Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 243 สี่สิบเปอร์เซ็นต์
ตอนที่ 243 สี่สิบเปอร์เซ็นต์
กลางดึกละแวกถนนเถ้าธุลี
หม่าเหลาเอ๋อนั่งข้างคนขับเขาถามหลิวจื่อซูขณะขมวดคิ้ว “ไม่เข้าใจ ทําไมเปยเตอหยงถึงจับคนของเราไว้”
“มีพวกเราสี่คนไปขายยาในพื้นที่ของเปยเตอหยงแล้วถูกจับได้” หลิวจื่อซูอธิบายอย่างรวดเร็ว “อีกฝ่ายคิดว่าเราไปล้ําเส้นเลยจับพวกนั้นไว้ ฉันโทรไปหาเฒ่าเปยแล้วแต่เขาบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไร”
พอได้ยินดังนั้นหม่าเหลาเอ๋อจึงตะโกน “ฉันบอกพี่ไปแล้วไม่ใช่รึไง หรือฉันไม่ได้บอกว่าอย่าไปขายนอกเขต ทําไมไม่ฟังกันล่ะ?”
“อย่าโทษพวกนั้นเลย” หลิวจื่อซูตอบก่อนอธิบายอย่างละเอียด “สถานที่นัดส่งยาคือห้องพนันเจียเล่อเป็นเขตของเฒ่าเปย แต่เราไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าไปขายนะ คนซื้อพวกนั้นโทรบอกว่าเกิดเหตุขัดข้องเลยให้เราไปส่งโดยด่วน ด้วยความไม่มีรายได้และไม่อยากเสียยอดไปเลยเข้าไปส่งจนโดนจับแบบนี้ไง”
หม่าเหลาเอ๋อเงียบไป
“ไม่ต้องเข้มงวดนักหรอก” หลิวจื่อซูกล่าวต่อ “สมมติว่าลูกค้าอยากซื้อยาบนถนนเถ้าธุลีแต่พวกนั้นกลับไปเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ในร้านพนันของเฒ่าเปย เมื่อลูกค้าต้องการสินค้า เราคงไม่ต้องทําถึงขนาดที่เรียกพวกเขาออกมาขณะเล่นอยู่หรอกนะ”
“ก็ทําโจ่งแจ้งขนาดนั้นไม่ใช่เหรอถึงโดนจับได้?” หม่าเหลาเอ๋อขมวดคิ้ว
“อะ…อืม” หลิวจื่อซูพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง “เราไม่ได้เจตนาแค่ ไปส่งของเล็กๆน้อยๆ กลายเป็นล้ําเส้นไปได้ไง? ไร้สาระสิ้นดี”
“ไม่ พี่ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร” หม่าเหลาเอ๋อครุ่นคิดเป็นเว ลานานก่อนส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้
“แล้วนายว่าเขาหมายถึงอะไร?”
“ใช่ นี่เป็นเรื่องไร้สาระ” หม่าเหลาเอ๋อหันหน้าไปมองหลิวจื่อซู “บางทีเขาอาจแค่จับไว้เพื่อต้องการให้เราไปคุยเรื่องธุรกิจกับเขานะ”
“หมายความว่าเขาจะซื้อยาเองเหรอ?” หลิวจื่อซูถาม
“คิดว่านะ” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้า “เพราะที่กินเลี้ยงกันเมื่อ สองวันก่อนฉันก็ไม่ได้โทรหาเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่เขาคงไม่อยากเป็นฝ่ายชวนฉันคุยก็เลยทําแบบนี้ก็ได้”
“งั้นนายจะทํายังไง?”
“บอกตามตรง ฉันไม่ไปเอาอกเอาใจใครนักหรอก” หม่าเหลาเอ๋อถอนหายใจเฮือกใหญ่ “แต่ถ้าฉันไม่ไปวันนี้มันก็จะดูไม่ใส่ใจเขาเกินไป ถ้างั้นไปกันเถอะ”
“ต้องโทรบอกใครก่อนมั้ย?”
“ไม่ต้องหรอกพี่ เราไปกันเถอะ” หม่าเหลาเอ๋อเร่งให้อีกฝ่ายสตาร์ทรถ “โทรหาเฒ่าเปยอีกที่แล้วถามเขาว่าอยู่ไหนแล้ว”
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง
ในห้องรับรองของบ่อนเจียเล่อ เปยเตอหยงเช็ดคราบไขมันที่ปากก่อนจะยืนขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้ม “อ้าว…นี่หลานชายเฒ่าหม่าไม่ใช่เรอะ? มานั่งกินด้วยกันสิฉันสั่งเนื้อมาให้แล้ว”
“รบกวนด้วยแล้วกันครับ” หม่าเหลาเอ๋อจําใจตอบกลับอย่างสุภาพ
“ไม่เป็นไร ทําตัวสบายๆเถอะ” เฒ่าเปยก้าวไปข้างหน้าและตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ “ลูกน้องฉันยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของเราเลยทําอะไรแย่ๆแบบนั้น แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็ได้มีโอกาสได้นั่งกินข้าวคุยกัน”
“พวกนั้นผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ทําอะไรทุ่มบ่าม” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้าชวนหลิวจื่อซูนั่งด้านข้าง
“เอาจานมาอีกสองชุด ของเนื้อแกะมาจานหนึ่งด้วย…ไม่ได้สิสองจานเลย” เปยเตอหยงหันกลับมายิ้ม
ทันทีที่เนื้อแกะมาถึงซูหยางก็ปล่อยเด็กชายสี่คนที่ถูกขังมาไว้ในห้องด้วย
“ พวกแกเข้าใจกฏกันรึเปล่า?!” หม่าเหลาเอ๋อมองไปยังชายหนุ่มทั้งสี่ก่อนขมวดคิ้วดุ “ล้ําเขตมาถึงถิ่นพี่เปย ทําไมไม่รู้จักดูให้ดีก่อน ได้ขออนุญาตก่อนไหม?”
ชายหนุ่มทั้งสี่ก้มหน้าและไม่พูดอะไร
หม่าเหล่าเอ่อชี้ทั้งสี่ก่อนจะตะโกนไล่ออกห้อง “ไสหัวไปได้แล้ว!”
“ขอโทษครับคุณเปย เราไปก่อนนะครับ” ชายหนุ่มที่เป็นผู้นํากลุ่มพูดกับเปยเตอหยง
“ไม่เป็นไรน่า ถ้ารู้แล้วก็ไม่มีอะไรแล้ว” เปยเตอหยงพูดด้วยรอยยิ้ม “มานั่งกินด้วยกันสิ”
“ไม่ครับ ไม่เป็นไรพวกเราจะกลับกันแล้ว”
หลังจากพูดจบ ทั้งสี่ก็ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
หม่าเหลาเอ๋อหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาด้วยรอยยิ้มก่อนพูดกับเปยเตอหยง “ไวน์แก้วนี้สําหรับคําขอโทษที่ทําให้พี่ต้องลําบากนะครับ”
“สุภาพเกินไปแล้ว” เปยเตอหยงยื่นแก้วไวน์ไปทางหม่าเหลาเอ๋อ “ความสัมพันธ์ของฉันกับเฒ่าหม่าแน่นแฟ้นมาก ตอนเรายังหนุ่ม พวกเราถูกมองว่าเป็นหนุ่มหล่อที่สุดในรัฐพื้นทมิฬ”
“ใช่ ลุงของผมพูดถึงพี่อยู่” หม่าเหลาเอ๋อพูดเสียงเบา
“มาเถอะ กินให้เต็มที่”
“ครับ”
ทุกคนบนโต๊ะชนแก้วและจิบไวน์
เปยหยงตงยกมือขึ้นลูบผมหน้าม้าขณะมองหม่าเหลาเอ๋อด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้นายก็โตขึ้นมากแล้วนี่ มีทั้งเครือข่าย เงินทอง และธุรกิจมั่นคง”
“เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีนะครับ” หม่าเหลาเอ๋อพยายามไม่พูดถึงธุรกิจส่งยา
เปยเตอหยงกะพริบตาและถามอย่างแข็งขัน “ฉันได้ยินมาว่าไม่กี่วันก่อนนายชวนคนตั้งเยอะแยะไปคุยสังสรรค์กันใช่ไหม? แล้วใช่เรื่องที่นายจะขยายเส้นทางการส่งยารึเปล่า?”
“ใช่แล้ว” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้าเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา “ตอนนี้ผมมีสินค้าเยอะเกินไปจนไม่สามารถขายได้ด้วยตัวเอง จึงต้องหาเพื่อนมาช่วยสักหน่อย”
“งั้นเหรอ..แล้วไม่ชวนฉันไปร่วมมือกับนายบ้างล่ะ?”
“เปล่าครับ ผมแค่เกรงใจพี่เปยน่ะ” หม่าเหลาเอ๋อไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี “ยังไงเราก็ยังดีไม่พอที่จะมาร่วมมือกับพี่เปยได้เท่าเจ้าอื่นหรอกครับ ฮ่าฮ่า!”
“เหล่าเอ่อ ไอ้ฉันก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ฉันพูดตรงๆนะหยวนเค่อ เขาก็คุยกับฉันแล้วล่ะ” เปยเตอหยงคีบเนื้อแกะขึ้นมาพลางพูดอย่างเป็นกันเอง “แต่ด้วยความสัมพันธ์ของฉันกับลุงนายมันทําให้ฉัน สนใจนายมากกว่า เข้าใจไหม?”
หลังจากพิจารณาอยู่นาน หม่าเหลาเอ๋อจึงถามด้วยเสียงแผ่วเบา “เออ…พี่เปย แล้วหยวนเค่อให้ราคาเท่าไรเหรอ?”
“ฮ่าฮ่า” เปยเตอหยงหัวเราะ “นายพูดมาก่อนสิว่าอยากให้ฉันร่วมมือกับนายไหม?”
“ผมก็คิดไว้อยู่นะครับ ยังไม่แน่ใจ” หม่าเหลาเอ๋อตอบ
“แล้วจะให้ราคาเท่าไรล่ะ?” เปยเตอหยงถามอย่างร่าเริง
หม่าเหลาเอ๋อคิดอยู่ครู่หนึ่งพลางลูบถูฝ่ามือแล้วหัวเราะสองครั้ง “พูดตรงๆเลยนะครับ ผมร่วมมือกันคนอื่นหลายคน แต่ถ้าพี่จะให้เกียรติช่วย ผมก็ให้ได้สี่สิบเปอร์เซ็นต์ครับ
เปยเตอหยงได้ยินดังนั้น เขาก็ตกตะลึงอย่างมาก เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าหม่าเหลาเอ๋อจะเสนอราคามาตําขนาดนี้
“พี่ก็รู้ว่าฉันไม่ได้ทําธุรกิจนี้คนเดียว” หม่าเหลาเอ๋อกล่าวเสริมอย่างนุ่มนวล “ฉันให้ได้มากสุดสี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านี้แหละพี่”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเปยเตอหยงก่อนหน้านี้ก็หายไป เขาวางตะเกียบลงเบาๆ แล้วหันไปมองหม่าเหลาเอ๋อก่อนพูด “อ้าว..ลืมตัวมากินมื้อเย็นซะได้!”
“พี่เปยกําลังพูดเรื่องอะไรเหรอ?” หม่าเหล่าเอ่อยิ้ม
“นายกินกันต่อเลย ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคืนนี้ฉันต้องกลับบ้าน” เปยเตอหยงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนเดินไปตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “รู้อะไรไหม? หยวนเค่อเคารพฉันมากกว่านายเสียอีก”
หม่าเหลาเอ๋อได้ยินดังนั้นก็ไม่พูดอะไร
“ฉันจะไปเอาสินค้าแถวถนนเถ้าธุลี” เปยเตอหยงกล่าวอย่างรวบรัด “นายไม่สามารถยืนบนรัฐพื้นทมิฬได้สบายๆ หรอกถ้านายยังขายแบบเดิมอยู่!”
หลังจากพูดจบเปยเตอหยงก็หันหลังและเดินขึ้นไปชั้นบน “ฉันไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะ”
หลังจากนั้นสิบนาที
ในห้องนั่งเล่นบนชั้นสอง เปยเตอหยงบ่นอย่างฉุนเฉียว “หึ เจ้าหม่าเหลาเอ๋อนี่แย่จริงๆ ฉวี่หยางโทรหาหยวนเค่อให้ที พรุ่งนี้ฉันจะไปพบเขา”
ในรถ
หม่าเหลาเอ๋อโทรไปหาฉินอวี่ทันที “ฉันเสนอราคาให้เขาสี่สิบเปอร์เซ็นต์เขาเลยไม่พอใจฉัน”
“สี่สิบเปอร์เซ็นต์เหรอ?”
“หยวนเค่อน่าจะให้ราคาสูงกว่านี้นะ…แล้วถ้าเขาได้ขายสินค้าจากหยวนเค่อเราคงต้องโดนกินพื้นที่ไปเยอะแน่” หม่าเหลาเอ๋อเตีอน
“หยวนเค่อจะได้พื้นที่ของเฒ่าเปย ช่างมันยังไงเราจะเสียไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว” ฉินอวี่ตอบด้วยใบหน้าบูดบึง “เราเสนอให้มากสุดๆแล้ว ถ้ามันน้อยไปก็ปล่อยให้พวกนั้นร่วมมือกันไปเถอะ”
“เข้าใจแล้ว” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้า