Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 273 ศึกปะทะนอกเมืองกับศัตรูที่โหดเหี้ยม

ตอนที่ 273 ศึกปะทะนอกเมืองกับศัตรูที่โหดเหี้ยม

ตอนที่ 273 ศึกปะทะนอกเมืองกับศัตรูที่โหดเหี้ยม

กลางขบวนรถ รถบรรทุกยาล็อตใหญ่ขับเข้ามาในโกดังคนขับรถใช้มือข วาจับคันโยกและใช้มือซ้ายจับวิทยุสื่อสารพลางตะโกน แกะสายรัดสินค้า ออกอย่างระวังกันด้วย 

ข้างนอกโกดัง มีเสียงปืนดังขึ้นตามเสียงลากเชือกออกเป็นครั้งๆจนถึง ตอนที่เชื่อกถูกคลายออกก็มีรถบรรทุกคันหนึ่งห่างจากรถที่ประกบอยู่หน้า หลังประมาณสองคันรถวิ่งพุ่งเข้ามาเดี่ยวๆ

ข้างนอกรถ

ฉีหลินชาเหมิงและคนอีกนับสิบคนส่องไฟและกระหน่ํายิงไปทางฝั่งด้าน ซ้ายอยากจะฉวยโอกาสใช้ปืนบุกเข้าไปก่อนเพราะพวกเขามีกระสุนพอที่จะควบคุมฝ่ายตรงข้ามได้

ในที่ดินระร้าง บนหน้าของหยางหนานมีผ้าสามเหลี่ยมปิดอยู่เขาหันหน้าก่อนจะพูดสั่งชายวัยกลางคน  คนของพวกมันมีมือปืนฝีมือดีมากอย่างน้อยๆ น่าจะมีสักห้าถึงหกคนที่มาจากระดับดีนะ 

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

 เรื่องเล็กน่า  ชายวัยกลางคนตอบกลับขณะปกปิดใบหน้าเอาไว้เขาก้มหน้าเอามือประคองวิทยุสื่อสารที่ติดอยู่ตรงคอเสื้อ  สไนเปอร์ยิ่งไฟแรงสูงของพวกมัน! 

 รับทราบ

หลังจากมีเสียงดังขึ้นจากเครื่องขยายเสียง ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนที่คมชัด หลายนัดปะทุขึ้นท่ามกลางหิมะ

 ปังปังปัง! 

จู่ๆ กระสุนหลายนัดที่ยิงกระทบโดนไฟสูงจนแตกกระจายและดับไปทัน

จากนั้นชาเหมิงก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย ตัวของเขาหลบอยู่ข้างรถออฟโรด พลางตะโกนด้วยสีหน้าหวาดกลัว  พี่หลินสถานการณ์ไม่ดีแล้วเหมือนว่าอีก ฝ่ายจะไม่ใช่ตํารวจไฟสูงอยู่ห่างแค่สามสิบเมตรสามารถทําให้คนแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้นได้แต่พวกมันกลับยิงเข้าตรงกลางไฟ แสดงว่าต้องมีสไนเปอร์และอีกอย่างพวกมันก็มีอุปกรณ์ป้องกันดวงตาอีกด้วย 

 ไม่ใช่ตํารวจงั้นเหรอ?  ฉีหลินนิ่งไป

 เหมือนไม่ใช่ตํารวจน่ะ  ชาเหมิงส่ายหน้า  อย่าไปกลัวมันยังไงเราก็ได้ โอกาสบุกมันก่อนแล้ว 

ฉีหลินได้ยินก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรจากนั้นจึงยกวิทยุสื่อสารขึ้นตะโกน ทุกคนฟังให้ดีอย่าไปยืดเยื้อกับอีกฝ่ายพยายามนํารถส่งสินค้าออกมาให้ได้ ก่อนไฟดับแล้วเรามองไม่เห็นพวกมันแต่มันเห็นได้ว่าเราอยู่ข้างรถส่งคนมาสักสองสามคนไปบุกทางด้านซ้ายกับฉันแล้วหลอกล่อให้คนที่ซ่อนตัวอยู่ออก

มา 

พอพูดจบ

ฉีหลินพกปืนไปพร้อมกับชาเหมิงและคนอีกนับสิบคนจากนั้นก็บุกเข้าปา ทางด้านซ้ายพอพวกเขาหนีออกจากขบวนรถไปก็ทําให้อีกฝ่ายยากที่จะ ล็อกตําแหน่งของทุกคนเอาไว้

ระหว่างทาง

ลูกน้องในทีมที่เหลือโบกมือพลางตะโกนเสียงดัง  ตัดเชือกให้ขาดรถ ออฟโรดทุกคันขยับไปทางซ้ายบังกระสุนเอาไว้ให้ฉันให้รถบรรทุกออกหาทางออกไปให้ได้ 

เชือกลากจูงนี้เห็นได้แค่ในขบวนรถของเขตโครงการเท่านั้นประโยชน์ หลักของมันก็คือป้องกันหลุมหิมะรวมถึงตอนที่เจอกับเหตุการณ์ถนนลื่น ด้วยเชือกเส้นนี้ทําให้รถไม่คว่ําและไม่ตกหลุมหิมะเพราะถ้าเกิดเรื่องกับรถหนึ่งลําพอรถคันที่อยู่ข้างหน้าออกแรงดึงก็จะสามารถดึงมันขึ้นมาได้แบบนี้ทําให้ไม่เสียเวลาที่ใช้บนท้องถนน

รถทุกคันปล่อยเชือกลากจูงเส้นนั้นลงก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าทางซ้ายและ จอดเรียงกันเป็นแล้วจึงใช้ตัวรถบังกระสุนเอาไว้

รถบรรทุกเคลื่อนไปทางขวาจากนั้นก็มีเสียงเร่งเครื่องยนต์เตรียมออกตัว ด้วยความเร็วสูงทันที

กองกําลังดีเหลือบมาเห็นจึงยิงเข้าที่แผ่นกั้นล้อทั้งสี่ข้างจนเกิดประกาย ไฟขึ้นแต่ก็ยังขัดขวางการมุ่งหน้าของรถบรรทุกไว้ไม่ได้อยู่ดี

บนพื้นหิมะ

หยางหนานตะโกนเสียงดังด้วยความรีบร้อน  มันเร่งความเร็วแล้วก็หนีไปแล้ว 

 หนีไปแล้วเหรอ? มันไปทางไหน?  ชายหนุ่มสวมหน้ากากตะโกนอย่าง ไม่สะทกสะท้าน ทีมที่หนึ่งทีมที่สองหลอกล่ออีกฝ่ายแล้วให้ทีมระเบิดล้ อมรถเอาไว้เร็วเข้า! 

 รับทราบ! 

 รับทราบ! 

หลังจากระบบวิทยุสื่อสารส่งเสียงตอบรับกลับมาแล้วในที่ดินมีคนอยู่ ประมาณสิบคนได้เข้ามาประกบฉีหลินเอาไว้ทั้งสองฝั่ง

ผ่านไปไม่กี่วินาทีทั้งสองฝั่งก็เริ่มปะทะกันอีกครั้ง

เพิ่งจะเริ่มปะทะกันขึ้น ลูกน้องสองคนที่อยู่ด้านข้างของฉีหลินได้ถูกยิง และล้มลงกับพื้นทันที

 อย่าเข้าไป  ชาเหมิงดึงฉีหลินเอาไว้  หมอบลงก่อน! 

ในขณะเดียวกัน ตรงฝั่งถนนทางด้านขวา

มีชายสองคนสวมชุดสีขาว คุกเข่าข้างหนึ่งลงคนหนึ่งถือวัตถุรูปทรงกระ บอกยาวครึ่งเมตรเอาไว้ส่วนอีกคนหนึ่งกําลังส่องกล้องส่องทางไกลอยู่  ตรง วงล้อมีแผงกันกระสุนใช้ปืนยิงไม่เข้าแน่นอน 

 วัตถุอยู่ห่างเท่าไหร่?  คนที่อยู่ข้างๆ ถามด้วยเสียงเบา

 วัตถุห่างสามเมตรยกปืนขึ้นสูงครึ่งเมตร  ชายที่ถือกล้องส่องทางไกลตอบกลับสั้นๆ

ชายถือสไนเปอร์ใช้มือซ้ายชักปืนขยับตัวไปทางด้านขวาเล็กน้อยก่อนจะ ลั่นไกปืนออกไป

 ผล็บ! 

เสียงแหลมเล็กวิ่งผ่านกลางอากาศก่อนจะมีเสียงดังขึ้นทางด้านขวาและ แผ่กระจายไปกว่าร้อยเมตร

ทุกคนได้ยินจึงหันกลับมา ทันใดนั้นจึงเห็นประกายไฟแสบตาพุ่งกระทบ เข้ากับรถบรรทุกสินค้าที่อยู่ในดินแดนรกร้าง

 อาร์พีจี! 

คนขับรถบรรทุกมองไปทางฝั่งขวามือก่อนจะตื่นตระหนกพลางตะโกนสุดเสียง

 บูม! 

ตามมาด้วยเสียงระเบิดที่ดังขึ้น ล้อรถฝั่งขวาของรถบรรทุกสินค้าระเบิดขี้ นทันที่ทําให้ด้านข้างรถเละเทะไปหมด

ตัวรถเสียสมดุล ล้อรถเส้นอื่นรวมถึงเพลาที่อยู่ตรงใต้ท้องรถมีเสียงเอี้ยด อ้าดแสบแก้วหูดังขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนทุกอย่างจะขาดทันใดนั้นตัวรถที่สูง หลายเมตรก็โค่นล้มลงมาทางฝั่งขวาทันที

 ตึงตึง! 

ตัวรถโค่นลงตรงร่องน้ําข้างทางฝั่งด้านขวากระแทกลงบนพื้นหิมะจนกระจุยกระจายไปหมด

ภายในอาคารขับรถ คนขับรถติดอยู่ได้รับบาดเจ็บจนเลือดเต็มหัวกระสุ นหลายนัดยิงมาที่กระจกบังลมเขายกขาเตะให้เป็นรูใหญ่ก่อนจะออกมาพร้ อมกับปืน

บนพื้นหิมะฝั่งด้านซ้าย ฉีหลินมองเห็นรถเก๋งที่พลิกคว่ําอยู่จึงนิ่งอึ้งทันที

 แยกย้าย แยกย้าย 

ชาเหมิงดึงฉีหลินก่อนตะโกนด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ  พวกมันไม่ใช่ตํา รวจแน่นอนจู่โจมมาแบบนั้นเราสู้มันไม่ได้หรอก รีบหนีเร็ว 

 ของล่ะ!  ฉีหลินตะโกนด้วยความดื้อดึง

 จะตายห่าอยู่แล้วพี่ยังจะห่วงของอยู่อีกเหรอ?!  ชาเหมิงดึงฉีหลินเอาไว้ อย่างสุดแรงเกิดก่อนจะโบกมือพลางตะโกน กันเอาไว้! 

ลูกน้องบริษัทรักษาความปลอดภัยเหยากวงต่างเป็นปรมาจารย์ได้รับการ ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีพวกเขาเคยอยู่ในกองทหารรักษาการณ์มาก่อนหรือไม่ ก็เป็นผู้มีประสบการณ์การส่งของที่ช่ําชองฉะนั้นการฝึกแบบนี้ไม่ได้บ่งบอก ว่าทักษะการยิงปืนแม่นแค่ไหนหรือแรงของตัวเองเยอะแค่ไหนแต่เป็นการ เชื่อฟังและการฟังคําสั่ง

ชาเหมิงออกคําสั่งก่อนที่ทุกคนจะพากันเข้ามาคุ้มกันเอาไว้และในขณะ เดียวกันพอคนขับรถออฟโรดที่อยู่บนถนนเห็นรถสินค้าพลิกคว่ําก็เตรียมตัว จะหนีทันทีแต่ละคนขยับขึ้นหน้าถอยหลังเพื่อขัดขวางกระสุน

ท้องฟ้ามืดมิด หนานหยางควบคุมฉีหลินเอาไว้ไม่ได้สุดท้ายจึงต้องให้ชา เหมิงมากระชากเอาไว้และลากไปอยู่กลางถนนอย่างทุลักทุเล

รถออฟโรดที่มีแผงกันกระสุนจอดรถทันที ชาเหมิงเปิดประตูรถออกก่อน จะดันฉีหลินขึ้นไปนั่งบนรถ

ฝั่งทางขวาของดินแดนรกร้าง หลังจากที่ปืนอาร์พีจีได้ยิงไปหนึ่งนัดก็เป็น การเผยตําแหน่งออกมาแล้วฉะนั้นยังไม่ได้ทันโหลดกระสุนก็ถูกมือปืนระดับ ดียิ่งจนหัวหดไป

หยางหนานหมอบอยู่บนพื้นหิมะก่อนจะมองลงไปที่พื้น  ขอคารวะให้ กับท่านผู้นํา 

 คํานับหาพ่อแกเหรอ?!  ชายวัยกลางคนด่าอย่างไม่ลังเล  คนพวกนี้ก็ ไม่ได้ให้ของเรามาฟรีๆต้องปะทะพวกมันโกรธฉันก็ได้รับบาดเจ็บแต่เหลี อสินค้าไว้ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว 

หยางหนานมองฝ่ายตรงข้างพลางกัดฟันและไม่ได้พูดอะไรต่อ

บนถนน รถออฟโรดเร่งความเร็วถอยหลังจากนั้นก่อนจะหนีไปตามทาง

สิบกว่าวินาทีผ่านไป

คนที่ซุ่มโจมตีทั้งซ้ายและขวาเริ่มบุกเข้ามาข้างหน้าทีละคนและเสียงปี นก็ยังคงดังขึ้นเป็นระยะ

หลังจากปะทะกันเสร็จชายหนุ่มนิรนามและหนานหยางก็พาลูกน้องมา ถึงข้างรถบรรทุกก่อนจะเห็นลูกน้องจากบริษัทเหยากวงทั้งสี่ถูกล็อกตัวเอาไว้ แล้วทั้งสี่จํานวนคนก็ได้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าคนที่สกัดพวกเขาเอาไว้มีทั้งหมดเกือบสีถึงหน้าสิบคน

 หัวหน้าของพวกแกคือฉีหลินใช่ไหม? พวกแกมาจากไหน?  หยางหนาน ถามด้วยเสียงทุ่มต่ํา

ทั้งสี่คุกเข่าอยู่กับพื้นโดยไม่มีใครส่งเสียงใดๆ

 ปัง 

หยางหนานผู้มีจิตใจโหดเหี้ยมได้ยิงเด็กหนุ่มที่อยู่ทางซ้ายสุดตายไปก่อน จะถามด้วยน้ําเสียงแหบแห้ง มาจากไหน? ! 

บนรถออฟโรด

ฉีหลินสีหน้าซีดเซียวยื่นมือปลดกระดุมเสื้อกันหนาวพอก้มหน้ามองดูก็ เห็นว่าไหล่ด้านซ้ายของตัวเองโดนยิงจนกระสุนทะลุเสื้อและเลือดก็กําลัง ไหลออกจากแผลกระสุน

 

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9

Status: Ongoing

โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย…

‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง

ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม!

ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้…

ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท