ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 185.2

ตอนที่ 185.2

บทที่ 185 นายน้อย ท่านนี่มัน…. 4 (2)

คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วในขณะที่อัลเบิร์กดูเหมือนจะมีความสุขมากแม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูเหนื่อยล้าเพียงใดก็ตาม คาร์ลตระหนักได้เช่นกันว่าเขาไม่จำเป็นต้องรายงานเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้กับอัลเบิร์กทราบ

“ดูเหมือนพระองค์จะทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว”

เขามั่นใจว่าอัลเบิร์กมีสายข่าวอยู่ที่อาณาเขตกิลล์เพราะองค์ชายผู้นี้เป็นคนฉลาดและรอบคอบ แต่คาร์ลก็ไม่ได้คาดหวังว่าอัลเบิร์กจะได้รับข้อมูลทุกอย่างในระยะเวลาสั้นๆเพียงเท่านี้

[“ใช่แล้ว..สายของข้าได้รายงานถึงข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วอาณาเขตกิลล์ให้ข้าทราบแล้ว”]

แม้ว่าข่าวลือที่แพร่กระจายไปทั่วอาณาเขตกิลล์นั้นจะถูกอัลเบิร์กนำมาพูดเกินจริงไปสักหน่อยแต่ต้องยอมรับว่าตระกูลกิลล์คงไม่มีทางที่จะหยุดข่าวลือดังกล่าวได้เลย

หลังจากได้ยินข่าวลือทั้งหมดอัลเบิร์กก็อดชมคาร์ลออกมาไม่ได้

[“เป็นจอมเจ้าเล่ห์ที่ทำงานได้ดียิ่งนัก”]

อัลเบิร์กไม่ชอบใจนักเมื่อเห็นคาร์ลแสยะยิ้มมุมปากหลังจากที่เขาพูดออกไปเช่นนั้น

ข้อมูลที่เขาได้รับมาบอกว่าคาร์ลไม่ได้กระอักออกมาเป็นเลือดมากนัก มันมีปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่คาร์ลก็สามารถใช้ข้ออ้างนี้ในการเอนหลังนอนบนเตียงเพื่อพักฟื้นร่างกาย เมื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้วก็ค่อยรายงานให้เขาทราบในเช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้ แต่คาร์ลกลับไม่ทำเช่นนั้นเขาแค่รอให้ถึงเวลาเที่ยงคืนจึงติดต่อเขาเข้ามา

นั่นคือสิ่งที่ทำให้อัลเบิร์กคิดว่าคาร์ลเป็นคนที่ทำงานด้วยได้ง่ายแม้จะไม่ชอบจอมเจ้าเล่ห์คนนี้มากนัก นั่นก็เพราะคาร์ลคล้ายกับเขามากเกินไป

[“มีสิ่งที่เจ้าต้องรายงานให้ข้ารู้เพิ่มเติมหรือไม่?”]

เขาไม่ใช่คนใจร้ายที่จะทรมานคนกำลังพักฟื้นร่างกาย นอกจากนี้คาร์ลและลูกน้องคือกลุ่มคนที่ต้องไปยังบ้านประมูลในอาณาจักรคาโรแทนเขาอีกด้วย เขาจึงรีบเข้าประเด็นทันที

“มันเป็นเพียงรายงานสั้นๆเท่านั้นพะย่ะค่ะ..กระหม่อมจะส่งเอกสารทั้งหมดไปให้พระองค์ในเร็วๆนี้..แต่สิ่งที่พระองค์ต้องทราบในตอนนี้คือสมาคมค้าทาสที่ทำการซื้อขายกับตระกูลเชรย์ซี่มาจากจักรวรรดิและเรายังมีหลักฐานที่ตระกูลเชรย์ซี่จ้างให้นักฆ่าลักพาตัวเด็กๆเมื่อครั้งในอดีตอีกด้วย”

อัลเบิร์กรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที

[“นี่คือรายงานสั้นๆอย่างนั้นหรือ?”]

“พะย่ะค่ะ! ตระกูลกิลล์จะติดต่อไปหาพระองค์ในไม่ช้านี้และไม่ต้องกังวลไปเพราะกระหม่อมได้ล่ามโซ่พวกเขาไว้แล้ว พระองค์สามารถใช้ประโยชน์จากพวกเขาได้ตามที่ต้องการ”

[“…ข้าชักจะเหนื่อยแล้วสิ”]

คาร์ลเห็นว่าอัลเบิร์กเต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าซึ่งตรงข้ามกับคำพูดของเขา เมื่อลองคิดดูแล้วดูเหมือนองค์ชายอัลเบิร์กจะมีความสุขเมื่อสามารถใช้งานคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตนเองได้

[“ข้าจะขึงโซ่ให้แน่นเลยล่ะ!”]

“พะย่ะค่ะองค์ชาย..กระหม่อมมั่นใจว่าดวงดาวที่แสนอัจฉริยภาพของอาณาจักรเราจะสามารถจัดการปัญหาต่างๆได้อย่างราบรื่น”

คาร์ลรู้สึกแปลกๆหลังจากพูดประโยคดังกล่าวจบ เพียงครู่เดียวเขาก็ตระหนักได้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกเช่นนั้น เป็นเพราะอัลเบิร์กไม่ได้ตัดสัญญาณแม้ว่าคาร์ลจะรายงานทุกอย่างเสร็จสิ้นและเริ่มทำการประจบประแจงเขาแล้วก็ตาม

ร่างของคาร์ลแข็งทื่อทันทีเมื่อสงสัยว่าอัลเบิร์กมีบางอย่างที่จะพูดกับตน

‘หรือเขาจะให้ฉันทำงานเพิ่ม?’

ความพอใจที่เขาสามารถมอบอาณาเขตกิลล์ให้อยู่ในกำมือขององค์ชายรัชทายาทเริ่มหายไปอย่างช้าๆ

เขาได้ยินเสียงของอัลเบิร์กดังขึ้น

[“ฝันดี”]

คลิ๊ก!

อัลเบิร์กตัดสัญญาณไปทันที

ก่อนที่สัญญาณจะหายไปคาร์ลเชื่อว่าอัลเบิร์กต้องทันได้เห็นใบหน้าเหยเกราวกับกินยาขมของเขาอย่างแน่นอน

‘..ต้องมีอะไรผิดปกติไปแน่ๆ’

คาร์ลผลักอุปกรณ์เวทย์สื่อสารออกห่างจากตัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เอ่ยบางอย่างกับราอนก่อนจะล้มตัวลงนอน

“ราอน”

“มีอะไรหรือมนุษย์?.แต่ว่าเจ้าต้องหลับฝันดีอย่างที่องค์ชายรัชทายาทบอกนะ!”

“ได้…ข้าแค่จะบอกเจ้าว่าช่วงนี้งดรับสายจากองค์ชายรัชทายาทไปก่อน”

“ตกลง!”

คาร์ลมองอุ้งเท้าเล็กๆของราอนที่ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของเขาก่อนจะตัดสินใจไม่ยอมรับการติดต่อใดๆจากองค์ชายรัชทายาทไปสักพักหนึ่ง

จากนั้นเขาก็เริ่มวางแผนอีกเรื่องหนึ่ง

‘ภายในสิ้นปีนี้ ไม่สิ? ภายในสิ้นปีหน้าฉันค่อยไปจัดการกับพันธมิตรทางตอนเหนือกับจักรวรรดิแล้วกัน ช่วงนี้ฉันขอตัวไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศก่อน’

คาร์ลวางแผนอย่างง่ายๆก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราทันที เด็กๆทั้งสามที่มีอายุเฉลี่ย 9 ขวบปล่อยให้คาร์ลนอนหลับตามลำพังในขณะที่เริ่มพูดคุยกันอย่างเงียบๆตรงมุมห้อง

“ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นทะเลทรายก็ตอนที่ไปอาณาจักรคาโรและตอนนี้เราจะได้เห็นมันอีกครั้ง!เราจะไปเที่ยวให้ทั่วเลย! ”

“ใช่ๆ..ข้าชอบเที่ยวมากเลย!”

ออนนั่งกินเค้กเงียบๆเมื่อฟังน้องๆทั้งสองพูดคุยกัน ราอนและฮงไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ได้เมื่อนึกถึงจุดหมายต่อไปของพวกมัน

“บ้านของเราก็ดีนะ..แต่การได้ท่องเที่ยวไปรอบๆเช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน!”

“ข้าเห็นด้วย!การไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้มันสนุกมากเลยล่ะ!”

“ใช่! ข้าอยากเห็นทวีปตะวันออกบ้างจัง! เอาไว้เราไปเที่ยวที่นั่นกันนะ! เราเก่งและยิ่งใหญ่กว่าใครๆดังนั้นเราต้องไปเที่ยวที่นั่นให้ได้!”

พวกเขากำลังพูดในสิ่งที่อาจทำให้คาร์ลหน้าซีดจนลมจับได้ ออนหันไปมองคาร์ลที่หลับอยู่บนเตียงก่อนจะส่ายหัวของตนเบาๆ อย่างไรก็ตามเธอยังคงปิดปากเงียบเพราะไม่ต้องการขัดความฝันของน้องๆและต้องการให้ความปรารถนาของน้องๆเป็นจริงเช่นกัน

ฮงและราอนเริ่มคุยถึงแผนการท่องเที่ยวไปรอบโลกในขณะที่ออนนั่งฟังเงียบๆเท่านั้น

แต่คืนนั้นกลับเป็นคาร์ลที่กำลังตกอยู่ในฝันร้าย

.

.

.

“นายน้อย..ทำไมสภาพท่านถึงเป็นเช่นนั้นขอรับ?”

“เมื่อคือข้าฝันร้าย”

ร่างของคาร์ลสะท้านขึ้นเล็กน้อยเมื่อนึกถึงความฝันของตนเอง ในฝันมีภาพที่คาร์ลกำลังเดินทางไปรอบโลกพร้อมกับผู้คนจำนวนมากที่มีลักษณะแปลกๆและดูเหมือนจะสร้างภาระให้กับเขาไม่น้อย พละกำลังแห่งดวงใจไม่สามารถรักษาอาการสะเทือนใจได้ทำให้สภาพของเขาดูซีดเซียวเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

“นายน้อยคาร์ล”

คนที่เพิ่งมาถึงเอ่ยเรียกคาร์ลอย่างระมัดระวังก่อนจ้องไปที่ใบหน้าซีดเซียวของคาร์ล

“เมืองหลวงของอาณาจักรพารันกำลังตกอยู่ในฝันร้าย”

คนผู้นี้คือบิลอสจากสมาคมการค้าฟลินน์ เขามองเห็นรอยยิ้มมุมปากของคาร์ลครู่หนึ่งก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว

เมืองบาโกซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรพารัน มันเป็นที่ตั้งของทะเลสาบน้ำตาพระเจ้า ทะเลสาบแห่งนี้ถูกเสาเพลิงขนาดใหญ่ลุกท่วมและชาวอาณาจักรพารันต่างเรียกสิ่งนี้ว่าความโกรธของพระเจ้าหรือเป็นสิ่งที่พระเจ้าปรารถนาให้มันเกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือได้รับความเสียหายจากไฟไหม้แต่ความหวาดกลัวและความหวาดระแวงกลับเติบโตขึ้นในใจของประชาชนอย่างรวดเร็ว

บิลอสมั่นใจเกินครึ่งว่ากลุ่มของคาร์ลมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

“ไฟยังไม่ดับอีกเหรอ?”

คำพูดของคาร์ลทำให้บิลอสมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็น

‘นายน้อยคาร์ลก่อเรื่องใหญ่อีกแล้วหรือเนี่ย!?’

“นายน้อยคาร์ลท่านคิดจะทำอะไรหรือขอรับ?!”

“เจ้าจะอยากรู้ไปทำไม?”

บิลอสเริ่มหงุดหงิดกับพฤติกรรมเช่นนี้ของคาร์ล

“ก็ทางเหนือกำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย..มันทั้งวุ่นวายและยุ่งเหยิงไปหมดเลยนะขอรับ!”

“ก็ดีแล้วนี่”

“กระผมอยากจะบ้าตาย!..เฮ้อ…..”

บิลอสอถอนหายใจต่อหน้าคาร์ลเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าคาร์ลเพิกเฉยต่อเขาและก้าวขึ้นรถม้าทันที

“บิลอส..เดินทางไปอาณาจักรคาโรได้แล้ว”

เขาต้องเดินทางไปยังบ้านประมูลเพื่อหาเหยื่อสักรายในการประมูลสินค้าที่ได้มาจากวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวัน เขาจะต้องได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากการประมูลในครั้งนี้

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท