บทที่ 19 พี่สาว พี่เป็นก็เป็นแค่ของมือสองแล้วนะ
หลินเสว่เอ๋อนอนพลิกไปพลิกมา อารมณ์เสียจนนอนไม่หลับทั้งคืน
เธอนึกไม่ถึงจริงๆเลยว่า เธอแต่งตัวซะสวยมาเสิร์ฟถึงที่ แค่คำพูดประโยคเดียวของเฉินตง ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าเหมือนเธอกำลังไปแจ้งข่าวดีเพื่อขออั่งเปาเลย
เธอหลงคิดว่าตนเองสามารถควบคุมและรู้ความคิดทุกอย่างของผู้ชายทุกคน อาจจะจะใช้วิธีอะไรในการบีบบังคับให้ผู้ชายเชื่อง
แต่ว่า กับเฉินตงแล้ว เธอมีความรู้สึกพ่ายแพ้มากเป็นพิเศษ
ได้ยิ่งไปกว่านั้น การที่เธอทำดีกับเฉินตง ก็เพิ่งจะเริ่มขึ้นหลังจากคืนนั้นที่ทำการขอโทษ
แล้วก็เป็นเพราะมีคืนที่ไปทำการขอโทษนั้น เธอถึงเลือกที่จะทำดีกับเฉินตงไม่หยุด
เธอเข้าใจดีว่า ถึงแม้เธอจะเดินเข้าไปในชีวิตของเฉินตงไม่ได้ แต่ขอเพียงแค่มีการปฏิสัมพันธ์กับเฉินตง กับสภาพการเงินของเฉินตงแล้ว ถึงแม้จะเป็นแค่เศษเสี้ยวจากเขา มันก็ยังได้มากกว่าอันที่ได้จากการแต่งงานของเธอกับหวางเห้า
เธออยากหาหวางเห้าให้มาเป็นตัวแบกรับของที่ไม่ดีเมื่อคนอื่นไม่ต้องการแล้ว แต่ถ้าหากได้จำนวนที่เยอะกว่า เธอก็ไม่ถือสาที่จะรับของที่สามารถได้มาไว้ในมือ มากสุดก็แค่หาคนที่จะมาเป็นตัวแบกรับของที่ไม่ดีเมื่อคนอื่นไม่ต้องการมาใหม่ก็ได้แล้ว
แต่ปฏิกิริยาในการตอบสนองของเฉินตง ทำให้เธออารมณ์เสียมาก!
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ เช้าของวันที่ 2 ตอนที่หลินเสว่เอ๋อได้รับสายปลุกให้ตื่นนอนจากหวางเห้า กลับไม่มีความนุ่มนวลและอ่อนโยนเหมือนก่อนหน้านี้อีก
มีเพียงความหงุดหงิดอารมณ์เสียและเสียงตะโกนพูดเสียงดัง:“หวางเห้า มาปลุกเช้าแบบนี้ คุณช่างน่ารำคาญจริงๆเลยนะ?”
“เสว่เอ๋อ ผม นี่เป็นบริการการโทรปลุกให้ตื่น ที่เรา2 คนเคยนัดกันไว้ไม่ใช่เหรอ?”หวางเห้าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“ปลุกอะไรกัน?ฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืนเนี่ย!”หลินเสว่เอ๋อเกาศีรษะจนผมยุ่งอย่างหงุดหงิด
“อะไรนะ?คุณไม่ได้หลับไม่ได้นอนทั้งคืน ผมจะขึ้นไปตอนนี้เลย เสว่เอ๋อคุณเหนื่อยขนาดนี้ งั้นวันนี้ก็ไม่ต้องไปทำงานแล้ว”หวางเห้ารู้สึกเป็นห่วง
เมื่อได้ยินคำว่า“ทำงาน”2 คำนี้ เสว่เอ๋อโมโหทันที เธอทนมามากพอแล้วกับความเป็นห่วงที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้แบบนี้
“ไม่ทำงานงั้นเหรอ?ไม่ทำงานคุณจะเลี้ยงฉันหรือไง?คุณว่างแบบนี้ คุณไปคิดเรื่องค่าสินสอดยังดีกว่า นี่เรายังจะหมั้นและแต่งงานกันอีกไหม?ถ้าคุณไม่อยากหมั้นและแต่งงานจริงๆ งั้นเราก็เลิกกันเถอะ!”
หวางเห้ารีบกล่าว:“เสว่เอ๋อคุณใจเย็นๆสิ บ้านเรากำลังคิดหาวิธีอยู่ วันหมั้นแต่งงานต้องมีค่าสินสอดพอที่จะให้คุณได้แน่นอน!”
“พวกคิดอะไรกัน?พี่เขยคุณรวยขนาดนั้น ไม่รู้หรือไง?”
ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด!
ไม่รอให้หวางเห้าพูดจบ หลินเสว่เอ๋อก็วางสายแล้ว
เธอเอาเฉินตงไม่อยู่ ถ้าหวางเห้ายังเป็นตัวรับของที่คนอื่นไม่ต้องการแล้วไม่ได้ละก็ งั้นการที่เธอคบกับหวางเห้านานขนาดนี้ คงเป็นแค่การเสียเวลาชีวิตช่วงวัยสาวเปล่าๆ?
หลินเสว่เอ๋อพักอยู่ด้านล่างของอพาร์ตเมนต์ หวางเห้าที่นั่งอยู่ในรถออดี้สีหน้างุนงง
เขาไม่รู้ว่าทำไมหลินเสว่เอ๋อถึงจู่ๆก็โมโหขนาดนี้
แต่ตอนที่หลินเสว่เอ๋อวางสายนั้น เขาก็ได้ยินคำว่า”เลิกกันเถอะ”จริงๆนี่นา
หวางเห้ากังวลสุดๆ ตาแดงพร้อมกับรีบโทรศัพท์หาคนที่บ้าน
เมื่อรับสายแล้ว เขาก็พูดกับจางซิ่วจือพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย:“แม่……เสว่เอ๋อบอกว่าจะไม่มีงานหมั้นอีก จะบอกเลิกผมแล้ว”
“เสี่ยวเห้า ลูกใจเย็นนะ เรากำลังคิดหาวิธีอยู่ไม่ใช่หรอ?”จางซิ่วจือก็กังวลแล้ว
“เป็นวิธีอะไรได้เหรอครับ?เฉินตงรวยขนาดนั้น ให้พี่สาวไปขอตรงๆเลยสิ เธอเป็นถึงพี่สาว ขนาดงานแต่งของน้องชายก็ไม่สนใจบ้างเลยหรอ?”หวางเห้าร้องพูดเสียงดัง
เพิ่งจะพูดจบ ในสายโทรศัพท์ก็มีเสียงของจางซิ่วจือที่ดังมาก:“อะไรนะ?เฉินตงรวยงั้นเหรอ?”
“ผมไม่สน ยังไงผมก็จะหมั้นกับเสว่เอ๋อเร็วๆนี้เลย ถ้าพวกคุณยังรวบรวมเงินไม่พอ งั้น งั้นผมจะไปตายเ!”หวางเห้าตะโกนพูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วย จากนั้นก็วางสายทันที
ในบ้านตระกูลหวาง
หลังจากวางสาย จางซิ่วจือก็โมโห ตาแดงไปถีบประตูห้องหวางหนันหนัน“ยัยเด็กบ้า แกจะนอนอยู่ได้?”
หวางหนันหนันหรี่ตามองจางซิ่วจือ สีหน้ามึนงง:“แม่ วันนี้ถึงวันหยุดของฉันนิคะ”
“หยุดอะไรกัน น้องชายแกจะตายอยู่แล้ว คนเป็นพี่อย่างแกยังมานอนอยู่ได้อีก?”จางซิ่วจือกระชากตัวหวางหนันหนันออกมาจากในผ้าห่มท่าทีราวกับบ้าไปแล้ว
หวางหนันหนันตกใจจนกรีดร้องออกมา ตอนแรกยังอยากขัดขืน แต่พอได้ยินว่าหวางเห้าโกรธเรื่อง ก็รีบถามดังๆอย่างร้อนใจ:“เกิดอะไรขึ้น?น้องชายเป็นอะไรไป?”
“ค่าสินสอด!เสี่ยวเห้ากับเสว่เอ๋อกำลังจะหมั้นกัน ถ้าค่าสินสอดยังไม่พอ เสว่เอ๋อก็จะเลิกกับเสี่ยวเห้า เสี่ยวเห้าก็จะฆ่าตัวตายแล้ว!”
จางซิ่วจือร้อนใจจนตบหน้าหวางหนันหนันทีนึง พูดพร้อมกับสะอื้นร้องไห้ไปด้วย:“ทำไมฉันถึงมีลูกสาวที่ไร้ประโยชน์อย่างแก ขนาดน้องชายแท้ๆยังไม่ช่วย นี่แกกำลังจะบีบบังคับให้ฉันกับพ่อแกต้องตายตามน้องชายแกไปใช่ไหม”
หวางหนันหนันตะลึง เจ็บปวดตรงใบหน้ามาก
ในดวงตาประกายไปด้วยแสงน้ำตา ตะโกนพูดอย่างเจ็บปวดทรมาน:“แต่ฉันได้คิดวิธีที่สามารถคิดได้จนทุกวิถีทางแล้ว พวกคุณยังจะให้ฉันทำยังไงอีก?”
เพียะ!
จางซิ่วจือตบหน้าหวางหนันหนันอีกทีนึง:“แกโกหกมั่ว!น้องชายแกก็บอกแล้วว่าเฉินตงรวยมาก เขามีเงินแต่แกไม่ให้เขาควักกระเป๋า และยังอยากกับเขาอีก แกจงใจทำลายชีวิตน้องชายแกใช่ไหม!”
เปรี้ยง!
หวางหนันหนันราวกับถูกฟ้าผ่า หรี่ตามองจางซิ่วจือด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา
เวลานี้ ใจเธอพังทลายหมดแล้ว
ปากแดงขยับสั่น พูดพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย:“เขาไม่มีเงินแล้วจริงๆ หลังจากแต่งงาน บัตรเครดิตธนาคารของเขาอยู่ในมือฉันหมด เขามีเงินเท่าไหร่ฉันรู้หมด เงิน 2 แสนจำนวนท้ายสุดก็ให้พวกคุณแล้วนี่ ถ้าเขามีเงินจริงๆ คนเป็นพี่อย่างฉันจะไม่ช่วยเสี่ยวเห้าได้ยังไงกัน?”
“เสี่ยวเห้าบอกว่าเขารวยเขามีเงิน แสดงว่าโกหกเราหรือไง?”สติสัมปชัญญะของจางซิ่วจือไม่เหลือหมดแล้ว นั่งลงบนพื้น ร้องไห้งอแงบ่นเสียงดัง:“ชีวิตฉันช่างลำบากจริงๆเลย มีลูกสาวจะกลายเป็นของมือสอง ตอนนี้ลูกชายจะแต่งงานก็ไม่สำเร็จ ฉันจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร”
“ได้ ฉันจะไปตาย!เสี่ยวเห้าจะฆ่าตัวตาย ฉันก็ตายตามไปด้วยดีกว่า!”
ทันใดนั้น จางซิ่วจือลุกขึ้นวิ่งมาออกจากห้องนอน
หวางหนันหนันตกใจจนจะเป็นบ้า รีบวิ่งออกมารั้นจางซิ่วจือไว้:“แม่……นี่แม่อยากทำอะไรโง่ๆสิ”
เวลานี้ หวางเต๋อที่ได้ยินเสียงก็วิ่งออกมา กอดจางซิ่วจืออย่างตื่นตระหนก:“งานแต่งของลูกชาย คุณจะทำเรื่องโง่ๆทำไม?”
“ขนาดลูกชายจะแต่งงานฉันยังช่วยไม่ได้เลย ลูกสาวฉันขนาดน้องชายตนเองยังไม่ช่วย คนเป็นแม่อย่างฉันตายๆไปซะยังจะดีกว่า!”
จางซิ่วจือดิ้นรนอย่างสุดแรง จนลักษณะใบหน้าบิดเบี้ยวไปหมด:“ฉันแต่งงานกับทางครอบครัวคุณ จนกลายมาเป็นหญิงแก่อัปลักษณ์ คนที่มันไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ขนาดงานแต่งของลูกชายยังไม่มีปัญญาจัด!”
หวางเต๋อสีหน้าไม่ดีสุดๆ กล่าวกับหวางหนันหนันว่า:“หวางหนันหนัน ลูกจะยอมปล่อยให้แม่ของลูกตายจริงๆเหรอ?”
“หนู……”
หวางหนันหนันตะลึง ความคิดในสมองมีเพียงความว่างเปล่า
จู่ เธอก็นึกถึงเรื่องซื้อบ้าน
ไม่แน่……เฉินตงอาจจะรวยจริงๆล่ะ?
ใช่แล้ว!เขาเป็นรองประธานของไท่ติ่ง น่าจะยังมีเงินอยู่!
ใจหวางหนันหนันพังทลายจนกระทืบเท้าทีนึง ร้องไห้กล่าว:“พวกคุณพอได้แล้ว ฉันไม่ยอมให้พวกคุณตายหรอก ฉันเป็นพี่สาวของเสี่ยวเห้า ยังไงฉันก็ต้องช่วยเขา!ฉันจะไปหาเฉินตงเดี๋ยวนี้ ฉันจะไปขอกับเขาเอง!”
พูดจบ เธอก็วิ่งออกไปเลย
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง
หลังจากที่เฉินตงส่งอาหารเช้าไปให้แม่เรียบร้อย ก็กลับมายังห้องออฟฟิศ
การปฏิวัติย่านสลัมที่ตะวันตกของเมืองถึงแม้จะค่อยๆดีขึ้นแล้ว แต่เรื่องงานก่อสร้างทุกอย่างล้วนสะเพร่าไม่ได้เลย มีบางเรื่องที่คนเป็นอย่างเขาจำเป็นต้องลงมือทำเอง
และแล้ว เพิ่งจะนั่งลงได้ไม่นาน
ก็มีสายโทรศัพท์เรียกเข้า
เฉินตงรับสายโทรศัพท์ อีกฝ่ายก็พูดทันทีว่า:“คุณเฉิน ไม่ดีแล้ว อดีตภรรยาของคนมาเยี่ยมหน้าคุณที่โรงพยาบาล แม่ของคุณรู้ว่าคุณหย่ากับภรรยาแล้ว จิตใจถูกสะเทือนหนักมาก สถานการณ์อันตรายมาก กำลังทำการช่วยเหลือฉุกเฉินอยู่ คุณรีบมาเถอะ”
ปั้ง!
ร่างกายเฉินตงแข็งทื่อ ปากกาในมือถูกนิ้วโป้งของเขาหักเป็น 2 ท่อน
สายตาของเขา จู่ๆก็กลายเป็นสายตาที่มีความดุร้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน
ราวกับว่าเป็นสัตว์ป่าที่จะกลืนกินมนุษย์!