Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 230 รู้สึกดี

ตอนที่ 230 รู้สึกดี

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 ตอนที่ 230 รู้สึกดี

ตอนที่ 230 รู้สึกดี

ณ ห้องจัดเลี้ยง

แก้มของจ่าวเปาม่วงไปหมด ตรงกลางหัวถูกแมวเฒ่าชกเข้าจนปูดขึ้นมาเป็นลูกใหญ่ เขาเอนตัวหมอบอยู่บนโซฟาแล้วเอาหัวหนุนไปที่ตักของผู้หญิงคนหนึ่ง จากนั้นจึงโบกมืออย่างหมดสภาพ “ไอ้พวกสารเลว! พวกแกตั้งใจแกล้งฉัน..ไม่ดื่มมันแล้วโว้ย ทําหัวฉันปูดขนาดนี้ฉันมะ..ไม่เล่นแล้ว ยังจะให้ฉันดื่มให้หมดสามแก้วอีก…. หมายความว่ายังไงวะ? นึกว่าฉันเป็นคนที่รังแกได้ง่ายๆรีไง?ฉันจะบอกอะไรให้นะ แม้แต่ผู้กํากับของพวกนายก็ต้อง ก้มหัวให้ฉันรู้ไหม?!”

แมวเฒ่าฟังพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น “ถ้างั้นเดี๋ยวโทรเรียกผู้กํากับมาเลยดีกว่า”

“ไม่ๆๆ ฉันไม่ดื่มแล้ว นายไม่ต้องโทร ฉันแค่พูดไปแบบนั้นแหละ” จ่าวเปาเช็ดมุมปากของตัวเอง

“มานี่ นายลุกขึ้นมา เรามาดื่มต่อกันอีกหน่อย” แมวเฒ่ากวักมือพลางตะโกนบอก

“ถึงนายจะเรียกฉันว่าพ่อฉันก็ไม่ลุกพอแล้ว!ฉันดื่มไม่ไหว แล้ว…” พอจ่าวเปาพูดถึงตรงนี้ก็เงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน“แหวะ!”

“ผัวะ!”

อ้วกกองโตพุ่งออกมาจากปากของจ่าวเปา

อ้วกพุ่งใส่ตรงขาทั้งสองข้างของสาวสวยคนหนึ่ง เธอรีบยืนขึ้นด้วยความขยะแขยงแล้วดึงกระดาษทิชชูมาเช็ดพร้อมกับพูดว่า “พี่พี่มาทําบ้าอะไรตรงนี้เนี่ย เสื้อผ้าฉันแพงนะรู้ไหม?”

สาวสวยพูดก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ํา

“แหวะ!”

ถึงโดนต่อว่าจ่าวเปาก็ยังหันหน้าไปอ้วกอยู่ดี

แมวเฒ่าหันไปมองหญิงสาวที่อยู่กับจ่าวเปา จากนั้นก็พูดสั่ง “การ์ดมาจัดการเขาที่”

“อยู่ไหนแล้วล่ะ?” ญาญ่าถามอย่างมึนงง“ให้จัดการมันเลย

เหรอ?”

“ไม่ต้อง วันนี้วันส่งท้ายปี พี่จ่าวของฉันต้องกลับมาแน่นอน”แมวเฒ่าแสยะยิ้ม “มันอ้วกไม่ใช่เหรอ? ก็ส่งคนไปดูแลมันสิ”

“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ” ญาญ่าหยักหน้าจากนั้นก็หันกลับไปตะ โกนว่า “ลิซ่าเธอมานี่หน่อย…”

เนื่องจากห้องน้ําในคลับมีคนเข้าหมดแล้ว หญิงสาวจึงทําได้แค่พาจ่าวเปาไปเข้าห้องน้ําอีกที่หนึ่ง

ในห้อง แมวเฒ่าจับโทรศัพท์ไว้แล้วโทรเข้าโทรศัพท์ของฉันอวี่ทันที “ฮัลโหลพวกนายสองคนอยู่ไหน?”

“เดี๋ยวก็กลับแล้ว”

“รีบกลับมาเถอะ” แมวเฒ่าพูดเร่ง “มีรายการสดให้ดู”

“รายการอะไรวะ?”

“เดี๋ยวกลับมานายก็รู้”

“อืม พวกเราสองคนใกล้จะถึงแล้ว”

“โอเค” พูดจบแมวเฒ่าก็ตัดสายทันที

ในห้องน้ําของห้องสูทข้างๆ

จ่าวเปาเกาะโถชักโครกแล้วอ้วกอยู่เจ็ดถึงแปดนาทีก่อนจะรู้สึกว่าท้องไส้ค่อยดีขึ้นมาหน่อย

“ดื่มน้ําก่อนเถอะ บ้วนปากหน่อย” หญิงสาวตักน้ําเย็นมาแก้วหนึ่งจากนั้นก็โน้มตัวยื่นให้จ่าวเปา

ข่าวเปาบ้วนปากเสร็จก็นั่งพะอืดพะอมอยู่ข้างโถชักโครกจากนั้นก็เกาะที่ชั้นวางพร้อมกับพูดว่า “ฉัน..ฉันเอาชนะฤทธิ์แอลกอฮอล์ไม่ได้…ฉันมันกระจอกจริงๆ”

“ไม่เลย ไม่หรอกน่า” หญิงสาวโน้มตัวลงมาหยิบทิชชูคุณภาพต่ําที่มีอยู่ในห้องน้ําออกมาสองแผ่นแล้วเช็ดไปที่ต้นขาของจ่าวเปา “อย่าขยับอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวฉันช่วยเช็ดให้ ที่นี่สกปรกไปหมดแล้ว”

จ่าวเปานิ่งไป จากนั้นก็หุบเป้าไว้ “มะ…ไม่ต้อง”

“ฮ่าๆ มาในที่แบบนี้แล้วยังจะอายอะไรอีกล่ะ?” หญิงสาวเอี้อมมือไปจับและบังคับเขา

จ่าวเปารู้สึกสร่างเมาขึ้นมาทันที ในใจรู้สึกร้อนวูบวาบจึงพูดด้วยความหวงเนื้อหวงตัว “อย่าทําแบบนี้ ฉันเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วนะ”

“พี่ชาย ฉันน่ะชอบคนหัวโบราณมากเลยล่ะ” หญิงสาวยื่นมือออกมาแล้วโอบไปที่คอของจ่าวเปา

“นี่ นี่อย่าท้าทายไป ฉันยังไม่ได้ตั้งตัว เธอว่าอยู่ในห้องน้ําแบบนี้ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้ามันจะเกิดอะไรขึ้น” จ่าวเปาบ่ายเบี่ยงในขณะที่เหงื่อออกเต็มหัว

“เอ๊ยด!”

ประตูห้องน้ําก็ถูกผลักออก จากนั้นก็มีผู้หญิงหุ่นสแลนเดอร์คนหนึ่งเดินเข้ามาพลางก้มหน้าหัวเราะพร้อมถามขึ้น “ลิซ่าเป็นยังไงบ้างอ้าวคนเมานี่สิจัดการยาก มา เดี๋ยวฉันช่วยเธอเอง…”

จ่าวเปานิ่งไปจากนั้นก็พูดขึ้นด้วยแววตาที่เป็นประกาย “ว้าว!พวกคุณนี่มันร้อนแรงชะมัด!”

บนถนน

ขณะที่ฉินอวี่กําลังเดินเล่นบนถนนหิมะกับหลินเหนียนเล่นอยู่ในใจก็เกิดรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

หลินเหนียนเล่นเป็นมีนิสัยชอบแกล้งทําให้ดึงดูดฉินอวี่ เธอหน้าตาสวย…. สวยจนทําให้คนรู้สึกหวั่นไหว ทําให้ในใจรู้สึกมีความกระ ปรี้กระเปร่าอยู่ตลอดแล้วก็ทําให้ฉินอวีรู้สึกดีด้วย คนเราก็เป็น แบบนี้กันทั้งนั้นยิ่งต้องการอะไรยิ่งอยากเข้าใกล้ แต่สําหรับฉินอรี่ชีวิตของเขามีเพียบพร้อมหมดทุกอย่างแล้ว เพราะฉะนั้นหลิน เหนียนเลยจึงเป็นสิ่งที่มีค่าเป็นพิเศษ บวกกับสภาพแวดล้อมในตอนนี้ที่ยิ่งทําให้เธอดูพิเศษมากขึ้นไปอีก

ถ้าเป็นเมื่อหลายเดือนก่อนตอนที่ฉินอวี่ยังไม่รู้จักพวกแมวเฒ่ากับหม่าเหลาเอ๋อและยังไม่ได้รับการยอมรับจากผู้กํากับหลี่ หรือหากยังไม่มีโอกาสได้สร้างอนาคตละก็ เขาคงจะยังไม่คิดเรื่องมีความรักพวกนี้แน่นอนเพราะถ้าตัวเขาเองก็ยังลําบากอยู่จะมีปัญญาตบแต่งภรรยาในยุคนี้ได้อย่างไรกัน?

แต่พอสถานการณ์ตอนนี้เกิดการพลิกผัน ฉินอวี่ที่ทั้งโชคดีและเป็นคนฉลาดอีกทั้งยังถือว่าเป็นคนที่มีความมั่นคงคนหนึ่งของเมืองซ่งเจียงในตอนนี้ด้วยฉะนั้นพอเขาค่อยๆ เข้าหาหลิน เหนียนเลยในใจก็เกิดความรู้สึกดีกับเธอแล้วก็กลายเป็นว่าชอบเธอ เข้าแล้ว

ฉินอวไม่แน่ใจว่าหลินเหนียนเล่นรู้สึกอย่างไรกับตัวเอง แต่ถ้าดูจากการกระทําเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว เขาก็รู้สึกชัดเจนว่าเหนียนเลยไม่ได้ปฏิเสธเขา

หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะฉินอวี่เคยช่วยชีวิตเธอมาก่อนหรืออาจจะเป็นเราะพวกเขาเคยอาศัยอยู่ในที่เดียวกันมาก่อน ปกติก็เจอกันบ่อยครั้งจากการได้พูดคุยกันมากขึ้นจึงทําให้หลินเหนียนเลยเริ่มสนิทกับเขา

แต่การสนิทสนมแบบนี้เรียกว่าชอบไหมนะ?

ฉินอวี่รู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ บางครั้งก็รู้สึกสับสนว่าถ้าตัวเองรุกเร็วเกินไปแล้วถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมรับต่อไปคงเป็นไม่ได้แม้แต่เพื่อนและถ้าเจอกันอีกครั้งจะประหม่าเวลาพบหน้ากันรึเปล่า?

ตรงทางข้างหน้า

หลินเหนียนเลยสวมรองเท้าหนังและตั้งใจเหยียบไปที่กองหิมะจากนั้นก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น “ฉินอวี่!”

“ห้ะ?” ฉินอวี่เงยหน้าขึ้น

“นายกําลังก้มหน้าคิดอะไรอยู่เหรอ?” หลินเหนียนเลยหันหลังไปยิ้มพลางถามขึ้น

“เหอะๆ ผมไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย…”

5บ

“กริ้ง!”

ในตอนที่ทั้งสองกําลังยืนอยู่และกําลังจะพูดคุยกัน เสียงโทรศัพท์ของหลินเหนียนเลยก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล”

“เล่ยเลย…. พวกเธอสองคนรีบกลับมาเถอะ ไอ้เด็กจ่าวเปานั่นเมาเละไปแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเขาไปอยู่ที่ไหนแน่” เสี่ยวมีพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงรีบร้อน “พวกคนที่มากับมันเอาแต่ถามฉันบอกว่าจะกลับพร้อมกัน”

“ได้ ฉันรู้แล้ว”

“รีบกลับมาเถอะฉันก็ง่วงแล้ว อยากเตรียมตัวกลับแล้วล่ะ”

“โอเค”

พอพูดจบแล้วหลินเหนียนเลยก็วางสายไปก่อนจะกวักมือเรียกฉินอวี่ “ไปเถอะ เรารีบกลับกัน จ่าวเปาโดนแมวเฒ่าเล่นงานซะ

แล้ว”

ฉินอวีได้ยินแล้วก็เดินไปข้างหน้าโดยได้ฉวยโอกาสใช้ความเมาทําเนียนคว้าไปที่ข้อมือของหลินเหนียนเลย “เร็วเข้ารีบไปกันเถ

อะ”

หลินเหนียนเลยมองไปที่ฉินอวี่ “นี่ นายจับมือฉันทําไมเนียนเลยนะมันเกินไปหน่อยรึเปล่า”

ฉินอวี่ถึงกับนิ่ง ผ่านไปสักพักจึงพูดขึ้นด้วยความประหม่า “เอ่อ…เอ่อ เปล่า! ผมกลัวคุณจะถือไม่ไหวน่ะ กลัวคุณเมื่อยมือ”

“งั้นให้นายถือก็ละกัน” จากนั้นหลินเหนียนเลยยื่นขนมในมือให้ฉินอวี่

“ไปกันเถอะ” ฉินอวี่รับของมาแล้วจึงเดินมุ่งหน้าไปทางจอยพาเลซคลับ จากนั้นก็พูดพล่ามไม่หยุด “ยังไงก็เชื่อคําพูดของแมวเฒ่า บ้านั่นไม่ได้คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก ก็แค่เล่นๆ กันนะ วันนี้ถ้า คิดอยากจะเล่นงานจริงๆก็คงจะเล่นซ้ําสองแน่นอน”

แล้วหลินเหนียนเล่ยที่อยู่ด้านหลังก็มองแผ่นหลังของฉินอวี่แล้วยิ้มกว้าง “หมดกัน เจ้าเด็กนี้โดนแกล้งให้ตกใจแล้วล่ะ”

สิบนาที่ผ่านไป

ฉินอวี่กับหลินเหนียนเล่ยก็กลับมาถึงชั้นบนสุด พอถึงหน้าประตูของห้องสูทจึงเห็นแมวเฒ่ายืนตะโกนเรียกอยู่หน้าประตูห้องข้างๆ “มา… มานี่เร็วเสี่ยวอวี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายหน่อย”

“นายรอเดี๋ยวก่อน” หลินเหนียนเลยขมวดคิ้วถามขึ้น “จ่าวเปาไปไหนซะล่ะ? ทําไมดื่มเหล้าอยู่ดีๆ ก็ทําคนหายได้? เพื่อนเขากําลังตามหาเขากันให้ว่อน”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” แมวเฒ่าโบกมือตอบกลับ“เขาบอกว่าจะไปอ้วกที่ห้องน้ําแล้วฉันก็ไม่เห็นเขาอีกเลย”

ฉินอวี่ฟังแล้วก็นิ่งไป

“แล้วนายให้คนไปตามหารึยัง?” หลินเหนียนเลยพูดเร่ง

“ตึง!”

ยังไม่ทันขาดคําก็มีเสียงกระแทกดังขึ้นในห้อง ตามด้วยเสียงตื่นเต้นของจ่าวเปาที่ดังขึ้น “นี่มันน่าตื่นเต้นเกินไปแล้วนะ!”

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท