บทที่ 216 พลิกกลับ 2 (1)
เชวฮันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับนกบินและนกตัวนี้มีเป้าหมายที่จะจับเหยื่อให้อยู่หมัด เพียงครู่เดียวเท้าของเขาก็แตะลงสู่พื้นดินอย่างมั่นคง
“ในที่สุดข้าก็เจอตัวเจ้า! เจ้าขยะโสโครก!”
หมีสีน้ำตาลที่อยู่ด้านหน้าของกองทัพเรือไม่ได้ตกใจเมื่อเห็นเชวฮัน อันที่จริงแล้วเขากำลังตะโกนราวกับรอคอยที่จะเจอเชวฮันอยู่
“ออร่าของเจ้าคิดว่าจะทำลายเรือลำนี้ได้งั้นรึ?”
มีเหตุผลที่ทำให้หมีสีน้ำตาลมั่นใจ
นักล่ามังกรเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาจากอาณาเขตเฮนิตัส จากข้อความที่เขาส่งมาแจ้งแก่ส่วนกลางก่อนที่กองทัพเรือจะเข้าทำศึกกับอาณาจักรโรมัน ออร่าของปรมาจารย์ดาบผู้นี้ไม่สามารถขยายยาวได้เกิน 2 เมตร นั่นคือสาเหตุที่ออร่าของเขาจะไม่สามารถตัดผ่านจนทำลายเรือลำนี้ได้เพราะมันมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่ออร่าของเขาจะต่อกรได้
เรือยังไม่หยุดแล่นตราบใดที่ล้อยังคงหมุนอย่างบ้าคลั่ง
“ข้าจะฆ่าเจ้าเฮนิตัสผู้นั้น! มันทำให้เพื่อนสนิทของข้าต้องตาย!!”
เรือที่กำลังมุ่งหน้ามายังหอคอยทางฝั่งอาณาจักรโรมัน ส่วนใหญ่เป็นหมีสีน้ำตาล พวกเขามาจากเผ่าเดียวกับหมีที่บุกโจมตีอาณาเขตเฮนิตัส เส้นเลือดขนาดใหญ่เริ่มปรากฏให้เห็นบนร่างกำยำของพวกเขา
คนหนึ่งปักหลักรออยู่ที่พื้นดินขณะที่อีกคนกำลังกระโดดลงจากเรือ
หมีสีน้ำตาลผู้เป็นหัวหน้าสบตาเข้ากับเชวฮันทันทีที่เท้าแตะพื้นดิน มันมองเห็นว่าเชวฮันกำลังพึมพำบางอย่าง มันเผลออ่านปากของเชวฮันโดยไม่รู้ตัวตลกชะมัด
ตลกงั้นรึ?”
หมีสีน้ำตาลกระโจนกลับขึ้นไปบนเรืออีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ไปทั่วแผ่นหลัง
เป็นจังหวะเดียวกับที่เชวฮันเริ่มตวัดดาบของตนเป็นแนวนอน ดาบของเขาแม้จะเคลื่อนไหวช้าแต่ก็มีกำลังหนักแน่นพอสมควร ออร่าจากดาบพุ่งตัวไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว
“ห..หลบ!!”
หมีสีน้ำตาลตะโกนออกมาโดยอัตโนมัติ
2 เมตร
ออร่าสีดำไม่ควรมีความยาวเกิน 2 เมตร!
ยังไม่พอแค่นั้นเมื่อออร่าสีดำกลายเป็นหอกทันทีที่เชวฮันเริ่มสะบัดมือตาม มันเป็นหอกที่พุ่งทะยานออกมาราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด
ออร่าสีดำที่ออกมาจากปลายนิ้วของเชวฮันนั้นยาวมากราวกับกำลังหัวเราะเยาะให้กับความเห็นที่ว่าออร่าของเขามีความยาวไม่เกิน 2 เมตร จากนั้นมันก็ทะลุผ่านเรือไปอย่างรวดเร็ว
ตึ่งงงงงงงงงงงงง!!!!
เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วพื้นที่ การโจมตีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“บ้าเอ้ย!”
หมีสีน้ำตาลกระโดดลงมาบนพื้นอีกครั้งก่อนจะหันกลับไปมองด้านหลังของตนด้วยสีหน้าตก
ออร่าทะลุผ่านเรือ
เรื่อถูกทะลุผ่านตรงกลางและถูกแยกออกเป็นสองส่วน เผ่าคนแคระไฟได้ออกแบบเรือลำนี้ให้สามารถต้านพลังเวทย์ในระดับเฉลี่ยได้แต่เรือลำนี้กลับถูกทำลายจากแรงปะทะเพียงครั้งเดียว!
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น มันยังทำลายเรืออีกสองลำที่อยู่ทางด้านหลังอีกด้วย
“น..นี่มันอะไรกัน”
ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วสนามรบอยู่ครู่หนึ่ง
หมีสีน้ำตาลค่อยๆหันหน้ากลับมาอีกครั้ง
“สักพักหนึ่งแล้วสินะ”
มันมองเห็นปรมาจารย์ดาบผมสีดำอยู่ตรงหน้า
“นี่ก็ผ่านมาได้สักพักแล้วที่ข้าได้ปล่อยพลังของตัวเองออกมาเช่นนี้”
สายตาของเชวฮันจ้องเขม็งไปที่หมีสีน้ำตาล
นั่นทำให้หมีสีน้ำตาลสะดุ้งโหยงทันที
“ข..ข้าข้าได้ยินมาว่าออร่าของเจ้ามีความยาวไม่เกิน 2 เมตร!”
นักล่ามังกรไม่ได้โกหกแต่มันก็มีอีกหลายวิธีที่ทำให้ความยาวแต่ละเมตรขยายเพิ่มได้
อาจมีของหลายอย่างที่มีความยาวเพียงแค่หนึ่งเมตรจริงๆแต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ปกติมีความยาวเกือบสิบเมตรแต่ถูกบีบอัดให้เหลือเพียงแค่หนึ่งเมตร การที่จะเป็นหนึ่งเมตรสำหรับสองวิธีนี้ย่อมเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน
พันธมิตรไร้พ่ายได้รับข้อมูลเท็จเพราะนักล่ามังกรให้ความสำคัญกับการรักษาอาการบาดเจ็บของตนมากกว่าที่จะรายงานข้อมูลทั้งหมดตามความเป็นจริง ยิ่งนักล่ามังกรถูกคาร์ลจับกุมตัวไว้ได้แล้วโอกาสที่พันธมิตรไร้พ่ายจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องยิ่งน้อยลงไปอีกตลกชะมัด
คำพูดของปรมาจารย์ดาบก้องเข้ามาในหัวของหมีสีน้ำตาลอีกครั้ง
เชวฮันคิดว่าการกระทำของหมีสีน้ำตาลเป็นเรื่องตลกโดยแท้จริง
ทำไมศัตรูถึงเลือกต่อสู้เพราะแก้แค้น? เผ่าหมีส่วนใหญ่ในอาณาเขตเฮนิตัสถูกนักล่ามังกรฆ่าตายทั้งนั้นเพราะแรงระเบิดจากการทำลายไวย์เวิร์น
เหตุใดฝ่ายโจมตีจึงเลือกที่จะโทษฝ่ายปกป้อง?
ฝ่ายปกป้องเช่นพวกเขาสมควรตายอย่างที่ศัตรูต้องการอย่างนั้นหรือ?
สงครามก็เปรียบเหมือนเขตโคลนสกปรกที่บางพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคนตายและบางพื้นที่ก็เต็มไปด้วยผู้รอดชีวิต เชวฮันไม่ต้องการแสดงความสงสารหรือเห็นใจในสนามรบ
ต้องปกป้องคนอื่นๆและครอบครัวของข้า!
เชวฮันต้องการทำสิ่งนี้แม้ว่ามันจะหมายความว่าตัวเขาเองจะเข้าไปคลุกในโคลนสกปรกด้วยก็ตาม
ครืนนนนนนนน!!
ออร่าสีดำพุ่งออกจากดาบของเชวฮันอีกครั้งราวกับมันกำลังตอบสนองต่อความคิดของเขาอยู่ออร่าสีดำของเขาอยู่ห่างจากความมืดมิดโดยสมบูรณ์เพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น ออร่าที่พุ่งออกจากปลายดาบทะยานไปหาศัตรูอย่างรวดเร็ว
เชวฮันกระทุ้งเท้ากับพื้นดินเพื่อยันร่างของตนไปข้างหน้า
คำสั่งของคาร์ลยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังมีอีกหลายอย่างที่เชวฮันจะต้องทำลายให้สิ้นซาก
กลุ่มคนที่อยู่ด้านบนสุดของกำแพงปราสาทไม่สามารถพูดอะไรออกเมื่อพากันจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของเชวฮัน
นักเวทย์ของอาณาจักรคาโรซึ่งอยู่บนยอดหอคอยทางทิศใต้ถึงกับหาเสียงของตัวเองไม่เจอเมื่อเห็นฝีมือของเชวฮัน
“ปรมาจารย์ดาบผู้นี้ถือเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเลยหรือไม่?
ความแข็งแกร่งของเชวฮันทำให้มือของนักเวทย์เริ่มสั่นคลอน เธอหันไปมองยังทิศที่หอคอยกลางและหอคอยทิศเหนือตั้งอยู่ อย่างไรก็ตามสายตาของเธอพยายามเพ่งไปที่หอคอยทิศเหนือเป็นพิเศษเนื่องจากมันเป็นหอคอยที่ปรมาจารย์ดาบฮเต็นประจำการอยู่
หอคอยทิศเหนืออยู่ไกลเกินไป เธอจึงไม่สามารถมองเห็นเขาได้ถนัดแต่เธอรู้สึกได้ว่าพวกเขาก็ตกใจเช่นกัน
ทันใดนั้นเอง
“รีบเชื่อมต่อสัญญาณเถิด”
เสียงของผู้บัญชาการคาร์ลลอดเข้ามาในหูของเธอ ในที่สุดเธอก็เรียกสติของตัวเองกลับมาได้และก้มมองอุปกรณ์เวทย์สื่อสารที่อยู่ในมือของตนทันที
ปี๊บบบบบ!! ปี๊บบบบบ!
มันเป็นสายด่วนจากองค์ชายรัชทายาทวาเลนติโน่ เธอรีบเชื่อมต่อสัญญาณโดยเร็วก่อนจะกวาดสายตาไปมองกลุ่มคนที่มาจากอาณาจักรโรมัน
ดูเหมือนพวกเขาจะคุ้นเคยกับฉากนี้เป็นอย่างดี นั่นทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้าข้อมูลที่อาณาจักรโรมันสามารถเอาชนะข้าศึกในอาณาจักรของพวกเขาเอ่อเข้ามาในหัวของเธออย่างรวดเร็ว
“มันคือเรื่องจริง..ถ้าเช่นนั้นเราก็จะสามารถ !!
มือของเธอเริ่มสั่นด้วยเหตุผลอื่นซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่หน้าจอบนอุปกรณ์เวทย์สื่อสารปรากฏใบหน้าของคนผู้หนึ่ง
[“ผู้บัญชาการ”]
แน่นอนว่ามันเป็นใบหน้าขององค์ชายวาเลนติโน่ ใบหน้าอันสับสนราวกับไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีปรากฏเด่นชัดบนหน้าจอเวทย์
“พระองค์ทอดพระเนตรเห็นแล้วใช่มั้ยพะยะค่ะ”
วาเลนติโน่มองเห็นมัน
เขาเห็นมันได้อย่างชัดเจน
เขารู้สึกว่าปากตัวเองหนักอึ้งเมื่อเริ่มเอ่ยบางอย่างออกไป
“แม้แต่ดยุคฮเด็นก็ยังบอกว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะใช้ออร่าทะลุผ่านแบบนั้นได้ เขาบอกว่าปรมาจารย์ดาบส่วนใหญ่มีความยาวของออร่าประมาณ 3 เมตร)
“เขาไม่ใช่ปรมาจารย์ดาบทั่วๆไปพะยะค่ะ”
วาเลนติโน่รู้สึกถึงน้ำหนักของสงครามหลังจากมองไปที่คาร์ล
“แต่เขาคือวีรบุรุษ”
เสียงของคาร์ลเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“พระองค์ไม่ต้องกังวลพระทัยพะยะค่ะ”
วาเลนติโน่ยิ้มเยาะตนเองเมื่อเห็นว่าตัวเองตกใจจนเกิดเหตุจนต้องรีบติดต่อมายังหอคอยทางใต้ด้วยความกังวลก่อนจะตอบกลับไป
“ผบ.คาร์ล.ข้าอนุญาตให้เจ้าจัดการได้อย่างเต็มที่
ท้ายที่สุดวาเลนติโน่ก็สบตาเข้ากับคาร์ล
“กระหม่อมจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวังพะยะค่ะ”
วาเลนติโน่หัวเราะเบาๆก่อนจะวางสายไปทันที นักเวทย์ทางฝั่งคาร์ลก็จัดการวางสายตามหลังองค์ชายวาเลนติโน่ไปติดๆก่อนจะหันกลับไปมองคาร์ลอีกครั้ง
ผู้บัญชาการคาร์ลเริ่มพูดกับทุกคนที่ประจำการอยู่บนหอคอยทิศใต้
“เราจะยื้อเวลาให้ได้นานที่สุดจนกว่าคนของเราจะตามมาสบทบจนครบทุกคน”
“ครบทุกคน?
นักเวทย์รู้สึกสับสนกับคำกล่าวของคาร์ลแต่เขาก็ไม่ปล่อยให้เธอมีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
“อัศวินจะทำหน้าที่คุ้มกันนักเวทย์จากการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ส่วนกองกำลังนักเวทย์”
คาร์ลยกมือขึ้นทันที
“เชือก”
นักเวทย์ประจำอาณาจักรคาโรค์ตัวลงเมื่อจู่ๆพลังเวทย์ก็เริ่มหลั่งไหลออกมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยมันเป็นพลังที่น่าตกใจยิ่งนัก!
พรึ่บ!!พรึ่บ!!พรึ่บ!!พรึ่บ!!
เสื้อคลุมสีดำของสมาชิกในกองกำลังนักเวทย์พัดกระพืออย่างดุเดือด สร้อยคอที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุมของพวกเขาก็เริ่มเปล่งแสงขึ้น
“ นั่นมัน..ห.หินมนตราระดับสูง!”
หินมนตราที่มีคุณภาพระดับสูงสุด
สร้อยคอแต่ละเส้นประดับด้วยหินมนตราและอัญมณีเวทย์สองชิ้นซึ่งอัดแน่นไปด้วยพลังเวทย์ระดับสูง
ครืนนนนนนนนนน!!!ครืนนนนนนนนนน!!!
การเคลื่อนไหวโดยฉับพลันของพลังเวทย์จำนวนมากสร้างการสั่นสะเทือนไปทั่วอากาศนักเวทย์ของอาณาจักรคาโรไม่เคยรู้สึกถึงพลังเวทย์ที่มีจำนวนมากขนาดนี้มาก่อน
ในตอนนั้นเองที่คาร์ลส่งบางอย่างให้กับเธอ
“นี่ของเจ้า”
“เจ้าคะ?”
เธอรับสร้อยคอที่คาร์ลอื่นส่งให้ด้วยความงุนงงแต่ก็รีบสวมมันไปที่คอของตนทันที
ครีนนนนนน!!
สร้อยคอที่เธอสวมไปเมื่อครู่เริ่มตอบสนองต่อพลังเวทย์ที่สั่นสะเทือนอยู่รอบๆตัวเธอ มันเป็นสร้อยคอที่ทำมาจากหินมนตราระดับสูงสุด เธอหันไปมองผู้บัญชาการทหารผู้เป็นตัวแทนของอาณาจักรโรมันด้วยสายตาอึ้งๆ เขาเริ่มเอ่ยบางอย่างกับกองกำลังนักเวทย์รวมถึงตัวเธอด้วยเช่นกัน
“โจมตี!”
มือของคาร์ลลดระดับลงและมันถูกชี้ไปยังศัตรู
กรรจ์แกรรจ์แกรรจ์!!
เสียงคำรามของสัตว์ป่าขนาดใหญ่เริ่มดังขึ้นจากทางด้านล่างของหอคอยทิศใต้ รองหัวหน้าประจำกองกำลังนักเวทย์เริ่มตะโกนออกคำสั่ง
“ลูกแก้วพลังเวทย์ทั้งห้า!”
พลังเวทย์เริ่มก่อตัวล้อมรอบมือของสมาชิกในกองกำลังนักเวทย์ นั่นทำให้นักเวทย์จากอาณาจักรคาโรยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าพวกเขาสามารถรวมพลังกันได้อย่างไร
“นี่พวกเขาฝึกฝนมานานเท่าไหร่แล้ว”
การที่นักเวทย์หลายๆคนสามารถมารวมพลังกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด มันจะสามารถเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อทุกคนในกลุ่มต้องฝึกซ้อมกันทั้งวันทั้งคืนตลอดระยะเวลาหนึ่งปี
มีเหตุผลที่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น
นักเวทย์ของอาณาจักรคาโรจับสร้อยคอที่ทำจากหินมนตราไว้แน่น อาณาจักรโรมันสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น พวกเขาเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรองรับสงครามที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
ความแข็งแกร่งของนักเวทย์และจำนวนหินมนตราระดับสูงสุดย่อมเป็นข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้ได้
“โจมตี!”
เมื่อคำสั่งของรองหัวหน้านักเวทย์สิ้นสุดลง ลูกแก้วพลังเวทย์ทั้งห้าก็รวมตัวกันเป็นลูกเวทย์ขนาดใหญ่ก่อนจะพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
บั้งงงงงงงงง!! บูมมมม!!
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง
ในขณะที่พันธมิตรทางฝั่งคาร์ลกำลังพากันตื่นเต้นในสิ่งที่เกิดขึ้น ในใจของคาร์ลกำลังคิดบางอย่างอยู่
“นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าทำไมหินมนตราพวกนี้ถึงมีราคาแพง
หินมนตราระดับสูงสุดจำนวนหนึ่งถูกคาร์ลขายให้กับกับองค์ชายรัชทายาทอัลเบิร์กและหินมนตราเหล่านี้ก็ถูกส่งต่อให้กับกองกำลังนักเวทย์
“อ่า..มันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย”
ความเครียดจากสงครามเริ่มผ่อนคลายลงเมื่อนึกถึงจำนวนเงินที่เขาได้รับ อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยเช่นเดิม
“มันมีบางอย่างแปลกๆ
คาร์ลนึกถึงสิ่งที่อัศวินผู้พิทักษ์โคลเปย์ได้บอกเอาไว้
“ท่านคาร์ล.พันธมิตรไร้พ่ายจะต้องวางแผนทำอะไรอยู่แน่ๆเพราะฝ่ายเราชนะศึกมาสองครั้งติดแล้วหากพวกเขาแพ้ศึกในครั้งนี้อีกครั้ง.ศึกครั้งสุดท้ายก็จะยังคงเกิดขึ้น”
ศึกครั้งสุดท้ายย่อมหมายถึงการต่อสู้ที่หุบเขาแห่งความตาย นั่นคือสาเหตุที่คาร์ลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เจ้ามนุษย์! คนพวกนั้นไม่เห็นจะแข็งแกร่งเลยสักนิด! มีแค่เผ่าหมีเท่านั้นที่แข็งแกร่งแต่ถ้าข้ากระพือปีกเพียงครั้งเดียวพวกเขาก็จะกระเด็นไปไกลเช่นกัน!
“ใช่”
ศัตรูอ่อนแอจนน่าประหลาดใจ
บั้งงงงงงง!
คาร์ลหันศีรษะไปมองตามเสียงที่เกิดขึ้น