Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 214 เป้าหมายหายไป

ตอนที่ 214 เป้าหมายหายไป

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 214 เป้าหมายหายไป

ตอนที่ 214 เป้าหมายหายไป

กลางทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็ง หมอเฮยเดินไปเปิดท้ายรถและถือถุงใหญ่สองถุงออกมา “ยาอยู่ในนี้หมดแล้ว”

หวังปิงโน้มตัวเข้ามาชะโงกดูยาในถุง “ทําไมถึงมีหลายอย่างแบบนี้ล่ะ?”

“ฉันขายทุกอย่างนะ” หมอเฮยยิ้ม “ฉันก็รวบรวมแต่ละชนิดมาให้”

“อ้อ” หวังปิงพยักหน้าและหันไปบอกชายที่อยู่ด้านหลัง “ไปเอายามา”

ชายฉกรรจ์คนหนึ่งเข้ามารับยา หวังปิงนํากระเป๋าเงินมาวางก่อนจะเปิดซิปกระเป๋าที่มีกองเงินสดออก “ฉันอาจมาซื้อกับนายอีกนะ รอรับสายให้ดีล่ะ”

“ได้เสมอ” หมอเฮยรับเงินไป “ข้อตกลงเดิมนะ ถ้าจะซื้อยาก็ต้องโทรมาล่วงหน้าหนึ่งวัน”

“โอเค ฉันไปก่อนนะ แต่นายรออยู่นี่ก่อนและค่อยออกไป” หวังปิงบอกกับหมอเฮย

“เข้าใจละ”

หมอเฮยพยักหน้า

“ไว้เจอกันใหม่นะ” หวังบังกล่าวลาพลางหันไปทางรถของตน

ในรถของหมอเฮย ตํารวจสองคนเหลือบมองพวกหวังปิงอย่างประหม่า มือพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

หวังปิงเดินไปช้าๆ จากด้านซ้ายของรถ และมองเข้าไปในรถผ่านกระจก

ตํารวจคนหนึ่งเผลอไปสบตากับเธอ

“ทางกลับไม่ง่ายเลย รีบหน่อยล่ะ” หวังปิงตะโกนใส่

“ไม่เป็นไรพวกเราชํานาญทางแล้ว” ตํารวจตอบกลับทันที

“ลาก่อน” หวังปิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มพร้อมนําชายฉกรรจ์ที่หมดเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อหวังบังเดินไปไกลแล้ว ตํารวจก็เรียกหมอเฮยขึ้นรถและพูดผ่านวิทยุสื่อสารทันที “หัวหน้าพวกมันไปแล้ว”

บนถนน

งูเหว่ยวิ่งไปที่รถของแมวเฒ่าพลางถามอย่างเร่งด่วน “พวกหวังปิงมันไปแล้วเราจะทําไงต่อ?”

แมวเฒ่าออกคําสั่งทันทีหลังตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง “แจ้งไปยังพวกตํารวจไท่จวง เราจะแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม เดี๋ยวฉันทําหน้าที่ตามพวกนั้นเอง ให้อีกสามทีมขึ้นรถรอเลยพอทิ้งระยะห่างและพวกนั้นเปลี่ยนเส้นทางฉันจะวิทยุบอกเอง เข้าใจไหม?”

“เข้าใจแล้ว” จู้เหว่ยพยักหน้า

“แค่ใช้วิธีนี้จับตาดูเธอ สังเกตจากที่เธอให้หมอเฮยรอก่อนยี่สิบนาทีแล้วค่อยออก แสดงว่าแหล่งกบดานของพวกมันอยู่แถวนี้แหละ ดังนั้นเธอจึงกลัวว่าถ้าหมอเฮยตามไปอาจรู้ตําแหน่งคร่าวๆ ได้” แมวเฒ่าพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้าเราไม่ทําพลาดและหาเฒ่าหรูได้จากการตามเธอก็ถือว่าสําเร็จแล้ว”

“เยี่ยม!”

“เดี๋ยวฉันจะบอกแผนพวกเขาอีกที” แมวเฒ่าหยิบวิทยุสื่อสารมาแล้วตะโกนทันที “หัวหน้าทีมไท่จวง ฉันจะบอกแผน”

“พูดมาเลย” อีกฝ่ายตอบอย่างแผ่วเบา

“ฉันจะตามเธอไปอย่างห่างๆ แล้ว…” แมวเฒ่าอธิบายแผนที่เพิ่งคุยกับจี้เหว่ยเมื่อกี้ไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน

หลังจากนั้นประมาณแปดนาที

รถของหวังปิงขับออกมาจากทางเดินริมทะเลสาบและขับตรงไปยังหมู่บ้านที่มีแสงริบหรี่ในระยะไกลออกไป

แมวเฒ่านั่งอยู่ในรถหันไปบอกคนขับ “รักษาระดับความเร็วให้ดีล่ะ อย่าเข้าใกล้เกินเดี๋ยวพวกมันจะจับได้ปิดไฟทุกอย่างให้หมดเลยและขับชิดขวาไปตลอดทาง

“ถนนมืดอย่างงี้ถ้าปิดไฟ ฉันกลัวจะขับลงคูน้ำเอาล่ะสิ” คนขับเน้นย้ำ

“ พยายามมองรอยล้อของพวกมันไว้ให้ดีสิ” แมวเฒ่าเตือน “แล้วก็อย่าบิดพวงมาลัยสุ่มสี่สุ่มห้าละกัน”

“โอเค” คนขับพยักหน้า

หลังจากที่คุยกันจบรถพวกหวังปิงก็เลี้ยวซ้าย แมวเฒ่าจึงหยิบวิทยุสื่อสารออกมาตะโกนด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ใครอยู่ทางแยกด้านซ้ายของหมู่บ้าน?”

“ฉัน” เสี่ยวไท่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“ขับไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุดเลย เห็นทางแยกเมื่อไหร่ก็วิทยุมา” แมวเฒ่าสั่งการ

“เข้าใจแล้ว” เสี่ยวไท่ตอบ

แมวเฒ่านั่งคอยสั่งการอยู่ท้ายรถโดยรักษาระยะห่างพอสมควรเพื่อตามหวังปิง ถือเป็นการลดความเสี่ยงจะถูกเจอได้ดี

หลังจากผ่านไปยี่สิบนาทีรถของหวังปิงก็มาถึงถนนสายหลักในหมู่บ้านไท่จวงแล้ว สองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยบ้านที่สร้างขึ้นโดยกรมบรรเทาทุกข์จากเทศบาล และดูจะขาดแคลนไฟฟ้าเป็นอย่างมาก

ถนนทางเข้าหมู่บ้าน

แมวเฒ่านั่งอยู่ในรถพลางกัมพูดผ่านวิทยุสื่อสาร “ทีมที่อยู่ทางแยกขวามือ ได้ยินแล้วตอบด้วย”

หลังเงียบไปห้าวินาทีก็มีเสียงดังขึ้นอย่างคลุมเครือ “ฮัลโหล?… ฮะโหล? เรียกเราเหรอ? กลุ่มที่หนึ่ง…”

แมวเฒ่าขมวดคิ้วขณะพยายามฟังให้ออก “นี่หัวหน้าทีม..ฉันได้ยินไม่ชัด”

“สัญญาณ…นี่ไม่ดี…ว่าไงนะ?”

“รถของหวังปิงผ่านไปทางนายแล้ว ขับออกไปได้เลย” แมวเฒ่าตะโกนผ่านวิทยุสื่อสาร

“ไปที่ถึงฉัน…มันจะมาใช่ไหม?”

เสียงรบกวนในวิทยุสื่อสารดังมาก

“ใช่ ออกรถเลย อย่าให้พวกมันหลุดรอดสายตา

รถยังคงขับต่อไป แมวเฒ่ามาถึงรถของหวังปิงก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตํารวจที่ขับรถหันกลับมาถามทันที ” หัวหน้าคิดว่าหวังปิงจะอยู่ในหมู่บ้านนี้ใช้ไหม?”

“ไม่ค่อยแน่ใจ” แมวเฒ่าส่ายหัว “ที่นี่มีคนเยอะ ถ้าพวกมันอาศัยอยู่ในนี้ก็อาจง่ายในการแจ้งเบาะแส ฉันว่าพวกมันต้องผ่านหมู่บ้านนี้ออกไปแน่”

“อ๋อ” คนขับพยักหน้า

“ใจเย็นไว้ ค่อยๆขับไป” แมวเฒ่าพูดอย่างใจเย็น “นายต้องไม่ประหม่า”

หลังพูดจบ รถของหวังปิงที่ขับอยู่ตามปกติ จู่ๆ ก็เลี้ยวขวาและหายไปในถนนสายหลักทันที

หัวหน้า พวกมันเลี้ยวหายไปแล้ว

“ไม่เป็นไร ตํารวจไท่จวงดักทางนั้นไว้แล้ว” แมวเฒ่าโบกมือและสั่ง “เร่งความเร็วให้ทันก่อน”

คนขับเหยียบคันเร่งเต็มที่

ยี่สิบวินาทีต่อมารถแมวเฒ่าเลี้ยวขวา แต่คนขับก็มองไม่เห็นรถของหวังปิงแล้ว

สภาพถนนในหมู่บ้านนั้นดีกว่าภายนอกมาก อย่างน้อยท้องถนนก็ได้รับการดูแลแมวเฒ่าไม่แปลกใจมากนักจึงพูดสั่งไป “รถของเธออาจเร่งความเร็ว นายก็เร่งตามเร็วเข้า!”

“ได้ครับ” คนขับพยักหน้า

แมวเฒ่าหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาอีกครั้งก่อนตะโกน “ตํารวจไท่จวง ได้ยินแล้วตอบหน่อย”

ห้าวินาทีผ่านไป ก็ไม่มีการตอบกลับในวิทยุสื่อสาร

แมวเฒ่าขมวดคิ้วพลางบีบอินเตอร์คอมก่อนตะโกนอีกครั้ง “นี่พวกนายช่วยตอบที่ ฮัลโหล? รถของผู้ต้องสงสัยเร่งความเร็วหายไป ฉันมองไม่เห็นพวกมันแล้ว คันที่อยู่ข้างหน้าได้ยินแล้วรายงานให้รู้ที”

ผ่านไปอีกสิบวินาทีก็ไม่มีใครตอบกลับมาเลย

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท