ฉันไม่ได้คิดจะปัดความรับผิดชอบหรอกนะ เพราะในฐานะผู้ดูแลรัฐพื้นทมิฬฉันคงต้องยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยดีแต่อยากที่บอกไปก่อนหน้ว่าฉันไม่รู้เรื่องก่อนเกิดเหตุเลยสักนิด” เฒ่าหลี่ตอบ “ฉันคิดว่าคงจะเป็นการดีกว่าถ้า ให้รองผู้กํากับเหวินทํารายงานคดีนี้เอง”

หวังฉวนลุกขึ้นและตะคอกเสียงดังว่า “รายงานตบตาเบื้องบนแบบนั้นผมไม่อยากได้หรอกนะตํารวจล้มตายกันเป็นเบือแถมยังปล่อยให้คนร้ายหนีไปได้ สิ่งที่ผมต้องการคือการแก้ปัญหาและการรักษาหน้าให้องค์กร!”

เฒ่าหลีไม่พูดอะไรต่อ

หวังฉวนชี้หน้าเฒ่าหลี่ “ไหนบอกมาซิว่าคุณจะใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะจัดการเรื่องที่ว่าให้เรียบร้อยได้?!”

หนึ่งเดือนถ้ายังแก้ไขทุกอย่างไม่ได้ฉันจะลออก” เฒ่าหลี่ตอบอย่างจริงจัง

“ผมจะถือว่าคุณสัญญาแล้วนะ”

“ได้ ฉันสัญญา”

“งั้นมารอดูกัน” หวังฉวนโบกมือปัดอย่างหัวเสีย “กลับไปทํางานเถอะ อีกหนึ่งเดือนเจอกัน”

“แล้วรายงานล่ะ? จะให้เหวินหยงกังทําส่งอยู่รึเปล่า?” เฒ่าหลี่ถาม

หวังฉวนได้ยินดังนั้นก็ตอบด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “ไปบอกหมอนั่นว่ามีสามอย่างที่มันควรทําตอนนี้ก็คือ หนึ่ง…อย่าแพร่งพรายเรื่องคดีนี้เด็ดขาด สองให้ความ ร่วมมืออย่างเต็มที่กับสํานักงานตํารวจในการอธิบายสาเหตุการตายของหลิวเป่าเฉินสาม..เลิกโทรหาผมสักพัก”

“แล้วจะบอกเขาให้” เฒ่าหลี่พยักหน้า

เช้าวันรุ่งขึ้นที่โรงพยาบาลตํารวจ

เฒ่าหลี่ปิดประตูวอร์ดก่อนเดินไปหาฉินอวีด้วยสีหน้า เคร่งเครียด “ทําไมหลิวเปาเฉินถึงตาย?”

“โดนคนร้ายยิง” ตอบกลับขณะนอนใส่เฝือกอยู่บนเตียง

“อย่ามาโกหกนายคิดจะทําอะไรกันแน่?” เฒ่าหลี่ถามอ ย่างร้อนใจ

“ผมไม่ได้โกหก”

“คิดว่าฉันจะโง่เหมือนหลิวเป่าเฉินรึไง?” เฒ่าหลี่ถามต่อ “เสี่ยวห่าวแหกปากผ่านอินเตอร์คอมอยู่ปาวๆว่ามีคนร้ายอยู่ในตึกแล้วทําไมหลิวเปาเฉินถึงไปที่นั่นคนเดียว? จะบอกว่ามันสติไม่ดีงั้นเหรอ?”

ฉินอวี่กะพริบตาตอบ “เขาอาจเป็นห่วงเลยรีบมาช่วยผม”

“ก็เห็นๆ กันอยู่ว่านายไม่ถูกกับมัน!” เฒ่าหลี่ตะคอก

ฉินอวี่พูดไม่ออก

“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น?”

“ตอนนั้นผมเจ็บหนัก” ฉินอวี่ตอบ

“เจ็บหนักเหรอ?” เฒ่าหลี่ชี้หน้าฉินอวี่ “แน่ใจใช่ไหมว่าตอนนั้นตัวเองเจ็บหนัก?”

ฉินอวี่นึกถึงการกระทําของฟูเสียวห่าวในตอนนั้นและพยักหน้าตอบ “ใช่ผมแน่ใจว่าตัวเองสาหัสจนลุกไม่ไหว”

เฒ่าหลี่เงียบไป “เออ ถึงเจ็บหนัก…ส่วนภูมีปัญหา”

“ลุงหลี่ ผมว่าสํานักงานเราต้องมีหนอนบ่อนไส้” หลัง จากครุ่นคิดอยู่นานฉินอวีก็พูดขึ้น

“พูดเรื่องอะไร?”

“ที่จริงหลิวเป่าเฉินไม่ได้ออกคําสั่งผิดพลาดหรืออะไร ข้อ มูลเกี่ยวกับภารกิจก็ถูกปิดเป็นความลับอย่างดีแต่ฝั่งคนร้ายกลับไหวตัวทัน” ฉินอวี่อธิบายต่อ “ผมรู้สึกเหมือนมีใครบางคนในสํานักงานคอยเป็นหูเป็นตาให้ศัตรูอยู่”

เฒ่าหลิ่นั่งลงข้างฉินอวี่ก่อนถาม “พอมีเบาะแสอะไร ไหม?”

ในคลินิกใต้ดินรัฐเจียงหนาน อาเซียวและคนอื่นๆ ที่เพิ่งก่อเรื่องในอพาร์ตเมนต์ถนนเมเปิลยังไม่ได้หนีออกนอกเขตทันทีพวกเขาแค่ถอยตั้งหลักและมาหาหมอรักษาอา การบาดเจ็บก่อน

บริเวณทางเดินของบังกะโล อาเซียวสูบบุหรี่และ เขียนจดหมาย “ฉันชื่อเซียว ที่ติดต่อไปไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือหรือเงินแต่อย่างใดแค่อยากถามถึงหรู่เป็น เพิ่งและหยวนเค่อว่าจําได้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?”

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท