Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 218 การกลับมาของหม่าเหลาเอ๋อ

ตอนที่ 218 การกลับมาของหม่าเหลาเอ๋อ

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 218 การกลับมาของหม่าเหลาเอ๋อ

ตอนที่ 218 การกลับมาของหม่าเหลาเอ๋อ

รถออฟโรดทั้งห้าคันแล่นมาด้วยความเร็ว พุ่งเข้าหาฝูงชนอย่างรวดเร็วในถนนสายหลักของหมู่บ้าน แสงไฟที่ประดับไว้หลายหลอดสว่างจ้าและยางแต่ละเส้นก็ถูกติดตั้งด้วยโซ่กันลื่นทั้งหมด

ที่ปากซอยชายคนหนึ่งเงยหน้าพูดด้วยความประหลาดใจ“นั่นพวกไหนกัน….พวกเรารึเปล่า?”

“ไม่รู้สิ หัวหน้าหรูเรียกมาเสริมรึเปล่า?” ชายด้านข้างก็รู้สึกงุนงงเช่นกัน

ความเร็วของรถทั้งห้าคันไม่ได้ลดลงเลย และในพริบตารถก็แล่นผ่านพวกงูเหว่ยไปชนเข้ากับพวกกลุ่มค้ายากระเด็น

“หนีโว้ย! มีรถมาหนีไปก่อน!” ชายคนหนึ่งในกลุ่มค้ายาตะโกนสุดเสียง

ฝูงชนต่างพากันหลบไปที่กําแพงทั้งสองข้างของถนนเพื่อหนีตาย

“เอี้ยด! เอี้ยด!”

รถห้าคันที่พิมพ์ตัวอักษรว่า “บริษัทรักษาความปลอดภัยเหยากวางแห่งเจียงโจว” พากันเบรกหยุดทันทีตรงด้านข้างเสี่ยวไท

“ พลั่ก!”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เปิดประตูรถออกมาและเงยหน้าขึ้นเพื่อตะโกนเดือนพวกกลุ่มค้ายา “โยนอาวุธทิ้งแล้วคุกเข่าลงซะ!”

ลูกคนที่สามของเฒ่าหรูหันไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งถือปืนออกมา“ให้ตายเถอะนั่นมันไอ้หลานชายเฒ่าหม่าเรอะ?!”

หม่าเหลาเอ๋อนํารถทั้งห้าคันมาหลังจากที่ห่างหายไปนานเขาสวมเสื้อคลุมลายพลางสีเขียวและรองเท้าหนังก่อนตะโกน“ช่วยเขาก่อน!”

ชายมากกว่ายี่สิบคนเดินตามหม่าเหลาเอ๋อออกมา และอีกสองคนก็พยุงช่วยเสี่ยวไท

“อย่าได้กลัว! เรามีคนมากกว่าพวกมัน” หวีซ่งตะโกนอยู่ด้าน หลังกลุ่มค้ายา “ถ้าฆ่าหัวหน้าพวกมันได้ ฉันจะแบ่งให้หัวละห้า หมื่น!”

“จะทําอะไรพวกฉัน?!” หม่าเหลาเอ๋อวิ่งไปและเล็งปืนไปที่คนสั่งการ

“หลบก่อน!” ชายร่างกํายําคนหนึ่งตะโกนขณะกระโจนหลบ

“อยากได้เงินนักก็ตายไปให้หมดไอ้พวกเวร!” หม่าเหลาเอ๋อตะโกนและยกปืนกลหนักมายิงกราด

“ปัง ปัง ปัง!”

เสียงปืนดังรัว คนที่อยู่แถวหน้าก็ถูกกระสุนเจาะทะลุร่างเลือดฟุ้งกระจายและล้มลงไปกับพื้นหลายคน

พนักงานของบริษัทเหยากวางได้ยินหม่าเหลาเอ๋อพูดเช่นนั้นก็กราดยิงตามไปอย่างไม่ลังเล

กระสุนพุ่งเข้าใส่กลุ่มค้ายาอย่างไม่ลดละทําให้พวกนั้นล้มตายกันอีกเจ็ดคน

หม่าเหลาเอ๋อยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนพลางตะโกน“ออกมาสิวะ!ไหนมีใครอยากมาฆ่าพวกฉันอีกไหม?! ไหนใครจะกล้าออกมารับกระสุนอีก?!”

พวกที่เหลือหลังจากเห็นกลุ่มของตัวเองล้มตายก็หลบและไม่กล้าออกมาจากกําแพงอีกเลย

หม่าเหลาเอ๋อหันไปทางฝูงชนพร้อมตะโกนอีกครั้ง “สิบคนมาช่วยฉันฆ่าไอ้ชั่วหวูซ่ง ส่วนที่เหลือรีบไปช่วยพวกตํารวจซะ!”

หลังพูดจบหม่าเหลาเอ๋อก็นําคนสิบคนเดินตรงไปหาหวี่ซึ่ง

ตรงปากซอย ลูกคนที่สามของเฒ่าหรูหยิบวิทยุสื่อสารออกมาและตะโกนอย่างรวดเร็ว “หวูซ่ง แมวเฒ่ามันถูกยิงอาการปางตายแล้วไม่ต้องสู้แล้วเรากลับกันเถอะ!”

บนทางเท้าใกล้กับทางเข้าทิศเหนือ หวูซ่งแอบมองหม่าเหลาเอ๋อที่กําลังก้าวเข้ามาหาที่ละก้าวและคิดว่าคงเสียเปรียบแน่ถ้าจะสู้ต่อ

หม่าเหลาเอ๋อมาพร้อมกับความแค้นจากการที่เสียเฒ่าหม่าไปเขาจึงเดินหน้าต่อไปเพื่อระบายความแค้นในใจ “ไอ้พวกกระจอกไปบอกหยวนเค่อด้วยว่าฉันกลับมาแล้ว!”

เมื่อระยะห่างระหว่างทั้งสองน้อยกว่าสิบห้าเมตร เสียงปืนก็ดังขึ้น!

หม่าเหลาเอ๋อยกปืนกลหนักขึ้นเหนี่ยวไก กระสุนพุ่งรัวออกไปกระทบกับกําแพงสร้างควันและเศษปูนกระเด็นไปทั่วบริเวณ

หวี่ซ่งรู้อย่างแจ่งแจ้งว่าพวกเขาจะอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วจึงหันไปตะโกนขณะก้มหลบกระสุน “แมวเฒ่าโดนยิงอาการปางตายแค่นี้ก็พอ…ถอยก่อน!”

ทางเข้าทิศใต้

หลังจากที่พวกงูเหว่ยช่วยพาเสียวไม่ได้ก็ออกรถไป เนื่องจากเส้นทางอยู่นอกเขตชุมชนจึงเดินรถลําบากทําให้ล่าช้า ส่วนแมวเฒ่าและเสี่ยวไท่นอนหมดสติ

ในรถ

จี้เหว่ยมองบาดแผลของแมวเฒ่าและเสี่ยวไท่ก่อนจะพูด เร่งคนขับอย่างสิ้นหวัง“เร็วหน่อยสิ!”

คนขับเหลือบมองถนนก็ตอบอย่างรวดเร็ว “ถนนมีหิมะสูงถึงจะมีโซ่กันลื่นแต่ก็ขับเร็วไม่ได้ กว่าจะถึงชานเมืองอย่างน้อยก็สามชั่วโมง”

จุเหว่ยถึงกับชะงัก

“หาทางปฐมพยาบาลไปก่อน ฉันคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ถ้าเรารีบขับ” คนขับพูดเสริม

จุเหว่ยตั้งสติได้ก็รีบเอาโทรศัพท์ออกมากดหมายเลขของฉันอวี่ด้วยมือที่สั่นเครืออย่างรวดเร็ว

“ว่าไง?!”

“แย่แล้วหัวหน้า มีบางอย่างเกิดขึ้น!”

“อย่าเพิ่งตื่นตูมไป แล้วแมวเฒ่าล่ะ?” ฉินอวี่ถามและควบคุมน้ําเสียงให้นิ่งที่สุด

“เขา…เขากับเสี่ยวไทอาการไม่ดีเลยมีแผลเยอะเกินไป!” แม้จะยังไม่ได้ฟันธงว่าแมวเฒ่าและเสี่ยวไม่ตาย แต่ด้วยสิ่งต่างๆที่พวกเขาทําร่วมกันมามากมายดังนั้นตอนนี้เขาจึงร้องไห้อยู่

นะ รอสายจาก

ฉินอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “อย่าเพิ่งกังวลนะ รอสายจากฉัน…เดี๋ยวฉันจะถามลุงหลีให้ก่อน”

“โอเค.โอเค เข้าใจแล้ว!”

“แค่นี้ก่อนนะ!”

หลังสิ้นเสียง ทั้งสองก็วางสาย

ประมาณสองนาทีต่อมา

ผู้กํากับหลี่เดินออกจากสภาเขตเจียงหนาน เขายืนคุยโทรศัพท์แล้วตะโกน “ทําไมไม่รีบช่วยแมวเฒ่าล่ะ! มั่วทําอะไรอยู่?”

“สภาพถนนมันไม่ค่อยดีแถมยังไม่มีป้ายบอกทางที่ชัดเจน ตอนนี้ก็ทําได้แต่รอเวลาเท่านั้นแหละครับ” อีกฝ่ายพูดเสียงแผ่วเบา

“ไม่รู้ล่ะ!” ผู้กํากับหลี่ตาแดงก่ํา “ถ้าหลานชายของฉันเป็นอะไรไปฉันไม่ยอมแน่!”

“ผมจะให้คนขับรถไปรับแมวเฒ่า!”

“ไปรับบ้าอะไรล่ะ!” ผู้กํากับหลีตคําราม“นานขนาดนั้นหมอนั่นก็ได้ตายกันพอดีมันจะทันเหรอ?”

“แล้วลุงจะทํายังไงล่ะ?”

“เรียกกองทหารรักษาการณ์! ภายในครึ่งชั่วโมงเจ้านั่นต้องได้ นอนโรงพยาบาล!”ผู้กํากับหลีพูดอย่างหนักแน่น

“ได้ครับ ผมจะลองดู!”

“ไม่ใช่แค่ลองดู แต่ต้องช่วยได้เท่านั้น!” ผู้กํากับหลี่ที่คําพูดไว้แล้วกดวางสายไป

ห้านาทีต่อมา

หน่วยทหารรักษาการณ์ของชางจี หวีจือถือปืนกลหนักสี่กระบอกออกแจกจ่ายคนในหน่วยและมุ่งหน้าไปยังไท่จวง โดยอ้างว่าจะออกลาดตระเวนกลางคืน

สิบนาทีที่ผ่านไปทางเหนือของหมู่บ้าน

หลังจากคุยธุระกับตํารวจท้องถิ่นแล้ว หรูเวินเซิ่งก็เตรียมไปที่เกิดเหตุ

ตํารวจที่รับเงินแล้วก็รีบตะโกนผ่านหน้าต่างรถ “ฟังจากเสียงปืนเหมือนจะมีคนมาเพิ่มขึ้นนะครับ!”

หญ่เป็นเพิ่งหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปพูด “เสี่ยวปิงเปิดวิทยุสื่อสารฟังดูหน่อย! ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!”

“ได้เลย” หวังปิงหันไปที่รถ

หวูเวินเพิ่งหยิบกล่องบุหรี่ออกมา ขณะที่กําลังจะดึงบุหรี่ออกมาสูบเขาก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ก็ดังมาจากถนนตรงหน้า

“มีรถมา!” เจ้าหน้าที่ตํารวจขมวดคิ้วและหันกลับไปมอง

“บริ้น!”

เสียงเครื่องยนต์ชัดเจน ภายในเวลาอันสั้นรถก็พุ่งมาอย่างกะทันหันก่อนกะพริบไฟหน้าใส่สองสามครั้งในระยะไม่ถึงสิบ

เมตร!

“โครม!”

เสียงรถออฟโรดพุ่งชนด้านซ้ายของรถตํารวจดังสนั่นทุกคนตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า!

“เอี้ยด โครม!”

หลังจากกระแทกรถของตํารวจรถอีกคันก็เลี้ยวไปทางถนนอีกเส้น

รถออฟโรดหยุดหน้าซอยและฉีหลินก็กระโดดออกจากที่นั่งข้างคนขับ

รูปร่างเขาไม่อ้วนท้วมแล้ว ดวงตาคมกริบ แก้มตอบบางและผมก็ถูกโกนออกมือขวาของเขาถือปืนกระบอกหนึ่ง

ตํารวจในรถที่พลิกคว่ํามองขึ้นไปยังฉีหลินก็ตกตะลึง

“มองอะไรของแก ไอ้ตํารวจสวะ?”

“ปัง!”

เสียงปืนดังสนั่น เลือดพุ่งออกจากท้ายทอยของตํารวจ และเสียชีวิตในรถทันที

ฉีหลินหันกลับมาโดยไม่พูดอะไร และยกปืนขึ้นเล็งหรูเวินเซิ่งพรอมเหนี่ยวไกอย่างฉับพลัน

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท