ตอนที่ 213 ยุทธการด้นสด
ถนนทางเข้าภูเขาชางจีเป็นชนบทจึงเดินทางลําบากบนเนินเขาคดเคี้ยวทั้งแคบและมีหิมะปกคลุมหนาสภาพถนนที่ซับซ้อนเช่นนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งหากขับรถไม่ระวังอาจทําให้พลิกคว่ําได้ทุกเมื่อ
แมวเฒ่านั่งด้านข้างคนขับพลางเหลือบดูนาฬิกาและหันไปดุ“ขับมาสี่สิบนาที่กว่าแล้วนะ…เมื่อไหร่จะถึงล่ะเนี่ย?”
“ขับไปอีกนิดถนนก็ดีแล้ว เดี๋ยวเร่งให้” หมอเฮยที่ถูกจับนั่งใส่กุญแจมืออยู่เบาะหลังพูดเสริม “พอเราเข้าไปเขตไท่จวงถนนก็จะไม่มีหิมะแล้วล่ะ”
แมวเฒ่าหันไปถามทันที “นายเคยมาที่นี่แล้วเหรอ?”
“ฉันก็ไปมาแล้วทุกที่แหละ” หมอเฮยตอบด้วยรอยยิ้ม
แมวเฒ่าพยักหน้าและไม่พูดอะไรต่อ
“ไปต่ออีกหน่อยเราคงถึงหมู่บ้านไท่จวงประมาณสักสองทุ่มครึ่ง
แมวเฒ่ากลัวว่าถ้านั่งรถเขาไปอาจทําให้พวกนั้นไหวตัวทันเขาจึงให้คนขับหยุดรถหลังกองหิมะขนาดใหญ่แล้วลงจากรถเพื่อโทร หาตํารวจของชางจี
“พวกนายอยู่ไหนแล้ว?” แมวเฒ่าเดินไปหาสัญญาณดีๆ แล้วถามท่ามกลางลมหนาวที่พัดอย่างแรง
เสียงลมดังก้องในหู ทําให้ฟังเสียงของอีกฝ่ายไม่ชัดเจน
“นายพูดอะไร ?!” แมวเฒ่าไม่สามารถจับใจความได้เลย
แมวเฒ่ายังคงได้ยินไม่ชัด
“นายพูดภาษาจีนใช่ไหมเนี่ย?! ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่นายพูดเลย!”แมวเฒ่าเหงื่อออก
“ฉันถามว่านายอยู่ไหน?!” อีกฝ่ายตะโกนใส่
“เราอยู่แถวๆ หมู่บ้านไท่จวง มีกองหิมะขนาดใหญ่อยู่ทางขวาของป้ายประมาณสองกิโลเมตร” แมวเฒ่าเสียงสั่นเล็กน้อย “พวกนายจะมาเมื่อไหร่?”
“แป๊บหนึ่ง เรารู้แล้วว่าพวกนายอยู่ที่ไหน”
“รีบหน่อยนะ! เวลายิ่งไม่ค่อยมีอยู่” แมวเฒ่าตะโกน
“โอเคๆ”
“แค่นี้ก่อนนะ” แมวเฒ่าวางสาย
ภายในรถ
งูเหว่ยหยิบโทรศัพท์ของหมอขึ้นมาพร้อมขยิบตาให้เขา
“ครับ! ผมใกล้จะถึงแล้ว..โอเค เจอกันที่ทะเลสาบไท่จวงใช่ไหมครับ?.เข้าใจแล้ว” หมอเฮยโบกมือส่งสัญญาณให้รู้เหว่ยวางสาย
แมวเฒ่ากลับเข้ามาในรถก่อนถามด้วยเสียงสั่นจากอากาศหนาว“มีสายเข้าเหรอ?”
“อืม” จี้เหว่ยพยักหน้า “เดี๋ยวเราต้องไปที่ทะเลสาบไท่จวง”
“กี่โมง?!”
“อีกหนึ่งชั่วโมง
“ตํารวจพวกนั้นมารับเร็วๆ หน่อยเถอะ” แมวเฒ่าเหลือบมองดูนาฬิกา “เราคงไปถึงช้าแน่เลย”
รู้เหว่ยหยิบวิทยุสื่อสารมาแล้วตะโกนด้วยเสียงทุ่มต่ํา “ใกล้ถึงเวลาแล้ว ทุกคนเตรียมตัวทํางานด่วน”
“รับทราบ!”
“รับทราบ!”
ทุกคนตอบรับที่ละคน
แมวเฒ่าอยู่ด้านข้างคนขับขณะส่งข้อความทางโทรศัพท์
“จะไปจับคนแล้วนะ ทําไมยังเล่นมือถืออยู่ล่ะ?” จี้เหว่ยถาม
“มีเวลาอีกตั้งเยอะ” แมวเฒ่าตอบแต่ยังก้มหน้าก้มตาส่งข้อความต่อไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมาไม่มีการเคลื่อนไหวบนถนน
แมวเฒ่ากังวลและกําลังคิดว่าจะโทรไปเร่งอีกฝ่าย ทันใดนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ดังมาจากด้านหลัง
จี้เหว่ยลงจากรถไปดู เห็นเป็นรถกระบะเก่าสองคันที่มีตราสัญลักษณ์ของสํานักงานตํารวจอยู่ด้วย
“ให้ตายเถอะ! ทําไมมาแค่สองคันล่ะ?” แมวเฒ่าลงจากรถและชะงักไปครู่หนึ่ง
ชายหลายคนสวมชุดลําลองและดูเลอะเทอะเดินลงมาจากรถสองคันนั้น
“สวัสดี นายคงเป็นเพื่อนที่มาจากสํานักงานตํารวจซ่งเจียงสินะ?” ขายคนหนึ่งถามขณะยื่นมือออกไป
แมวเฒ่าพยักหน้าแล้วทั้งคู่ก็จับมือกัน “ใช่ รบกวนพวกนายหน่อยนะ”
“มีปัญหาอะไรก็ช่วยกัน”
“ที่เหลือกําลังตามมาเหรอ?” แมวเฒ่ารู้สึกว่าไม่มีเวลาแล้วจึงถามอย่างรวบรัด
อีกฝ่ายตอบทันที “เรามีกันเท่านี้แหละ”
“เรียกทีมไม่ได้ด้วยซ้ํา!” แมวเฒ่าพูดด้วยความประหลาดใจ“ทําไมถึงมีแค่สองคันล่ะ?”
“สํานักงานของเรามีสี่สิบกว่าคนและมีรถอยู่สองคันเท่านี้แหละ” อีกฝ่ายตอบ
” บ้าเอ๊ย!” แมวเฒ่าโพล่งคําอุทานออกมา
“อะไรเหรอ?” อีกฝ่ายถามอย่างสงสัย
“ฉันคิดว่าจะมาสักสี่สิบคนได้” แมวเฒ่าตอบอย่างกังวล “อีกฝ่ายเป็นผู้ต้องหาที่ก่อคดีร้ายแรงเรามีแค่ยี่สิบคนเท่านั้นเองคงต้องระวังตัวกันให้ดี!”
“พวกมันมีกี่คนล่ะ?” หัวหน้าทีมถาม
“อย่างน้อยก็มากันสองคัน พวกมันมาเพื่อซื้อยา” แมวเฒ่าตอบอย่างแผ่วเบา
“ไม่เป็นไร” หัวหน้าทีมพูด “พวกมันมีแค่สองคันเราชนะได้
แน่!”
แมวเฒ่าเริ่มกระวนกระวายอย่างมาก เพราะอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพวกหวังปิงก็มารับยาแล้ว กว่าจะวางแผนหรือปรับตัวกันได้ก็คงสายเกินไปและถ้าไม่รีบไปเจออาจทําให้พวกนั้นสงสัยได้
“รีบไปจุดนัดหมายกันเถอะ” หัวหน้าทีมพูดกับแมวเฒ่า “ทันทีที่เราเห็นเป้าหมายเราจะจู่โจมเข้าไป พวกนั้นมีแค่สองคันคงทําอะไรมากไม่ได้”
“หลักๆ คือหวังปิงและหรูเวินเซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาก หากไปสุ่มสี่สุ่มห้าคงไม่ดีแน่” แมวเฒ่าพูดพลางขมวดคิ้ว “ถ้าหวังปิงไม่กลับไปคืนนี้หวูเวินเพิ่งจะต้องหนีไปอย่างแน่นอน”
“นายหมายความว่าไง?!” หัวหน้าทีมถาม
“ถึงเราจะมีคนน้อยกว่านิดหน่อย แต่ก็ไม่ควรแหวกหญ้าให้ตื่น” แมวเฒ่าพูดอย่างหงุดหงิด “หมอเฮยเอายาให้พวกมันแล้วแบ่งคนของเราซ่อนไว้ส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือตามรถหวังปิงตอนพวกมันกลับ”
“ถนนที่นี้โล่งเกินไป คงจะตามไปลําบากพอตัว”หัวหน้าทีมสาย
“ก็บอกแล้วไงว่ากําลังเรามีน้อย”แมวเฒ่าขมวดคิ้วแน่นพลางพูด “ตอนนี้ไม่มีทางอื่นที่ดีกว่าแล้วฉันจะเอารถไปก่อนและใช้วิทยุสื่อสารคุยกันจูนเลขช่องให้ตรงกันด้วยล่ะ”
“ได้ เราจะร่วมมือกับนาย” หัวหน้าทีมพยักหน้า
แมวเฒ่าเหลือบมองนาฬิกา “โอเค ไปกันได้ละ”
หลังจากนั้นทุกคนก็ขึ้นรถ งูเหว่ยมองแมวเฒ่าด้วยสีหน้าแปลกใจ“ฉันว่ามีบางอย่างผิดปกติจากที่ฉันคิดไว้มาก”
“มันมาแล้ว อย่าทําอะไรทุ่มบ่ามล่ะ เดี๋ยวพวกนั้นไหวตัวทัน”แมวเฒ่าตอบด้วยใบหน้าบูดบึง “งานนี้เราต้องดันสด….คงจะลําบากหน่อย”
เวลาประมาณเก้าโมงยี่สิบนาที
บนทะเลสาบไท่จวงที่กลายเป็นน้ําแข็ง หมอเฮยและตํารวจสองคนนั่งอยู่ในรถทุกคนไม่แสดงสีหน้าอะไร
ด้านซ้ายของถนน รถออฟโรดที่ไฟหน้าเปิดข้าขับมาด้วยความรีบเร่งและหยุดบนพื้นน้ําแข็ง
ประตูเปิดออก ผู้หญิงในเสื้อโค้ตกันฝนก็พาชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนเดินตรงไปยังรถของหมอเฮยอย่างระแวดระวัง
ด้านข้างกองหิมะสูง ตู้เหว่ยส่องกล้องดูพลางกระซิบในวิทยุสื่อสาร “นี่คือหวังปิงใช้ไหม?”
หวังปังก้าวไปที่รถแล้วเคาะหน้าต่าง
หมอเปิดประตูออกมาพร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “ยาอยู่ในหีบนะ”
“อืม” หวังปังยิ้มและหันไปมองในรถ “หม เอาคนมาด้วย
เหรอ?”
“พวกลูกศิษย์ฉันเอง ถนนไม่ค่อยดีฉันก็เลยให้พวกนี้มาขับรถให้” หมอเฮยอธิบายด้วยรอยยิ้ม
ภายในรถบนถนน
เสียงวิทยุสื่อสารดังขึ้น “พวกมันเอารถมาคันเดียว เราไปจับเลยดีไหม?”
หลังจากพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แมวเฒ่าก็เหลือบไปมองโทรศัพท์มือถือ“อย่าเพิ่ง ให้หวังปิงเอายาไปแล้วเราจะตาม”
ที่แห่งหนึ่ง
อาเซียวผลักประตูออกมาและเตะยางรถ “สถานที่เฮงซวยนี่มันอะไรกัน! ไอ้ถนนกันดารไม่มีในแผนไม่ใช่เหรอวะ?!”