ตอนที่ 275 นัดแรก
เฉีหลินบอกกับหม่าเหลาเอ๋อว่าจะโต้กลับไม่ถึงห้านาทีฉินอวี่ก็โทรมา
“ฮัลโหล?!”
“เสี่ยวอวี่ ยังไงเราก็ต้องปะทะกับเฒ่าเป้ยกับหยวนเค่อไม่ช้าก็เร็วอยู่ดี” ฉีหลินพูดแทรก ทันทีหลังจากรับสาย “เส้นทางขนส่งของเรามัน ไกลมาก ส่งแค่ไม่กี่ครั้งก็ต้องใช้เวลาและเงินอย่างมาก”
ฉินอวี่ไม่พูดอะไร
“ฉันต้องทําอะไรบ้างแล้ว” ฉีหลินกระซิบ “นายไม่ต้องห้ามฉันหรอก ฉันรับผิดชอบการขนส่งฉันรู้ ว่าควรทําอะไรต่อ”
“ฉันไม่ได้มาห้ามนาย”ฉินอวี่ตอบอย่างรวบรัด
ฉีหลินตะลึง
“ฉันรู้ดีว่าอะไรเกิดขึ้นในพื้นที่โครงการ” ฉันอวี่กล่าวอย่างมั่นคง “นายอย่าเพิ่งบอกใครเรื่อง สินค้าที่ถูกปล้นก็พอเข้าใจไหม?”
ฉีหลินหยุดคิดสักครู่ “เข้าใจแล้ว”
“นี่เป็นเบอร์ใหม่ของฉันเอง นายติดต่อมาได้ตลอดเลยนะ”
“ได้!”
“แค่นี้แหละ”
เมื่อสิ้นเสียง ทั้งสองก็วางสาย
ฉินอวี่นั่งอยู่บนเตียงในห้อง เขาจ้องโทรศัพท์เป็นเวลานานก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมออกมาพร้อมวิ่งออกประตูไป
ทันทีที่ออกประตูมาหลินเหนียนเล่ยกําลังเปิดหน้าต่างระบายอากาศอยู่พอดี เธอจึงตะโกนทักทายกับฉินอวี่ “โย่!ดึกขนาดนี้นายจะออกไป ไหน?”
ฉินอวี่สวมเสื้อโค้ตของเขาพลางตอบด้วยรอยยิ้ม“ไปด้วยกันไหมล่ะจ๊ะ?”
“รีบไปไกลๆ เลย!” หลินเหนียนเล่ยดุอีกฝ่าย
“ฮ่าฮ่า! มีบางอย่างต้องไปตรวจสอบน่ะเลยจะกลับไปที่หน่วย”ฉินอวี่พูดขณะชี้ไปทางสํานักงานตํารวจ
“อ่อ”
หลังจากคุยกันเสร็จแล้วฉินอวี่ก็วิ่งขึ้นรถและมุ่งหน้าขับไปที่หน่วย
ไม่ถึงยี่สิบนาที ฉินอวี่ก็ถึงสํานักงานตํารวจและรีบเดินไปพื้นที่ทํางานส่วนกลาง เวลาดึกขนาดนี้ จึงมีเพียงฟูเสี่ยวห่าวกับคนอื่นกําลังนั่งดูรายการ ข่าวออนไลน์อยู่
“ดึกขนาดนี มาได้ยังไงครับเนี่ย?” ฟูเสี่ยวห่าวที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายยืนขึ้น
“ไม่อยากนอนขี้เกียจอยู่บ้านน่ะ!” ฉินอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้ผมมาแทนเจ้าเซินเซินพอดีมันเป็นหวัด”ฟูเสียวห่าวยิ้ม
“ขอชาร้อนสักถ้วยนะ ฉันจะไปหาข้อมูลในห้องทํางานสักหน่อย”
“ให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อนรึเปล่า?” ฟูเสี่ยวห่าวถาม
“ไม่เป็นไร นายอยู่เวรไปเถอะ” ฉินอวี่ทิ้งคําพูดไว้ก่อนหันหลังเดินเข้าไปในห้องทํางาน
ไม่กี่นาทีต่อมาฟูเสี่ยวห่าวนําชาเข้ามาเสิร์ฟ ฉันอวี่จึงกระซิบ“หลังออกเวรนายก็ไปพักเถอะนะ ฉันว่าจะนอนอยู่ที่นี่อย่าให้ใครเข้ามายุ่งกับฉันนะช่วงนี้ฉันนอนไม่ค่อยหลับ”
ฟูเสี่ยวห่าวตอบอย่างประหลาดใจ “ได้ครับ เข้าใจแล้ว”
“ไปได้ละ”
ฟูเสียวห่าวพยักหน้าก่อนเดินออกไปและปิดประตูห้องทํางานอย่างระมัดระวัง
ฉันอวหยิบถ้วยชาบนโต๊ะขณะเดินไปยังประตูเพื่อล็อกจากนั้นเขาก็เดินไปที่หน้าต่างชะโงกลง ไปชั้นล่าง
พื้นที่โครงการ
ฉีหลินก้าวลงจากรถพลางถามชาเหมิง “มีคน รอดกลับมาที่คน?”
“รวมพวกเราด้วยก็เก้าคน!” ชาเหมิงพูดต่อ “แต่ยังมีอีกห้าหรือหกคนที่ติดต่อไม่ได้”ฉันไม่อยากร ออยู่นี่แล้ว”ฉีหลินพูดขณะรูดซิปเสื้อขึ้น”สามคนเฝ้ารถไว้ส่วนที่เหลือตามฉันมา!”พี่จะไปที่นั่นเหรอ?“ชาเหมิงตกใจ”คิดจะทําอะไร?”ฉันมีแผน แล้ว ทําตามที่บอกก็พอ”เนื่องจากฉีหลินเคยเป็นตํารวจมาก่อนถึงจะใช้ชีวิตในระเบียบมานาน แต่ เขาก็เป็นคนช่างสังเกตและระมัดระวังมากอีกด้วย”เราจะไปซุ่มอยู่แถวร้านค้าและห้องพัก คนอื่นขับรถออฟโรดตามฉันมา”ใครจะเข้าไปในนั้น ล่ะ?“ชาเหมิงถาม”ฉันเอง หัวหน้าทีมตัวเล็กพูดทันที” งั้นก็ตามนี้“ฉีหลินเดินไปหาหัวหน้าทีมตัว เล็กเพื่ออธิบายแผนให้เขาฟัง”หลังจากที่เข้าไปนายต้องทําแบบนี้…“…
สี่ชั่วโมงหลังจากสินค้าถูกปล้น ในตอนเย็นฉี หลินและคนอื่นซุ่มอยู่นอกลานที่พัก
ชายอีกสามคนของบริษัทเหยากวางปิดหน้าและหันไปทางลานโดยซุ่มอยู่นอกกําแพง”อย่า ส่งเสียงดังค่อยๆเดินไปทางซ้าย“หัวหน้าทีมตัว เล็กสั่งด้วยเสียงทุ่มต่ํา”ฉันจําได้ว่าห้องของเขาอยู่ที่ไหน! “เข้าใจแล้ว! “ไปกัน!“ชายอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังพยักหน้าที่ละคน
ฉีหลินซุ่มอยู่ในรถมานานกว่าสองชั่วโมงบนถนนที่ห่างจากซ่งเจียงไม่ถึงแปดสิบกิโลเมตร เขาก็ถามชาเหมิง”ฉันจําได้ว่าพวกทหารรักษาการณ์ก็อยู่ตรงนี้ใช่ไหม? “ใช่”ชาเหมิงพยัก หน้า”โอเคงั้นอย่าเพิ่งรีบลงมือดับเครื่องแล้ว รอก่อน!“ฉีหลินสั่ง
หลังจากที่คนขับได้ยินคําสั่ง เขาก็ดับเครื่อง ยนต์รถข้างถนน
บริเวณร้านค้าที่พัก ภายในบ้านเจ้าของ” พวก แกเป็นใครแล้วเข้ามาได้ยังไง!”เจ้าของห้อง ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความหวาดกลัว
“อย่าขยับ!” หัวหน้าทีมตัวเล็กก้าวไปข้างหน้าและยกปืนขึ้นจ่อหัว
เจ้าของห้องผงะ “มะ..มีธุระอะไรเหรอพี่?”
“เมื่อเย็นฉันเห็นรถสายตรวจของหน่วยแนวป้องกันร่วมจอดอยู่นอกลานบ้าน!” หัวหน้าทีมพูดอย่างตรงไปตรงมา
พอได้ยินดังนั้นใบหน้าอีกฝ่ายก็ซีดเผือด
“เป็นอะไร…กลัวเหรอ?” หัวหน้าทีมพูดด้วยน้ําเสียงเย็นชา”ฉันไม่เกี่ยว มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!“เจ้าของห้องรู้สึกประหม่าเมื่อถูกถามแล้วรู้ได้ไงว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกฉัน?รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? “หัวหน้าทีมตัวเล็กพูดด้วยเสียงเรียบ
เจ้าของห้องนั่งนิ่งอยู่บนเตียงไม่กล้าพูด อะไร”ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง!ทําไมพวกแนวป้องกันร่วมถึงมาที่นี่?! “หัวหน้าทีมพูดด้วยเสียงทุ่มต่ํา
เจ้าของห้องกําหมัดแน่นและไม่พูดอะไร”ควักลูกตามันออกมา! “หัวหน้าทีมก้าวถอยหลังพร้ อมตะโกน”ฟีบ!“คนด้านข้างชักมีดออกมาขณะเข้าไปกดหัวเจ้าของห้องไว้อย่านะฉันยอมแล้ว!“เจ้าของห้องตะโกน”ฉันพูดแล้ว ฉันจะบอก! คนพวกนั้นให้เงินฉันมาหนึ่งพันดอลลาร์เพื่อให้ฉันดูว่าพวกพี่มีกันกี่คนแล้วแจ้งข่าวกับพวก นั้น”มันมาจากฝ่ายไหน?! “หัวหน้าทีมถามขณะจ้องเขม็ง”กะ…กองพันที่สองของกรมลาดตระเวน ป้องกันร่วม มีหลี่หยานเป็นรองผู้บังคับกองพัน เจ้าของห้องตอบกลับอย่างรวดเร็ว”ยังจะ โกหกอีกใช่ไหม?! “หัวหน้าทีมตะคอกใส่อีกฝ่าย” ควักลูกตามันออกมา!“อย่านะ! ฉันไม่ได้ โกหกไม่เชื่อก็ดูโทรศัพท์ฉันสิ มีทั้งข้อความและประวัติการโทร!“เจ้าของห้องกลัวจนนี่จะราดกาง เกง”เขาดูแลเขตนี้ ฉันเลี่ยงไม่ได้ที่จะช่วยพวกเขา“หัวหน้าทีมมองเจ้าของห้อง ก่อนก้าวถอยหลังสองสามก้าวแล้วสั่งชายอีกสองคน “พาเขา ออกไป”ฉันก็บอกไปหมดแล้ว จะเอาฉันไปไหนอีก?! ผมเสียหายนะ เสียหายเหรอ? แกมันก็ พวกเห็นแกเงิน“หัวหน้าทีมโยนประโยคหันหลังและจากไป” พี่ชายฟังฉันก่อนสิ…” เจ้าของห้อง ยังคงดิ้นรน ขณะที่อีกสองคนฉุดกระชากลากเขาออกไปโดยใช้มีดจ่อ
หัวหน้าทีมหันไปมองอีกฝ่ายก่อนตะโกนเสียง ดัง “ฟังไว้นะไอ้เวร! เรายังจะเดินตามเส้นทางนี้ ต่อไปถ้าหน้าไหนกล้ามาขวางก็ลองดู!”
หลังจากพูดจบหัวหน้าทีมตัวน้อยก็เหนี่ยวไก
“ปัง!”
เสียงกระสุนดังก้อง เจ้าของห้องที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับทําเสียงอึดฮัด
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ไฟทุกดวงในบริเวณที่พักก็สว่างขึ้น
“ไป!” หัวหน้าทีมออกคําสั่งและกระโดดข้ามกําแพงหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับชายอีกสองคน
ไม่กี่นาทีต่อมา บนถนน
“พี่ ไหนว่าจะพาหมอนั่นออกมาด้วยไงล่ะ?”ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
“ฉีหลินต่างหากสั่งมา ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากทํา!”หัวหน้าทีมตอบ
บนถนนละแวกกองทหารรักษาการณ์เจียงโจว
“กริ้ง!”
โทรศัพท์ดังขึ้น ฉีหลินจึงโทรศัพท์ขึ้นมารับทันที“เสร็จแล้วเหรอ?”
“กองพันที่สองของกลุ่มลาดตระเวน หัวหน้าคือหลี่หยาน” หัวหน้าทีมพูด
“เข้าใจแล้ว” ฉีหลินวางสายก่อนหันไปหาชาเหมิง “ชาเหมิงเอาแผนที่ออกมาให้ฉันหน่อย!”
ชาเหมิงมองฉีหลินด้วยความประหลาดใจ “เราจะไปไหนก่อน?”
“ที่นี่อยู่ห่างที่พักไม่ไกลคงใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงพวกนั้นกล้าแข็งข้อกับเราจริงๆ” ฉีหลินส่ายหัว“พวกนั้นคงคิดว่าเราจะไม่แก้แค้นแน่”
เมื่อชาเหมิงได้ยินดังนั้น เขาก็มั่นใจก่อนจะดึงแผนที่ออกมา “ทางไปค่ายนั่นอยู่ห่างจากนห้ากิโลเมตร!”
“ไม่ ไม่ใช่ตรงนั้น พวกนั้นไม่น่าจะเอากลับไปค่าย” ฉีหลินขมวดคิ้ว “ฉันว่าเราหาหมู่บ้านใกล้ๆ ถัดจากค่ายดีกว่า”
ในฮ่งเจียง
เปียเตอหยงคุยโทรศัพท์ “เฒ่าเฉินฉันไม่ต้องการยาพวกนี้หรอก…เอาไปเถอะ ถือเป็นของ กํานัลจากฉัน…อืม เอาออกไปไว้ไหนก็ได้…โธ่พูดอะไรอย่างนั้นเราเป็นเพื่อนกันนี่นา”