บทที่ 26 ฉันมันคนระยำ
“โอ๊ย!”
หลี่ต้าเป่าร้องเสียงดัง ก่อนจะล้มลงไปที่พื้น ทั้งหัวเต็มไปด้วยเหล้าและเลือดกับเศษแก้ว
เขามองโจวเย่นชิวด้วยความตกใจ พลางทำหน้าเหยเก ก่อนจะค่อยๆ ถูกเลือดกบ ดูน่ากลัวไม่น้อย
“คุณ คุณทำร้ายฉันงั้นเหรอ?โจวเย่นชิว ฉัน ฉันจะฟ้องพี่สาวฉัน!”
“คุณทำผิดมหันต์ ฉันฆ่าคุณให้ตายก็ยังไม่พอ!”
โจวเย่นชิวมีเหงื่อออกเต็มไปหมด พลางยกเท้าเหยียบหลี่ต้าเป่า ก่อนจะพูดด้วยความโกรธว่า: “มีเรื่องกับท่านหลง คุณยังกล้ามาทำตัวแบบนี้อีกเหรอ?เดี๋ยวจะกลับไปหย่ากับพี่สาวคุณให้ดู ต่อให้คุณไปฟ้องคนใหญ่คนโตที่ไหนก็ต้องมาขอโทษท่านหลงและเฉินตงอยู่ดี!”
น้ำเสียงเย็นชา ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่พูดนั้นมันจริงหรือหลอก
หลี่ต้าเป่าอาบเลือด ด้วยท่าทีเกรงกลัว เลยมองโจวเย่นชิวด้วยความร้อนรน
เพราะที่พึ่งของเขา ก็คือพี่สาว
หลายปีมานี้ สามารถยืนอย่างโอ่อ่าได้ และกินๆ นอนๆ ในบริษัทของพี่เขยได้อย่างสบายใจ ก็เพราะความเอ็นดูที่พี่สาวมีให้ และความไม่โต้ตอบของโจวเย่นชิวที่มีต่อพี่สาวเขา
ถ้าเกิดว่าโจวเย่นชิวหย่ากับพี่สาวของเขาจริงๆ เขาก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
เมื่อคิดได้ว่าจะเสียชีวิตสุขสบายอย่างในตอนนี้ไป หลี่ต้าเป่าก็อ่อนลงในที่สุด
เขาดิ้น เหมือนกับหมาที่กำลังจะตาย ก่อนจะมาเกาะขาโจวเย่นชิว: “พี่เขย ฉันผิดแล้ว ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด……อย่าหย่ากับพี่สาวฉันเลยนะ”
โจวเย่นชิวมีท่าทีเย็นชา แต่แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ
เขาทำธุรกิจมาหลายปี ค่อยๆ ขึ้นมาเป็นนักธุรกิจใหญ่
ความเด็ดเดี่ยวนั้น ไม่ใช่แค่ในสนามรบเท่านั้น แต่ในการทำธุรกิจเขาก็มี
เขาพูดเสียงเย็นชา: “ฉันให้คุณ ขอโทษเฉินตงกับท่านหลงก่อน!”
เพล้ง!
เอาขวดแก้วที่แตกไปครึ่งหนึ่งโยนลงกับพื้น
ก่อนจะพูดจนทำให้หลี่ต้าเป่าตกใจอย่างแรง
เขาหันกลับมามองเฉินตงกับท่านหลงด้วยท่าทีเย็นชา
ก่อนจะมาคุกเข่าลงตรงหน้าเฉินตงอย่างไม่ลังเลใจ
“เฉินตง ฉันขอโทษ ฉันจะชดใช้ให้คุณ เห็นแก่การร่วมงานที่ผ่านมาของเขาเถอะ ปล่อยฉันไปเถอะ”
หลี่ต้าเป่าร้องห่มร้องไห้ ก่อนจะเอาหัวโขกให้เฉินตงอย่างจับ จนหัวเกิดเสียงปังๆ
เขารู้ ว่าท่านหลงเป็นคนสนับสนุนเฉินตง มาออกหน้าวันนี้ ก็เพื่อเฉินตง
ถ้ายังอยากจะมีชีวิตที่สงบสุข ก็ต้องหวังให้เฉินตงพยักหน้ายกโทษให้
แต่ เฉินตงยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เฉยๆ ไม่ได้ปรายตามองมา และไม่มองหลี่ต้าเป่าเลยแม้แต่น้อย
ฉากนี้ ถูกท่านหลงกับโจวเย่นชิวมองอยู่
หลี่ต้าเป่ามองเฉินตงด้วยความหมดหวัง ใบหน้ามีเลือดไหล ดูโซซัดโซเซไม่น้อย เลยไม่มีท่าทีทระนงเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว
ก่อนหน้านี้เขามีความสงบสุขในชีวิตมาจนเคยชินแล้ว ถ้าเกิดว่าให้เขาต้องเสียชีวิตแบบนั้นไป มันเหมือนกับฆ่าเขาให้ตายเลยล่ะ
แต่ท่าทีของเฉินตงนั้น กลับทำให้เขารู้สึกสลดมากกว่าเดิม
ปัง!
โจวเย่นชิวเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะเตะเข้าที่ด้านหลังของหลี่ต้าเป่า
หลี่ต้าเป่าร้อง “โอ๊ย” ออกมาด้วยความเจ็บปวด หัวที่ถูกเตะนั้นก็โขกลงกับพื้น
“โขกลงไป!โขกจนกว่าจะตาย!จนกว่าเฉินตงจะยกโทษให้ ไม่อย่างนั้นก็ทำจนกว่าจะตายไปตรงนี้เลย!”
น้ำเสียงของโจวเย่นชิวนั้นเย็นชามาก บนหน้าผากก็มีเม็ดเหงื่อเล็กๆ ซึมออกมา
ในเมืองนี้ เขาเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยและเก่งกาจ เป็นคนใหญ่คนโต
แต่เมื่อเทียบกับท่านหลง เขาไม่มีแม้แต่ปัญญาจะถือรองเท้าให้ท่านหลงเลยด้วยซ้ำ
ไม่อย่างนั้น ก่อนหน้านี้เคยคงไม่สามารถได้ไท่ติ่งมาในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหรอก
หลี่ต้าเป่าทำให้เฉินตงลำบากเป็นอย่างมาก วันนี้ถ้าเกิดว่าเฉินตงไม่พยักหน้ายกโทษให้ ท่านหลงคงจะต้องมาลงที่เขาแน่นอน
เมื่อเป็นแบบนี้ สำหรับโจวเย่นชิว มันเหมือนปลาเล็กกินปลาใหญ่ ยังไงคนที่ด้อยกว่าไม่ตายก็ไม่มีทางได้เกิดอีกต่อไปแล้ว
เฉินตงเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะมองโจวเย่นชิวสักพัก
จากนั้น แววตาก็มองไปที่หัวที่กำลังโขกลงพื้นอย่างไม่หยุดเพื่อขอให้ยกโทษให้ของหลี่ต้าเป่า
“ฉันเคยบอกแล้ว ว่าเดี๋ยวจะทำให้คุณต้องร้องไห้เลยล่ะ!”
ในเสียงนั้น มีความไม่แยแสปนอยู่ ทำให้หลี่ต้าเป่าตัวแข็งทื่ออยู่กับพื้น และก้มหัวอยู่แบบนั้น
ตอนแรกที่เขากล้าเย่อหยิ่งใส่เฉินตง ก็เพราะอำนาจในมือของพี่เขยตัวเอง เพราะคิดว่าเฉินตงก็เป็นแค่หมาน้อยที่พลิกมามีบทบาทก็เท่านั้นเอง
แต่ทำไมเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าคนที่คอยสนับสนุนเฉินตง แข็งแกร่งมากเสียจนพี่เขยเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะมีเรื่องด้วย
ถ้าเกิดว่าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะไม่มีทางหาเรื่องเฉินตง
ปัง!
เฉินตงลุกขึ้น แล้วยกเท้าขึ้นเตะหลี่ต้าเป่ากระเด็น: “ฉันพูดจริงทำจริง เดี๋ยวจะทำให้คุณร้องไห้ ก็จะทำให้ได้ร้องจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้ากล้ามาก่อเรื่องอีก ฉันก็ยินดีจะทำให้หนักกว่าเดิม”
เขาไม่ได้มีนิสัยอ่อนโยน ในสามปีมานี้ เขาทำเพื่อรักษาแม่ เลยต้องกล้ำกลืนฝืนทนช่วยหลี่ต้าเป่าทำเรื่องไม่ดี หลี่ต้าเป่าเองก็ถือจุดนี้ มาใช้เขาตลอดเวลา
หลังจากซื้อไท่ติ่งแล้ว หลี่ต้าเป่าก็ไปนัดบอดกับหวางหนันหนัน สำหรับเขา มันเป็นความน่าอับอายของเขา
หลังจากถูกเขาแก้แค้น หลี่ต้าเป่าก็ไปก่อเรื่องที่โครงการปรับเปลี่ยนย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง เลยทำให้เกิดเรื่องในคืนนี้
เขาเห็นแก่โจวเย่นชิว เลยจะปล่อยหลี่ต้าเป่าไป แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นอีก เขาเชื่อ ว่าท่านหลงสามารถทำให้คนหายไปได้ง่ายๆ เลย โดยไม่มีข่าวอะไรใดๆ เลยด้วย
เมื่อได้ยินดังนั้น
โจวเย่นชิวก็ม่านตาหดลง
หลี่ต้าเป่านั้นกลัวจนหัวใจเต้นเร็วเสียมากกว่า
แววตามีประกายของท่านหลง มองมาที่เฉินตงด้วยความชื่นชมและเซอร์ไพรส์
คนคนหนึ่งมีความสามารถ ก็สามารถช่วยเขาเจริญก้าวหน้าได้เร็วขึ้น
แต่นิสัยของคนคนหนึ่ง ถ้าเกิดว่าเป็นคนลังเล ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด เกรงว่าจะมีความสามารถมากแต่ไหนก็จะถูกนิสัยแบบนี้ทำให้เสีย
ในสายตาของเขา เฉินตงเป็นคนรับกิจการต่อจากท่านปู่ เป็นเสาหลักของครอบครัวในอนาคต
มีคนบางคนในครอบครัว เป็นพวกหวังแต่ได้อย่างโหดร้ายเท่านั้น
ถ้าเกิดว่าเฉินตงเป็นคนลังเล เกรงว่าจะได้ใจครอบครัวของเขา แล้วโดยบี้จนตายไปเอง
แต่ตอนนี้ การแสดงออกของเฉินตง ทำให้รู้เลยว่าน่าจะเป็นคนสิ่งที่ผู้สืบทอดควรจะมี!
“แน่นอนๆ เฉินตงคุณวางใจเถอะ ฉันจะสั่งสอนหลี่ต้าเป่าให้ดี ถ้ามีครั้งหน้า ฉันจะจัดการเอง” โจวเย่นชิวเกรงกลัวมาก แต่ก็รีบยิ้มตอบ คำพูดของเฉินตงทำให้หินที่อยู่ในใจตกลงพื้นแล้ว
“ประธานโจว คืนนี้ขอบคุณมาก งั้นพวกเราไปก่อนนะ” เฉินตงยิ้มเบาๆ ก่อนจะพาท่านหลงออกไป
โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมออกไปจากโรงแรมไท่ซาน
ตอนที่นั่งอยู่บนรถ เฉินตงพูดกับคนขับว่า: “ไปส่งฉันที่โรงพยาบาลลี่จิง”
สุดท้ายท่านหลงก็อดไม่ได้ที่จะชม: “คุณชาย การตัดสินใจเมื่อสักครู่ มันทำให้ฉันนับถือจริงๆ”
เฉินตงมองออกไปนอกหน้าต่างนิ่งๆ และมองวิวที่กำลังวิ่งถอยหลังไป
จู่ๆ เขาก็ยิ้มขึ้นมา ก่อนจะหันไปมองท่านหลง: “ไม่ว่าจะเป็นใคร ถูกคนว่าเป็นลูกสวะแบบนั้น คงจะไม่มีนิสัยลังเลใจอะไรออกมาหรอก”
ถึงแม้ว่าจะกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขากลับขมขื่นเป็นอย่างมาก แววตาก็มีความไม่สบายใจอยู่ด้วย
ท่านหลงหยุดยิ้มไป เขาเข้าใจความหมายของเฉินตง
คำด่าลูกสวะนั้น มันรวมถึงอะไรได้เยอะมาก ประสบการณ์ตั้งแต่คุณชายเกิดมาจนถึงตอนนี้ ก็ถือเป็นความน้อยอกน้อยใจที่คุณชายมีต่อท่าน
หายใจเข้าลึกๆ ท่านหลงพูดเบาๆ ว่า: “คุณชาย อันที่จริงตอนที่เขายังนั้นก็โดนบังคับเหมือนกัน ปีที่ผ่านๆ มาเขารู้สึกผิดต่อพวกคุณแม่ลูก ตอนนั้นเขา……”
เฉินตงยกนิ้วขึ้น เพื่อบอกให้หยุดพูด
“ฉันไม่อยากฟังอะไรเจ็บปวด ชีวิตคนมันลำบากพอแล้ว ทิ้งลูกทิ้งครอบครัวไป อยากจะชดเชยพันล้านเหรอ?ปลูกฝังฉันมาเป็นคนรับช่วงต่อก็อยากจะชดเชยงั้นเหรอ?ตัวเขาเองที่เอาเลือดเนื้อเชื้อไขไปเป็นของแลกเปลี่ยน ลูกสวะอย่างฉันก็จะเอาครอบครัวของเขามาแลกเปลี่ยนเหมือนกัน”
ท่านหลงส่ายหัว เมื่อได้ยินคำว่าลูกสวะคำนี้ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าใจถูกเข็มทิ่มแทง