บทที่ 78 นี่มันบ้าไปแล้ว!
เมื่อได้ยินคำพูดที่เย็นชานี้ โจวเห้าถึงกับเกร็งไปทั้งตัว
คนคนเดียวจะกล้าท้าทายคนเป็นสิบได้ยังไง?
มัน……ล้อเล่นอยู่ใช่ไหม!
“อันธพาลใส่สูทใช่ไหม? ได้สิ ในเมื่อมึงไม่ยอมจบ อย่าหาว่ากูไม่เกรงใจก็แล้วกัน!”
โจวเห้ากัดฟันด้วยความโกรธ จากนั้นโบกมือเพื่อสั่งการ “อัดมันให้ร่วง ทีเหลือกูรับผิดชอบเอง!”
ทันใดนั้น คนนับสิบที่มีพลั่วท่อเหล็กก็กระโจนเข้าหาเฉินตง
ส่วนโจวเห้าค่อยๆ ถอยออกจากพวกเขา
เฉินตงยิ้มอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาเปล่งประกาย จากนั้นพุ่งเข้าหาโจวเห้าที่กำลังเดินถอยหลังอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ใช่คนไร้น้ำยาแต่อย่างใด สามปีที่อยู่ในบ้านตระกูลหวาง เขาเจอเรื่องราวมาหลายต่อหลายอย่าง แต่ทั้งหมดนั้นก็เพราะเขารักหวางหนันหนัน
ถ้าเขาเป็นคนกระจอกจริงๆ แล้วเขาจะเป็นรองประธานของไท่ติ่งภายในสามปีได้อย่างไร?
ช่วงหนึ่งเฉินตงเคยการฝึกระบบฝึกปีศาจ ซึ่งทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าคนปกติทั่วไปมาก แม้เขาจะยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่คนกลุ่มนี้ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขาเลย
ด้วยความเร็วแสง เฉินตงพุ่งเข้าถึงตัวโจวเห้าเหมือนสายฟ้า
โจวเห้าตะโกนตกใจแล้วเหวี่ยงหมัดเข้าหาเฉินตง
แต่เฉินตงหลบการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย จากนั้นคว้ามือของโจวเห้าแล้วล็อกตัวเขาไว้
“โอ๊ย!”
ด้วยเสียงกรีดร้อง เฉินตงจับโจวเห้าไว้ได้
โจวเห้าในขณะนี้เหมือนท่อนไม้ที่หมุนอยู่กับที่ เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของเขาทำให้ทุกคนต้องห่างออกไป
“หมอบลงไป!”
เฉินตงสีหน้าเย็นเยือก สองมือจับโจวเห้าไว้แล้วฟาดเขาลงกับพื้น
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของโจวเห้าซีดลงทันที เขาทำได้เพียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด
เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของโจวจุนหลง การที่ได้รับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้างานของชุมชนเฮติก็เป็นเพราะเส้นสายของเขาเท่านั้น วันๆ เขาทำได้เพียงโอ้อวดอำนาจและศักดิ์ศรี ซึ่งไม่มีทักษะในตัวเลยแม้แต่นิด อย่าให้เขาต้องเทียบกับเฉินตงเลย แม้แต่นักเลงข้างถนนเขาก็ไม่มีปัญญาเอาชนะได้
ฮึบ!
ในขณะที่โจวเห้าล้มลง ทันใดนั้นก็มีเสียงหึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
เฉินตงขมวดคิ้วและเห็นท่อนเหล็กที่กำลังจะเหวี่ยงเข้ามาถึงเขา ในพริบตานั้นเขาหลบการโจมตีพร้อมกับเตะเข้าไปที่หน้าท้องของอันธพาลคนนั้นและแย่งท่อนเหล็กมาได้
“ฟ่านลู่ คุนหลุน เดินออกไปกับผม!”
เฉินตงตะโกนพูด เขายกท่อนเหล็กขึ้นมาราวกับเทพเจ้าแห่งการสังหาร จากนั้นพุ่งตรงเข้าไปในวงล้อมของชายกลุ่มนั้น
ทุกครั้งที่ท่อนเหล็กนั้นถูกเหวี่ยงออกไป จะมีเสียงคนกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นและจะมีคนล้มลงกับพื้นโดยกุมศีรษะที่เปื้อนเลือดของเขา
เฉินตงไม่ได้เป็นคนโง่เขลา เขารู้ดีว่าในสถานการณ์แบบนี้ต่อให้เขาสามารถสู้กับคนเป็นสิบได้ แต่เขาต้องแลกด้วยพลังงานไม่น้อยอย่างแน่นอน
มันไม่คุ้มแน่!
ดังนั้นเขาจึงต้องพาคุนหลุนกับฟ่านลู่ออกไปในที่ปลอดภัยก่อน เขาจึงจะมีพื้นที่มากพอในการจัดการกับคนกลุ่มนี้
สำหรับการยั้งมือนั้น เขาไม่มีความคิดนี้เลย!
ถูกคนสิบคนรุมทำร้ายแล้วต้องอภัยให้พวกเขา มันคงจะโหดร้ายต่อตัวเองมากเกินไป!
“อัดมันสิวะ รอเชี้ยอะไร! ไอ้พวกเหลือขอ กูเลี้ยงพวกมึงไว้ทำไม?”
เมื่อเห็นเฉินตงยืนอยู่ในท่ามกลางลูกน้อง โจวเห้าก็ถอยห่างออกไปแล้วกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
ทันทีที่เสียงพูดยังจบลง
เฉินตงที่อยู่ท่ามกลางชายกลุ่มนั้นกันหันกลับมาแล้วเหวี่ยงท่อนเหล็กไปที่โจวเห้า
“มึงมันหัวดื้อจริงๆ!”
ผัวะ!
“อ๊า!”
โจวเห้าที่ถูกท่อนเหล็กฟาดเข้ากลางหน้าผากถึงกับเลือดพุ่งออกมาแล้วทรุดตัวลงไปนอนกองกับพื้นทันที
“คุณชายระวัง!”
คุนหลุนที่ยืนอยู่ด้านหลังเฉินตงตะโกนขึ้น
เฉินตงหันกลับไปอย่างกะทันหันและเห็นท่อนเหล็กฟาดลงมาที่เขา
ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขากำหมัดขวาแล้วเหวี่ยงออกไปปะทะกับท่อนเหล็กนั้น
ตึบ!
เสียงสนั่นดังขึ้น ท่อนเหล็กกระเด็นออกไป
การปะทะในครั้งนี้ทำให้มือขวาของเฉินตงแตกและมีเลือดไหลออกมา
“คุณเฉิน……”
ฟ่านลู่ตกใจจนหน้าซีด
เธอไม่เคยเห็นเฉินตงในสภาพแบบนี้มาก่อน แต่รู้สึกกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก
“ไม่เป็นไร เราไปกันต่อ”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหูฟ่านลู่
โดยที่ฟ่านลู่ยังไม่ทันตั้งตัว แขนซ้ายของเธอก็ถูกจับไว้แน่นๆ
“พี่คุนหลุน……”
ฟ่านลู่มองคุนหลุนอย่างว่างเปล่าและเดินตามเขาไปอย่างงุนงง
ทั้งสองไม่ได้เดินเร็วมากนัก ได้แต่เดินตามเฉินตงอย่างใกล้ชิด
แม้จะมีแต่คนพยายามอ้อมเฉินตงเข้ามาทำร้ายพวกเขา
แต่เฉินตงไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาถึงตัวเลย!
ในไม่ช้าการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้ก็ดึงดูดสายตาของคนงานทั่วไซต์งาน
คนงานกลุ่มหนึ่งถึงกับอึ้งเมื่อเห็นเฉินตงฝ่าวงล้อมของชายนับสิบคนเพียงลำพัง
นั่นใช่มนุษย์หรือ?
โจวเห้าเป็นเด็กเส้นในไซต์งาน เขามีลูกน้องกลุ่มอันธพาลมากมาย ดังนั้นโดยปกติแล้วเขาถึงทำตัวกร่างอยู่ตลอด
นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่คุนหลุนกับฟ่านลู่ถูกทำร้ายแต่ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย
ในความคิดของคนงาน ทุกคนต่างก็เคยชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว
แต่ตอนนี้กลับผิดปกติ!
มันบ้าไปแล้วจริงๆ!
ในไม่ช้า ลูกน้องสิบกว่าคนของโจวเห้าก็ถูกเฉินตงจัดการไปมากกว่าครึ่งแล้ว ส่วนอีกครึ่งของที่เหลือก็ตื่นตระหนกและไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีกเลย
เฉินตงที่ยืนอยู่ท่ามกลางชายกลุ่มนั้นกวาดมองไปรอบๆ เขาเช็ดเลือดจากบาดแผลที่มือขวาของเขาบนสูท จากนั้นยกมือขึ้นแล้วดึงเนกไทอีกครั้ง
“จะเอาอีกไหม?”
เสียงพูดที่เย็นชาพร้อมความคารมที่ติดตลก
แต่เมื่อทุกคนได้ยินก็เหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางจิตใจ
พวกเขาเป็นนักสู้อยู่แล้ว การที่มือเปื้อนเลือดเป็นเรื่องธรรมดา แต่วันนี้สิ่งที่เฉินตงแสดงให้เห็นกลับเลือดเย็นกว่าที่คิด!
“อัดมันสิ อัดมันต่อเลย!”
โจวเห้าที่นั่งกุมหัวอยู่ไม่ไกลก็ตะโกนขึ้นอีกครั้ง
เฉินตงยิ้มจางๆ จากนั้นยื่นมือขวาออกไปที่ลูกน้องเขาคนหนึ่ง
“เอามา!”
ลูกน้องคนนั้นถึงกับตกตะลึงและเดินถอยหลังไป
เฉินตงชี้ไปที่ท่อนเหล็กแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “ส่งมันมา!”
ลูกน้องที่ตกใจกลัวอยู่ เขาไม่ลังเลที่จะยื่นท่อนเหล็กในมือให้กับเฉินตงเลย
“ใจนะ”
เฉินตงยิ้มพูด จากนั้นหันเดินไปที่โจวเห้า
ลูกน้องก้มหน้ามองสองมือเปล่าของเขาด้วยความงุนงง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำไมต้องส่งท่อนเหล็กในมือให้กับเฉินตงด้วย
“เพราะคุณทำร้ายคนของผม วันนี้ผมจะเอาขาคุณไปข้างหนึ่ง”
เฉินตงยืนอยู่ตรงหน้าโจวเห้าแล้วพูดอย่างเยือกเย็น
“อย่า อย่านะ……กูเป็นน้องชายของโจวจุนหลงเชียวนะ! มึง……”
โจวเห้าตกใจกลัวและพยายามขอความเมตตาจากเขา
แต่ว่า
ผัวะ!
ท่อนเหล็กก็ฟาดลงมากระแทกกับขาซ้ายของโจวเห้า
เสียงแตกหักที่ชัดเจนของกระดูกทำให้ทุกคนได้ยินแล้วต้องรู้สึกตกใจ
ตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของเฉินตงยังคงเหมือนเดิม
ในเสียงกรีดร้องเหมือนหมูที่ถูกเชือดของโจวเห้า
เฉินตงโยนท่อนเหล็กลงแล้วเอนตัวไปหาเขา “ตอนนี้นายรู้แล้วหรือยังว่าอะไรคืออันธพาลในชุดสูท?”
“มึง……มึงมัน……พี่ชายกูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ ไท่ติ่งของมึงไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นคนขัดรองเท้าของพี่ชายกูโจวจุนหลงด้วยซ้ำ!” โจวเห้าเจ็บจนหน้ามืดและเหงื่อก็แตกเต็มหน้าผาก แต่เขายังคงตะโกนข่มขู่อย่างเสียงดัง
“งั้นให้พี่ชายคุณนัดเวลามาเลยนะ ผมจะไปตามนัดเอง พอดีอยากให้แกจ่ายเงินค่าสูทชุดนี้หน่อย”
เฉินตงยิ้มพูดอย่างเย้ยหยันแล้วหันมองไปที่คุนหลุนกับฟ่านลู่ “กลับบ้านกันเถอะ”
เป็นประโยคง่ายๆ แต่เหมือนค้อนหนักที่กระแทกกับหัวใจของคุนหลุนและฟ่านลู่