Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 248 เริ่มเคลื่อนไหว
ตอนที่ 248 เริ่มเคลื่อนไหว
หนิวเจนเห็นสีหน้าที่ไร้ความกลัวของหลิวซื้อซูก็รีบโบกมือเป็นสัญญาณพร้อมกับตะโกน “เฮ้ย! ลงรถมาให้หมด”
เสียงประตูเปิดและปิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องคันแล้วคันเล่า
พวกลูกน้องทั้งฝ่ายจำหน่ายและฝ่ายผลิตแห่กันออกมาพร้อมอาวุธสังหาร บางคนออกไปประจันหน้ากับพวกที่มาจากสองข้างทาง บางคนกรูเข้าไปก็ล้อมรถกระบะคันดังกล่าวทันที
หลิวซื้อซูยืนผงาดอยู่บนหลังคารถ
ทันใดนั้นเขาก็กระโดดพุ่งข้ามฝูงชนและปรี่เข้าหาหนิวเจนอย่างรวดเร็ว
ข้างร้านพนัน ทั้งสองกลุ่มปะทะกันอย่างดุเดือด มีทั้งมีด ท่อเหล็ก ไม้หน้าสาม และอาวุธสังหารอื่นอีกมาก การต่อสู้กันครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความแค้นระหว่างใครทั้งสิ้น แค่ความคิดเกี่ยวกับศักดิ์ศรีและผลประโยชน์เท่านั้น
ผู้นำทั้งทั้งสองฝั่งเหมือนไม่คิดจะฆ่าแกงกันถึงตาย เพราะต่างคนต่างไม่พกพาอาวุธปืน เห็นได้ชัดว่าเป็นการลูบคมว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่จะเหนือกว่า
หลิวซื้อวิ่งลากดาบตรงไปหาหนิวเงิน
ส่วนหนิวเจนก็ก้มไปหยิบมีดสั้นในรถ พอหันกลับมาอีกที่หลิวจื้อซูก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว
ทั้งสองประเชิญหน้ากันโดยไร้บทสนทนา หลิวจื่อซูเปิดฉากด้วยการเหวี่ยงดาบเข้าหาอีกฝ่ายทันที
หนิวเจนเคยเป็นทหารในกองทหารรักษาการณ์มาก่อน สมรรถภาพทางกายของเขาถือว่าเป็นเลิศทั้งยังฝึกซ้อมมวยอยู่บ่อยครั้งแน่นอนว่าคงไม่เหมือนในนิยายที่สามารถล้มทหารร้อยนายได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ชายคนนี้ก็ตอบสนองได้เร็วมากเขาจึงหลบคมดาบได้ทันท่วงที
“เข้ามา!”
เสียงคมดาบปะทะกับอากาศก่อนฟาดเข้ากับรถเสียงดังจนเกิดประกายไฟไปทั่วบริเวณ
“ฟุ่บ!”
หนิวเจินกระโจนหลบพร้อมคว้ามีดออกมาและฟันไปที่ขาของอีกฝ่ายฉับพลัน
หลิวซื้อซูที่สวมชุดหนาบวกกับอะดรีนาลีนในเลือดพลุ่งพล่านทำให้เขาไม่ได้รับความเจ็บปวดมากนักจากการถูกฟัน
หลิวซื้อซูเคลื่อนไหวเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย เขาก้าวถอยหลังแล้วยกพร้อมยกดาบยาวของเขาก่อนจะสับลงอีกครั้ง
“ฟุ่บ!”
หนิวเจินเงยหน้าขึ้นพร้อมหยิบมีดขึ้นป้องกันคมดาบที่เหวี่ยงมาจากด้านบน ด้วยแรงกระแทกทำให้คมมีดอีกด้านบาดศีรษะของเขาเป็นแผลกว้างจนเลือดก็พุ่ง
หนิวเงินเป็นคนแรงเยอะมาก ทั้งที่ตัวเองได้รับบาดเจ็บแต่เขากระชับมีดสั้นในมือลุกขึ้นฝ่าความเจ็บปวดและพุ่งไปแทงอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
มีดที่แหลมคมบวกด้วยแรงของหนิวเจน ทำให้ปลายทะลุเสื้อผ้าหนาและทะลวงเข้าไปผ่านเนื้อหนังได้อย่างไม่ยากเย็น
“ฉึก!”
มีดเสียบผ่านเสื้อผ้าเข้าไปที่ช่องท้องของหลิวซื้อซูลึกกว่าครึ่งนิ้ว
หลิวจื่อซูเหลือบมองลงไปที่ท้องแวบหนึ่งก่อนยกเท้าถีบหนิวเจนกระเด็น ก่อนโซเซถอยหลังไปสองก้าวและเหวี่ยงดาบอีกครั้ง
หนิวเงินม้วนตัวหลบ
“ฟุ่บ!”
หลิวจื่อซูก้าวไปข้างพร้อมยกดาบหน้าหมายจะบั่นคออีกฝ่ายให้ได้
“ฟุ่บ!”
หนิวเจินหันหลังกลับและต้องการจะดึงมีดของเขาคืน แต่ดาบเหวี่ยงมาจากด้านซ้ายที่เป็นจุดบอดเขาจึงรีบดึงตัวกลับ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทันคมดาบอยู่ดี
แก้มของหนิวเจนถูกปาดด้วยปลายดาบที่เหวี่ยงมาจากแนวนอนเลือดพุ่งกระฉูด ผิวเนื้อหลุดเป็นแถบเผยให้เห็นกระดูกสีขาว
“แก!” หนิวเจนคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ในใจเขามีความกังวลผสมปนเปกับความคิดอยากจะเอาคืน เขาพิงประตูรถพร้อมฟันมีดขึ้นไปเป็นแนวตั้งสุดแรง
ทันทีที่ปลายมีดตกลงมาหลิวจื่อซูก็รีบถอยกลับ เขารู้สึกถึงอาการชาวาบที่หูสายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างตกลงบนพื้น
ของเหลวอุ่นๆ ไหลอาบแก้มข้างหนึ่ง เขาก้มลงมองจึงเห็นเป็นใบหูครึ่งหนึ่งถูกฟันขาดร่วงลงบนพื้นหิมะ
ทั้งสองจ้องตากันครู่หนึ่งไม่ถึงสองวินาที
“ พลั่ก!”
หลิวซื้อซูถูกเตะจากด้านหลังจนโซเซไปข้างหน้า เท้าอีกข้างลื่นไปติดอยู่ในคูน้ำที่แข็งตัวจากหิมะข้างรถ
“ฆ่ามันซะ!” หนิวเจนยังยืนชี้หน้าอีกฝ่ายก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนไป “มันอยากรนหาที่ตายดีนัก!”
“ย้าก!”
ชายสองคนถือมีดวิ่งเข้าไปที่คูน้ำ
“เอ๊ยด!”
ทันใดนั้นเสียงเบรกก็ดังขึ้น รถยนต์สี่ถึงห้าคันขับมาสมทบก่อนจอดริมถนน หม่าเหลาเอ๋อซึ่งสวมเสื้อขนแกะเปิดประตูรถลงมาพร้อมปืนลูกซองที่ถูกดัดแปลงมาแบบพิเศษก่อนตะโกน “เฮ้ย! พวกเวร!”
คนหลายสิบคนลงรถแล้วก็วิ่งกรูเข้าไปหาศัตรูทันที
ทางแยกบนถนน
ฉวีหยางยกโทรศัพท์พลางกรอกเสียงไปตามสายอย่างเร่งด่วนขณะเปิดประตูรถออก “ลูกพี่ หม่าเหลาเอ๋อก็อยู่ที่นี้ด้วย!”
“มันไปที่นั่นเหรอ?” เปยเตอหยงถามด้วยความงุนงง “บ้าน่าจะเป็นไปได้ยังไง?”
“มันอยู่ที่นี่จริงๆ!” ฉวี่หยางกล่าวอย่างหนักแน่น “ฉันเพิ่งขับรถมาถึงก็เห็นมันลงจากรถมาพอดี”
เปยเตอหยงทำเป็นไม่ใส่ใจเมื่อได้ยิน
“เป็นการยกพวกตีกันที่เยอะจริงๆ คนตีกันเป็นร้อยเลย!” ฉวี่หยางตะโกนใส่ปลายสาย
หลังพูดจบฉวหยางจึงวางสายพลางตะโกนใส่คนในรถ “หยิบมีดมาให้ฉันสักเล่มแล้วรีบขับตรงไปข้างหน้าให้ไวเลย!”
ถนนหนานหยาง
เปยเตอหยงนิ่งมองโทรศัพท์ด้วยสีหน้างงงวย
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหม่าเหลาเอ๋อถึงยอมมาร่วมการต่อสู้แบบนั้นด้วย
ในเมื่อเป็นความขัดแย้งระหว่างพวกลูกน้อง แต่ทำไมพี่ใหญ่ของฝั่งนั้นถึงขั้นต้องมานำทัพเอง?
นี้หมายความว่ายังไงกัน?
ไม่ใช่ว่าแค่ต้องการกดราคาสินค้าของเขาเหรอ?
จนถึงตอนนี้เปยเตอหยงก็ยังเดาไม่ออกว่าพวกหม่าเหลาเอ๋อและฉินอวี่คิดแผนการอะไรอยู่?
ภายในสำนักงานตำรวจรัฐพื้นทมิฬ
ฉินอวี่เดินเข้าไปในสำนักงานตำรวจและตะโกนออกคำสั่งอย่างรวบรัด “เสี่ยวห่าว! ไปเรียกงูเหว่ยมานี่หน่อย เร็วเข้า!”