บทที่ 30 ความสงสัยของหวางเห้า
หวางหนันหนันรู้สึกหายใจไม่ออก
พลางมองจางซิ่วจือด้วยความอึ้งไป
“แม่ เรื่องในงานหมั้น ฉันคุยกับหลินเสว่เอ๋อดีแล้วจริงๆ !” หวางหนันหนันรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก
งานหมั้นทำให้ตระกูลหวางเสียหน้า ช่วงนี้โดนจางซิ่วจือว่าประจำ จนเธออธิบายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว
“คุณยังจะมาโกหกอีก!”
จางซิ่วจือโกรธจนด่าออกมาว่า: “เสว่เอ๋อมีพื้นเพดีขนาดนั้น คุณกำลังจะบอกว่าเธอหลอกตบตาพวกเรา เพื่อก่อเรื่องในงานหมั้นงั้นเหรอ?”
“พี่ คุณหมายความว่าอย่างไรกันแน่?” หวางเห้าเองก็ร้อนใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืน: “เสว่เอ๋อเป็นคนแบบไหน ฉันรู้ดี เธอไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน”
หวางหนันหนันโกรธตัวสั่น พลางน้อยใจจนน้ำตาแทบไหลออกมา
เธอร้องไห้พลางพูดว่า: “ทำไมพวกคุณไม่เชื่อฉันเลย?แม่ ใครเป็นลูกสาวแม่กันแน่เนี่ย?”
จางซิ่วจือหน้าแดงขึ้นมา ก่อนจะเอามือกุมหน้าอก: “ฉันดูที่เรื่องไม่ได้ดูที่คน คุณเป็นลูกสาวฉัน เสว่เอ๋อก็เป็นสะใภ้ที่จะแต่งเข้ามา คุณยังจะมาท้าทายกันอีกเหรอ?”
“ฉัน……” หวางหนันหนันกำลังจะเปิดปากพูด
หวางเต๋อพูดออกมาด้วยความเหลืออด: “พอแล้วหวางหนันหนัน คุณยังอยากจะทำให้แม่อาการกำเริบอีกเหรอ?”
ประโยคเดียว ทำให้หวางหนันหนันเลิกเถียง
“แม่ คุณพักผ่อนให้มากๆ ฉันจะไปทำงาน” หวางหนันหนันวางกระติกเก็บความร้อนลง ก่อนจะปิดตาแล้ววิ่งออกไป
“ทำงานๆ เอาแต่สนใจเงินเดือนเท่าขี้มด มันพอใช้ไหมน่ะ?ฉันเป็นแม่แท้ๆ ของคุณ ตอนนี้ป่วยอยู่ ยังจะไม่สนใจกันอีกเหรอ?”
ด้านหลัง มีเสียงของจางซิ่วจือพูดด้วยความโกรธ
เมื่อได้ยิน หวางหนันหนันก็แทบบ้า เลยเดินจากทางเดิน เข้าไปที่ตรงบันไดตึก ก่อนจะทนไม่ไหว แล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“ทำไมทุกคนถึงโทษฉัน?ฉันทำอะไรผิด?ทำไมถึงให้ฉันแบกทุกอย่างเอาไว้คนเดียว?”
เมื่อถามเองตอบเอง และร้องไห้ไปด้วย ความกดดันในช่วงนี้ ก็ถูกปลดปล่อยออกมาหมด
แม่ป่วยอยู่โรงพยาบาล เธอมีแรงกดดันสูงมาก วิ่งวุ่นไปหมด ไม่เพียงแค่ส่งข้าวส่งน้ำให้แม่กับน้องชาย แต่ยังต้องไปทำงานอีก
แต่สิ่งที่ได้รับ กลับเป็นคำถามที่ไร้เยื่อไงและไม่เข้าใจจากแม่
เธออยากจะถามหลินเสว่เอ๋อเหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนั้นในงานหมั้น
แต่เธอก็อดทนไว้
เพราะว่าเธอรู้ ว่าหลินเสว่เอ๋อไม่มีทางพูดความจริง ในสถานการณ์แบบนี้ตอนนี้ทุกคนกำลังอยู่ข้างหลินเสว่เอ๋อ จนเธอต้องอธิบายแก้ต่างมากมาย
ตอนที่ตกอยู่ในภวังค์ หวางหนันหนันก็มองไปที่ด้านหน้าอย่างเหม่อลอย ก่อนจะพึมพำ: “เฉินตง……”
แต่งงานมาสามปี ความน้อยใจแบบนี้ เธอเองก็เคยได้รับ
แต่ทุกครั้งจะมีเฉินตงคอยปลอบ ช่วยเธอแก้ไข
ตอนที่กำลังพึมพำ หวางหนันหนันก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะส่งข้อความให้เฉินตง
“เฉินตง ฉันเหนื่อยจังเลย”
รอมานาน แต่ก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับ
หวางหนันหนันร้องไห้อยู่แบบนั้นด้วยความเจ็บปวด และดูไม่มีหวังอะไรแล้ว
ในห้องพักผู้ป่วย
หวางเต๋อมองจางซิ่วจืออย่างไร้ทางเลือก: “คุณดูแลตัวเองดีๆ นะ ช่วงนี้ เห็นลูกสาวก็โกรธขึ้นมาแล้ว จะไม่รักษาร่างกายแล้วเหรอ?”
“คุณโทษฉันเหรอ?”
จางซิ่วจือเลิกคิ้วขึ้น พลางมองหวางเต๋อตาขวาง: “เธอเป็นคนสัญญาว่าทำเรื่องกับเสว่เอ๋อเรียบร้อยแล้วแท้ๆ แต่งานหมั้นล่ะ?เพื่อนพี่น้องกว่าสามสิบโต๊ะ ฉันต้องมาเสียหน้าไปหมดเลย!”
หวางเต๋อพึมพำ กำลังจะแก้ต่าง จางซิ่วจือก็พูดต่อ: “ตระกูลหวางของพวกเราเสียหน้าไปหมดแล้ว!ถ้าเกิดมันทำให้เสว่เอ๋อไม่พอใจแล้ว เลิกกับเสี่ยวเห้าไป ตระกูลหวางยังจะมีคนสืบทอดตระกูลได้อีกเหรอ?คุณฝันไปเถอะ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวางเต๋อนิ่งไป
เขารู้ ว่าลูกไร้ประโยชน์นั้น ได้มาเจอหลินเสว่เอ๋อที่การศึกษาดี มีตระกูลที่ดี งานก็ดี มันถือว่าเหลือเชื่อเกินพอแล้ว
หลินเสว่เอ๋อจะเลิกกับหวางเห้าจริงๆ หวางเห้าจะไปหาผู้หญิงแบบนี้อีก คงจะไม่มีใครชอบหวางเห้าได้
จางซิ่วจือเหมือนจะคิดอะไรออก เลยมองหวางเห้า: “จริงสิลูกชาย งานหมั้นน่ะเสว่เอ๋อไม่พอในมาก คุณ คุณได้ไปอธิบายให้เธอฟังหรือยัง?”
“แม่ เสว่เอ๋อไม่สนใจฉันเลยด้วยซ้ำ ฉันไปหาเธอที่บ้าน เธอก็ไปทำงาน เธอไม่นั่งรถของฉันแล้ว ไม่พูดกับฉันสักคำ” หวางเห้าโกรธควันออกหู ใบหน้ารีบร้อน
“ให้ตายเถอะ……”
จางซิ่วจือถอนหายใจพลางมองเพดาน: “ถ้าไม่ใช่เพราะหวางหนันหนันนั่น พวกเราคงหาอีกแสนหนึ่ง จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน?”
หวางเห้าถูกคำพูดของจางซิ่วจือทำให้คิดถึงแต่หลินเสว่เอ๋อ
เขาคิดถึงก่อนหน้านี้ที่หลินเสว่เอ๋อพูดกับเขา บอกว่าเฉินตงมีเงิน ให้เขาไปเอากับเฉินตง
จากนั้นเขาก็ไปบังคับหวางหนันหนัน หวางหนันหนันกลับไม่ได้ไปหาเฉินตงเหรอ?ทำไมถึงไปหาหลินเสว่เอ๋อแทนล่ะ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ หวางเห้าโกรธเป็นอย่างมาก: “พ่อแม่ แม่ของเฉินตงป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลลี่จิงใช่ไหม?”
หวางเต๋อกับจางซิ่วจือตกใจอึ้งไปตามๆ กัน
จากนั้นหวางเต๋อพยักหน้า: “ได้ ได้ยินว่าพี่สาวคุณเคยพูด น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลลี่จิง”
เขาเองก็ไม่แน่ใจ หลังจากที่แม่ของเฉินตงป่วยหนักและเข้าโรงพยาบาล พวกเขาเลยสนใจแต่เรื่องราวและเหตุผล เคยมาที่โรงพยาบาลครั้งเดียว เลยไม่ได้รู้จักมากมาย
“ฉันจะไปหา”
หวางเห้าหันตัวออกจากห้องผู้ป่วยไป
เขาจะไปยืนยันสักหน่อย ว่าเฉินตงมีหรือไม่มีเงินกันแน่
คำพูดของหลินเสว่เอ๋อนั้น เขาเชื่อ
ถ้าเกิดว่าเฉินตงมีเงิน งั้นอาการป่วยของแม่เขาก็ต้องได้ดีขึ้น
ถ้าอย่างนั้น……เป้าหมายที่เฉินตงหย่ากับพี่สาวเขาก็คือ……
กัดฟันกรอด หวางเห้ามีแววตาที่พร้อมฆ่าคนออกมา
ในห้องผู้ป่วย
ฟ่านลู่กำลังช่วยหลี่หลานเช็ดล้างร่างกาย อย่างระมัดระวัง และละเอียดมาก เพราะกลัวว่าหลี่หลานจะเจ็บ
หลี่หลานยิ้มขึ้นในทันใด: “เสี่ยวลู่ มือของคุณที่ด้าน……”
“ขอโทษ ที่ทำให้คุณป้าเจ็บ” ฟ่านลู่ตกใจ ก่อนจะรีบขอโทษ
“ไม่ๆ เสี่ยวลู่คุณเข้าใจฉันผิดแล้ว” หลี่หลานรีบอธิบาย: “คุณป้าสงสัยในตัวหนูน่ะ ทำไมมือถึงได้ด้านขนาดนี้ ลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ฟ่านลู่นิ่งไป ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา พลางก้มหน้าพูด: “ไม่เป็นไรหรอกคุณป้า ฉันไม่สนใจ”
เมื่อเห็นท่าทีของฟ่านลู่ หลี่หลานก็ถอนหายใจออกมาอย่างไร้ทางเลือกใดๆ พลางยิ้มเบาๆ แล้วพูด: “เด็กโง่”
ปัง!
ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกเปิดออก
หลี่หลานกับฟ่านลู่ต่างตกใจ และมองไปด้วยความสงสัย
หวางเห้าเดินเข้ามาในห้องพักด้วยความรวดเร็ว เมื่อเห็นหลี่หลานบนเตียง ก็ขึ้นเสียง: “เฉินตงบอกว่าคุณใกล้ตายแล้วใช่ไหม?”
หลี่หลานตกใจกลัวตัวสั่น
เธอไม่ได้รู้จักอะไรหวางเห้ามากมาย แต่ด้วยอาการป่วยของเธอในตอนนี้ เปิดประตูเดินเข้ามาพูดแบบนี้ มันเหมือนแช่งกันชัดๆ !
ฟ่านลู่ยิ่งเย็นชากว่า ก่อนจะรีบพูดสั่งว่า: “ขอให้คุณออกไป!”
“ทำไมต้องให้ฉันออกไปด้วย?” หวางเห้าโกรธมาก “ฉันเป็นน้องของภรรยาเฉินตง ทำไมต้องให้ฉันออกไปด้วย?”
อาการของหลี่หลานนั้นดีกว่าแต่ก่อนแล้ว แน่นอนว่าได้รับการรักษาไปไม่น้อย
เฉินตงรักษาแม่ที่ใกล้ตายคนนี้ เลยจะมาหย่ากับพี่สาว!
ถ้าเกิดว่าเขาสองคนไม่ได้หย่า แล้วพี่สาวเอาเงินจากเฉินตงมาหน่อย เขากับหลินเสว่เอ๋อก็จะหมั้นกันอย่างราบรื่น และเตรียมงานแต่ง จะมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน?
หลี่หลานตัวสั่นเทา และร้องไห้ออกมาในทันที
เมื่อเห็นหลี่หลานร้องไห้ ฟ่านลู่ก็ร้อนใจ
ตอนที่เฉินตงรับเธอมาทำงาน ก็ได้กำชับเอาไว้แล้วว่า ตอนนี้หลี่หลานรับแรงอะไรต่อไปไม่ไหวแล้ว!
“คุณออกไปให้พ้น อย่ามาทำร้ายจิตใจคุณป้านะ!”
ฟ่านลู่รีบปรี่เข้ามา
หวางเห้าเองก็เข้ามาด้วยท่าทีเหิมเกริม ก่อนจะต่อยไปที่หน้าของฟ่านลู่: “หลบไป คุณเกี่ยวอะไรด้วย?”