Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 258 สามหมื่นต่อหัว

ตอนที่ 258 สามหมื่นต่อหัว

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 258 สามหมื่นต่อหัว

ตอนที่ 258 สามหมื่นต่อหัว

ภายในซอย

ชายสามคนเดินเข้ามาล้อมด้านหน้าและด้านหลังของรถตู้พวกเขายกมือขึ้นบังแสงเพื่อส่องดูข้างในรถ

ในรถจ่าวเปาและถังหยวนทําอะไรไม่ถูก แต่ทั้งสองรู้ดีว่าอีกฝ่ายยังไม่รู้จุดประสงค์ของพวกเขาถึงจะเริ่มหวั่นใจแล้วก็ตาม

“ ขอถามหน่อย” ชายหนุ่มที่อยู่นอกรถคว้าปืนจ่อหัวจ่าเปาและกดลงไปอย่างแรง “พวกแกมาทําอะไรตรงนี้”

เบาะนั่งแถวกลาง ถังหยวนเหงื่อไหลพรากเขาเริ่มเลิ่กลั่กก่อนมองจ่าวเปาที่โดนปืนจ่ออยู่ หัวใจเขาก็เต้นแรงถี่

“แล้ว….พวกนายล่ะมาทําอะไร?” จ่าวเปาถามอีกฝ่ายด้วยเสียงสั่นเทา เขาค่อยๆ ซ่อนบางสิ่งไว้ที่เอว

“ฉันถามแกอยู่เนี่ย ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะกอดคอของจ่าวเปา “ลงมาคุยกันก่อนดีไหม?”

ข่าวเปาถูกลากลงรถไป เขารู้สึกประหม่าเสียจนขาสั้น แม้เขาจะเป็นคนฉลาดแต่พอเจอปืนของจริงกับตาจึงทําอะไรไม่ถูก

“ผัวะ!”

ทันใดนั้นถึงหยวนก็รีบเอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือชายหนุ่มคนนั้น “นี้ไอ้น้องเรามานี่ก็เพราะข่าวของจี้เฉิง”

ชายหนุ่มสะดุ้ง “เพราะข่าวของจี้เฉิง?!”

ถังหยวนลังเลไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดอีกครั้งทันที “ฉันเพิ่งมาที่ซ่งเจียงครั้งแรกได้ยินเพื่อนฉันบอกว่าธุรกิจจี้เฉิงน่าจะเข้ากันดีกับงานของฉันแต่มาแล้วดูสามวันฉันก็ไม่เห็นมีวี่แววอะไรเลยขนาดประตูยังแทบไม่เปิด”

“พูดงี้หมายความว่าไง?” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว

“เฮอะ! จะให้หมายความว่าอะไรอีกล่ะ?” ถังหยวนยิ้ม “ฉันต้องการพวกเด็กๆ ไง”

“อ๋อ…อยากจะคุยเรื่องธุรกิจ แต่ไม่มีคนกลางรี?” ชายหนุ่มถาม

“อืม เพื่อนพวกฉันแนะนําให้มาที่นี่นะ” แม้ว่าจ่าวเปาจะงงงวยอยู่แต่ด้วยไหวพริบเมื่อได้ยินถังหยวนก็พูดเสริมทันที “เพื่อนฉันบอกว่าจะมาเจรจาให้แต่พอมาถึงก็ติดต่อไม่ได้ แถมยังได้ยินมาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นนอกเขต…..เรื่องที่เด็กตายในรถตั้งแปดคน”

“เพื่อนของนายเป็นคนส่งรึเปล่า?” ชายหนุ่มถาม

“ไม่รู้สิ เขาไม่ได้บอก” ข่าวเปาสายหัว

เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็เริ่มลดปืนลง “พวกนายโดนเพื่อนหลอกแล้วล่ะ เราไม่ได้ทําธุรกิจกับบริษัทขนส่งจี้เฉิง แล้วก็อย่ามายุ่มย่ามแถวนี้ออกไปได้แล้ว”

“อืม โอเค” จ่าวเปาตอบขณะเหงื่อออกเต็มหน้าผาก ก่อนจะหันไปมองอีกฝ่าย “เราจะไปเดี๋ยวนี้”

พอได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็ถอยและหรี่ตามองทั้งสองโดยไม่พูดอะไรอีก

จ่าวเปาขึ้นรถไปนั่งตําแหน่งคนขับ เขาก็ก้มบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถและเข้าเกียร์ทันที

นอกรถ ชายหนุ่มยืนโบกมือให้เพื่อนอีกสองคนถอยห่าง

“ไปสิ ไปเร็ว!” ถังหยวนก้มหน้ากระซิบเร่งให้ออกตัว

ข่าวเปายกแขนปาดเหงื่อทองเขาขณะมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าที่ดูประหม่า

เสียงเครื่องยนต์ดังอยู่นาน ชายหนุ่มที่อยู่ด้านนอกก็หันกลับมาและตะโกน “ออกไปได้แล้ว”

“ไอ้น้อง มานี่ก่อน” จ่าวเปาพูดกลับไป

เด็กหนุ่มหันกลับมาแล้วถาม “มีอะไรอีก?”

“นายทําบ้าอะไรนะ?! จะเอาชีวิตเข้าเสี่ยงอีกเหรอ? เรียกมันกลับมาทําหอกอะไร?” เบาะนั่งแถวกลางถังหยวนกระซิบถามอย่างไม่สบายใจ

จ่าวเปาหยิบกระดาษและปากกาบนรถมาจดหมายเลขโทรศัพท์มือถือพร้อมจํานวนเงินที่ค่อนข้างเยอะทีเดียว ก่อนจะยื่นให้กับชายหนุ่ม

“นี่หมายความว่าไง?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย

“บ้านเราอยู่ไกล การที่มานั่งจับเจ่าอยู่นี่หลายวันก็เลยไม่อยากกลับมือเปล่านะ” จ่าวเปายิ้มกว้าง “นี่เบอร์ของฉัน..โทรมาได้เลยฉันยินดีรับเด็กไปและจะจ่ายให้สามหมื่นต่อหัว”

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งอยู่กับที่

“ไม่มีอะไรแล้ว งั้นไปก่อนนะ” จ่าวเปาพูดจบเขาก็รีบเหยียดคันเร่งออกไปจากตรอกทันที

ในรถตู้

ถังหยวนตบหลังของจ่าวเปา “นายคิดบ้าอะไรอยู่ถึงเอาเบอร์ให้พวกนั้นไป?”

“นายไม่ใช่เหรอที่ทําที่เป็นคนซื้อก่อน? ฉันเห็นโอกาสบางอย่างเลยให้เบอร์ไป” จ่าวเปาเหยียบคันเร่งและพูดต่อ “ถ้าพวกเขาติดต่อเราล่ะ?”

“นายเสียสติไปแล้วรึไง?” ถังหยวนก่นด่า “คนขับรถคันที่เด็กแปดคนตายต้องรู้จักพวกนั้นแน่ถ้าพวกเขาคุยกัน เรื่องของเราคงโดนเปิดโปงพอดี!”

“อืม นายคิดดูสิถ้าคนขับพวกนั้นไม่หนีไป ทําไมรถตู้ถึงจอดอยู่ตั้งหลายวัน?” จ่าวเปาวิเคราะห์อย่างชาญฉลาด “คนขับรถคันที่เด็กแปดคนตายกลัวมากเลยวิ่งหนีไป เป็นไปได้ว่าพวกนั้นจะไม่ได้ ติดต่อกันอีกว่าไหม?”

ถังหยวนคิดตามข่าวเปา และแม้ว่าเขาจะคิดว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นสมเหตุสมผล แต่เขาก็ยังตอบด้วยความกลัว “ถึงอย่างนั้น การทิ้งเบอร์ไว้ให้พวกนั้นมันก็เสี่ยงสําหรับนายมาก”

“ไม่ ฉันไม่เสี่ยงอะไรเลย” จ่าวเปาส่ายหัว “ฉันเขียนเบอร์นายนี่นา”

ถังหยวนตกตะลึง

“นายไม่เป็นไรหรอกน่า” จ่าวเปาพูดเสริม

“ฉันจะฆ่านาย นี่มันบ้าเกินไปแล้ว!” ถังหยวนเอื้อมมือไปคว้าคอของจ่าวเปามาเขย่า “นายยังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า?”

“โอ๊ย..อย่าเขย่า พอแล้ว” จ่าวเปาหยุดอีกฝ่ายและพูด “โทรศัพท์มือถือของฉันลงทะเบียนด้วยชื่อจริงพวกนั้นหาเจอแน่แต่ของนายไม่ได้เป็นอย่างนั้นหมายเลขบัตรนายก็เป็นแบล็คลิสทั้งยังเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ พวกหานายไม่ได้หรอก”

“แกมันขี้โกง! ไอ้เพื่อนเวร!”

“เพื่อนถึงเ” จ่าวเปาหยุดรถพร้อมพูดด้วยสายตาตื่นเต้น “ฉันว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่!”

“จะเกิดเรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย!”

“พวกเห็นราคาสามหมื่นต่อหัว แน่นอนว่าราคานี้ต้องทําให้พวกนั้นประทับใจแน่นอน” จ่าวเปากระซิบ

“มันจะไปประทับใจอะไร?” ถังหยวนจ้องกลับ “ถ้ามันโทรมาจริงๆ นายจะกล้าทําธุรกิจด้วยเหรอ? ถ้าไม่เราก็ตายแน่”

“นายยังไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันหมายถึง” จ่าวเปาส่ายหัว “ถ้าพวกนั้นโทรมาฉันก็ไม่คุยสักหน่อยเพราะฉันไม่มีประสบการณ์ด้านนี้แต่นายทําได้และฉันจะให้การสนับสนุนเอง”

“ตายแน่ๆ ฉันตายแน่!” ถังหยวนตะคอกใส่อีกฝ่าย “นายจะฆ่าฉันให้ตายรึไง?!”

ห้องรับรองของบริษัทขนส่งจี้เฉิง

ชายหนุ่มมองโน้ตที่จ่าวเปาทิ้งไว้ให้และตัดสินใจโทรไปหารือเกอ

“มีอะไร?”

“ผมเห็นชายสองคนกําลังเฝ้าดูอยู่ที่หน้าประตูบริษัท”และแล้วชายหนุ่มก็เริ่มเล่าทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟัง

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท