ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 190.2

ตอนที่ 190.2

บทที่ 190 เป้าหมายเล็กๆ 5 (2)

คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินความกังวลของเด็กวัยหกขวบ

บิลอสที่กำลังเฝ้ามองคาร์ลด้วยความตกใจเริ่มอมยิ้มออกมาเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮิลส์แมนกระซิบให้เขาได้ยิน

“ดูเหมือนนายน้อยกำลังหงุดหงิด?”

“อืม..ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ”

“นายน้อยชอบทำหน้าแบบนั้นเมื่อเขากำลังทำอะไรเพื่อคนอื่นแต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนได้รับการดูแลอย่างเหมะสม ความรู้สึกที่แท้จริงของนายน้อยนั้นเป็นสิ่งที่บอกได้ง่ายยิ่งนัก”

บิลอสเข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดฮิลส์แมนจึงเล่นบทเป็นลูกกระจ๊อกโดยไม่ปริปากบ่น สายตาที่บิลอสจ้องไปที่คาร์ลดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย

แต่ราอนกำลังเป็นห่วงคาร์ลอย่างหนัก

~มนุษย์! มันไม่เป็นไรจริงๆเหรอ? มันสิ้นเปลืองเกินไป! ข้าไม่อยากได้ของเล่นพวกนี้แล้ว!~

‘อุปกรณ์เวทย์ราคาแพงพวกนี้คือของเล่นของนายงั้นรึ?!’

คาร์ลตะโกนขึ้นในใจกับความเห็นดังกล่าวก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

“มันไม่ได้เปลืองขนาดนั้น”

คาร์ลไม่รู้สึกเสียใจกับการใช้จ่ายเงินทั้งหมดนี้

มันเป็นเพียงเงินจำนวนเล็กน้อยหากเทียบกับเงินเก็บของเขาทั้งหมดและไหนจะเงินจากตระกูลของเขาอีก มันเป็นเรื่องปกติถ้าเขาจะใช้เงินจำนวนดังกล่าวได้โดยไม่นึกเสียดายหรือมีปัญหาอะไร เขายังรู้สึกปวดหัวกับสัมภาระที่เขาต้องดูแลรอบๆตัวตอนนี้เสียมากกว่า

~…………..~

ราอนเงียบ

ออนและฮงที่ตะปบแขนเขาเมื่อครู่ก็เงียบเช่นกัน หากให้คาร์ลเดาสาเหตุที่พวกมันเงียบลงก็คงเป็นเพราะเขาซื้อทุกอย่างตามที่พวกมันต้องการแล้วก่อนพยักหน้าเบาๆด้วยความพอใจ

เขาสามารถจัดการสิ่งต่างๆได้ดีจนถึงตอนนี้และปัญหาอย่างอื่นก็กำลังจะจบลง

“บิลอส..ร้านขายโล่กำบังอยู่ที่ไหน?”

“โล่กำบัง?”

“ใช่..อ้อ!หาร้านที่ขายชุดเกราะให้ข้าด้วยล่ะ”

“ชุดเกราะ?”

“ใช่”

ของเหล่านี้มีไว้สำหรับหมาป่าและเสือ

คาร์ลแวะไปยังร้านขายของชำที่ออกแบบให้ดูคล้ายกับร้านสะดวกซื้อในชีวิตก่อนของเขาก่อนจะยิ้มออกมา

“ใช้เงินแบบไม่ต้องคิดทำให้รู้สึกดีจริงๆ”

เขารู้สึกสดชื่นหลังจากใช้เงินก้อนใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน เขาเลือกซื้อพายแอปเปิ้ลเป็นอย่างสุดท้ายก่อนที่ภารกิจในวันนี้จะสิ้นสุดลง เขาหันไปส่งสัญญาณให้กับคนอื่นทันที

“กลับกันเถอะ!”

คาร์ลเดินทางกลับโรงแรมอย่างสบายใจในขณะที่สมาชิกในกลุ่มของเขาทยอยตามหลังเขาไปเงียบๆ ทุกคนในกลุ่มมีความคิดแบบเดียวกันเมื่อหันไปมองคาร์ล

สิ่งเดียวที่เขาซื้อให้กับตัวเองคือไก่เสียบไม้

ความจริงดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในใจของพวกเขา ในทางตรงกันข้ามคาร์ลกลับคิดไปอีกอย่างหนึ่ง

‘ในเมื่อฉันควักเงินตัวเองมากขนาดนั้นแล้ว..ก็คงต้องถึงเวลาหาเพิ่มให้มากกว่าเดิมแล้วล่ะ’

.

.

.

ความคิดนั้นไม่เปลี่ยนแปลงจนก้าวสู่วันประมูลวันสุดท้าย

ณ ห้องระเบียง ร-4 ผ้าม่านภายในห้องถูกปิดไว้อย่างมิดชิด

บิลอสเอ่ยถามคาร์ลอย่างระมัดระวัง

“นายน้อยคาร์ล..วันนี้ท่านหัวหน้านักบวชจะมาที่ห้อง ร-1จริงๆหรือขอรับ? ”

ตลอดสองวันที่ผ่านมาห้องระเบียง ร-1 เป็นห้องที่ถูกจับจองโดยนักบวชของวิหารพระเจ้าแสงตะวัน จากที่บิลอสได้ยินมาวันนี้ก็ยังคงเป็นนักบวชเช่นเคยที่มายังห้องร-1 อย่างไรก็ตามคนที่คาร์ลต้องการพบในวันนี้คือหัวหน้านักบวชไม่ใช่นักบวชคนอื่นๆทำให้บิลอสเริ่มไม่มั่นใจว่าคาร์ลจะได้พบคนที่เขาต้องการหรือไม่แต่เขาก็สังเกตเห็นว่าคาร์ลไม่ได้เป็นกังวลเลยสักนิด

คาร์ลยกไวน์ขึ้นจิบและเริ่มพูด

“คาสิโนต้นไม้ทองคำคือผู้บริจาครายใหญ่ให้กับวิหารพระเจ้าแสงตะวัน..ความสัมพันธ์ของพวกเขาน่าจะแน่นแฟ้นกว่าที่เราคาดไว้”

คาร์ลไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่หัวหน้านักบวชจะสามารถมายังห้องร-1ได้อย่างลับๆ แม้ว่าบิลอสจะดูสนิทกับเจ้าหน้าที่ในคาสิโนต้นไม้ทองคำแต่มันก็ยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับข้อมูลซึ่งเจ้าหน้าจะต้องปิดไว้เป็นความลับเช่นกัน

“ว่าแต่..นายน้อยมีราตรีหรรษาจริงหรือขอรับ?”

“เจ้าถามทำไม? เจ้าไม่เชื่อข้างั้นรึ?”

บิลอสพยักหน้ารับอย่างเกร็งๆเมื่อเห็นสายตาร้ายกาจของคาร์ลที่จ้องมาที่เขา

‘ราตรีหรรษา’ คืออัญมณีที่มีความสำคัญต่ออาณาจักรคาโรและวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวัน

‘ดินแดนแห่งความตาย’ สถานที่แห่งนี้รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า‘ทะเลทรายแห่งความตาย’ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของสถานที่ต้องห้าม

มันยังเป็นที่ตั้งในการต่อสู้ระหว่างหมอผีคนสุดท้ายกับกองทัพซอมบี้เมื่อครั้งอดีต ในเวลาเดียวกันทะเลทรายยังมีสีแดงสดราวกับเลือดในเวลากลางวันและมืดสนิทในเวลากลางคืน

มีอัญมณีถูกฝังไว้ในหัวใจของหมอผีคนสุดท้าย อัญมณีสีดำชิ้นนั้นคือราตรีหรรษา

มันย่อมหมายความว่าราตรีหรรษาคือสิ่งที่สร้างความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งให้กับอาณาจักรคาโร เช่นเดียวกับช่วงเวลาที่สร้างความภาคภูมิใจสูงสุดให้กับวิหารพระเจ้าแสงตะวัน

แน่นอนว่าทันทีที่มาถึงอาณาจักรคาโรคาร์ลก็ได้ให้แมรี่ดูอัญมณีชิ้นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

‘เจ้ารู้สึกอะไรหรือไม่?’

‘ข้าต้อง..รู้สึกอะไรหรือ?..ข้า..ไม่เห็นรู้สึก..อะไรเลย?’

อัญมณีชิ้นนี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อหมอผี เมื่อเป็นเช่นนี้คาร์ลก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเก็บมันเอาไว้ สู้ๆขายมันออกไปจะดีกว่า

คาร์ลหยิบอัญมณีออกจากกระเป๋าเสื้อของตน

“อ่า…”

บิลอสส่งเสียงพึมพำออกมา

เขาได้หาข้อมูลของราตรีหรรษาตั้งแต่ที่คาร์ลเอ่ยถึงมันเป็นครั้งแรก มันควรถูกเก็บไว้ในวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวันประจำอาณาจักรคาโรและมันได้ถูกนำมาจัดแสดงเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ของทุกๆปี

นั่นหมายความว่าอัญมณีที่ถูกนำมาจัดแสดงเป็นของปลอมหรือไม่?

“ข้าจะออกไปข้างนอกแล้ว”

~มนุษย์! ข้าจะไปกับเจ้า!.~

ร่างของคาร์ลค่อยๆเลือนหายไป

บิลอสโค้งคำนับให้คาร์ลและตอบกลับทันที

“กระผมจะรอนายน้อยกลับมาขอรับ”

พรึ่บ!

ผ้าม่านถูกเปิดออกและคาร์ลก็มุ่งหน้าไปยังห้องระเบียงร-1ทันที ในขณะนั้นผู้ดำเนินการประมูลกำลังอธิบายรายละเอียดของสินค้าที่นำมาประมูลในวันนี้พอดี

“วันนี้สินค้าชิ้นสุดท้ายของเราต้องบอกว่าเป็นของชิ้นพิเศษเลยล่ะขอรับ! แน่นอนว่ามันน่าสนใจยิ่งนัก! มันยากมากที่เราจะหามันมาได้! มันอาจเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงที่สุดในการประมูลครั้งนี้!”

น้ำเสียงของผู้ดำเนินการประมูลดูมั่นใจมาก

“ข้าน้อยจะให้คำใบ้แก่ทุกท่าน…คำใบ้นั้นก็คือ…ราชาหมาป่า!”

‘หืม?’

คาร์ลที่กำลังเหาะไปยังห้องระเบียง ร-1 ด้วยเวทย์ลอยตัวถึงกับหยุดชะงักทันที สายตาของคาร์ลก้มไปมองด้านล่างอย่างรวดเร็ว ผู้ดำเนินการประมูลยังคงสวมหน้ากากแฟนซีปดปิดใบหน้าเอาไว้ เขาพยายามส่งเสียงไปยังผู้เข้าร่วมประมูลที่เริ่มส่งเสียงกระหึ่มด้วยความตื่นเต้น อย่างไรก็ตามด้วยอุปกรณ์เวทย์ขยายเสียงทำให้ทุกคนยังคงได้ยินเสียงของเขา

“มันคือซากของราชาหมาป่าตัวสุดท้าย!”

“โอ้!”

‘น่าสนใจจริงๆ’

คาร์ลอุทานออกมาด้วยความชื่นชม เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะก้าวเข้าไปห้องระเบียงร-1ในที่สุด

เขามองเห็นนักบวชอยู่ในห้อง

พรึ่บ!

คาร์ลปิดม่านที่อยู่ด้านหลังของตนลงก่อนจะให้ราอนคลายเวทย์ล่องหนออก คาร์ลมุ่งหน้าไปหาข้ารับใช้อย่างรวดเร็ว นักบวชสะดุ้งด้วยความตกใจและใช้มือจับแขนคาร์ลเอาไว้เมื่อจู่ๆชายผู้นี้ก็ผ่านหน้าเขาไปหาข้ารับใช้ของตน อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่ได้ให้ความสนใจใดๆกับนักบวชผู้นี้

คาร์ลยังจำสิ่งที่นักบวชแจ็คบอกเอาไว้ได้

ก่อนที่คาร์ลจะออกจากอาณาจักรพารันเขาได้ถามข้อมูลของหัวหน้านักบวชกับแจ็คมาก่อน

‘ท่านหัวหน้านักบวชค่อนข้างขี้ขลาด..แต่ในขณะเดียวกันก็โลภมากยิ่งนัก’

แจ็คยังอธิบายลักษณะเด่นของหัวหน้านักบวชให้คาร์ลทราบอีกด้วย

ข้ารับใช้ในชุดซอมซ่อจ้องใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากของชายผู้นี้เขม็ง คาร์ลเองก็จ้องกลับก่อนจะเอ่ยทักทายเขาด้วยความนอบน้อม

“ยินดีที่ได้พบท่านยิ่งนัก..ท่านหัวหน้านักบวช”

คาร์ลมีความสุขยิ่งนักที่ได้พบกับบุคคลผู้นี้ เขาสามารถหาเงินได้เป็นจำนวนมากก่อนที่จะต้องทำงานใหญ่ในอีกไม่ช้านี้

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท