ตอนที่ 200 ทวีคูณความซับซ้อน
ในรถ ชายหนุ่มอธิบายโครงสร้างบริษัทของหวูเวินเซิ่งอย่างละเอียด
หญ่เป็นเพิ่งเริ่มต้นด้วยคนสองคน คนแรกคือเหยียนคัง เขาเป็นคนมีความสามารถและเป็นคน แรกที่นําเงินเข้าหุ้น ในช่วงเวลาที่หรู่เป็นเพิ่งกําลังตั้งตัว เขาคอยประสานงานกับผู้มีอิทธิพลรวม ไปถึงสมาชิกสภาทั้งหลายที่อยู่ในรัฐเจียงหนาน
คนที่สองคือหวังปิงผู้มั่งคั่ง เธออยู่ในสภาแห่งรัฐเจียงหนานมานาน เป็นคนแข็งแกร่งมีมัน สมองและเส้นสายหนาแน่น ในเวลานั้นหรู่เป็นเพิ่งซึ่งกําลังจะก้าวไปข้างหน้าเห็นว่าเธอโสดและไม่ มีลูก จึงติดต่อเธออย่างจงใจพร้อมเข้าประจบประแจงหวังผล
ถึงหงี่เงินเพิ่งจะแก่ตัวและไม่ได้หล่อเหลามากแต่เขามีประสบการณ์ อารมณ์ขัน และเอาใจใส่ ผู้หญิงเก่ง ดังนั้นหวังปังจึงมีความรู้สึกดีกับหลู่เป็นเพิ่งและนําไปสู่การพัวพันในหน้าที่การงานขอ งกันและกัน
หลังจากที่หวังปิงและหรู่เป็นเพิ่งคบหากัน เธอก็ได้แนะนําเขากับตระกูลไป ตระกูลทรงอํานาจ ที่สําคัญที่สุด หรูเวินเพิ่งกลายเป็นหัวหน้าสภาเพราะได้รับการสนับสนุนจากตระกูลไป เขา จึงเชื่อฟังและช่วยเหลือด้านการเงินเป็นการตอบแทน
ต่อมาหลังจากที่หรู่เป็นเพิ่งเชิดหน้าชูตาได้อย่างสมบูรณ์ในรัฐเจียงหนาน บริษัทของเขาก็ถูกส่ งมอบให้กับหลู่เหย้าและเหยียนคัง โดยมีหวังปิงเป็นผู้รับผิดชอบในการติดต่อสินค้า โดยปกติแล้ว เธอจะไม่เข้าบริษัทและคอยทํางานจากภายนอกแทน
เมื่อได้ฟังคําบอกเล่าของชายหนุ่มแล้ว แมวเฒ่าถามด้วยความสงสัยว่า “ไหนบอกเฝ้าอยู่แค่โกดัง ไหงรู้เรื่องเยอะขนาดนี้วะ?”
“ฮ่าๆๆ” ชายหนุ่มยิ้มตอบ “ไม่เชิงว่าเฝ้าอยู่แค่ในโกดังหรอก ก่อนหน้านั้นผมเคยทํางานอยู่ ในบ้านตระกูลหมู่พักหนึ่ง เรื่องที่เล่าให้ฟังก็เป็นเรื่องซุบซิบนินทาที่คนในเล่าต่อกันมา อย่างเว ลาคนขับรถของเหยียนคังว่าง เขาก็จะมาเล่าอะไรๆ ให้ผมฟัง ยิ่งฟังมากยิ่งรู้มาก”
“อ๋อ…เข้าใจล่ะ” แมวเฒ่าพยักหน้า
“แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องทั้งหมดนี้ก็ใช่ว่าจัดจัดการได้ง่ายๆ นะ” ชายหนุ่มสูบบุหรี่ก่อนจะพูดเสริม “ผมได้ยินมาว่าคนที่บงการอยู่เบื้องหลังพ่อค้าอย่างหลิวเหวินจื้อนั้นเป็นตัวพ่อวงการทหารของช่ง เจียง ถ้าคุณคิดจะเดินตุ่มๆ เข้าไปจับโดยไม่มีหลักฐานเพียงพอละก็ได้เป็นเรื่องแน่”
“แล้วหลิวเหวินจือส่งสินค้าไปที่โกดังโดยตรงหรือเปล่า?” แมวเฒ่าถาม
“ไม่มีทางอยู่แล้ว” ชายหนุ่มส่ายหัว “เขาเป็นคนมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ คิดว่าเขาจะลง มาทํางานด้วยตัวเองเหรอ? ขนาดผมยังเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียวในงานวันเกิดหรู่เหย้าเท่านั้น”
แมวเฒ่าขมวดคิ้วครุ่นคิด
“คุณตํารวจ…ถ้าอยากจะจับหลิวเหวินจื้อจริงๆ คุณต้องหาจุดปล่อยสินค้าของเขาให้เจอและ จับให้ได้คาหนังคาเขาก่อนจะไหวตัวทัน” ชายหนุ่มแนะนํา
“อา…รู้แล้วน่า” แมวเฒ่าพยักหน้า
ห้าทุ่มกว่า
ในโรงพยาบาลเครือของสถานีตํารวจ
แมวเฒ่ามองฉินอวี่ด้วยความหงุดหงิด “ตอนนี้ไอ้เด็กนั่นยอมอ้าปากพูดแล้ว ที่มันไม่ยอ มก่อนหน้านี้เพราะคนที่รอแทงอยู่เป็นสองตัวพ่อในวงการค้าปืน หนักสุดก็คงเป็นผู้ชายแซ่หลิว มันมีทหารยศใหญ่หนุนหลังอยู่ ให้ตายเถอะ…ไหงคดีนี้มันซับซ้อนขึ้นทุกทีวะ ยิ่งสืบยิ่งมีคนเข้ามา พัวพันเรื่อยๆ”
ฉินอวี่ขมวดคิ้วพลางสูบบุหรี่ “ตอนนี้พอจะหาหลักฐานเกี่ยวกับหลิวเหวินจื้อได้บ้างไหม?”
“แน่นอนว่าไม่ได้” แมวเฒ่าส่ายหัว “หลิวเหวินจื้อไม่เคยปรากฏตัว สินค้าถูกส่งต่อให้ลูกน้อง จัดการโดยมีหวังปิงรับหน้าที่หาคนมารับของ ถ้าต้องการชนะเราต้องทุ่มแรงมากกว่านี้เพื่อหาห ลักฐาน เป็นไปได้อาจจะต้องไล่สอบสวนโดยนับหนึ่งใหม่”
“คงจะไม่ทันการ” ฉินอวี่ตอบอย่างหงุดหงิด
“ใช่” แมวเฒ่าพยักหน้า “หลิวเหวินจือกับแก๊งของมันคงไม่มีทางเผยตัวตนง่ายๆ เราต้องตรว จสอบจากจุดเริ่มต้น เท่าที่ดูแล้วคงใช้เวลาราวปีครึ่ง นี่ยังไม่พูดถึงคนที่คอยหนุนหลังนะ ถ้าฝั่งนั้นรู้ เรื่องแล้วเคลื่อนไหวคดีก็ต้องชะงักอีก”
“แล้วหวังปังล่ะ?”
“ยัยป้านี่ก็จัดการยากไม่ต่างกัน หล่อนเป็นเหมือนเลขาของหวูเวินเซิ่ง” แมวเฒ่าส่ายหัวอย่า งสิ้นหวัง “แค่คิดว่าจะต้องสอบสวนหล่อนฉันก็ปวดหัวจะแย่แล้ว”
ฉินอวนิ่งเงียบ
“ถ้าเรายังไม่รู้ช่องทางการซื้อขายสินค้าของพวกมันก็คงมีหลักฐานไม่เพียงพอให้แตะต้องห งูเวินเซิ่ง” แมวเฒ่าถอนหายใจ “แล้วไหนจะหยวนเค่อที่เข้ามายุ่มย่ามกับตระกูลหญ่อีก เราแทบจะ ทําอะไรไม่ได้เลย ปัญหาวุ่นวายไปหมด”
“ฉันว่านายลองปรึกษาเรื่องนี้กับลุงหลีดูว่าเขาจะมี…”
“กริ้ง!”
ก่อนที่จะพูดจบ โทรศัพท์มือถือของแมวเฒ่าก็ดังขึ้น
“สํานักงานตํารวจ เดี๋ยวฉันรับสายก่อน” แมวเฒ่าพูดพลางกดรับ “ฮัลโหล?”
“แมวเฒ่า รีบกลับมาเร็วมีคนมาหา” รู้เหว่ยพูดทางโทรศัพท์อย่างเร่งรีบ “หมอนี่บอกว่ามีข้ อมูลสําคัญเกี่ยวกับคดี และอยากคุยกับนายเป็นการส่วนตัว”
“มาหาฉันเหรอ?” แมวเฒ่าชะงักไปครู่หนึ่ง “ฉันเพิ่งกลับมา ใครมันจะมาหาวะ?”
“เออ ตอนแรกถามหาฉินอวี่แต่เขาดันอยู่ในโรงพยาบาลไง ก็เลยถามหาคนที่รับผิดชอบคดีนี้ แทนซึ่งก็คือนาย” จี้เหว่ยอธิบาย
“คดีตระกูลหรู่เหรอ?”
“ใช่” รู้เหว่ยพยักหน้า “รีบมาก่อนเถอะ”
“โอเค ฉันจะรีบกลับทันที” แมวเฒ่าลุกขึ้นและวางสายก่อนจะหันไปบอกฉินอวี่ว่า “มีคนต้อ งการคุยเกี่ยวกับคดีนี้ ฉันจะกลับไปดูก่อนแล้วกัน”
“โอเค พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” ฉินอวี่พยักหน้า
“ได้ไปล่ะ”
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
พื้นที่สํานักงานส่วนกลางทีมสาม แมวเฒ่าเดินเข้าประตูไปพลางตะโกนว่า “ไหนใครตา มหาฉัน?”
เมื่อพูดจบ ชายวัยสามสิบห้าปีก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและขานรับ “ผมเอง”
“คุณชื่ออะไร?” แมวเฒ่าเดินเข้าไปถาม “มีธุระอะไรรึเปล่า?”
“ผมชื่อหลิวเหวินจื้อ” ชายคนดังกล่าวตอบกลับ
แมวเฒ่าตะลึงครู่หนึ่ง “หลิวเหวินจื้อเหรอ?!”
“ครับ…”
หลิวเหวินจื้อดึงซิปเสื้อโค้ตลงเผยให้เห็นระเบิดที่ผูกติดอยู่รอบเอว
รู้เหว่ยที่กําลังนิ่งอึ้งเมื่อหันไปเจอระเบิดจึงตกใจและตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “นี่แกคิด จะทําอะไร?!”