บทที่63 พระอาทิตย์ตกพอดี วิวสวยคนงาม
การถามเฉินตงออกไปตรงๆว่ามีเงินเท่าไหร่ สิ่งนี้ถือว่ากำลังซักไซ้เรื่องส่วนตัวของเขาแล้ว
กู้ชิงหยิ่งที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี ไม่สามารถทำสิ่งที่ไร้มารยาทเช่นนี้ได้
แต่ว่าวันนี้เฉินตงทำให้เธอเซอร์ไพรส์ติดๆกันซ้ำๆ จนเหมือนมีค้อนหนักๆฟาดเข้าที่สมองของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้อีกต่อไปแล้วจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกิจการไท่ติงหรือการพัฒนาย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองและการซื้อวิลล่าที่อยู่ตรงหน้านี้ด้วย
สามสิ่งนี้ มีอันไหนที่ไม่ได้คำนวณด้วยหน่วยร้อยล้านบ้างล่ะ?
ถึงแม้ว่าเฉินตงจะมีผู้สูงศักดิ์คอยช่วยเหลือ แต่ผู้สูงศักดิ์ก็คงจะไม่ฮึดฮัดหยิบเงินมาสนับสนุนเฉินตงโดยตรงหรอกใช่ไหมล่ะ?
นี่มันไม่ใช่การช่วยเหลือแล้ว นี่มันคือพ่อกำลังจ่ายเงินให้กับลูกชายชัดๆ!
เห็นได้ชัดว่า กู้ชิงหยิ่งคิดว่าเรื่องนี้ไม่สอดคล้องกับเหตุและผลอย่างแน่นอน
เฉินตงหยุดชะงักลง มองดูกู้ชิงหยิ่งที่กำลังประหลาดใจแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน : “ก็มีไม่มากนักหรอก รูดติดต่อกันหลายครั้ง เงินในบัตรก็เหลือไม่เยอะแล้ว”
พูดพร้อมกับหยิบบัตรธนาคารชงโค ออกมาแล้วคำนวณอย่างตั้งใจ และเอ่ยว่า : “น่าจะยังมีอยู่ห้าร้อยล้านล่ะมั้ง”
“บัตรธนาคารชงโค!”
ในเสี้ยววินาทีที่มองเห็นบัตรธนาคาร สีหน้าของกู้ชิงหยิ่งเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอเอามือปิดปากอย่างตกตะลึงและเกือบจะร้องตะโกนออกมา
เธอแทบจะไม่สนใจน้ำเสียงที่ไม่รู้จะทำเช่นไรดีของเฉินตงขณะที่พูดออกมาว่ามีเงินอยู่ห้าร้อยล้าน เพราะว่าบัตรธนาคารชงโคที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เธอช๊อคเสียยิ่งกว่าเอาเซอร์ไพรส์ทั้งหมดในวันนี้รวมเข้าไว้ด้วยกันเสียอีก!
เกณฑ์ของการมีเงินฝากจำนวนพันล้านแล้วยังมีเงื่อนไขการตรวจสอบที่ซับซ้อนและเข้มงวดต่างๆทำให้บัตรของธนาคารรชงโคกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง
สาเหตุที่เธอชัดเจนขนาดนี้เป็นเพราะว่าพ่อของเธอเองก็มีเช่นกัน
แต่ว่าเฉินตง…มีได้อย่างไร?
“คุณรู้จักเหรอ?” เฉินตงเองก็ประหลาดใจด้วยเช่นกัน
อยากให้รู้ด้วยว่าแม้แต่หลินเสว่เอ๋อที่เป็นพนักงานรับฝากเงินในตอนนั้นก็ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ
กู้ชิงหยิ่งพยักหน้าแล้วกดเสียงต่ำลงและเอ่ยถามว่า : “นี่คือสิ่งที่ผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นมอบให้คุณเหรอคะ?”
นอกเหนือจากผู้สูงศักดิ์ที่เฉินตงบอกแล้ว เธอไม่รู้จริงๆว่าจะเชื่อมโยงบัตธนาคารชงโค กับเฉินตงได้อย่างไร
“อื้ม ตอนแรกภายในบัตรมีหนึ่งพันล้าน ตอนนี้ผมได้นำส่วนหนึ่งออกมาใช้หมุนเวียนสำหรับโครงการภาคตะวันตกของไท่ติง” เฉินตงพยักหน้าพอเก็บบัตรเรียบร้อยแล้ว เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว การที่กู้ชิงหยิ่งรู้จักบัตรธนาคารชงโค ก็นับเป็นเรื่องปกติ
ไม่ว่ายังไงตัวของกู้ชิงหยิ่งเองก็เป็นทายาทคนรวยรุ่นที่สอง ถึงแม้ว่าบัตรธนาคารชงโค จะหาได้ยากมาก แต่ผู้จัดการธนาคารล้วนแต่รู้จัก กู้ชิงหยิ่งจะรู้จักด้วยก็สมเหตุสมผลเช่นกัน
“พันล้าน…”
หัวใจของกู้ชิงหยิ่งเต้นแรง ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกว่าไม่รู้ควรจะพูดอะไรดี
บัตรหนึ่งพันล้านของธนาคารชงโคมอบให้เฉินตงมือเปล่าเลยงั้นเหรอ?
ผู้สูงศักดิ์คนนี้ร่ำรวยอย่างมากด้วยสินะ?
เป็นเพราะว่าฐานะภูมิหลังของกู้ชิงหยิ่ง ในตอนนี้จึงยากที่จะซ่อนความหวาดผวาเอาไว้ได้และหลุดปากโพล่งออกมาว่า : “ตางั่งเอ๊ย คุณไม่อยากจะถามผู้สูงศักดิ์คนนั้นของคุณหลอว่า คุณเป็นลูกชายที่หายสาบสูญไปนานหลายปีของเขาหรือเปล่า ใช่ไหมล่ะ? เพราะว่าการแสดงออกแบบนี้มันดูไม่ดูใจกว้างมากเกินไปหลอ?”
เมื่อพูดมุกตลกออกมา แต่กลับมองไม่เห็นคำพูดอยู่ในนั้น
สิ่งนี้ทำให้เฉินตงแสดงออกด้วยการย่อตัวลง สายตาของเขาสลัวลงไปและมีร่องรอยของความหดหู่ปรากฎขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่านี่เป็นเรื่องตลกของกู้ชิงหยิ่งเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงระงับอารมณ์ลงไปได้อย่างรวดเร็ว จนกู้ชิงหยิ่งเองก็ไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเขาเลยเช่นกัน
“ไปเถอะ ไปดูข้างในบ้านกัน”
เฉินตงดึงกู้ชิงหยิ่งเดินเข้าไปในวิลล่า
เขาได้จัดเตรียมให้คุนหลุนเชิญนักออกแบบมาทำการตกแต่งบ้านในสไตล์ที่อบอุ่น
ภายใต้สถานการณ์ที่มีงบประมาณเพียงพอ เขาเชื่อว่าภายในของวิลล่าทั้งหมด จะไม่ทำให้เขาผิดหวังอย่างแน่นอน
วิลล่าหลังนี้ เป็นบ้านหลังใหม่ของเขาและแม่ในอนาคต
หลังจากที่เขากับแม่ต้องเร่รอนอยู่ในเมืองนี้มานานหลายปี นี่เป็นสถานที่ที่จะลงหลักปักฐาน
เพราะจากการเลี้ยงดูเขามา แม่ของเขาต้องได้รับความทุกข์ยากลำบากที่เฉินตงไม่สามารถจินตนาการได้เลย
ตอนนี้เขามีความสามารถแล้วก็ควรที่จะเป็นนกอินทรีย์ที่หาอาหารมาป้อนได้แล้ว
เพื่อที่จะมอบสถานที่พักฟื้นที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับแม่ เฉินตงยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นอีก
การออกแบบตกแต่งภายในด้วยไสตล์ที่อบอุ่นอยู่ภายใต้คำขอของเฉินตง
ไม่แสวงหาบรรยากาศหรูหรามากเกินไปและมีความอบอุ่นและสบายมากขึ้น
ในใจของเฉินตง สถานที่แห่งนี้คือบ้าน บ้านควรมีบรรยากาศที่อบอุ่นและสบาย ไม่ใช่ความหรูหราเพื่อที่จะอวดรวย
เมื่อเฉินตงเดินเข้าไปในวิลล่าและมองเห็นรูปแบบการตกแต่งแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
การจับคู่โทนสีอบอุ่นและเฟอร์นิเจอร์ที่สะดวกสบาย ทุกอย่างถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันและยังไม่พบข้อบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
ทำให้คนที่เดินเข้ามามีความรู้สึกผ่อนคลายโดยทันที
“เฉินตง สไตล์การตกแต่งแบบนี้ยอดเยี่ยมมากเลย” กู้ชิงหยิ่งเอ่ยชื่นชม “มีความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน”
เฉินตงยิ้มน้อยๆ : “ถ้าอย่างนั้นยินดีต้อนรับนายหญิงกลับบ้านนะครับ”
ใบหน้าสวยของกู้ชิงหยิ่งแดงระเรื่อและกล่าวอย่างโกรธๆ : “เกลียดจริงๆ อย่าไร้สาระให้มากนัก รีบพาฉันไปดูรอบๆเร็วเข้า”
เฉินตงเองก็มาที่นี่เป็นครั้งแรก ดังนั้นจึงอยากรู้อยากเห็นทุกอย่างในวิลล่าด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเขาและกู้ชิงหยิ่งจึงเดินไปรอบๆวิลล่าด้วยกัน
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเกิดความงงงวยเล็กน้อยก็คือ หลังจากที่เขาเข้าไปในวิลล่าแล้วก็ไม่เห็นคุนหลุนเลย
ว่ากันตามเหตุผลแล้ว คุนหลุนรู้ว่าวันนี้เขาจะมา ยิ่งไปกว่านั้นเฟอร์นิเจอร์ที่นุ่มนวลเหล่านี้เพิ่งจะตกแต่งเสร็จวันนี้ คุนหลุนควรจะอยู่ในวิลล่าด้วย
วิลล่าทั้งหลังมีทั้งหมดสี่ชั้นและมีทุกอย่างครบครัน เช่นห้องรับรอง ห้องเอนเตอเทนเม้นท์เป็นต้น
ที่ชั้นบนสุด ยังมีระเบียงที่กว้างขวาง
นักออกแบบปลุกต้นไม้และดอกไม้ไว้รอบๆระเบียง ดอกไม้นานาชนิดต่างพากันแข่งขันกันเบ่งบาน บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้
และที่ตรงกลางระเบียงยังมีชิงช้าและเก้าอี้ผ้าใบวางไว้
กู้ชิงหยิ่งนั่งลงไปบนชิงช้าแล้วแกว่งเบาๆ ดวงตานั้นลึกล้ำ : “เฉินตงคะ การเปลี่ยนแปลงของคุณทำให้ฉันประหลาดใจมาก”
วิ่งวุ่นมาแล้วทั้งวัน เฉินตงนอนเหยียดกายบนเก้าอี้แล้วมองดูพระอาทิตย์ค่อยๆตกที่ขอบฟ้า แล้วยิ้มอย่างเบิกบาน : “ใช่แล้วล่ะ จากคุกมาสู่สวรรค์ ผมคิดไม่ถึงเลย”
พูดคุยกันแล้วตามมาด้วยการเข้าสู่ความเงียบงัน
ทั้งเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลายความเงียบงันบนระเบียง
ดูเหมือนว่าในเวลานี้ ทั้งสองคนต่างพากันเงียบลงและเพลิดเพลินอย่างสบายใจกับความเงียบสงบในช่วงเวลาแห่งความสันโดษนี้
ที่ขอบฟ้า พระอาทิตย์ค่อยๆตกลง
ดวงอาทิตย์ดูคล้ายกับเปลวไฟ ก้อนเมฆที่มีแสงเรืองรองได้ย้อมท้องฟ้าครึ่งหนึ่งเป็นสีแดง
สวยงามราวกับภาพเลื่อน
เมื่อดวงอาทิตย์ตกลงมาถึงจุดที่แน่นอนแล้ว เหมือนกับมีแสงไฟปกคลุมด้านบนของวิลล่าเอาไว้
ดูราวกับว่าวิลล่าทั้งหลังได้สวมเสื้อคลุมสีทองอันงดงามส่องแสงสว่างระยิบระยับ
“ว้าว…สวยมากเลย”
กู้ชิงหยิ่งมองดูพระอาทิตย์ตกดินนั้นดวงตาเป็นประกายอย่างอดไม่ได้ ทั้งตกตะลึงและถอนใจอย่างชื่นชม
เฉินตงยิ้มและจ้องมองพระอาทิตย์ตกดินเช่นเดียวกัน ทิวทัศน์ที่สวยงามแบบนี้มีวิลล่าเพียงไม่กี่หลังบนเนินเขาของเขาเทียนซานเท่านั้นที่ได้ครอบครอง
สิ่งนี้เป็นเหตุผลที่วิลล่าหลายหลังนี้สามารถขายออกได้ในราคามากกว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญ
“เฉินตง คุณรีบลุกขึ้นมาดูสิ พระอาทิตย์ตกสวยงามมากเลย”
กู้ชิงหยิ่งเห็นเฉินตงขี้เกียจอย่างนี้แล้ว กู้ชิงหยิ่งเดินอย่างสนุกสนานเหมือนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปถึงด้านข้างของเฉินตงและต้องการดึงเฉินตงขึ้นมา
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเฉินตงก็ออกแรงทันที
กู้ชิงหยิ่งก็มีท่าทางตกใจทันที เมื่อกรีดร้องออกมาก็ตกลงสู่อ้อมกอดของเฉินตงไปโดยธรรมชาติ
ทันใดนั้นทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน
พระอาทิตย์ตกพอดี
วิวก็สวยคนก็งาม
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่ปรากฏขึ้นได้จังหวะอย่างพอดิบพอดี
มุมปากของเฉินตงยกขึ้น เขายิ้มและพูดว่า : “คุณไม่ได้พูดว่าอยากพักผ่อนหรอกเหรอ”
ร่างบอบบางของกู้ชิงหยิ่งสั่นสะท้านทันทีและความรู้สึกเผาใหม้ไปทั้งตัวก่อนหน้านี้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันทำให้เธอรู้สึกร้อนรุ่มอย่างรุนแรงไปหมดทั้งตัว
แต่ว่าสายตาของเฉินตงที่อยู่ตรงหน้า เธอก็ไม่ได้หลบสายตาไปทางอื่น
ทั้งสองคนมองหน้ากันและค่อยๆเข้ามาใกล้กัน…