ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 164.2

ตอนที่ 164.2

บทที่ 164 อีกแล้วหรือนี่ 4 (2)

บิลอสถอนหายใจออกมา เขาไม่เหงื่อตกเหมือนหมูตกมันอีกต่อไป เขารู้สึกโล่งใจแปลกๆ

“นายน้อยคาร์ล..ท่านกำลังจะพูดถึงสำนักประมูลในอาณาจักรคาโรใช่มั้ยขอรับ?”

คาร์ลพยักหน้าให้กับบิลอสผู้ที่เข้าใจเจตนาของเขาได้อย่างรวดเร็ว เขาได้พูดคุยเรื่องนี้กับองค์ชายรัชทายาทแล้วเช่นกัน

สิ่งของที่พวกเขาพบทั้งหมดในห้องลับมีของอยู่ 2 ชิ้นที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพราะเป็นเรื่องยากสำหรับอาณาจักรโรมันที่จะจัดการให้มันปรากฏต่อสาธารณชนได้ด้วยตัวเอง

“ข้าต้องการเข้าร่วมการประมูลแบบวีไอพีของสำนักประมูล”

“…ท่านกำลังหมายถึงการประมูลที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์อย่างนั้นหรือขอรับ?”

“ใช่”

อาณาจักรคาโรมีชื่อเสียงในเรื่องของสำนักประมูลยิ่งกว่าทะเลทรายแห่งความตายซึ่งเป็นที่ซ่อนของพวกดาร์กเอลฟ์เสียอีก

การประมูลแบบวีไอพีนี้ถือเป็นการประมูลที่มีชื่อเสียงและเป็นความลับมากที่สุดในอาณาจักรคาโร มันถูกปรับปรุงและพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนมีชื่อเสียงในปัจจุบันนี้

นิยายเรื่องกำเนิดวีรบุรุษได้กล่าวถึงการประมูลแบบวีไอพีเมื่อครั้งที่กล่าวถึงอาณาจักรคาโรไว้คร่าวๆ

“มีทางเป็นไปได้หรือเปล่า..บิลอส?”

‘การประมูลแบบวีไอพี’

มีเหตุผลที่ทั้งคาร์ลและองค์ชายรัชทายาทอัลเบิร์กต้องการมีส่วนร่วมในการประมูลในครั้งนี้

สิ่งของจำนวน 2 ชิ้นที่พวกเขาพบในถ้ำลับนั้นมีเจ้าของเดิมอยู่ แม้แต่คาร์ลก็ยังไม่เข้าใจว่าพวกมันไปโผล่อยู่ในโลงศพนั้นได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตามของทั้ง 2 ชิ้นนี้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปว่ายังคงอยู่ในความครอบครองของเจ้าของเดิมอยู่

“เป็นไปได้ขอรับ!..ว่าแต่นายน้อยอยากจะประมูลอะไรหรือ?”

“ข้าไม่ได้อยากประมูลเอาอะไร”

บิลอสเริ่มขมวดคิ้วสงสัย

หากเขาอยากมีส่วนร่วมในการประมูล แล้วทำไมถึงไม่อยากได้อะไรล่ะ?

คาร์ลไม่สนใจกับปฏิกิริยาของบิลอสเมื่อเริ่มออกคำสั่งอีกครั้ง

“เจ้าสามารถส่งคำเชิญไปให้คน 2 คนได้หรือไม่?”

“ส่งคำเชิญ?”

“ใช่..มันเป็นคำเชิญให้พวกเขาทั้งคู่เข้าร่วมประมูลในเดือนกุมภาพันธ์”

“อ่า..เข้าใจแล้ว..กระผมต้องทำแบบลับๆใช่มั้ยขอรับ?”

“ถูกต้อง..อย่าให้พวกเขารู้ว่าคำเชิญนั้นมาจากเรา”

“ฟังดูน่าสนใจดีนะขอรับ”

คาร์ลพูดเพิ่มเข้าไปอีกอย่าง

“ข้าจะทำให้เจ้าได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลเลยล่ะ”

“..ดูเหมือนจะเป็นงานใหญ่เลยนะขอรับ”

“แน่นอน”

บิลอสพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นยืน

“เอาไว้เราค่อยเจอกันอีกทีหลังปีใหม่นะขอรับ..กระผมอาจจะเดินทางไปอาณาเขตเฮนิตัสในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์”

“ไม่หรอก..เราจะไปเจอกันที่อื่น”

คาร์ลกำลังบอกให้บิลอสทราบถึงสถานที่ที่พวกเขาจะเจอกันในครั้งหน้า

“อาณาเขตกิลล์”

“ได้ขอรับ..แล้วเราจะพบกันตั้งแต่ช่วงต้นปีใหม่เลยหรือไม่?”

บิลอสถามอย่างใจเย็นแม้ว่าเขาจะงงๆเมื่อได้ยินว่านัดครั้งต่อไปจะไปเจอกันที่อาณาเขตกิลล์ คาร์ลส่ายหน้าน้อยๆเมื่อตอบคำถามของบิลอส

“ข้าไม่แน่ใจเรื่องเวลานัก..เพราะข้าอาจจะมุ่งหน้าลงมาจากทางเหนือเพื่อเดินทางไปยังอาณาเขตกิลล์”

“ทางเหนือ?”

“ใช่”

บิลอสไม่ได้ถามอะไรออกไปอีกเพราะเข้าใจว่าคาร์ลอาจจะไปพักผ่อนแถวๆภาคตะวันตกเฉียงเหนือหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอาณาจักรโรมันแล้วค่อยมุ่งหน้าไปยังอาณาเขตกิลล์ในเดือนกุมภาพันธุ์

อย่างไรก็ตามทางเหนือที่คาร์ลหมายถึงไม่ใช่สถานที่เดียวกับที่บิลอสเดาเอาไว้

ฮิลส์แมนเดินออกไปส่งบิลอส ในขณะที่เชวฮันก็เอ่ยถามคาร์ลขึ้น

“ท่านคาร์ล..เราจะเริ่มกดดันนายน้อยอันโตนิโอในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือขอรับ?”

“อาจจะเป็นเช่นนั้น.เพราะเราอยู่จักรวรรดินานกว่าที่คิดไว้”

การที่ได้อยู่ในจักรวรรดินานกว่าที่คิดไว้ทำให้แผนการของเขาเคลื่อนไปหมด อย่างไรก็ตามแผนการกดดันนายน้อยอันโตนิโอก็ต้องทำต่อไปเช่นเดิม

คาร์ลยักไหล่อย่างไม่นึกสนใจ ในขณะที่เชวฮันก็หน้าเครียดขึ้นด้วยความกังวลเมื่อแผนการของพวกเขาต้องเลื่อนออกไป

“เราไม่ทางเลือกอื่นหรอกนะ..นี่มันก็ใกล้ปีใหม่เข้าไปทุกทีแล้ว..มันคงจะเป็นการดีกว่าหากเรากลับไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวของเรา..เจ้าไม่คิดแบบนั้นหรือ?”

“อ่า..”

เชวฮันพึมพำออกมาเบาๆในลำคอ คาร์ลเองก็เริ่มลูบศีรษะกลมๆของราอนเล่นเมื่อมันคลายเวทย์ล่องหนออกมาก่อนจะพูดต่อ

“ข้าเป็นคนพูดเองว่าจะกลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้าน…เพราะฉะนั้นข้าก็ต้องกลับไปให้ได้”

เขาบอกท่านเคานต์เดอรัชรวมไปถึงออนและฮงว่าเขาจะกลับบ้านในช่วงปีใหม่ เขาจำเป็นต้องรักษาสัญญาต่อพวกเขา

“เจ้าไม่เห็นด้วยกับข้ารึ?”

“ท่านพูดถูกแล้วขอรับ”

เชวฮันระบายยิ้มสดใสบนใบหน้าและรีบพยักหน้าอย่างเร็ว คาร์ลมองเชวฮันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยกับมังกร 2 ตนและหนึ่งมนุษย์ที่อยู่ในห้องนี้

“เราจะกลับไปฉลองปีใหม่กันที่บ้าน..หลังจากนั้นเราก็จะมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ”

“เราจะไปเจอเผ่าวาฬกันหรือมนุษย์?”

“ใช่แล้ว”

วิเทียร์อยากพูดคุยกับเขาเรื่องเส้นทางเดินทะเล เขาจึงวางแผนที่จะจัดเตรียมสถานที่ให้กับเผ่าเสือให้เรียบร้อยก่อนจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือเพื่อไปพบกับเผ่าวาฬ

‘แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด’

คาร์ลหยิบกระเป๋าเวทย์ที่บิลอสนำมาให้ขึ้นมาก่อนจะยื่นส่งให้อูฮาเบ็นและราอน อูฮาเบ็นเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเปิดกระเป๋าเวทย์ใบนี้ออกดู

“พวกมันคือส่วนผสมเล่นแร่แปรธาตุสินะ?”

“ใช่”

ดวงตาของมังกรดำเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำตอบจากคาร์ล มันตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

“เราสามารถสร้างเสาเพลิงได้แล้ว!”

กระเป๋าเวทย์ใบนี้เต็มไปด้วนส่วนผสมในการสร้างเสาเพลิงแบบเดียวกับที่จักรวรรดิทำ อูฮาเบ็นยิ้มหยันทันทีเมื่อเขาพูดขึ้น

“แน่นอน!..ว่ามังกรผู้ไร้เทียมทานเช่นข้าสามารถทำอะไรก็ได้ตราบใดที่มีส่วนผสมเหล่านี้”

คาร์ลสังเกตมังกรวัยชราที่แสร้งทำเป็นเหนื่อยเล็กน้อยเมื่อต้องรับผิดชอบงานเพิ่มขึ้น ส่วนราอนก็จ้องไปที่อูฮาเบ็นด้วยดวงตาเป็นประกายก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

“แล้วเราจะใช้มันได้เมื่อไหร่?”

ร่างของมังกรทองชะงักไปครู่หนึ่ง เสาเพลิงที่พวกเขากำลังจะสร้างขึ้น มันจะถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่ร้ายกาจและรุนแรงกว่าที่จักรวรรดิเคยทำเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะนำมันไปทดสอบเพื่อดูประสิทธิภาพก่อนใช้งานจริงก็ใช่ว่าจะสามารถทำได้ง่ายๆ

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่สามารถให้คำตอบได้ในทันที อูฮาเบ็นยังคงจ้องไปที่ราอนเงียบๆ

อย่างไรก็ตามคาร์ลกลับเป็นคนให้คำตอบเขา

“น่าจะเป็นต้นปีหน้า”

“หืม?”

“หืม?”

มังกรทั้งสองหันขวับไปมองคาร์ลทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น

“มันคงจะอุ่นดี..ถ้าเราเริ่มจุดไฟขึ้นสักที่หนึ่ง”

ใบหน้าของอูฮาเบ็นเต็มไปด้วยความสงสัย

‘อุ่นงั้นรึ? มันคงไม่ใช่แค่อุ่นแล้วล่ะ? มันน่าจะร้อนจนไหม้เสียมากกว่า’

ในขณะนั้นราอนก็ตะโกนขึ้น

“เรามาแสดงให้พวกเผ่าวาฬดูด้วยเถอะ!”

“แน่นอน”

“เฮ้อ”

คาร์ลไม่สนใจต่อเสียงถอนหายใจของอูฮาเบ็นและเอนหลังไปกับเตียงนอนอีกครั้ง มันคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดหากเขาทำตัวให้อบอุ่นในช่วงหน้าหนาวด้วยการขดตัวอยู่ในผ้าห่มอันแสนหนานุ่มนี้

.

.

.

ไม่กี่วันต่อมา

คาร์ลกำลังมุ่งหน้าไปยังเวทีขนาดใหญ่ที่มีลมเย็นพัดเอื่อยๆไปทั่วบริเวณ เสียงของขุนนางจากจักรวรรดิดังคับไปทั่วพื้นที่ด้วยเครื่องเวทย์ขยายเสียง

“บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้วที่เราจะมอบเหรียญกล้าหาญให้กับนายน้อยคาร์ล เฮนิตัส! เขาคือผู้กล้าหาญและยินดีเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องจักรวรรดิของเรา!”

‘ฟังเข้าท่าดีนี่?’

คาร์ลนึกชมขุนนางผู้นี้ในใจ

องค์จักรพรรดิต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ด้านหลังของเขาคือจัตุรัสกลางเมืองขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ด้านนอกพระราชวัง โดยมีฝูงชนขนาดใหญ่จับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท