The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – ตอนที่ 89

ตอนที่ 89

บทที่ 89 หมู่ตึกยู่ฉวนและเทียนเก๋อ

ตอนเย็นสองทุ่ม

เฉินตงรีบไปที่ “หมู่ตึกยู่ฉวน” ที่อยู่นอกเมือง

นี่เป็นที่ของโจวเย่นชิว ซึ่งเป็นสถานที่ที่นัดกันในครั้งนี้และยังเป็นที่อยู่ส่วนตัวที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้

ไม่บอกไม่ได้ ว่าโจวเย่นชิวสามารถเรียกลมเรียกฝนจากเมืองนี้ได้จริง ๆ!

แต่ว่าเพื่อความปลอดภัยเฉินตงจึงให้กูหลังมาด้วย

โจวจุนหลงเป็นคู่ต่อสู้ของโจวเย่นชิว ทั้งสองต่อสู้กันมาหลายปีโดยไม่มีใครชนะหรือแพ้ ซึ่งเพียงพอที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของโจวจุนหลง

บนโต๊ะอาหารเย็น หากโจวจุนหลงต้องการสร้างปัญหาโจวเย่นชิวอาจจะหยุดมันไม่ได้!

แท็กซี่จอดที่ประตูหมู่ตึกยู่ฉวน

เฉินตงและกูหลังลงจากรถแล้วเดินเข้าไป

“คุณเฉินความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับโจวจุนหลงเป็นไปได้จริง ๆ เหรอที่จะคืนดีกัน?”

กูหลังรู้จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ ในฐานะผู้ติดตามเขาไม่ควรถามอะไรมาก เขาอดกลั้นทุกอย่างได้แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู ในที่สุดเขาก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้

ที่สำคัญที่สุดคือในเมืองแห่งนี้โจวจุนหลงถือว่าเป็นคนขึ้นชื่อเรื่องนี้อย่างมาก เขากังวลว่ามื้อเย็นในคืนนี้จะส่งผลเสียต่อเฉินตง

“ไม่มี”

เฉินตงพูดเรียบ ๆ “ไม่ว่าความแค้นจากครั้งที่แล้ว หรือการพัฒนาของไท่ติง โจวจุนหลงและฉันก็อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกันตลอดมา แต่เพราะเป็นคำเชิญของโจวเย่นชิวก็คงต้องไว้หน้ากันบ้าง”

ดวงตาของกูหลังกะพริบ พูดอย่างเป็นห่วง “งั้นความปลอดภัย……..”

“หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา รีบหนีออกมาก่อน!” เฉินตงพูดอย่างเคร่งขรึม

“ทั้งสองท่าน นี่เป็นบ้านพักส่วนตัว ไม่มีคำเชิญหรือนัดล่วงหน้าไม่สามารถเข้าได้” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูหยุดเฉินตงและกูหลัง

กูหลังมองอย่างเคร่งขรึม “อะไรกัน โจวเย่นชิวอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ?”

สีหน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปลี่ยนไป รีบโค้งคำนับและพูด “ผมขอโทษท่านทั้งสองคน ผมไม่รู้ว่าท่านเป็นแขกของประธานโจว โปรดตามผมมา”

ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็หันกลับไปและพูดกับเครื่องส่งวิทยุ “เอารถมาคัน”

ไม่นานรถคันหนึ่งก็ขับออกมาจากวิลล่า

หลังจากให้เฉินตงและกูหลังขึ้นรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็วิ่งไปยังรถคันข้างหน้าเพื่อนำทาง

ในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวิลล่า เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะนั่งรถคันเดียวกันกับแขกของประธานโจว

ระหว่างทางเฉินตงมองไปที่วิวของวิลล่าด้วยอย่างสนใจ

เขาเคยได้ยินชื่อ “หมู่ตึกยู่ฉวน” มาก่อนและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามา

สภาพแวดล้อมที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ บวกกับแสงไฟและควันจากลำน้ำทำให้วิลล่าในยามค่ำคืนสวยงามราวกับอยู่ในแดนสวรรค์

อาคารสไตล์โบราณหลายหลังตั้งตระหง่านและมีดวงดาวกระจายอยู่ทั่ววิลล่า

เขาใช้เวลาสิบนาทีเพื่อไปยังอาคารโบราณ

“คุณชาย ถึงแล้ว”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิ่งมาใช้เวลาสิบนาที ก้มตัวคำนับด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไม่มีหอบหายใจ

“ไปกันเถอะ”

เฉินตงพากูหลังลงจากรถ

ที่ประตู มีสาวงามสองคนในชุดกี่เพ้าสีแดงยืนอยู่

เมื่อเห็นพวกเขาเดินไป ในเวลาเดียวกันสาวงามชุดกี่เพ้าทั้งสองก็คำนับ หลังจากที่พวกเธอเงยหน้าขึ้นทั้งคู่ก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับเปิดประตู

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีการพูดสักคำ

แต่ท่าทางของเธอ เผยให้เห็นความสง่าอย่างมาก

นี่คือวิถีชีวิตของคนรวย?

เฉินตงมองไปที่สาวงามในชุดกี่เพ้าทั้งสอง รูปลักษณ์เช่นนี้หากเป็นข้างนอก น่าจะดึงดูดพวกทายาทรุ่นที่สองต่าง ๆ ได้แล้ว

แต่ใน “หมู่ตึกยู่ฉวน” เป็นเพียงแค่คนต้อนรับแขก!

การตกแต่งภายในที่หรูหราและคลาสสิก เสียงเปียโนที่ไพเราะ การตกแต่งด้วยหินและน้ำที่ไหลลงมา มันช่างเข้ากับเสียงของเปียโนดูเป็นศิลปะเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ

ถัดจากหินและน้ำ มีโต๊ะกลมที่สามารถรองรับคนได้ถึงยี่สิบคน

ไม่ไกลออกไปมีจอทีวีขนาดใหญ่

“คุณชาย โปรดรอสักครู่ ประธานโจวจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้” สาวงามในชุดกี่เพ้านำทาง นำเสียงไพเราะเหมือนนก

เฉินตงพยักหน้า หลังจากสาวงามในชุดกี่เพ้าเดินออกไปแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ม่านฝั่งตรงข้าม

กูหลังขมวดคิ้วและมองมันอย่างสงสัย

“คุณเฉินมีอะไรหรอ?”

“รวยจริง!”

เฉินตงพูดอย่างเคร่งขรึม “รวยอย่างมาก!”

กูหลังมองอย่างตกตะลึง

เฉินตงยกนิ้วขึ้นไปที่ม่านและพูดด้วยใบหน้าและหูที่แดงขึ้น “ของของหวงหวาหลี ถ้าให้พูดอีกน่าจะมีอายุหลายร้อยปีแล้วเป็นของโบราณอยู่แล้ว ภาพวาดด้านบนถ้าฉันจำไม่ผิดมันควรจะเป็นภาพวาดของเทพนักวาดอู๋เต้าจื่อ《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》มันคือสมบัติล้ำค่า!”

เขาพูดอย่างตื่นเต้น เฉินตงกระตุกปากเล็กน้อย “กลับถูกมาทำเป็นเพียงแค่ม่าน!”

ม่านตาของกูหลังกว้างขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ “นี่มันใช้ว่าดูน่าเสียดายไปหน่อยไหม?”

เฉินตงไม่อยากเชื่อ เขาหายใจเข้าลึก ๆ ระงับความตกใจและจ้องไปที่ม่านนั้น

เขามีความรู้บ้างเกี่ยวกับของโบราณ ยังไงเขาก็ทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีติดต่อกับผู้คนดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพูดมั่วได้

ภาพบนม่านเป็น《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》ไม่ใช่ของลอกเลียนแบบหรือของปลอม แต่เป็นภาพวาดของจริง!

แต่เขาไม่คิดเลยจริง ๆ ว่า “หมู่ตึกยู่ฉวน” จะฟุ่มเฟือยถึงขนาดใช้ภาพวาดของนักบุญเป็นพื้นหลัง!

ในเวลาเดียวกันที่นอกบ้าน

โจวเย่นชิวที่เพิ่งมาถึงหน้าประตูได้ยินบางอย่างจากเฉินตงที่อยู่ข้างใน

เขารู้สึกตกใจ ส่งสัญญาณบอกให้หญิงทั้งสองเงียบ จากนั้นยิ้มแล้วเดินเข้าไปในห้อง

แปะๆๆๆๆ!

มีเสียงปรบมือดังก้อง

เฉินตงและกูหลังมองกลับไป

เห็นโจวเย่นชิวเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม มือของเขายังคงตบเบา ๆ

“ใช่ได้ เฉินตงนายมีความรู้ดี แถมยังรู้จักภาพวาด《รูปเทพเซียนแปดสิบเจ็ดองค์》ด้วย

โจวเย่นชิวอดไม่ได้ที่จะชื่นชม “ฉันวางภาพวาดนี้ไว้ที่นี่เป็นเวลาหลายปีแล้ว มีแขกนับไม่ถ้วนที่มาและไป นอกจากเจ้าซิงหลงปรมาจารย์ด้านการวาดภาพจีนรู้จัก นายเป็นคนที่สอง!”

เฉินตงยิ้มอย่างถ่อมตัว “ประธานโจวพูดเกินไปแล้ว ฉันแค่รู้นิดหน่อย”

โจวเย่นชิวยิ้ม แต่ดวงตาของเขากลับจ้องไปที่ภาพวาดและนิ่งชั่วครู่

เขายิ้มและพูดกับเฉินตงและกูหลัง “นั่งกันก่อน โจวจุนหลงน่าจะใกล้มาถึงแล้ว”

หลังจากนั่งแล้วเฉินตงและโจวเย่นชิวก็คุยกัน

หลังจากนั้นเพียงห้านาทีที่ด้านนอกประตูก็มีเสียงหัวเราะของโจวจุนหลงดังขึ้น

“ประธานโจว ครั้งนี้นายพยายามอย่างหนักเลยนะ ถึงกับยอมเปิดเทียนเก๋อของหมู่ตึกยู่ฉวน

ชื่อบ้านหลังนี้เรียกว่า “เทียนเก๋อ”

เมื่อกี้ตอนที่เฉินตงเข้ามา เขาเหลือบมองไปที่แผ่นป้ายบนกรอบประตู แต่เขาก็ไม่สนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่หมู่ตึกยู่ฉวน ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจความหมายของ “เทียนเก๋อ”

โจวเย่นชิวจับจมูกของเขา ลุกขึ้นยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อประธานโจวมา แน่นอนฉันต้องเปิดที่นี่!

โจวจุนหลงเดินเข้ามาพร้อมลูกน้องทั้งสอง

เมื่อได้ยินสิ่งที่โจวเย่นชิวพูดเขาก็แสร้งพูดด้วยรอยยิ้ม “ชื่นชมฉันแล้วใช่ไหม? ฉันมาที่หมู่ตึกยู่ฉวนของนายตั้งครั้งแล้ว นายเปิดเทียนเก๋อสักกี่ครั้ง? ฉันรู้กฎของเทียนเก๋อของนายดี ไม่ใช่มังกรตัวจริงมาถึง นายไม่มีทางเปิดมันง่าย ๆ !”

ในขณะที่เขาพูดเขาหันไปและยกนิ้วให้เฉินตง “เด็กอย่างนายไม่เพียงมีดี ดูเหมือนว่าจะเป็นมังกรตัวหนึ่งจริง ๆ ไม่อย่างนั้นประธานโจวจงไม่มีวันเปิดเทียนเก๋อให้นาย!”

คำพูดและการกระทำของเขาดูเหมือนว่าจะไม่เคยเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น

“ประธานโจวพูดเกินไปแล้วพูด” เฉินตงยิ้มเบา ๆ

คำพูดและการกระทำของโจวจุนหลงในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าเหมือนเสือหน้ายิ้ม

แต่ว่าอย่างน้อยเขาก็เข้าใจกฎของเทียนเก๋อจากคำพูดของโจวจุนหลง!

เพียงแต่ตอนที่เฉินตงคุยกับโจวจุนหลงนั้น

โจวเย่นชิวดันแว่นตาของเขาอย่างแนบเนียน มองไปที่ม่านและยิ้มเล็กน้อย………………

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท