ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 178.2

ตอนที่ 178.2

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 178 เล่ห์เหลี่ยม 6 (2)

ดยุกผู้นี้พูดเรื่องไร้สาระ! เสาเพลิงจะไม่สามารถดับลงได้ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีใดก็ตาม พวกเขาจะนึกถึงการเล่นแร่แปรธาตุของจักรวรรดิหลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 วัน พวกเขาต้องรู้เรื่องเสาเพลิงที่จักรวรรดิใช้กับปราสาทเมเปิ้ลเพราะพวกเขาเป็นพันธมิตรกัน

ท้ายที่สุดดยุกจะไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชนได้

คาร์ลค่อนข้างพอใจกับสถานการณ์ดังกล่าวขณะที่ทอดสายตาไปยังที่อื่นและที่นั่นก็ไม่ใช่คฤหาสน์เซคก้าเช่นกัน

ปราสาทพารัน

ที่นั่นคือฐานประจำการของอัศวินผู้พิทักษ์โคลเปย์

คาร์ลไม่ใช่คนเดียวที่มองไปยังปราสาท ดยุกร็อกก็กำลังมองไปที่ปราสาทเช่นเดียวกัน

บุตรชายของเขา ‘โคลเปย์ เซคก้า’

เขาเชื่อว่าบุตรชายของเขากำลังมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบพร้อมกับลูกน้องของตน เขามั่นใจว่าลูกชายของเขาจะจัดการปัญหานี้ได้

ประตูเหล็กขนาดใหญ่ของปราสาทพารันถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วราวกับตอบสนองต่อความไว้วางใจของท่านดยุก

เอี๊ยดดดดด!!!!

ประตูเปิดออกกว้างพร้อมกับร่างของเหล่าอัศวินบนหลังม้าเคลื่อนขบวนออกจากปราสาท มีอัศวินถือธงขาวอยู่ขบวนหน้าและอัศวินผู้พิทักษ์โคลเปย์อยู่ทางด้านหลัง

“ไปกันเถอะ!”

โคลเปย์ออกคำสั่งสั้นๆก่อนที่ม้าจะทะยานไปยังทะเลสาบน้ำตาพระเจ้าอย่างรวดเร็ว

เขาจัดการกับงานที่เหลือก่อนจะนั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่จัตุรัสกลางเมืองที่สว่างไสวและเต็มไปด้วยความครึกครื้น แต่หลังจากนั้นไม่นานสายฟ้าสีแดงก็ฟาดลงมาพร้อมกับเพลิงขนาดใหญ่ที่ลุกท่วมทะเลสาบ

สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องดีกับโคลเปย์ที่กำลังวางแผนลงใต้เมื่อฤดูใบไม้ผลิเดินทางมาถึง

เกิดอะไรขึ้น?

เขามองเห็นเส้นผมสีขาวของตนเองปลิวไปตามสายลม นั่นทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมา

นักบวชผมขาวที่เขาพบเมื่อไม่กี่วันก่อน นักบวชผู้นี้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ป้ายประจำตัวที่เขาใช้ยื่นต่อพนักงานโรงแรมก็เป็นของปลอมเช่นกัน คำพูดของนักบวชผู้นี้ยังติดอยู่ในใจของเขา

‘ข้าขอสวดภาวนาให้ทะเลสาบถูกเติมเต็มในเร็วๆนี้’

ในตอนที่ได้ยินประโยคนี้จากปากของนักบวช โคลเปย์สามารถสัมผัสได้ถึงบางอย่าง

‘สายตาของเขาดูเหมือนจะมั่นใจมาก’

แม้ว่านักบวชจะบอกว่าตนขอสวดภาวนาแต่สายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ โคลเปย์ยังจำทุกสิ่งที่นักบวชพูดเอาไว้ได้

‘เมื่อถึงเวลาที่กำหนดทุกๆอย่างจะปรากฏออกมาเอง’

‘พระเจ้าที่น่าเลื่อมใสได้รวบรวมของขวัญมาให้ไว้กับมนุษย์และจากไปเพราะความโลภของมนุษย์เช่นกัน..แต่เขากลับไม่เคยนึกโกรธเพียงแค่ร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเท่านั้น’

มือที่กุมบังเหียนของโคลเปย์กระชับแน่นขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเมื่อต้องการจะหยุดม้าของตนลง

“ฮี้ฮี้!!!!”

ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอย่างที่ตัวเองต้องการ ม้าก็หยุดฝีเท้าของมันลง มันยืนยิ่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่สามารถขยับตัวไปได้ไกลกว่านี้ โคลเปย์สังเกตสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าตนอย่างพิจารณา

เขาไม่สามารถพูดอะไรออกเมื่อเห็นภาพทะเลสาบที่อยู่ตรงหน้า

โดยเฉพาะเสาเพลิงที่ลุกท่วมไปทั่วทะเลสาบ

“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”

เสาเพลิงไม่ได้ขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ มันยังคงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นมีเพียงสิ่งที่เดียวที่ผุดขึ้นมาในใจของเขา

ความโกรธ

หัวใจของเคลเปย์เต้นรัวขึ้น ในขณะที่นักเวทย์เดินทางถึงจุดที่โคลเปย์อยู่พอดี

“ท่านหัวหน้า!!”

โคลเปย์ออกคำสั่งด้วยท่าทางเคร่งเครียด

“ทุกคนรีบนำน้ำมาดับไฟโดยด่วน! อัศวินทั้งหมดเร่งตัดต้นไม้บริเวณใกล้เคียงและนำเศษไม้ทั้งหมดออกไปเพื่อป้องกันไฟลุกลาม ส่วนนักเวทย์..เริ่มใช้พลังเวทย์ของพวกเจ้าเดี๋ยวนี้เลย!”

“ขอรับ!!”

เหล่าทหาร อัศวินและนักเวทย์ที่มาจากปราสาทพารันเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่สามารถปล่อยไฟให้ลุกท่วมเช่นนี้ได้แม้ว่ามันจะเข้าใกล้ได้ยากก็ตาม โคลเปลย์จ้องไปที่เสาเพลิงที่ลุกท่วมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันศีรษะไปยังชายป่าทางทิศตะวันออก

นั่นคือจุดที่นักบวชผมขาวหายตัวไป สายตาของเขายังคงมองไปที่นั่นเป็นเวลานานราวกับร่างของเขาแข็งค้างเป็นรูปปั้นไปเสียแล้ว

ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง คาร์ลผู้ปลอมเป็นนักบวชผมขาวก็หยุดทำตัวเอื่อยเฉื่อยและค่อยๆลงจากหลังของเชวฮัน เขายืนเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจยาวให้กับสายตาที่จ้องมายังร่างของตน

“ข้าบอกพวกเจ้าแล้วไงว่าข้าไม่เป็นไรแล้ว”

“กระผมจะคอยคุ้มครองท่าน!”

“ข้าจะปกป้องเจ้าเอง!”

“ข้าจะล้อมศัตรูด้วยพิษ!”

“ข้าจะใช้หมอกบดบังสายตาของพวกมัน!”

คาร์ลส่ายหน้าน้อยๆให้กับทุกความเห็นก่อนจะมองไปยังคฤหาสน์สีขาวของดยุกเซคก้า

คฤหาสน์สีขาวไม่ได้มืดอย่างที่คิด มีแสงไฟสว่างไปทั่วคฤหาสน์และนั่นถือเป็นสิ่งที่ดี

มันคงลำบากไม่น้อยหากต้องหาของบางอบย่างในที่มืดๆ

“ราอน”

“ว่าอย่างไรเจ้ามนุษย์?”

“ใช้เวทย์ล่องหนอำพรางร่างของออนและฮงด้วย”

“ตกลง!”

ร่างของราอน ออนและฮงหายไปอย่างรวดเร็ว

คาร์ลและชเวฮันก็หยิบหน้ากากสีดำออกมาสวมทันที ในขณะที่เชวฮันกำลังสวมหน้ากากอยู่เขาก็ถอนหายใจยาวพลางเอ่ยแนะนำคาร์ลขึ้นมา

“ท่านคาร์ล”

“ว่าอย่างไร?”

“ครั้งต่อไปเราสามารถทำชุดให้ดีกว่านี้ได้หรือไม่?”

“เจ้าหมายถึงชุดอาร์ม?”

“ขอรับ”

“แต่ข้าไม่ต้องการ”

เชวฮันสะดุ้งเมื่อได้ยินสิ่งที่คาร์ลตอบ ก่อนจะเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าของคาร์ล

“เชวฮัน”

“ขอรับท่านคาร์ล”

“เจ้าลองคิดในมุมของพวกอาร์มดูซิ..สมมุติว่าเจ้าเป็นพวกอาร์ม..เจ้าจะไม่โกรธเหรอ?หากมีคนสวมเครื่องแบบโทรมๆที่สามารถมองเห็นได้ชัดว่าเป็นของปลอมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา”

“อ่า…ขอรับ”

คาร์ลตั้งใจสวมชุดโทรมๆที่ไม่มีความเรียบร้อยในการเย็บปักแม้แต่น้อยและนั่นจะทำให้พวกอาร์มยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม

เชวฮันนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ

“กระผมทึ่งในความคิดของท่านยิ่งนัก!”

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”

คาร์ลตอบเชวฮันอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนจะก้มมองมือของตนเอง

ฟริ้ววววว!!!

คาร์ลเรียกใช้เสียงเรียกของวายุเมื่อก้มลงมองพื้นด้านล่าง ลมกำลังนำทางเขาไปยังทิศทางหนึ่ง คาร์ลซึ่งอยู่บนหลังคาของอาคารหลักในคฤหาสน์เซคก้ากำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่แปลกไป

“ท่านคาร์ล..นั่นท่านจะไปไหนขอรับ?”

เชวฮันเดินตามคาร์ลไปด้วยท่าทางสับสน

พวกเขาเริ่มเคลื่อนห่างจากอาคารหลักที่เต็มไปด้วยแสงไฟ คาร์ลกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ดินเก่าของ ดยุกคนแรกซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะขุนนางผู้รักสมถะ

สวนร้าง นั่นคือสิ่งที่คาร์ลมองเห็น

เขารู้สึกถึงแรงลมที่พัดผ่านเข้าไปในสวนก่อนจะฉีกยิ้มกว้างภายใต้หน้ากาก

~มนุษย์..เจ้ากำลังยิ้มอยู่ใช่มั้ย? ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่! มันต้องน่าตื่นเต้นแน่ๆ!~

ราอนเดาว่ารอยยิ้มของคาร์ลจะต้องดูชั่วร้ายราวกับปีศาจอย่างแน่นอน

คาร์ลเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้งเพื่อตามหาเครื่องมือพระเจ้า

แน่นอนว่าตอนนี้คาร์ลกำลังมีคำถาม

หากผู้เป็นเจ้าของตำนานทะเลสาบน้ำตาแห่งพระเจ้าเป็นมนุษย์ผู้มีพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณจริง แล้วทำไมมันถึงกลายมาเป็นเครื่องมือพระเจ้าได้และมันมีลักษณะเป็นอย่างไร?

เสียงของพลังศิลาดังเข้ามาในหัวของคาร์ลอีกครั้ง

-เจ้าพยายามที่จะเสียสละตัวเองหรือไม่?-

รอยยิ้มของคาร์ลหุบลงทันทีก่อนที่ความหนาวเย็นจะแล่นตามแผ่นหลังของเขาขึ้นมา

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท