1 เดือนต่อมา
เดเมียนที่ฝึกฝนอย่างหนักและขยันขันแข็งและไม่เพียงสามารถก้าวไปสู่ระดับ 3 ได้เท่านั้น แต่เดเมียนยังคงฝึกฝนเทคนิคและทักษะต่างๆ ที่เขามีให้ชำนาญมากขึ้น
ตอนนี้เดเมียนสามารถที่จะดึงศักยภาพของเทคนิคเงาต่างๆ ได้ถึง 50% สามารถใช้งานทักษะต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและควบคุมได้ง่ายขึ้น
เดเมียนไม่เสียเวลาเลย และเพื่อนๆ ของเขาทุกคนก็ได้เห็นว่าเดเมียนนั้นฝึกฝนอย่างขันแข็งและหนักหนามาก เดเมียนจะหยุดฝึกก็ต่อเมื่อถึงเวลากินและนอนเท่านั้น เมื่อเขามีเวลาว่างเดเมียนจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปที่การฝึกฝน
ภายในเดือนเดียว ความสูงของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและร่างกายก็กระชับขึ้นและมีผมที่ยาวขึ้น เมื่อตื่นขึ้นเดเมียนจะตรงไปที่ศูนย์ฝึกทันที
ระหว่างที่กำลังจะไปศูนย์ฝึก ผู้ช่วยของโรงเรียนก็ได้มาหาเดเมียน ผู้ช่วยของโรงเรียนก็คือพวกนักเรียนชั้นในที่ได้รับหน้าที่ในการช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ของสถาบันและจะมีค่าตอบแทนให้
ภายใต้คำสั่งของรุ่นพี่และผู้อาวุโส และเป็นวิธีที่ให้เด็กนักเรียนที่มีความสามารถน้อยได้มีงานทำ
“คุณได้รับแจ้งถึงการต่อสู้ของคุณ และคุณในฐานะตัวแทนของเหล่าผู้อาศัยในที่พักสีขาว คำท้าทายในการต่อสู้ของคุณคือวันนี้”
ผู้ช่วยสถาบันการศึกษาประกาศ
“และจากเงื่อนไขของคุณ คุณจะต้องต่อสู้กับนักเรียนที่เข้ามาท้าทายโดยห่างจะห่างจากคุณเพียง บวกลบ 1 ปี”
ผู้ช่วยบอกเขา
เดเมียนลืมเรื่องนี้ไปสนิท จากวันแรกที่เขาได้เลือกที่พัก เขาได้รับการท้าทายเนื่องจากพื่นที่ที่เขาอาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านพักที่ใหญ่และหรูหราที่สุด
แม้ว่ามันจะมีขนาดปานกลางและมีสนามหลังบ้านเล็กๆ แต่เมื่อเทียบกับบ้านพักสีขาวหลังอื่นๆ บ้านพักของพวกเดเมียนนั้นใหญ่และหรูที่สุด
มีนักเรียนหลายคนที่ท้าทายการต่อสู้กับเดเมียนผ่านศูนย์ฝึกและศูนย์ฝึกก็ได้กรองคนที่เดเมียนจะต้องสู้ด้วย มีทั้งหมด 3 คน
หลังจากเดเมียนสู้ครบ 3 ครั้ง เดเมียนก็ไม่ต้องสู้ต่อไปอีก 1 เดือน เพราะเดเมียนสามารถปฏิเสธการท้าทายได้หลังจากต่อสู้ครบข้อจำกัด
ในแต่ละเดือนเดเมียนจะต้องต่อสู้กับเด็กคนอื่นๆ อย่างน้อย 3 คน เพื่อรักษาบ้านพัก และเดเมียนสามารถปฏิเสธเลือกคู่ต่อสู้ได้ จาก 3 คน หากเดเมียนตไม่ต้องการสู้กับ 1 ใน 3 คน เขาสามารถเอาคนอื่นมาแทนคนคนนั้นได้
อย่างไรก็ตามเดเมียนก็มั่นใจในความสามารถและความแข็งแกร่งของเขาและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับใครก็ตามที่ต้องการต่อสู้กับเขา
เดเมียนยังไม่พบใครที่ดูท่าทางแข็งแกร่งมากๆ ในสถาบันนี้นอกจากดาร์เรนเท่านั้น ในส่วนของแลร์รี่หากต่อสู้แบบตัวต่อตัวเดเมียนก็สามารถเอาชนะได้ไม่อยาก
เดเมียนสังเกตว่า สถาบันอเคเกรียในเมืองอาเรียนั้นเล็กที่สุดและอ่อนแอที่สุดในบรรดาสาขาต่างๆ ของสถาบัน ด้วยเหตนี้เดเมียนจึงไม่ค่อยพบคนที่แข็งแกร่งมากนัก
“นำทางไป”
เดเมียนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่ผู้ช่วยสถาบันได้เริ่มเดินนำไป
คำท้าทายที่เป็นทางการ จะต่อสู้ในลานประลอง และคนอื่นๆ สามารถเข้ามาร่วมชมได้ โคล มาทิลด้า จูเลีย และไมโลต่างมานั่งดูการต่อสู้นี้ด้วย ในขณะที่เดเมียนกำลังเดินขึ้นเวทีพร้อมกับผู้ช่วยของสถาบัน
ผู้ช่วยสถาบันอยู่ในระดับ 6 และจะดูลการต่อสู้ในฐานะผู้ตัดสินและเขาจะตัดสินอย่างเป็นธรรมตามกฏของสถาบัน
และผู้ช่วยสถาบันต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการต่อสู้นี้จะไม่ทำลายกันและจนถึงตายหรือทำลายการบ่มเพาะ
โคล มาทิลด้า จูเลีย และไมโล ต่างก็อยู่บ้านพักนี้ร่วมกับเดเมียน แต่ในฐานะผูนำของบ้าน เดเมียนจึงต้องเป็นคนที่เข้าร่วมการต่อสู้กับคำท้าทายต่างๆ
“คุณมีคำท้าทายจาก 3 คน และคุณจะต่อสู้วันละ 1 คน และสามารถเลือกได้ว่าคุณจะต่อสู้กับใครก่อนเป็นคนแรก”
ผู้ช่วยของสถาบันการศึกษากล่าว
มีนักเรียน 3 คน ยืนอยู่ที่ขอบของเวทีลานประลอง และมองดูเดเมียน แต่เดเมียนไม่ได้มีท่าทีที่สนใจหรือใส่ใจเด็กทั้ง 3 ที่ยืมอยู่
“อื้ม เลือกๆ มาเถอะ ”
เดเมียนตอบปัดๆ
เด็กทั้ง 3 รู้สึกไม่ชอบท่าทีของเดเมียน ซึ่งมันแดสงออกมาว่าเดเมียนไม่ได้ใส่ใจและสนใจคำท้าทายของพวกเขา และมองพวกเขาเหมือนเป็นขยะ
“คุณขึ้นไปบนเวทีก่อน”
ผู้ช่วยสถาบันการศึกษาชี้ไปที่นักเรียนหนึ่งในสามคน
เด็ก 1 ใน 3 เดินขึ้นไปบนเวทีด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ และวางแผนการต่อสู้ที่จะทำให้เดเมียนนั้นอับอายและพ่ายแพ้
“เริ่มได้”
ผู้ช่วยสถาบันการศึกษาประกาศ