บทที่ 98 สร้างความตกตะลึงทั่วทั้งเมืองอีกครั้ง
เรื่องที่เกิดขึ้นใต้ตึกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ถูกคนที่มุงดูถ่ายคลิปแล้วโพสต์ลงโซเชี่ยลจริงๆ ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย
หากเป็นแค่นี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อไท่ติ่งจริงๆ
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวิลล่าโจวจุนหลง ไม่มีใครถ่ายเอาไว้!
ด้วยนิสัยรักชื่อเสียงของโจวจุนหลง ไม่มีวันปล่อยให้ลูกน้องแพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นออกไปอย่างแน่นอน
พรุ่งนี้หลังจากเซ็นสัญญาโอนย้ายหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง ความคิดเห็นของคนในอินเทอร์เน็ตสามารถเอาชนะได้โดยไม่ต้องทำอะไร
อีกทั้ง เฉินตงมั่นใจมาก ขอเพียงข่าวโอนย้ายหุ้นประกาศออกไป เป็นการส่งเสริมชื่อเสียงของไท่ติ่งอย่างแน่นอน
ต้องรู้ก่อนว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของเมือง!
ไม่เพียงแค่นี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงยังเป็นบริษัทที่อยู่ในตลากหลักทรัพย์
ในมือไท่ติ่งมีโครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง มีโครงการขนาดใหญ่แบบนี้ส่งเสริม เพียงพอที่จะทำให้หุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงขึ้น
สำหรับเฉินตง นี่คือการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!
แน่นอนว่าเขาไม่มีวันเป็นกังวล
แต่รายละเอียดที่อยู่ด้านใน เฉินตงไม่ได้บอกกับเสี่ยวหม่า หลังจากปลอบโยนเสี่ยวหม่าแล้ว ก็สั่งให้เขาออกไป
ตามด้วยข่าวติ่งเฉินตงถูกแบนเนอร์เขียนประกาศกร้าวให้สวมชุดไว้อาลัยในโลกอินเทอร์เน็ตดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ
กระแสในที่พูดถึงก็ส่งผลเสียต่อเฉินตงและไท่ติ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
เวลาครึ่งค่อนวัน เหล่าพนักงานไท่ติ่งอ่านข่าวต่างๆในโลกอินเทอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตื่นตระหนกตลอดทั้งวัน
เขตวิลล่าเขาเทียนซาน
หลี่หลานกำลังดูข่าวของเมืองผ่านโทรศัพท์มือถือ ขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าลำบากใจ
หน้าจอโทรศัพท์ คือรูปภาพเฉินตรงถูกคนวิจารณ์ด้วยแบนเนอร์
ในฐานะแม่ของเฉินตง เมื่อเห็นภาพนี้ ทำให้หลี่หลานรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกมีดกรีดแทงหัวใจ
ตงเอ๋อไปมีเรื่องกับใครกันแน่?
ทำไมถึงถูกคนบีบบังคับถึงขั้นนี้?
“คุณน้า เป็นอะไรไปคะ?”
ฟ่านลู่เดินถือจานผลไม้เข้ามา เมื่อเห็นหลี่หลานเศร้าใจ จึงเอ่ยถาม
“เกิดเรื่องขึ้นกับตงเอแล้ว” ลี่หลานทอดถอนหายใจ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้ฟ่านลู่
ฟ่านลู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ใบหน้างดงามหดหู่ลง:“คนพวกนี้ ทำแบบนี้กับคุณเฉิน พวกเขาไม่รู้สึกปวดใจหรือไง?”
งานของเธอเฉินตงเป็นคนให้ เมื่อคราวที่แล้วเกิดเรื่องขึ้นที่ชุมชนเฮติ เฉินตงก็เป็นคนช่วยเธอเอาไว้
สำหรับเฉินตง ฟ่านลู่รู้สึกซาบซึ้งมาก
บอสแบบนี้ อย่างน้อยตลอดหลายปีที่เธอทำงาน เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน
เธอเองก็ไม่เชื่อสิ่งที่ในข่าวพูด!
บอสที่ยอมทุ่มสุดชีวิตเพื่อลูกน้องของตนเอง จะฆ่าคน?
หลังจากใจเย็นลง ฟ่านลู่รีบพูดปลอบหลี่หลาน:“คุณน้าคะ คุณน้าไม่ต้องเป็นกังวล ข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวทางการ ตอนนี้พวกสำนักข่าวเขียนมั่วไปเอง คุณเฉินต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนค่ะ คุณน้าลองโทรถามคุณเฉินดูไหมคะ?”
“ลูกชายของน้า น้าต้องเชื่อใจอยู่แล้ว”
หลี่หลานขมวดคิ้ว ยิ้มบางเบา:“น้าแค่โมโหเท่านั้น ช่างเถอะ ตงเอ๋อยุ่งขนาดนั้น ไม่ต้องถามเขาแล้ว เดี๋ยวจะทำให้เขาเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของน้าเปล่าๆ”
ในเวลานี้เอง ท่านหลงและคุนหลุนเดินเข้ามาในห้องรับแขก
“คุณผู้หญิง”
ท่านหลงพยักหน้าให้กับหลี่หลาน
หลี่หลานยิ้มแล้วพูด:“ท่านหลง ท่านหลงเรียกฉันว่าเสี่ยวหลานเถอะค่ะ ต่อหน้าคุณฉันจะเป็นคุณผู้หญิงสามคำนี้ได้ยังไง”
ท่านหลงยิ้มอ่อน พาคุนหลุนเดินไปใกล้ ทว่าสายตากลับชำเลืองมองเนื้อความในโทรศัพท์
เขายิ้มพร้อมกับพูด:“คุณผู้หญิงไม่ต้องเป็นกังวล คุณชายไม่กลัวคำนินทาใดๆครับ”
“นิสัยของตงเอ๋อฉันรู้เป็นอย่างดี” หลี่หลานมองท่านหลงด้วยแววตาลุ่มลึก ยิ้มแล้วพูด:“แต่ว่า ต้องให้ท่านหลงช่วยอบรมสั่งสอนตงเอ๋อให้มาก”
ท่านหลงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆ
ตามด้วย เขาผายมือ เพื่อเป็นสัญญาณบอกให้คุนหลุนและฟ่านลู่ถอยออกไปพักหนึ่ง
หลังจากทั้งสองออกไปจากห้องรับแขก ท่านหลงถามอย่างมีความหมายลึกซึ้ง:“คุณผู้หญิง คุณผู้หญิงไม่คิดจะบอกคุณชายจริงๆหรอครับ?”
หลี่หลานยิ้มเศร้า:“เรื่องผ่านไปนานแล้ว เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ทำไมต้องทำให้ตงเอ๋อลำบากใจด้วย?”
ท่านหลงลูบหนวดเครา พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ:“ตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน คุณผู้หญิงเคยคิดไหมครับ ตอนนี้คุณชายกำลังเติบโตขึ้นทีละก้าว วันข้างจะกลายเป็นไม้ใหญ่โดนลมโค่น?”
หลี่หลานชะงัก
แววตาฉายแสงแวววับ จากนั้นหม่นหมองกะทันหัน
ภายในห้องรับแขก เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตก
ท่านหลงมองหลี่หลานด้วยแววตาลึกล้ำ รอเงียบๆ
นานพักหนึ่ง
ในห้องรับแขกมีเสียงถอนหายใจของหลี่หลานดังขึ้น
“เหตุเพราะคนรุ่นก่อน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคนรุ่นก่อน ตอนนั้นเขาไปแล้ว พวกเขารังแกข่มเหงพวกเราสองแม่ลูก ฉันอดทนเอาไว้ทั้งหมดแล้ว”
น้ำเสียงของหลี่หลานเคล้าไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและจนปัญญาที่ไม่สามารถอธิบายได้:“อย่าเพิ่งบอกเลยค่ะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ฉันทำให้ตงเอ๋อต้องลำบากมามาก ตอนนี้ไม่ง่ายเลยกว่าตงเอ๋อจะสบายขึ้นบ้าง”
“อืม……คุณผู้หญิงตัดสินใจแล้วก็ยิ่งดีครับ” รอยยิ้มของท่านหลงจนปัญญาเล็กน้อย “เพียงแต่ผมเป็นห่วงการยอมของคุณผู้หญิง จะทำให้คนอื่นได้คืบเอาศอก แต่ตอนนี้คุณชายก็โตแล้ว ทั้งยังมีนายท่านอยู่ เชื่อว่าคนพวกนั้น ไม่สามารถทำเรื่องอะไรได้”
……
ตลอดทั้งคืนไร้ซึ่งคำพูดใดๆ
เช้าวันถัดไป ตอนที่แสงแดดสาดส่อง
ข่าวหนึ่ง เหมือนเป็นระเบิดขนาดใหญ่ สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งเมือง
“วันนี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงจะโอนย้ายหุ้นให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง ประธานโจวจุนหลงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงแสดงเจตจํานง ยกหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงหกสิบเปอร์เซ็นต์ให้กับเฉินตงแห่งไท่ติ่ง!”
เมื่อข่าวแพร่ออกมา ตกตะลึงไปทั่วทั้งเมือง
ทุกคนตะลึงงัน
เมื่อวานหลังจากข่าวเฉินตงถูกคนนำแบนเนอร์มากางตรงใต้ตึกบริษัท ไม่นานก็มีผู้หวังดีสืบรู้อย่างรวดเร็วว่าเจ้าของแบนเนอร์คือบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง
ในตอนนั้นมีคนต่อว่าไท่ติ่งและเฉินตง
ทว่าใครก็คิดไม่ถึง เพิ่งมีปัญหากันแท้ๆ นอนหลับไปแค่คืนเดียว ทำไมถึงโอนย้ายหุ้นให้กันแล้ว?
อีกทั้งยังเป็นหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์อีกด้วย โจวจุนหลงขายบริษัทอย่างไม่ต้องสงสัย!
ขณะที่กำลังมึนงงสงสัยอยู่นั้น มีคนจับใจความสำคัญของประเด็นนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งก็คือ เฉินตงในตอนนี้ ไม่ได้เป็นแค่บอสของไท่ติ่ง แต่ยังเป็นบอสของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง
บริษัทอสังหาริมทรัพย์สองบริษัทรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไปแล้วไม่ใช่หรอ?
จากการแถลงข่าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
สำหรับหัวข้อบทสนทนาเรื่องโครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนในเมืองพูดถึงกันอีกครั้ง
มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของเมืองอยู่ ไม่มีใครสงสัยอีกแล้ว โครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองมีความเสี่ยงหรือไม่ เริ่มมีการขึ้นเล็กน้อยแล้ว
ในเวลาเดียวกัน มีโครงการเปลี่ยนแปลงย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมือง บริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงที่อยู่ภายใต้การดูแลของเฉินตงเหมือนกัน ตอนเช้าหลังจากตลาดหุ้นเปิด ราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นสูง
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง กลายเป็นที่พูดถูก
สีหน้าของพนักงานของทุกคนเลือดฝาด เหมือนเป็นเลือดไก่อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อข่าวแถลงการณ์ออกไป ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึง
เสี่ยวหม่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก หัวใจเกือบจะกระดอนออกมาด้านนอก
เมื่อเทียบกับพนักงานทั่วไปแล้ว เมื่อวานเขาได้ยินคำพูดของเฉินตงด้วยหูตนเอง
“เซ็นสัญญา ราคาบ้านทางภาคตะวันตกของเมืองก็จะขึ้น”
นิ่งสงบเหมือนแค่พูดเรื่อยเปื่อย ตอนนี้เสี่ยวหม่าหวนคิดกลับไป รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
สิ่งนี้ทำให้เสี่ยวหม่าอยากจะวิ่งเข้าไปในห้องทำงานแล้วคุกเข่าต่อหน้าเฉินตง กราบไหว้บูชาเขา
พระเจ้า!
พี่ตงทำอะไรลงไปกันแน่?
ภายในห้องทำงาน ได้ยินพนักงานที่อยู่ด้านนอกพูดถกเถียงกัน
เฉินตงยิ้มอ่อน มือขวาเลื่อนเมาส์เบาๆ
หน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นราคาหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลง
เปิดตลาดหุ้นเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เส้นสีแดงขึ้นสูงเรื่อยๆ กลายเป็นเส้นตรงสีแดง
เขามีหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จุนหลงหกสิบเปอร์เซ็นต์ หมายความว่า ความร่ำรวยของเขาเป็นไปตามเส้นสีแดงนี้ รวยเละแล้ว!
เพียงแต่ เรื่องดีๆแบบนี้เกิดขึ้นได้ไม่นาน
เพียงแค่โทรศัพท์สายหนึ่ง กลับทำให้สีหน้าของเฉินตงฉายความรำคาญขึ้นมาทันที
โทรศัพท์……หวางหนันหนันเป็นคนโทรมา