ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family – ตอนที่ 190.1

ตอนที่ 190.1

บทที่ 190 เป้าหมายเล็กๆ 5 (1)

วันที่สองของการประมูลระดับวีไอพี บิลอสไม่สามารถห้ามความสงสัยของตัวเองไว้ได้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่

“เอ่อ..น..นายน้อย..วันนี้ท่านจะหยุดพักผ่อนหรือขอรับ?”

“ใช่”

กรุ๊บ!

“อึ้มม…ข้าอยากไปหาซื้ออะไรหน่อย”

คาร์ลเช็ดซอสที่เลอะมุมปากของตนก่อนจะคิดว่าช่วงนี้ตัวเองกินไก่เสียบไม้บ่อยจริงๆ จากนั้นเขาก็หยุดยืนที่หน้าร้านขายของเล่นแห่งหนึ่ง

“เมี้ยววว!!”

“มาเริ่มกันที่ร้านขายของเล่นนี่ล่ะ!”

ตอนนี้กลุ่มของคาร์ลอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเวกัส มันเป็นย่านการค้าขนาดใหญ่ที่เนืองแน่นไปด้วยร้านค้าต่างๆซึ่งนักท่องเที่ยวมักมาจับจ่ายใช้สอยที่ย่านแห่งนี้เป็นประจำ บิลอสหันไปมองฮิลส์แมนที่ยืนอยู่ด้านหลังคาร์ลพร้อมกับหิ้วกระเป๋าเวทย์ขนาดใหญ่ไว้ในมือ

‘คนแบบเขาไม่น่าจะมาทำอะไรแบบนี้ได้?’

รองหัวหน้าองครักษ์ฮิลส์แมนที่บิลอสรู้จักนั้นเป็นคนที่จริงจังในหน้าที่และมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์ให้ได้แต่ตอนนี้เขากำลังเดินตามหลังคาร์ลพร้อมกับหิ้วกระเป๋าเวทย์เพื่อใส่ของขวัญและของเล่นสำหรับแมวเด็ก

บิลอสไม่อยากจะเชื่อเลย

ฮิลส์แมนและบิลอสสบตาเข้าหากันพอดี บิลอสเห็นรอยยิ้มฝืดๆบนใบหน้าของฮิลส์แมนนั่นทำให้เขานึกถึงรอยยิ้มของลูกน้องที่กำลังโศกเศร้ากับการกระทำแปลกๆของหัวหน้าตน

คาร์ลไม่ทราบความในใจของทั้งสองเมื่อกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในร้านขายของเล่นซึ่งเป็นร้านแรกที่พวกเขาจะเลือกซื้อสินค้าในย่านนี้

มันเป็นวันที่สองที่มีการประมูลระดับวีไอพีซึ่งเขาไม่มีอะไรพิเศษต้องให้ทำ กระเป๋าเวทย์ที่เขาส่งให้หัวหน้าสมคมการค้าซิงเท็นมีจดหมายระบุเอาไว้แล้วว่าพวกเขาต้องทำสิ่งใดต่อไป คาร์ลจึงไม่มีเรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไป

‘แมรี่และทาช่าก็น่าจะติดตามเหล่าพ่อค้ากลุ่มนี้เช่นกัน’

และเขาก็ไม่ต้องการประมูลสินค้าในหัวข้อสัตว์อสูรอีกด้วย

หากไม่มีสัตว์อสูรให้นำมาประมูลแล้ว พวกเขาควรจัดประมูลอะไรอีก?

‘มนุษย์งั้นหรือ?..เพราะถึงอย่างไรมนุษย์ก็ถือเป็นเผ่าพันธุ์ที่โหดร้ายที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่แล้ว’

พวกเขาอาจนำอาวุธและของใช้ต่างๆที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของสัตว์อสูรที่มีชื่อเสียงมาประมูลในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่นำมาประมูลส่วนใหญ่เป็นซากของสัตว์อสูรที่มีรูปลักษณ์สวยงามหรือไม่ก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ยกตัวอย่างเช่นหนังสีขาวบริสุทธิ์ของสิงโตขาว อุปกรณ์ที่ทำมาจากขนสีน้ำเงินของวาฬและอื่นๆอีกมากมาย

เขาเองก็ไม่คิดที่จะพาเด็กๆจากเผ่าแมวไปประมูลแบบนั้นเช่นกัน

คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วเมื่อกำลังจะผลักประตูให้เปิดออก ทันใดนั้นเอง

ตุ๊บ!

อุ้งเท้าของแมวตะปบเข้าไปที่หลังมือของเขาอย่างแรง มันทำให้เขารู้สึกเจ็บเล็กน้อย

“เมี้ยว!!”

มันเป็นฝีมือของออน

‘..ทำไมมันทำแบบนี้ล่ะ?’

ออนไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ความจริงที่ว่ามันเป็นออนไม่ใช่ฮงทำให้คาร์ลรู้สึกสับสน

จากนั้นเขาก็เริ่มสังเกตเห็นสายตาแปลกๆที่ออนจ้องมาที่เขา เขารู้สึกว่ามันจ้องเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและเห็นใจ คาร์ลรู้สึกแปลกๆกับสายตาของเด็กวัยสิบสองที่จ้องมาที่ตนทำให้เขาเหลียวไปมองฮงแทน ฮงดูเหมือนกำลังมีความสุขเมื่อหางมันแกว่งไปมาและหูก็ตั้งขึ้นพร้อมกับกวาดสายตาไปมองด้านนอกร้านขายของเล่น เสียงของราอนดังเข้ามาในหัวของเขาทันที

~มนุษย์!? มัวรออะไรอยู่ล่ะ? เจ้าอยากได้อะไรก็รีบๆเข้าไปซื้อสิ!~

คาร์ลชะงักทันที

‘ฉันอยากเข้าไปซื้ออะไรงั้นรึ?’

เหมือนจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่! คาร์ลกำลังจะเข้าไปซื้อของเล่นให้เด็กๆซึ่งมีอายุเฉลี่ยเก้าปีแต่ด้วยสาเหตุอะไรบางอย่างทำให้ราอนคิดว่าเขากำลังจะไปซื้อของเล่นให้ตัวเอง

แรงที่จะผลักประตูร้านให้เปิดกว้างหายไปในทันที

~หืม?..มนุษย์!? เจ้าไม่อยากได้ของเล่นแล้วเหรอ? รีบเข้าไปข้างในสิ! ข้าว่าจะออกไปเดินดูรอบๆสักหน่อย! เจ้าก็รีบไปซื้อเข้า! เร็วๆด้วยล่ะ!~

‘อยากจะบ้าตาย’

คาร์ลหันกลับไปมองออนทันที มันจึงใช้อุ้งเท้าของมันชี้ไปทางอื่น

“…อย่างที่คิดไว้จริงๆ”

เด็กๆพวกนี้โหดกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เขามองเห็นตรอกเล็กๆที่เต็มไปด้วยร้านขายอาวุธและอุปกรณ์เวทย์ชนิดต่างๆตรงจุดที่ออนชี้ให้เขาดู

คาร์ลตระหนักได้ถึงความผิดพลาดของตัวเอง เขาสอนเด็กๆผิดไปหรือเปล่านะ?

ในขณะเดียวกันเขาก็นึกถึงกลุ่มคนที่อยู่รอบๆตัวเขา รวมไปถึงลิลลี่น้องสาววัยเก้าขวบของเขาด้วย เด็กๆที่อยู่รอบตัวเขาต่างต้องการอาวุธมากกว่าของเล่น แม้แต่เด็กๆจากเผ่าเสือและเผ่าหมาป่าก็เป็นเช่นเดียวกัน

“…ให้ตายเถอะ!”

โลกแฟนตาซีช่างเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ!

คาร์ลก้าวเท้าออกจากร้านขายของเล่นทันที

“นายน้อย?!”

บิลอสร้องเรียกคาร์ลที่จู่ๆก็เดินหนีไปทางอื่นอย่างรวดเร็วแต่คาร์ลไม่สนใจที่จะตอบอะไรเขาเมื่อมุ่งหน้าไปยังตรอกเล็กๆทันที ฮิลส์แมนก็รีบเดินตามหลังคาร์ลไปด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายกว่าเดิมเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามบิลอสไม่สามารถเก็บอาการของตนได้เมื่อใบหน้าของเขาเริ่มซีดลงเรื่อยๆหลังจากที่เข้ามาในร้านขายอาวุธ สายตาของเขามองตามนิ้วที่ขยับอย่างรวดเร็วของคาร์ล

“อันนี้..นี่..นี่ด้วย..แล้วก็นั่นด้วย..อ้อ!นี่ด้วย!”

คาร์ลชี้ไปที่ดาบหลากหลายประเภท เขาแค่เลือกชี้ตามสิ่งที่ราอนบอกให้เขาเลือก

“ข..ขอรับ?”

เจ้าของร้านขายอาวุธอ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นคาร์ลเลือกอาวุธได้อย่างรวดเร็ว อาวุธบางชิ้นที่คาร์ลเลือกนั้นเป็นมีดสั้นคุณภาพสูงและยังมีดาบที่อัดแน่นไปด้วยพลังเวทย์เวทย์แห่งไฟอีกด้วย เขาสามารถเลือกสินค้าที่มีคุณภาพสูงที่สุดจากทางร้านไปได้โดยไม่มีแม้แต่ความลังเล

คาร์ลขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นปฏิกิริยาดังกล่าวจากเจ้าของร้าน ดังนั้นเขาจึงชี้ไปยังอาวุธต่างๆอีกครั้งด้วยวิธีที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น

“ตั้งแต่ตรงนี้จนถึงตรงนั้น”

“ข..ขอรับ?”

“ข้าเอาหมดนี่เลย”

“ห๊ะ?!”

เจ้าของร้านอ้าปากค้างอีกครั้ง

หนึ่งในลูกค้ารายแรกของวันนี้เป็นขุนนาง

เจ้าของร้านมองไปที่คาร์ลก่อนกวาดเอาอาวุธทั้งหมดลงตะกร้าและมุ่งหน้าไปยังโต๊ะคิดเงินอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าคาร์ลส่งสัญญาณให้เขารีบไปคิดเงินได้แล้ว

บิลอสเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าเขาไม่มีทางรู้ว่ามันเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น

~มนุษย์!? ข้าอยากไปร้านขายอุปกรณ์เวทย์!~

‘ให้ตายเถอะ!’

คาร์ลพยายามไม่แสดงอาการหงุดหงิดออกมาเมื่อมุ่งหน้าไปยังร้านขายอุปกรณ์เวทย์เป็นร้านต่อไป เจ้าของร้านขายอาวุธที่มองตามหลังคาร์ลไปนั้นรู้สึกราวกับว่าออร่าสีทองจับไปทั่วร่างของคาร์ลแต่สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของคาร์ลนั้นคือเสียงของราอน

~น่าเสียดายจริงๆทั้งๆที่โรสลินและแมรี่อยากได้มันแท้ๆ!~

‘ให้ตายเถอะ’

คาร์ลรู้ได้ทันทีว่าเด็กๆเหล่านี้โตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมเช่นไร ตลอดสองปีที่ผ่านมาเด็กๆมีโอกาสได้เห็นของแพงๆมาโดยตลอดและเขานี่ล่ะที่เป็นคนสอนให้พวกมันรู้จักประหยัดและใช้เงินเบี้ยเลี้ยงของตัวเองให้เป็นประโยชน์เท่านั้น

คาร์ลหยุดยืนหน้าอุปกรณ์เวทย์ที่ราอนบอกว่าเสียดายทันที

~เอ่อ…มนุษย์?! ข้าว่าห้าเหรียญทองมันแพงเกินไป..เจ้าไม่ต้องซื้อให้ข้าก็ได้..เราไปซื้อชิ้นอื่นที่มันถูกกว่านี้ดีกว่า~

“หืม?”

คาร์ลเลิกคิ้วสูงเมื่อได้ยินความเห็นของราอน จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังอุปกรณ์เวทย์ชิ้นดังกล่าว

“เอาชิ้นนี้ให้ข้าที”

~มนุษย์! ห้าเหรียญทองซื้อพายแอปเปิ้ลได้หลายชิ้นเลยนะ! ข้าไม่มีมันก็ได้! ข้าไม่อยากได้มันแล้ว!~

ราอนพยายามหยุดเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เมี้ยววว!”

ออนและฮงก็ตะปบมาที่แขนของคาร์ลเพื่อหยุดเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่คิดที่จะหยุดและยังซื้อเพิ่มอีกด้วย

“อ้อ! ข้าเอาสามชิ้นนะ”

ราอนเริ่มตะโกนด้วยความตกใจ

~มนุษย์! ทำไมเจ้าถึงซื้อสามชิ้นเลยล่ะ?! เอาให้แมรี่กับโรสลินด้วยเหรอ? ปัญหาของเจ้าคือการเป็นคนดีเกินไป..เจ้าเห็นแก่มิตรภาพมากเกินไป! นี่คือเหตุผลที่ข้าต้องอยู่ข้างๆเจ้าเพื่อคอยดูแลเจ้าอย่างใกล้ชิด!~

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ Trash of the Count’s Family

Status: Ongoing

เมื่อผมลืมตาตื่นก็พบว่าตัวเองอยู่ในนิยาย (กำเนิดวีรบุรุษ) (กำเนิดวีรบุรษ)เป็นนวนิยายที่เน้นเรื่องการผจญภัยของพระเอกและผองเพื่อน เชว ฮัน เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ถูกส่งไปยังมิติที่ต่างออกไปจากโลกพร้อมกับบททดสอบการเป็นวีรบุรุษหลากหลายรูปแบบ ภายในดินแดนตะวันตกและดินแดนตะวันออก ผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นพระเอกที่ชื่อ เชว ฮัน แต่เป็นเพียงตัวขยะไร้ค่าของครอบครัวท่านเคานต์ซึ่งเป็นครอบครัวขุนนางที่ดูแลพื้นที่ของหมู่บ้านแห่งแรกที่ เชว ฮัน ย่างกรายไปถึงเพื่อเริ่มต้นบททดสอบการเป็นวีรบุรุษ ปัญหาคือก่อนที่ เชว ฮัน จะมาเยือนนั้นหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ถูกคนจากองค์กรลับลอบสังหาร คนที่เขารักล้วนตายเกือบทั้งหมด ทำให้ เชวฮัน มีความโกรธแค้นและอาฆาต เขาพร้อมที่จะฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตายตกตามกันไป ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือขยะโง่เง่าเช่น คาร์ล เฮนิตัส คนที่ผมครอบครองร่างอยู่ กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าไปหาเรื่อง เชว ฮัน ก่อนที่จะถูกพระเอกของเรื่องทำร้ายร่างกายในที่สุด “… นี่มันเป็นปัญหาแล้ว” ผมรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ตลกเลยสักนิด มันเป็นเรื่องที่โคตรจะจริงจังเลย ผมไม่อยากโดนอัดจนเละ ! แต่มันก็น่าจะพยายามลองดูกับชีวิตใหม่ที่ได้เป็นนี้สักตั้งล่ะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท