“ทองแดง 7 ดาว ผ่าน”
“ทองแดง 6 ดาว ผ่าน”
“ทองแดง 5 ดาว ไม่ผ่าน”
เสียงของผู้คุมสอบดังขึ้นเป็นครั้งคราว
ทุกครั้งที่เสียงดังขึ้น มันทำให้บางคนมีความสุข ในขณะที่ทำให้บางคนเป็นทุกข์
นักเรียนที่สอบตกเดินออกจากกลุ่มไปอย่างเศร้าใจ ส่วนนักเรียนที่สอบผ่านก็ยืนเงียบๆ อยู่ด้านข้างเฝ้าดูการประเมินของคนอื่นๆ
“ระดับเงิน! มาดูเร็วเข้า! นั่นใช่ระดับเงินอย่างที่ข้าเห็นใช่ไหม?”
“โอ้พระเข้า! มันเป็นระดับเงินจริงๆด้วย มันสว่างถึงสองในสิบของเสา!”
“สองในสิบ! นี่ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้นางเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับเงินไปแล้ว?”
นักเรียนที่กำลังเข้ารับการประเมินร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นแสงสว่างบนเวที
ราวกับว่าพวกเขาได้เห็นบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ เหตุเพราะนักเรียนส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังคงเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับทองแดง
พวกเขายังต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยหนึ่งปีกว่าจะถึงระดับเงิน
พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีใครในหมู่เพื่อนของพวกเขาที่ไปถึงระดับเงินแล้ว
เมื่อรู้แบบนี้แล้วจะให้พวกเขาใจเย็นอยู่ได้อย่างไร?
ท้ายที่สุดแล้ว อัจฉริยะก็คืออัจฉริยะ พวกเขาเป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนทั่วไป
ผู้คุมสอบเองก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน
พวกเขาไม่คิดเลยว่ามันจะมีนักเรียนที่อยู่ระดับเงินปรากฏตัวออกมา
“เงิน 2 ดาว ผ่าน”
แม้ว่าผู้คุมสอบจะตกใจ แต่เขาก็ไม่ลืมหน้าที่ของเขา
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน? ข้าจำได้ว่าในการประเมินก่อนหน้านี้ผลงานของนางก็น่าประทับใจเช่นกัน นางมาจากตระกูลที่ร่ำรวย?”
“เจ้าไม่รู้จักนาง? นางชื่ออลิซ นางมาจากตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองไฟ!”
นักเรียนที่อยู่ด้านล่างเวทีกำลังคุยเรื่องคนที่อยู่ในระดับอัจฉริยะ
“ข้านึกออกแล้ว นางเป็นสัตว์ประหลาดที่มีความสามารถระดับ 5!”
“อย่างที่คาดไว้จากอัจฉริยะของตระกูลใหญ่ นางแข็งแกร่งจริงๆ”
บทสนทนาใต้เวทีดำเนินไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ชิ เป็นอัจฉริยะจากตระกูลใหญ่แล้วทำไมกัน ลองยึดทรัพย์สมบัติของพวกเขา จากนั้นก็มารอดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ล็อคต่างหากที่เป็นคนที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง แม้เขาจะมาจากตระกูลธรรมดาอย่างเรา แต่เขากลับไม่ด้อยกว่าอลิซเลยแม้แต่น้อย”
นักเรียนที่ดูเหมือนจะมาจากตระกูลธรรมดาพูดขึ้นเพื่อล็อค
บนเวที อลิซดูเหมือนจะได้ยินความคิดเห็นของเด็กชายคนนั้น
เธอมองไปที่ล็อค
ขณะเดียวกัน ล็อคก็มองมาเธอเช่นกัน
สายตาของพวกเขาสบกัน
สายตาของอลิซเต็มไปด้วยการยั่วยุ ราวกับจะแสดงให้ล็อคเห็นว่าเธอปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
ราวกับเธอกำลังจะบอกเขาว่า “ข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้า และเจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้”
อีกด้านหนึ่งล็อคกำลังมองเธอด้วยความสับสน
เขารู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก
‘ทำไมผู้หญิงคนนี้ต้องมองมาที่ข้าด้วยความโกรธด้วย?’
‘นี่มันแปลกมาก ข้าจำได้ว่าข้าไม่เคยแม้แต่จะยั่วยุเธอ’
ไม่นานเหตุการณ์เล็กๆนี้ก็จบลง
ส่วนการทดสอบก็ยังคงดำเนินต่อไป
ไม่นานมันก็ถึงตาของล็อค
เมื่ออลิซเห็นล็อคกำลังเดินขึ้นไป เธอจึงโบกมือให้เขา
ราวกับเธอกำลังข่มเขา ‘เจ้าจะมีความสามารถแค่ไหนกันเชียว?’
‘ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเหนือกว่าข้า เพราะข้านั้นมีตระกูลใหญ่คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง’
‘ส่วนเจ้านั้นก็เป็นแค่คนธรรมดาสามัญ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาท้าทายข้าคนนี้?’
ล็อคมองเข้าไปในตาของอลิซ ในที่สุดเขาก็เข้าใจความรู้สึกของเธอ
สิ่งนี้ทำให้ล็อคโกรธเล็กน้อย
ย้อนกลับไปตอนที่เขาอยู่บนโลกเดิม เขานั้นก็เคยโดนคนรวยทำร้ายเช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงไม่เคยชอบพวกตระกูลร่ำรวยตั้งแต่เขามายังโลกนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นการยั่วยุของอลิซ มันไม่เพียงทำให้เขาโกรธเท่านั้น แต่มันยังทำให้เขามีความมุ่งมั่นอีกด้วย
มันทำให้เขามีความมุ่งมั่นที่จะเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาในการประเมินครั้งนี้
เขาต้องการให้เหล่าบรรดาผู้ที่ถูกเรียกว่าขุนนางเห็นว่าสามัญชนนั้นก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน
พวกเขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกที่ถูกเรียกว่าตระกูลใหญ่
เขานั้นต้องการตบหน้าพวกที่เรียกตัวเองว่าขุนนางอย่างแรง
ล็อคยืนอยู่หน้าเสาก่อนจะปิดตาของเขาลง
เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสัมผัสถึงการมีอยู่ของแกนมานาของเขา
แกนมานาโคจรอย่างรวดเร็วจากนั้นมานาจำนวนมากก็พุ่งออกมา
ล็อครวบรวมกำลังทั้งหมดของเขาเพื่อต่อยไปยังเสา
เสาสว่างขึ้น
มันส่องแสงสีเงินก่อนที่ความสูงของเสาจะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“สองในสิบ สามในสิบ มันยังไม่หยุด!”
“วันนี้ข้าฝันไปรึเปล่า? มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้?”
“พระเจ้า นี่มันบ้าไปแล้ว ทำไมถึงได้มีอัจฉริยะมากมายนัก?”
“ถูกต้อง แล้วแบบนี้สามัญชนแบบพวกเราจะอยู่กับสิ่งนี้ได้อย่างไร?”
ทุกคนมองไปยังเสาบนเวทีด้วยความประหลาดใจในขณะที่พูดคุยกันไม่หยุด
พวกเขาไม่แปลกใจเหมือนก่อนหน้า
เพราะเมื่อพวกเขาเห็นล็อคเดินขึ้นไปบนเวที พวกเขาก็ตัดสินไปแล้วว่าล็อคต้องเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับเงิน
ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าแสงมันสว่างขึ้นเป็นระดับเงินพวกเขาจึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะพวกเขาได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว
ไม่นานหลังจากนั้น
แสงก็หยุดอยู่ที่สี่ในสิบของเสา
“เงิน 4 ดาว เจ้าผ่าน”
เสียงของผู้ตรวจสอบสั่น เขายังคงตกใจอยู่
ทางด้านอาจารย์จากสถาบันจ้าวแห่งสัตว์อสูรระดับสูงแห่งสหพันธ์ที่กำลังเฝ้าดูการทดสอบจากระยะไกลต่างก็ตกใจกับความสามารถของล็อค
ระดับเงิน 4 ดาว
นี่ถือเป็นพรสวรรค์ระดับอัจฉริยะ แม้จะนับรวมทั่วสหพันธ์แล้วก็ตาม
พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้
เดิมทีพวกเขาคิดว่าพวกเขาคงจะไม่สามารถรับสมัครอัจฉริยะคนใดได้เมื่อถูกส่งมายังเมืองไฟ
อย่างไรก็ตามจากการปรากฏตัวของล็อคนั้นได้ทำให้ผู้ฝึกสอนทั้งสองไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นได้
‘ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า’
“ชายหนุ่มคนนี้ที่ชื่อล็อคเป็นคนดีทีเดียว”
“ถ้าเขาทำได้ดีในอนาคต เขาอาจจะสามารถเข้าสู่ระดับทองได้ด้วยซ้ำ”
ทริสต้าพูดกับครูฝึกอีกคนด้วยรอยยิ้มยินดี
“อืม”
“นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสำหรับพวกเราสองคนอย่างแท้จริง”
“ตอนแรกข้าคิดว่าอย่างมากเราก็คงรับสมัครอัจฉริยะรุ่นเยาว์สองสามคนที่ดีพอจะเข้าห้องระดับเงินได้หลังจากมาที่เมืองไฟ”
“แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเราจะได้รับเด็กสองคนที่อย่างน้อยก็มีความสามารถมากพอที่จะอยู่ห้องระดับทองมาแทน”
ฌาคส์อารมณ์ดีมาก
ตรงกันข้ามกับการตอบสนองของผู้ชม ล็อคดูเหมือนจะรู้สึกหดหู่เล็กน้อยขณะเดินลงจากแท่นทดสอบ
‘เกิดอะไรขึ้น?’
‘ข้าไม่คิดเลยว่าระดับมานาของข้าจะอยู่ที่เงิน 4 ดาวเท่านั้น’
‘นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าคิดไว้’
ล็อคก้มหน้าลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์
หากนักเรียนคนอื่นรู้ว่าล็อคกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะก็…
พวกเขาอาจจะรวมพลังกันเพื่อทุบตีเขา
จากนั้นก็ตะโกนใส่ว่า “เจ้าสามารถทำตัวเย็นชาได้ถ้าเจ้าต้องการ แต่ขอให้มันพอดีด้วย!”
“เพราะเจ้ากำลังทำให้พวกเราที่เหลือทั้งหมดดูแย่!”