Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 255 ค้นหาเบาะแส

ตอนที่ 255 ค้นหาเบาะแส

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 255 ค้นหาเบาะแส

ตอนที่ 255 ค้นหาเบาะแส

เวลาแปดโมงเช้า

ในร้านอาหารเล็กๆ ตรงข้ามกับถนนหนานหยาง ถังหยวนมองไปที่เพื่อนของตนอยู่พักใหญ่ก่อนพูดขึ้น“แต่งตัวอะไรมาเนี่ย?”

“ทําไมเหรอ?!” จ่าวเปาถามด้วยความสงสัยก่อนผายมือออก“ชุดฉันมีอะไรผิดปกติรึเปล่าเพื่อน?”

“มันจะเป็นจุดสังเกตน่ะสิ”

“จุดสังเกตอะไรของนาย?” จ่าวเปาตอบด้วยเสียงกระซิบ “แค่เสื้อกันหนาวสีแดง กางเกงวอร์มสีดํากับรองเท้าผ้าใบ มันน่าสะดุดตาตรงไหน?”

“เฮอะ!คนอื่นเขาแต่งตัวมาทานอาหารเย็นกัน ดูนายสิ!แต่งตัวอย่างกับแร็ปเปอร์แถมยังจะใส่สร้อยทองนั่นอีก!ฉันจะบ้าตาย!”

“เข้ากันดีจะตายนายไม่คิดงั้นเรอะ?!” จ่าวเปาพูดพลางล้วงสร้อยทองออกมาจากคอ “นี่ก็ของปลอม เอาไว้ใส่กับชุดพวกนี้แหละ”

“แล้วจะไปประกวดนายแบบรึไง?”ถังหยวนถามทันที

“มันขนาดนั้นเลยเหรอ?” จ่าวเปาที่วันๆมุ่นอยู่แต่การทํางานค่ํามาก็ต้องรีบไปงานเลี้ยง ทําเป็นกิจวัตรจนไม่มีเวลาศึกษาการแต่งตัวของผู้คนดังนั้นเขาจึงคิดว่าถังหยวนน่าจะพึ่งพาได้ในเรื่องนี้

“ฉันว่านายต้องเปลี่ยนชุดให้ดูภูมิฐานขึ้นหน่อย ให้สมกับวัยจะได้ดูไม่แปลก” ถังหยวนกระซิบต่อ “ตอนนี้เรามาหาเบาะแสจริงๆไม่ควรนั่งแช่อยู่อย่างนี้นายควรจะหารถสักคันด้วย”

“นายจะเช่ารถเรอะ?” จ่าวเปาถามด้วยสีหน้าสงสัย

“ใช่” ถังหยวนพยักหน้าตอบด้วยเสียงทุ่มต่ํา “แค่สองสามพันก็ได้แล้วพอจะเช่ารถตู้ได้สักคัน”

“โอเค เดี๋ยวฉันเอาเงินให้นายไปเช่าละกัน”

“หม ขอถามหน่อยนะ?” ถังหยวนถามด้วยความสงสัย“พ่อนายได้เงินเดือนละเท่าไหร่กันแน่เนี่ย?!”

“พ่อฉันได้เงินจากค่าโฆษณารวมๆ ก็ประมาณหมื่นกว่าดอลลาร์ต่อเดือนแล้วมั้ง นี่ยังไม่รวมอย่างอื่นนะ” จ่าวเปาตอบด้วยสีหน้านึกคํานวณ

“แล้วเงินที่เขาส่งให้นายตอนไปเรียนต่อล่ะ?”

“ก็เดือนละแปดพันไม่รวมค่าเที่ยวเล่น” จ่าวเปาตอบด้วยอย่างเฉยเมย “ถามทําไมเหรอ?”

“นี่พ่อนายได้เดือนละหมื่นแถมส่งเงินให้นายอีกตั้งเดือนละแปดพันฮ่าฮ่า….พ่อนายทําธุรกิจสีเทาด้วยสินะ?” ถังหยวนถามพลางหัวเราะ

จ่าวเปาตอบทันที “ยังต้องถามอีกรี! ถ้าตาแก่นั่นไม่ทําอย่างนั้นจะดูแลฉันและเมียอีกสามสี่คนได้ยังไง?”

ถังหยวนได้ยินเช่นนั้นถึงกับพูดไม่ออกและมองอีกฝ่ายก่อนจะพูดบางอย่าง “เออ เรามีป้าค่อนข้างเยอะนะเนี่ย”

“ฉันมีลูกสาว แม่ของฉันก็รู้แต่พวกฉันก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้” จ่าวเปาเข้าใจพ่อเขาเป็นอย่างดี

“ชีวิตครอบครัวนายนี่น่าอิจฉาจริงๆ”

“พอเถอะอย่านอกเรื่องเลย ต่อเรื่องของเราเถอะ” จ่าวเปาขี้เกียจพูดเรื่องในบ้านตัวเองแล้ว “นัดฉันมาที่นี่เพื่อหาอะไรนะ?”

ถังหยวนเรียบเรียงความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนกระซิบ “รถของเด็กทั้งแปดคนที่ตาย ฉันว่าฉันเคยเห็นมาก่อน”

“นายเห็นมันจริงเหรอ? เห็นได้ไง?”

“เมื่อวานฉันไม่ได้บอก?? ตอนฉันติดคุกฉันเจอชายคนหนึ่งเขาเคยขับรถให้พวกค้ามนุษย์ เลยมีโอกาสคุยกันเรื่องซุบซิบในแวดวงนี้”ถังหยวนพูดโดยรวม “ว่ากันว่าแก๊งค้ามนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในซึ่งเจียงคือบริษัทขนส่งจี้เฉิงหัวหน้าคือเปยเต่อหยงและคนดูแล ชื่อหนิวเจน พอพ้นโทษออกมาฉันเลยคิดว่าจะติดตามเรื่องนี้ดู”

“อืมพูดต่อเลย” จ่าวเปาพยักหน้า

“ตั้งแต่นั้นมาฉันจึงไปสอดส่องบริษัทจี้เฉิงอยู่บ่อยๆ” ถังหยวนพูดต่อ“เท่าที่สังเกตดู ทุกเดือนจะมีรถขนส่งสินค้าไปจอดแต่ฉันไม่เคยเห็นสินค้าในโกดังเลยแถมยังไม่มียามเฝ้าอีก”

“แสดงว่ามันไม่ใช่สินค้าใช่ไหม?” จ่าวเปาเริ่มเข้าใจความหมายของถังหยวน

“อืม” ถังหยวนพยักหน้า “ฉันเห็นรถบรรทุกที่ยังเด็กแปดคนเคยเห็นมันสองครั้งในลานสินค้า และฉันก็ถ่ายไว้หมดแล้ว”

ถังหยวนมองอีกฝ่ายแล้วกล่าว “ฉันว่ามีความเป็นไปได้สองอย่างหนึ่ง…ลานสินค้าอาจไม่ใช่ที่เก็บเด็กไว้สองเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจจะส่งเด็กแค่เที่ยวเดียวและตรงนี้ก็เป็นแค่จุดพักรถของพวกเขาเพื่อรองานใหม่”

จ่าวเปาพยักหน้าและเหมือนจะเริ่มเข้าใจ “การวิเคราะห์ของนายก็น่าจะเป็นไปได้อยู่”

“ ที่เรียกนายมาก็เพราะเรื่องนี้แหละ” ถังหยวนเลียริมฝีปากก่อนพูดต่อ“พอพวกเขาเริ่มออกไปรับงานเราก็ติดตามเพื่อดูการทํางานพวกนั้นได้เลย”

“จะดีเหรอ?” จ่าวเปากังวลเล็กน้อย “ฉันว่าเรื่องเด็กตายมันต้องทําให้พวกนั้นระวังตัวแจเลยล่ะ ถ้าตามไปเราจะไม่ล้มเหลวเรอะ?”

“ไม่หรอก” ถังหยวนส่ายหัวและยิ้มไปด้วย “ในสายตาคนทั่วไปเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องใหญ่ แต่พวกนั้นเป็นเพียงปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญเท่านั้น พวกเขาเจอมาบ่อยแล้วฉะนั้นการตายของเด็กทั้งแปดคนนี้ไม่กระทบกระเทือนต่อพวกเขาเลย บางที่อาจลืมไปแล้วก็ได้”

จ่าวเปาตกตะลึง

“เชื่อฉันเถอะ เดี๋ยวเราไปเตรียมตัวกัน”

“ได้” จ่าวเปาพยักหน้า “ไปหารถกันเถอะฉันจะไปเอาเสื้อผ้าไปด้วยสักสองชุด”

ในบ้านบนถนนหนานหยาง

เปยเตอหยงนั่งบนโซฟาขณะเหม่อมองบุหรี่ในมือ

“ลูกพี่ พี่หนิวมาโดนแบบนี้ฉันเลยทํางานในส่วนของเขาไม่ได้มากเท่าไหร่” ชายหนุ่มที่ยืนด้านข้างพูดเสียงเบา

เปยเตอหยงเงยหน้าขึ้นและพูด “เจ้านั่นยังต้องรออีกหน่อยถึงจะออกมาได้ตอนนี้ยังค้างกึ่งาน?”

“สามงานครับ ภูเขาชางจีหนึ่งงานและเฟิงเปยสอง” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ

เปยเตอหยงสูบบุหรี่ก่อนออกคําสั่ง “รีบทํางานพวกนี้ให้เสร็จเร็วๆเลยช่วงนี้อย่าเพิ่งไปจับเด็กมาขายล่ะ”

ชายหนุ่มตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและถามด้วยสีหน้างุนงง “อย่าเพิ่งไปยุ่ง….ทําไมล่ะครับ

“ตอนนี้ฉันจะมุ่งเน้นไปที่การส่งยาแข่งกับพวกหม่า” เปยเตอหยงกระซิบ “ฉันยังไม่อยากขายเด็กตอนนี้ รอดูผลประกอบการธุรกิจยาไปก่อน”

“เข้าใจแล้วครับ” หลังจากที่ชายหนุ่มพยักหน้าเขาก็ถามอีกครั้ง“เดี๋ยวผมจะกระจายคําสั่งครับ เราไม่ต้องเอาเด็กไปแวะที่ซ่งเจียงแล้วใช่ไหมครับ?”

“อืม” เปยเตอหยงพยักหน้าและพูดพร้อมกับถอนหายใจยาว“ฉันสงสัยจริงๆว่าพวกหม่าเอายามาจากไหน? ฉันควรตรวจสอบยังไงดี?”

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท