The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – ตอนที่ 71

ตอนที่ 71

บทที่ 71 เรื่องในวันนั้น

เฉินตงไม่ได้คาดคิดเลย

แค่คำคำเดียวของเขา แต่กลับทำให้แม่ของเขาต้องโกรธมาก

กระทั่งตบหน้าเขา!

แม่ไม่ได้ตีเขามานานแล้ว……

“แม่จะยอมให้นายใส่ร้ายเขาไม่ได้อีก เขาคือพ่อของนายและเป็นสามีของแม่ อีกอย่างเขาไม่ได้ทำอะไรผิดด้วย!” น้ำตาไหลรินจากขอบตาของหลี่หลาน สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ

“แต่เขาทิ้งพวกเราไปมีความสุขกับความมั่งคั่งของเขานะ!”

หัวใจเฉินตงเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “เขาจะรู้บ้างไหมว่าแม่ต้องทนทุกข์ทรมานกี่ปี? ความเจ็บป่วยของแม่ตอนนี้ก็เพราะมาจากความเหนื่อยล้าในการเลี้ยงดูผม เขาจะรู้บ้างไหม หลังจากที่ลูกคนนี้ไม่มีพ่อแล้วต้องถูกคนอื่นดูถูกยังไง?”

“หุบปาก นายหุบปากไปซะ!”

หลี่หลานพูดด้วยความโกรธและเริ่มหายใจกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง “ตงเอ๋อ เมื่อก่อนนายยังเป็นเด็ก หลายๆ อย่างนายยังไม่รู้เรื่อง แม่จึงไม่ได้ตำหนินายที่นายโทษพ่อของนาย แต่ตอนนี้นายโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว สาเหตุที่ทำให้เราสองคนแม่ลูกต้องเผชิญกับเรื่องแย่ๆ มานานหลายปีนั้น มันไม่ได้เป็นเพราะพ่อนายเลย นายจะโทษเขาไม่ได้” เมื่อเห็นสีหน้าของหลี่หลานแล้ว เฉินตงก็รู้สึกตื่นตระหนกทันที

เขาโกรธพ่อที่เป็นเหมือนคนแปลกหน้ามากเกินไปจนลืมเป็นห่วงแม่ของตน

เฉินตงจึงรีบปลอบเธอ “แม่ครับ แม่ใจเย็นๆ แม่ใจเย็นๆ ก่อน……”

หลี่หลานพยายามหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆ สงบสติลง

จากนั้นเธออ้อมมือไปแตะที่ใบหน้าของเฉินตงแล้วพูดด้วยน้ำตา “เจ็บไหมลูก?”

เฉินตงส่ายหัวแล้วพยายามระงับความโกรธในใจและพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา “ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมแม่ต้องปกป้องคนแบบนั้นด้วย!”

จากนั้นทั้งสองเงียบไปพักใหญ่

หลี่หลานวางมือลงและก้มหน้าเหมือนกำลังนึกคิดและใคร่ครวญถึงอดีต

จนผ่านไปเกือบสิบนาที

“เฮ้อ……”

หลี่หลานถอนหายใจเสียงดัง “นายเคยถามแม่ว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเราไป แต่ตอนนั้นนายยังเด็ก แม่ก็เลยไม่ได้บอกนาย ตอนนี้นายโตขึ้นและพ่อก็กลับมาแล้ว งั้น……แม่จะบอกให้นายรู้ก็แล้วกัน”

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ หลี่หลานเช็ดน้ำตาแล้วค่อยๆ พูดขึ้น “เพราะถ้าพ่อของลูกไม่ไปจากเราในวันนั้น เขาจะต้องตาย และลูกกับแม่ก็ต้องตายด้วยเช่นกัน……”

ตูม!

เหมือนมีเสียงระเบิดดังขึ้นในจิตใจของเฉินตง เขาตกใจมาก

แม่หมายความว่าผู้ชายที่ทอดทิ้งครอบครัวไปในวันนั้น เขาเพียงแค่จะหนีความตาย และในขณะเดียวกันก็เพื่อจะปกป้องชีวิตของพวกเขาสองแม่ลูกด้วย?

เป็นไปได้อย่างไร?

แต่ในชั่วขณะนั้น คำพูดของหลี่หลานก็ทำให้เฉินตงนึกขึ้นได้

“ครอบครัวเขา ไม่ได้มองชีวิตของมนุษย์เป็นชีวิตเลย!” หลี่หลานสองมือกุมขมับแล้วพูดด้วยความเศร้า

เฉินตงกัดริมฝีปากไว้แน่นๆ และไม่รู้จะพูดยังไงต่อ

เพราะเขาเคยเห็น

เฉินเทียนหย่างกล้าฆ่าคนจริงๆ!

ในตอนนั้น ถ้าคุนหลุนไม่ปรากฏตัวทันเวลา เขาคงต้องตายด้วยเงื้อมมือของเฉินเทียนหย่างไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ คำพูดของแม่ก็ดูสมเหตุสมผลขึ้น!

ทันใดนั้น หลี่หลานก็กอดเฉินตง

จากนั้นเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ราวกับอ้อนวอนด้วยน้ำตา “ตงเอ๋อ ลูกอย่าโทษพ่อเลยนะ พ่อทำเพื่อเราจริงๆ แม้เราสองคนจะต้องทนทุกข์มามากกว่ายี่สิบปีก็ตาม แต่อย่างน้อยเรายังมีชีวิตอยู่ ถ้าพ่อไม่จากไปในวันนั้น ครอบครัวเราคงไม่มีวันนี้”

“เขาไม่เคยทอดทิ้งเราเลย เขารักลูกกับแม่มาตลอด วันนั้นเขากลับมาบอกลาแม่กับลูกที่อยู่ในท้องแม่ด้วยบาดแผลที่เต็มตัวด้วยซ้ำ”

“เขาเป็นลูกผู้ชาย เป็นพ่อของลูก เขารับผิดชอบหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่แล้ว แม่ไม่เคยโทษในการจากไปของพ่อเลย ลูกก็อย่าไปโทษเขาเลยนะ”

น้ำตาของแม่เหมือนเข็มที่ทิ่มแทงหัวใจของเฉินตง

เขารู้สึกไม่คาดคิดและไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ

ตั้งแต่เล็กจนโต เขามีแต่ความเกลียดชัง

ไม่เคยคิดถึงเรื่องอื่นๆ เลย

แต่น้ำตาของแม่ในขณะนี้มันทำให้เขาลังเลกับความเคียดแค้นในอดีตที่ผ่านมา

“แล้วหลายปีมานี้ ทำไมเขาไม่ยอมกลับมาหาเราเลย? ทำไมเขาถึงส่งแค่ท่านหลงมาในเวลาที่แม่กำลังจะตายแทนที่เขาจะมาด้วยตนเอง?” เฉินตงถามด้วยเสียงสั่นเครือ

“เขาไม่ใช่ตัวของตัวเองอีกแล้ว แม่รู้ดี แม้เขาจะเป็นหัวหน้าครอบครัวของเขา แต่ในบ้านนั้น เขาไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจอีก!”

เสียงร้องไห้ของแม่ดังขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนความโศกเศร้าที่ค้างคาอยู่ในใจได้ระบายออกมา “วันที่เขาจากไป ท่านหลงก็อยู่ข้างๆ เหมือนกัน แม่รู้จักท่านหลง เขาส่งท่านหลงมาในช่วงวิกฤตของลูก นั้นคือขีดจำกัดของเขาแล้ว ในใจเขายังมีพวกเราอยู่ ไม่อย่างนั้นเขาจะรู้ได้ไงว่าแม่กำลังจะตาย?”

เฉินตงถึงกับอึ้ง

จริงเหมือนกัน!

ท่านหลงมาช่วยแม่เขาไว้ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

ถ้าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ มันต้องบังเอิญขนาดไหน?

จากนั้นสักพัก

เฉินตงรอจนกว่าเสียงร้องไห้ของแม่เบาลง เขาจึงจะค่อยๆ พูดอย่างใจเย็น “เขาเจออะไรที่บ้านนั้นกันแน่?”

หลี่หลานส่ายหัวแล้วพูดด้วยความเศร้า “ไม่รู้เหมือนกัน แม่บอกทั้งหมดเท่าที่แม่รู้แล้ว”

เฉินตงครุ่นคิดอยู่สักพัก

ดวงตาของเขากะพริบ

ในขณะนั้น เขานึกถึงคำพูดของท่านหลงในครั้งแรกที่เจอกับเขา

และหลายๆ ครั้งที่เขาเกลียดพ่อของเขาต่อหน้าท่านหลง แต่ท่านหลงก็ยอมอดกลั้นไว้อย่างเจ็บปวดใจ

แต่ขอเสนอของการรับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวนี้มันหมายถึงอะไรกันแน่?

เฉินตงหายใจเข้าลึกๆ แล้วระงับอารมณ์ที่วุ่นวายของเขา จากนั้นยิ้มพูดต่อ

“แม่ครับ ผมทราบแล้วครับ”

หลี่หลานพยักหน้าและยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา “อย่าโกรธพ่อของลูกเลยนะ ไม่อย่างนั้นแม่คงนอนตายตาไม่หลับแน่”

จู่ ๆ เฉินตงก็ตื่นตระหนก “แม่ครับ แม่อย่าพูดแบบนี้สิ แม่ต้องมีอายุยืนยาวถึงร้อยปี แม่ต้องรออุ้มหลานก่อนสิครับ”

หลี่หลานยิ้มและลูบหัวเฉินตงเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นลูกก็ต้องเร่งหน่อยสิ”

นี่คือการเร่งให้เขาแต่งงานใช่ไหม?

เฉินตงรู้สึกเขินอายทันที

สองแม่ลูกต่างก็ยิ้มให้กัน

กู้ชิงหยิ่งยังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก เธอไม่รู้ว่าหลี่หลานเรียกเฉินตงไปทำไม แต่เธอรู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเขา ดังนั้นเธอจึงตั้งหน้าตั้งตารออย่างเงียบๆ

แต่สักพักเธอก็เริ่มรู้สึกเบื่อ เธอจึงลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อช่วยงานฟ่านลู่

ส่วนคุนหลุนนั่งปอกเปลือกมันฝรั่งอย่างเงียบๆ คนเดียว

“พี่คุนหลุน พี่ปอกเปลือกให้บางกว่านี้หน่อยสิ ถ้าปอกหนามันจะเปลืองนะ” ฟ่านลู่มองไปที่มันฝรั่งในมือของคุนหลุนแล้วรู้สึกเสียดาย

คุนหลุนเงยหน้ามองไปที่ฟ่านลู่แล้วพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

จากนั้นก้มหน้าปอกเปลือกต่อ แต่เขาเริ่มพึมพำประโยคที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน “ตอนผมหั่นคนในสนามรบ ไม่มีใครบอกผมว่าสิ้นเปลืองเลยนะ”

กู้ชิงหยิ่งที่เห็นภาพนี้แล้ว เธอก็คลี่แขนเสื้อขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่ลู่คะ มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ?”

“หืม?!”

ฟ่านลู่รู้สึกตกใจและรีบพูดกับเธอ “คุณกู้คะ คุณเป็นแฟนของคุณเฉินนะคะ คุณจะทำงานหนักแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ ให้ดิฉันกับพี่คุนหลุนทำก็พอค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า หนูอยู่บ้านก็ช่วยแม่ทำกับข้าวเหมือนกัน”

กู้ชิงหยิ่งยิ้มจางๆ จากนั้นหยิบมีดปอกผลไม้กับมันฝรั่งแล้วนั่งลงข้างๆ คุนหลุน “งั้นหนูช่วยพี่คุนหลุนปอกมันฝรั่งนะคะ”

ฟ่านลู่ได้แต่ถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้

หนึ่งนาทีต่อมา

ฟ่านลู่สังเกตเห็นมันฝรั่งขนาดเท่ากำปั้นถูกปอกให้เหลือแค่ขนาดเท่าลูกท้อ เธอจึงรู้สึกเสียดายอย่างที่สุด

จากนั้นมองไปที่กู้ชิงหยิ่งแล้วพูดว่า “คุณกู้เคยทำกับข้าวจริงๆ เหรอคะ?”

กู้ชิงหยิ่งมองไปที่มันฝรั่งขนาดเท่าลูกท้อก็รู้สึกเขินเล็กน้อย จากนั้นแลบลิ้นแล้วพูดอย่างขำขัน “หนูเคยช่วยคุณแม่ต้มน้ำอยู่”

ฟ่านลู่ “.…..”

คุนหลุน “.…..”

ในขณะนี้ เฉินตงกับหลี่หลานก็เดินลงมาพอดี

เมื่อเห็นภาพนี้ แม่ลูกทั้งสองก็ยิ้มให้กัน

นี่มัน……ให้ความรู้สึกของความเป็นครอบครัวแล้วนะ

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท