Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 199 ตัวละครสําคัญ
ณ ห้องพยาบาลของเรือนจําฮ่งเจียงแห่งที่สาม
หมอแหวกขาของชายหนุ่มออกเพื่อดูอาการบริเวณรู ทวารหนัก“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ไปทําอีท่าไหนถึงฉีกจนแทบปลินออกมาแบบนี้?”
“ผมโดนหลอกไปข่มขืนในห้องน้ํา!” ชายหนุ่มตะเบ็งเสียงตอบด้วยความคับแค้น
เจ้าหน้าที่ตํารวจที่อยู่ข้างๆ ถามด้วยสีหน้าจริงจัง “ให้พูดใหม่ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ตอบดีๆล่ะ”
ชายหนุ่มชะงักและหันไปมองหน้านายตํารวจ หลังจ้องหน้ากันอยู่ครู่หนึ่งเขาจึงกัดฟันตอบ “ผมทะเลาะ..ผมทะเลาะกับคนอื่นตอนกวาดหิมะอยู่ และบังเอิญเซไปนั่งทับรั้วเหล็กเข้า…”
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้กวาดหิมะกันดีๆ อย่ามีเรื่อง” นายตํารวจตักเตือน “คราวหลังก็ระวังก่อนจะไปนั่งทับใส่อะไรอีกเข้าใจไหม?”
ชายหนุ่มกัดฟันแน่นไม่โต้ตอบ
หมอก้มตรวจรูทหารของของเขาครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้น “ มันขยับไม่ได้แต่นายก็ยังอุตส่าห์นั่งได้ตรงด้ามมันพอดีเป๊ะได้เล็งก่อนนั่งทับรึเปล่าเนี่ย?”
“หมอถามได้เท่าท่ามาก” นายตํารวจพูดเสริม
“ฮ่าๆๆ” หมอยิ้มรับ “เอาเป็นว่าล้างแผลก่อนแล้วกัน”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
แมวเฒ่าเดินเข้าไปยังแผนกพยาบาลเพื่อดูอาการชายหนุ่ม “วันเดียวก็ทนไม่ไหวแล้วเหรอ?”
ชายหนุ่มรีบหันไปมองและพูดประชดทันที “สาแก่ใจรี้ยังล่ะ?”
“เจ็บมากไหม?” แมวเฒ่ายิ้มถามพลางล้วงครีมบํารุงสองกระปุกออกมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง “ถ้าเจ็บมากก็ใช้ได้นี่ทาทุกคืนนะฉันอุตส่าห์ฝากเพื่อนผู้หญิงซื้อมาให้ตั้งห้าสิบดอลลาร์
ชายหนุ่มไม่ตอบ
แมวเฒ่าลากเก้าอี้ข้างเตียงออกมานั่งพลางพูดขึ้น “อย่าคิดว่าเร่ร่อนอยู่ข้างถนนมาหลายปีแล้วจะรู้ทุกอย่างพวกนักโทษที่อยู่ในนี้เจออะไรมากกว่าที่แกรู้ พวกมันยอมทําทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ลดโทษกันทั้งนั้นแหละ เพราะงั้นอย่าได้ลอ งดีกับฉัน แค่ดีดนิ้วเปาะเดียวไอ้นักโทษใจโฉดพวกนั้นก็พร้อมจะขย้ําแกตามคําสั่งทันที”
ชายหนุ่มนอนกะพริบตาปริบอยู่บนเตียงไม่กล้าพูดอะไร
“เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า หรูเวินเซิงคงให้เงินค่าปิดปากแกมาเยอะพอตัว แต่คิดจริงๆ เหรอว่าเงินพวกนั้นมันคุ้มกับการติดอยู่ในนี้เจ็ดแปดปี?” แมวเฒ่าพูดต่อ “ใคร จะไปรู้ว่าข้างนอกนั้นจะเป็นยังไงในอีกสองสามปีต่อจากนี้? สักวันหรูเวินเซิงก็ต้องล้ม แล้วคนอย่างแกล่ะจะทํายังไงเมื่อออกไปข้างนอก? ฟังฉันให้ดีนะ…คนอย่างหรู่เป็นเพิ่งมันจําไม่ได้ด้วยซ้ําว่าแกเป็นใครเพราะงั้นอย่าเอาชีวิตไปผูกไว้กับมัน”
หลังเงียบไปนานในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมพูด “ถ้าผมบอกคุณแล้วหวูเวินเซิ่งส่งคนมาจัดการผมในนี้จะทํายังไง?”
“อย่าไปกลัวมันให้มาก ฉันบอกตามตรงตอนนี้สถานการณ์ฝังหวูเวินเซิงเองก็ไม่ค่อยดีนัก มันต้องคอยใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ อยู่ทุกวันนี้” แมวเฒ่าพยายามโน้มน้าว “คิดง่ายๆ ถ้ามันส่งคนมาจัดการกับแกได้จริง ปานนี้มันจับคนที่ฆ่าลูกมัน ได้นานแล้วแถมพวกฉันคงบุกโกดังไม่ได้ง่ายขนาดนี้หรอกตอนนี้หรู่เป็นเพิ่งมีแต่จุดอ่อน…มันไม่มีกําลังพอจะส่งคนมาฆ่าแกแน่นอน”
“แต่ถ้าเขาคิดจะทําจริงๆ ผมจะทํายังไงล่ะ? อยู่ในนี้ผมจะหนีไปไหนได้?”
“ฉันจะแจ้งเปลี่ยนชื่อนาย มันจะได้หาตัวไม่เจอ” แมวเฒ่าพูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่มีข้อเสนออื่นแล้วนอกจากรับประกันว่าจะคุ้มกะลาหัวแกให้ปลอดภัยที่สุด”
“ถ้างั้นก็ได้ ผมจะพูด…” ชายหนุ่มพยักหน้าหลังครุ่นคิดอยู่นาน “แต่คืนนี้ผมจะถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจําแล้วจะมีหน้ากลับเข้าไปได้ยังไงในเมื่อ…”
แมวเฒ่าชะงักก่อนจะรีบตอบกลับด้วยความรู้สึกผิด “ถ้าไม่อยากกลับเข้าไปก็รีบทาครีมที่ฉันซื้อมาให้ซะ…”
ในร้านอาหารกลางเมือง ชายหัวล้านวัยกลางคนกําลังนั่งทานอาหารกลับเพื่อนอีกสองสามคน
เสี่ยวจิ๋วผลักหลีจีออกจากห้องน้ําก่อนเอ่ยถาม “ดูให้ดีในหมอนั่นรึเปล่า?”
หลีจือจ้องมองครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า
“งั้นไปกันเถอะ” เสียวจิวค่อยๆ พาตัวหลีจือออกจากร้านอาหารไป
ไม่กี่นาทีต่อมาบนรถ
หยวนเค่อกอดอกถาม “แน่ใจนะว่าใช่?”
“อืม” หลีจือพยักหน้า “ตาลุงนั่นแหละที่พาพวกฉันเข้ามาซ่งเจียง”
หยวนเค่อครุ่นคิดก่อนออกคําสั่ง “กลับกันก่อน”
รถสองคันหันหัวเลี้ยวกลับไปยังห้องใต้ดินที่ถนนชีหยวน
หลีจือถูกพาไปขังไว้ในห้องอีกครั้ง ขณะที่หยวนเค่อนั่งบนโซฟาชั้นหนึ่งและโทรหาหรูเวินเซิง “ฮัลโหลลุง?”
“ว่าไง?”
“ผมพาไอ้หลีจือไปดูตัวมาแล้ว” หยวนเค่อตอบกลับ “คนที่พาพวกมันเข้ามาในซ่งเจียงคือหนิวตง”
หวูเวินเซิงครุ่นคิด “ถ้าไอ้เยี่ยจือเซียวมันยังไม่ออกจากซ่งเจียงก็เป็นไปได้ว่าไอ้หนิวตงคนนี้แหละให้ที่กบดานมัน”
“อืม” หยวนเค่อพยักหน้า
“นายคิดว่าไง?” หรูเวินเพิ่งถาม
“ผมว่าเรายังไม่ควรทําอะไรกับไอ้หนิวตง” หยวนเค่อตอบ “เพราะถ้าเราลงมือตอนนี้ก็อาจไม่ได้ข้อมูลอะไรมาก หนําซ้ํายังอาจทําให้พวกเยี่ยจือเซียวรู้ตัวอีก”
“นั่นสินะ” หรูเวินเพิ่งเห็นด้วย
“ตอนนี้จับตาดูไปก่อน ถ้าเกิดไอ้เยี่ยจือเซียวมันกบดานอยู่ด้วยกันจริงพวกมันต้องออกมาเจอกันแน่นอน”
“ถ้างั้นก็เอาตามที่นายว่า” หรูเวินเซิ่งตอบกลับ “หาตัวไอ้เยี่ยจือเซียวให้เจอเราจะปล่อยให้มันหลุดมือไปอีกไม่ได้”
“ทราบแล้วครับ”
“ฝากด้วยแล้วกันเสี่ยวเค่อ”
“ครับ”
“โอเค แค่นี้นะ”
หลังวางสายหยวนเค่อนั่งเอนหลังพึมพํากับตัวเองว่า “แกหนีไม่รอดแล้วเยี่ยจือเซียว”
แถบชานเมืองซ่งเจียง บริเวณทางไปเรือนจําที่สอง
แมวเฒ่านั่งอยู่ในรถตํารวจและหันหน้าไปบอกชายหนุ่มว่า “นั่งลงดีๆ”
“ผะ..ผมนั่งดีๆ ไม่ได้หนิ” ชายหนุ่มนั่งยองๆ อยู่บนเบาะรถด้วยท่าที่เก้ๆ กังๆ จากอาการปวดระบบ “ผมรู้สึกเหมือนรูมันรั่วก็เลยอยากให้ลมเย็นๆ ช่วยพัดเข้า…”
“ให้ฉันหาจุกไวน์มาอุดให้ไหมล่ะ?” แมวเฒ่าพูดพร้อมแสยิ้ม
“นี่คุณยังเป็นคนอยู่ไหม?”
“ฮ่าๆๆ” แมวเฒ่าหัวเราะก่อนหันไปบอกวุ่นเส้นว่า “เอาเสื่อสองผืนให้มันปูนอนแล้วก็บอกทางเรือนจําด้วยว่าคืนนี้ จะไม่ส่งตัวกลับยังอยู่ในระหว่างรักษาอาการ
“โอเค” วุ้นเส้นตอบกลับ
“เอาล่ะ กลับเขาเรื่องของเราต่อ” แมวเฒ่ายื่นบุหรี่ไฟฟ้าให้อีกฝ่าย
ชายหนุ่มรับบุหรี่มาคาบก่อนพูดขึ้น “ถามมาสิ”
“ตระกูลหวี่รับปืนมาจากไหน?”
ชายหนุ่มตอบตามความจริงหลังลังเลครู่หนึ่ง “บริษัทหวี่มีผู้บริหารใหญ่อยู่สามคน หรู่เหย้ารับหน้าที่ด้านการส่งออกและติดต่อลูกค้า เหยียนคังเป็นคนดูแลด้านเส้นสาย ใหญ่ๆและทําบัญชี ส่วนหวี่เวิ่งเพิ่งเป็นคนจัดซื้อสินค้าร่วม กับหวังปิงซึ่งเธอคนนี้มีส่วนช่วยอย่างมาก”
“ต่อเลย” แมวเฒ่าพยักหน้า
“นายหน้าที่ติดต่อกับหวังปิงชื่อว่าหลิวเหวินจื้อ ถ้าคุณจับหมอนี้ได้แล้วบังคับให้คายทุกอย่างออกมารับรองว่าหรู่เป็นเพิ่งต้องจบเห่แน่”
รัฐเจียงหนาน
อาเซียวเดินก้มหน้าคุยโทรศัพท์ “เริ่มกันเลย”