Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 217 ถูกล้อมจากทุกด้าน

ตอนที่ 217 ถูกล้อมจากทุกด้าน

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 217 ถูกล้อมจากทุกด้าน

ตอนที่ 217 ถูกล้อมจากทุกด้าน

แมวเฒ่าที่ไร้เรี่ยวแรงและบาดเจ็บจากการสู้กับกลุ่มค้ายายืนโซเซอยู่หน้ารถเพื่อปกป้องตํารวจสองคนนั้น ทั้งตัวโชกไปด้วยเลือด

จู้เหว่ยมองแมวเฒ่าพลางประเมินสถานการณ์ เขาก็พบว่ามันยากที่จะหนีออกไปได้ง่ายจึงตะโกนสั่ง “เปิดไฟหน้ารถแล้วเลี้ยวไปรับแมวเฒ่า”

หลังคําสั่งนั้นคนขับก็เปิดไฟสูงพร้อมกัน แสงจ้าส่องเข้ามาในจุดที่แมวเฒ่ายืนอยู่ทําให้อีกฝ่ายต่างยกแขนบังแสงเพื่อปกป้องดวงตาของพวกเขา

“คุ้มกันด้วย!”

จู้เหว่ยตะโกนขณะเอนตัวพิงกําแพงและเลี้ยวตัวยิ่งกลุ่มค้ายาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจอีกหลายคน

เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มค้ายาต่างหาที่หลบกันจ้าล่ะหวั่นเพราะพวกเขาไม่สามารถเห็นตําแหน่งของจู้เหว่ยได้ ดังนั้นจึงวิ่งกระจัดกระจายไปรอบๆ

รถยนต์แล่นมาหยุดอยู่ข้างแมวเฒ่าในชั่วพริบตา

“พลั่ก!”

ประตูหลังเปิดออกเสี่ยวไท่ก็ตะโกนพลางยกปืนยิงใส่อีกฝ่าย “แมวเฒ่า ขึ้นรถเร็ว!”

แมวเฒ่าทิ้งพลั่วในมือแต่ยังไม่ขึ้นรถทันที เขาเอื้อมมือไปดึงแขนตํารวจที่มาจากซ่งเจียงด้วยกันและพยายามพาขึ้นไปบนรถ

ตํารวจคนนั้นไม่สามารถครองสติยืนได้ นอกจากสติจะเลือนรางแล้วขาก็โดนตีด้วยดาบสามหรือสี่เล่มจนหัก

และไม่สามารถยืนได้ด้วยตนเอง นับว่าอาการหนักกว่าแมวเฒ่ามาก

“ลุกขึ้นมา! อดทนหน่อย!” แมวเฒ่าตะเบ็งเสียงใส่ ทั้งที่ในใจก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ไหวแล้ว

“ฉะ…ฉันขยับไม่ได้” ตํารวจตอบด้วยเลือดที่โชกเต็มมือ

ในรถเสี่ยวไท่เห็นว่าแมวเฒ่าไม่มีแรงพอจะช่วยเพื่อนร่วมงานได้จึงกระโดดลงไปพยุงแมวเฒ่าแล้วยิงปืนด้วยมืออีกข้างหนึ่ง “นายขึ้นไปก่อน!”

แมวเฒ่าถูกดึงเข้ามาในเบาะหลังและเสี่ยวไท่ก็ตะโกน “ปิดประตู”

หลังจากนั้นเสี่ยวไท่ก็เก็บปืนพกและจับตํารวจอีกสองนายบนพื้น เขาดึงขึ้นมาด้วยแรงทั้งหมดพร้อมกันไปที่ปากประตูอีกด้าน

แมวเฒ่าที่นั่งอยู่เบาะหลังก็ดึงแขนและลากตํารวจสองคนนั้นเข้าไปในรถ

“ถอยเลย! แล้วเหยียบให้มิด”

เสี่ยวไท่หยิบปืนขึ้นมายิงอีกฝ่ายพร้อมกับตะโกนเตือนคนขับรถเสียงดัง

“บรึ้น!”

รถเลี้ยวกลับด้วยความเร็วตามถนนที่เย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยหิมะ เสี่ยวไท่กระหน่ำยิงปืนจนกระสุนหมดแล้วเขาก็หันกลับมาเปิดประตูรถทันที

“ปัง!”

ในจังหวะที่เสี่ยวไท่จะก้าวเข้าไปในรถด้วยเท้าข้างขวา เสียงปืนก็ดังขึ้นและเขาก็ตัวแข็งที่อทันที

คนขับในรถได้ยินเสียงปืนก็ตกใจและรีบหมุนพวงมาลัยหลบไปทางซ้ายตามสัญชาตญาณพลางเข้าเกียร์อย่างรวดเร็ว

“ตุบ!”

เสี่ยวไท่ถูกแรงเหวี่ยงจากรถที่เปลี่ยนเกียร์กะทันหันจึงทําให้หลุดตกรถไป

เขาล้มลงบนท้องถนน จู่เหว่ยสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วก็ตะโกนออกไปทันที “เดี๋ยวก่อน! เขายังไม่ได้ขึ้นรถ!”

คนขับเหยียบเบรก “ลุกขึ้นมาเร็ว!”

เสี่ยวไท่ถูกระสุนเจาะเข้าบริเวณใต้สะโพกด้านขวา ทําให้ไม่สามารถเดินหรือแม้กระทั่งยืนได้เลย เขาพยายามใช้มือดันกับพื้นอย่างรีบเร่งทันใดนั้น ชายห้าคนของกลุ่มค้ายาก็วิ่งนําออกมาพร้อมปืนในมือ

ชายคนสุดท้ายโบกมือให้สัญญาณบุก ชายห้าถึงหกคนก็วิ่งตามเขามา “เล็งไฟหน้ารถของมันซะ!”

เสียงโห่ร้องดังไปทั่วถนนตามมาด้วยเสียงปืน และรถที่กําลังเปิดไฟจ้าอยู่ก็มีเสียงกระทบดังขึ้นในทันใด

ไฟหน้ารถแตกและแสงก็ดับไป

ทางเข้าทิศเหนือ

หวูซ่งที่นําคนมากลุ่มหนึ่งเข้าประชิดรถ เขาก็โบกมือทันทีและตะโกน “จัดการพวกมันให้หมด!”

“ย๊าก!”

ด้วยคําสั่งเดียว ทุกคนพร้อมกับกลุ่มสองที่เพิ่งมาถึง วิ่งกรูกันไปล้อมรถข้างหน้า

บนถนนเสี่ยวไท่กัดฟันยืนขึ้นและเดินกะเผลกเพื่อจะไปที่รถ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเย็นวาบข้างหลังท้ายทอย

“ฟุบ!”

เสี่ยวไท่ก็หันกลับมา

“ผัวะ!”

แท่งเหล็กหนาเท่าแขนเด็กหกขวบฟาดไปที่หัวของเขาจากด้านหลังอย่างแรง

เสี่ยวไทตัวแข็งที่อ และก่อนเขาจะล้มไปชายอีกคนก็ง้างไม้ทุบหัวเขาอีกที

“ตุบ!”

เสี่ยวไท่หมดสติล้มทั้งยืน หัวของเขากระแทกกับพื้นดวงตาเบิกกว้าง พื้นหิมะรอบตัวถูกเลือดอุ่นละลายภายในสองวินาที

ไม่ไกลนักจู้เหว่ยมองเสี่ยวไท่นอนกองกับพื้น เขาตะโกนออกคําสั่ง “ถอยกลับ! ลากเขาขึ้นมาแล้วหนีกันก่อน!”

“ถอยกลับเรอะ? ไม่มีใครกลับไปได้หรอกโว้ย!”

หวู่ซ่งรีบวิ่งมาจากกลุ่มค้ายาพร้อมคําราม “ไปตายซะไอ้พวกโง่เป็นแค่เด็กเฒ่าหล่อย่ามาทําอวดดีนะเว้ย”

“ฆ่ามันให้หมด!”

กลุ่มคนกว่าสามสิบคนโห่ร้องและรีบวิ่งไปข้างรถของจู้เหว่ยอย่างกับคลื่นน้ำ

ทางเข้าทิศเหนือมีรถมาจอด หวู่เวินเซิ่งเดินกะเผลกออกมาและหวังปิงก็เดินมาทักทายเขา

ในที่นั่งข้างคนขับชายคนหนึ่งสวมเสื้อโค้ทกันหนาวของตํารวจ ผลักประตูลงมา เขายิ้มพลางพูดกับหวู่เวินเซิ่ง “ไม่เป็นไรใช่ ไหมครับ?”

หวูเวินเซึ่งเหลือบมองเขาและโบกมือให้หวังปิง

“คุณจิน นี่เป็นของขอบคุณเล็กน้อยนะ” หวังปิงส่งกระเป๋าหนังสีดําให้อีกฝ่าย

ตํารวจคนนั้นเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าหนังโดยไม่แสดงสีหน้าเขินอายเลย เขาก้มหน้าเปิดโซ่โลหะ และเหลือบมองเข้าไปข้างกระเป๋า

“ฉันจะไปแล้ว ช่วยจัดการให้ด้วยนะ” หวู่เวินเซิ่งพูด

“งั้นผมไปก่อนนะ” เจ้าหน้าที่ตํารวจถือกระเป๋าเงินพลางหันหลังเดินขึ้นรถไป

บนถนน

เสี่ยวไท่นอนหมดสติอยู่ที่พื้น จู้เหว่ยโกรธจัดจนอยากจะยิงพวกนั้นให้ตายทั้งหมด

หวู่ซ่งและคนอื่นยืนถือปืนอยู่ด้านข้าง ตํารวจที่อยู่ในรถก็ก้มหัวหมอบกันหมด

“แมวเฒ่า ถ้ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่ก็ลงมาจากรถสิวะ! อย่าให้ตํารวจห่วยๆ พวกนี้มาขวางความตายของแกเลย” หวู่ซ่งตะโกน

แมวเฒ่าได้ยินดังนั้นก็กัดฟันแน่น ผลักประตูรถแล้วตะโกนว่า “มาสิวะ เดี๋ยวฉันจะลงไป!”

“อย่าขยับ!” คนขับเอื้อมมือออกไปและหยุดแมวเฒ่าไว้

“บรึ้น!”

ทันใดนั้นเองรถออฟโรดขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นและแล่นมาที่ถนนหลักของหมู่บ้านทันที

ไฟหน้ารถสว่างจ้า จู้เหว่ยหันไปมองก็พบว่ารถทั้งห้าคันนี้พิมพ์ด้วยตัวอักษร “บริษัทรักษาความปลอดภัยเหยากวางแห่งเจียงโจว”

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท