The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – ตอนที่ 111

ตอนที่ 111

บทที่ 111 ชีวิตที่ต่ำต้อย

น้ำเสียงที่เย็นชาและบึ้งตึง

ทำให้ทุกคนหันกลับไปมองในทันที

ด้วยแรงยุยงของฟ่านลู่ ทำให้หลี่หลานรู้สึกโกรธจนตัวสั่น

มีท่านหลงและคุนหลุนยืนขนาบอยู่ด้านหลังของเธอทั้งซ้ายและขวา

เรื่องข้างนอกที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ พวกเขาล้วนรู้ดีแก่ใจ แต่หลี่หลานตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าไปสนใจอีก

เฉินตงหย่ากับหวางหนันหนันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันอีก

คนที่หวางเห้าหาคือเฉินเทียนเซิงไม่ใช่เฉินตงเสียหน่อย

แต่คำพูดของเฉินเทียนเซิงนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นการใส่ร้ายเฉินตง เพื่อให้ “รับผิดแทนตนเอง” ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเฉินตงเลยแม้แต่น้อย แต่ความผิดกลับมาตกอยู่ที่เฉินตง

ในฐานะของคนเป็นแม่ หลี่หลานไม่อาจทนเห็นลูกชายตนเองต้องมารับผิดในสิ่งที่ไม่ได้ก่อได้ !

ยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลานรู้จักนิสัยและพฤติกรรมของคนในตระกูลหวางเป็นอย่างดี

ถ้าหากปล่อยให้เฉินตงถูกใส่ร้ายเช่นนี้ ไม่เท่ากับว่าเป็นการทำให้คนของตระกูลหวางยิ่งกัดเฉินตงไม่ยอมปล่อยหรอกหรือ ?

การเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ทำให้หลี่หลานรู้สึกสงสารเฉินตงที่ตอนนี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว จึงไม่ต้องการให้คนของตระกูลหวางมาคอยสร้างความวุ่นวายให้เฉินตงอีก

“นังแก่ ! เฉินตงล่ะ ให้ไอ้สารเลวเฉินตงออกมาเดี๋ยวนี้ !”

หวางเห้าซึ่งถูกเหยียบอยู่ เมื่อเห็นหลี่หลานก็จ้องตาเขม็งด้วยความโมโห ยืดคอตะโกนออกมาเสียงดัง

“หุบปาก !”

หลี่หลานจ้องมองแล้วพูดด้วยความโกรธ : “ตระกูลหวางของพวกแก เมื่อไหร่จะยอมปล่อยตงเอ๋อของฉันเสียที ? พวกแกอยากประจบสอพลอเอง พอมาวันนี้ถูกหลอกใช้ขึ้นมา กลับคิดที่จะใส่ร้ายตงเอ๋อของฉันอีกหรือ ?”

เพราะความโมโหเกินไป ขณะพูดทำให้หลี่หลานหายใจเร็วผิดปกติจนกระทั่งเหนื่อยหอบ

ฟ่านลู่ตกใจมาก รีบเข้าไปลูบอกของหลี่หลาน : “คุณป้าคะ ใจเย็นๆ หน่อย เป็นห่วงสุขภาพด้วย”

หลี่หลานยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณว่าตนเองนั้นไม่เป็นอะไร

“อ้าว……ไม่เจอกันหลายปีเลย”

เฉินเทียนเซิงมองหลี่หลานด้วยท่าทียั่วโมโห : “ถ้าตอนนั้นคุณกล้าปล่อยให้ผมตกลงไปตายที่กำแพง คุณเองก็คงต้องตายไปด้วยไม่ใช่หรือ ?”

หลี่หลานขมวดคิ้วแน่น ไม่พูดอะไรอีก

กลับเป็นท่านหลงที่หัวเราะเสียงดังแล้วเดินออกมา : “เฉินเทียนเซิง เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา และยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับคุณชายของพวกเราด้วย ถ้าหากคุณยังใส่ร้ายคุณชายของเราอีกล่ะก็ คุนหลุนคงจะต้องขับไล่คนผิดออกไปเสียแล้ว

ยังไม่ทันจะพูดจบ คุนหลุนก็เดินออกมา แล้วมายืนอยู่ต่อหน้าทั้งสามคน

รูปร่างที่สูงตระหง่านเหมือนกับหอคอยเหล็ก ทำให้ตอนนี้ทุกคนรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก

หลังจากที่คอยติดตามนายท่านของตระกูลเฉิน คุนหลุนผู้ซึ่งเคยเป็นทหารรับจ้าง ก็มีหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มประสิทธิภาพทักษะการต่อสู้ให้แก่คนรุ่นใหม่ไฟแรงของตระกูลเฉินโดยเฉพาะ หรือจะพูดว่าเป็นอาจารย์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในตระกูลเฉินก็คงไม่ผิด

เฉินเทียนเซิงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ยั่วโทสะ : “ท่านหลง พูดเช่นนี้ก็ดูจะเกินไปหน่อย อีกอย่าง คุนหลุนจะกล้าหรือ ?”

เขามองไปที่คุนหลุนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม

ไม่ว่าจะเป็นท่านหลงหรือว่าคุนหลุน ก็เป็นเพียงแค่คนรับใช้ของตระกูลเฉินเท่านั้น

ในตระกูลเฉิน แม้กระทั่งต่อหน้าคนธรรมดาคนรับใช้ก็ยังต้องก้มหัวให้ แล้วนับประสาอะไรกับคนที่เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดมรดกเช่นเขา !”

“คุณอยากลองดูไหมล่ะ ?”

ท่านหลงเลิกคิ้วหัวเราะ : “ถึงผมจะเป็นคนรับใช้ แต่ก็ติดตามรับใช้นายท่านมานาน ตอนนั้นก็ใช่ว่าจะไม่เคยตีผู้สอบทอดมรดกจนตาย !”

ถึงจะดูเหมือนเป็นการพูดลอยๆ แต่ภายใต้คำพูดและเสียงหัวเราะเหล่านั้นกลับเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง ที่ยากจะหาอะไรเปรียบได้

ถึงกระทั่งว่าทำให้สีหน้าของเฉินเทียนเซิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เขาหัวเราะ ยืดตัวขึ้น แล้วยกเท้าออกจากใบหน้าของหวางเห้า

หวางเห้าลุกขึ้นมาด้วยความโมโห และจ้องเฉินเทียนเซิงตาเขม็ง จากนั้นจึงหันไปจ้องถามหลี่หลาน

เขามาเพื่อที่จะหาเรื่อง !

แต่ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องระหว่างหลี่หลานกับเฉินเทียนเซิงไปได้ ?

แต่ว่า บทสนทนาระหว่างหลี่หลานกับเฉินเทียนเซิงเมื่อครู่นี้ กลับทำให้หวางเห้าเกิดความมั่นใจในเรื่องๆ หนึ่งขึ้น

นั่นก็คือ……เฉินเทียนเซิงกับเฉินตงรู้จักกัน !

ในเมื่อรู้จักกัน ถ้าเช่นนั้นเรื่องต่างๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน จะต้องเป็นแผนการของเฉินตงอย่างแน่นอน !

เพราะกำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ หวางเห้าจึงไม่ทันคิดหน้าคิดหลัง เขาพุ่งเข้าไปหาหลี่หลานแล้วตะโกนออกมาด้วยความโมโห

“นังแก่ รีบส่งไอ้สารเลวเฉินตงของแกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ มันทำลายครอบครัวของพวกเราจนไม่เหลือชิ้นดี !”

สีหน้าของหลี่หลานแสดงออกถึงความโกรธจนแทบจะระงับอารมณ์ไม่อยู่

ทำไมหวางเห้าถึงโง่เขลาได้ขนาดนี้ ?

“คุณป้า ระวังสุขภาพด้วยค่ะ อย่าโมโห อย่าโมโห……

ตอนนี้ฟ่านลู่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลี่หลาน ก็รู้สึกใจเต้นอย่างเป็นกังวล แล้วจึงหันไปตะคอกคุนหลุนอย่างอารมณ์เสียว่า : “พี่คุนหลุน ตอนนี้จะปล่อยให้คุณป้าโมโหจนกระทบถึงสุขภาพไม่ได้นะ !”

ขณะที่เพิ่งจะพูดจบ หวางเห้าก็ตรงเข้ามาอยู่ตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว

คุนหลุนก้าวเข้าไป แล้วจึงยกเท้าขึ้นเตะเขาออกไป

ปัง !

หวางเห้าไม่อาจต้านทานแรงได้ เขาถูกเตะลอยไปไกลกว่าสามเมตร หลังจากตกกระแทกลงบนพื้นสีหน้าก็ซีดเผือดทันที : “พรวด” เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากปากของเขา

ภาพที่ปรากฏขึ้นนี้ ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างรู้สึกตกใจและเสียวสันหลังขึ้นมา

“เป็นใครมาจากไหน กล้าดียังไงที่มาเข้าใกล้คุณหญิงของเรา ?”

เสียงของคุนหลุนหนักแน่นราวกับเสียงตีกลอง : “คุณชายของเราใจดีมีเมตตา ไม่ถือสาตระกูลหวางของพวกแก แต่ฉันคุนหลุนไม่ใช่คนใจกว้างเช่นนั้น !”

คำขู่ที่เอาจริงเอาจัง เป็นการเตือนหวางเห้าไม่ให้เข้ามาใกล้

ส่วนหวางเห้าเอง หลังจากที่กระอักเลือด ก็ไม่คิดที่จะเข้ามาใกล้อีก

แต่กลับล้มตัวลงนอนอยู่ลงพื้น ใช้เท้าและมือตบพื้น นอนกลิ้งไปมา และตะโกนร้องเสียงดังลั่น

“ไม่ยุติธรรมเลย ! ถึงขนาดจะฆ่าจะแกงกันแล้ว บนโลกนี้ยังมีกฎหมายอยู่อีกไหม ?”

เสียงร้องไห้เสียดแทงเข้าไปในหู

เฉินเทียนเซิงขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองหวางเห้าด้วยความสมเพช : “หนวกหู”

จากนั้นเขาก็หันไปมองบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย : “หรือจะให้ฉันเป็นคนจับเขาโยนออกไปเอง ?”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนได้สติในทันที พวกเขาวิ่งกรูกันเข้าไปหาหวางเห้า จากนั้นจึงใช้กำลังบังคับยกหวางเห้าขึ้นมา

“ปล่อย ปล่อยฉันลง พวกแก ไอพวกสุนัขรับใช้ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”

แต่ไม่ว่าหวางเห้าจะต่อสู้ขัดขืนเช่นไร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนนั้นก็ไม่ยอมปล่อยเขา หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัยกลางคนถึงขนาดใช้กำปั้นต่อยเข้าไปที่ท้องของหวางเห้าอย่างแรง : “หุบปากเดี๋ยวนี้ !”

หวางเห้าหน้าตาบูดเบี้ยว หลังจากถูกต่อยเข้าไปหนึ่งหมัดเข้าก็รู้สึกว่าอวัยวะภายในของเขาผสมปนเปกันไปหมด เจ็บจนพูดไม่ออก

หลังจากบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหามหวางเห้าออกไปแล้ว

เฉินเทียนเซิงจึงหันไปมองท่านหลงและคุนหลุน แล้วค่อยๆ ชูนิ้วโป้งขึ้นมา : “ท่านหลง คุนหลุน พวกคุณสองคนเป็นสุนัขรับใช้ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ !”

ความอับอายที่เกิดขึ้น ทำให้ท่านหลงและคุนหลุนขมวดคิ้วพร้อมกัน

แต่ทั้งสองต่างก็ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ด้วยความแตกต่างของฐานะ ทำให้พวกเขาจำต้องอดทนไปก่อน

ถึงแม้ท่านหลงจะเคยฆ่าผู้สืบทอดมรดกมาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะฆ่าได้ตามอำเภอใจ !

เหตุการณ์ที่เกิดข้นในตอนนั้นไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ ดังนั้นหลังจากที่เขาฆ่าแล้วจึงยังสามารถใช้ชีวิตต่อได้อย่างสงบสุข แต่สถานการณ์ในตอนนี้ หากเขาฆ่าเฉินเทียนเซิงจริง แม้แต่นายท่านก็คงไม่อาจปกป้องเขาได้ !

กฎของบ้านตระกูลเฉิน คือ “วิถีปฏิบัติ” ที่ทุกคนภายในตระกูลเฉินต้องยึดถือ !

“แก ออกไปได้แล้ว !”

จู่ๆ หลี่หลานก็กัดฟันแน่นแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง : “เฉินเทียนเซิง ถ้าแกกล้าแตะลูกชายของฉันล่ะก็ ฉันจะยอมพาแกไปลงนรกพร้อมกับชีวิตที่ไร้ค่าของฉันเอง !”

“โถ ! แกนี่ช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง !”

เฉินเทียนเซิงหัวเราะเยาะออกมา จากนั้นจึงยมมือขึ้นขยับแว่นที่วางอยู่บนดั้งจมูก : “ชีวิตของแกไม่ไร้ค่าเลยแม้แต่น้อย ยังมีค่ามากกว่าชีวิตของฉันเสียอีก”

พูดจบเขาก็กลอกตา เหมือนจู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นจึงตบหัวตัวเองแล้วหัวเราะเยาะขึ้นมา

“อ้อๆๆ ฉันลืมไปเสียสนิทเลย หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นในตอนนั้น ชีวิตของแกก็ดูเหมือนจะไร้ค่าจริงๆ ดังนั้นถึงได้เกิดไอ้ลูกนอกคอกแบบเฉินตงออกมาได้”

“แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ !”

ได้ยินคำว่า “ไอ้ลูกนอกคอก” หลี่หลานก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ตะคอกออกไปเสียงดังสั่น

แต่หลังจากสิ้นเสียงตะโกน ใบหน้าของหลี่หลานก็ซีดเผือดทันที

จากนั้นตัวก็แข็งทื่อ ความดันเลือดพุ่งสูง จนตากลับ และหมดสติไปในอ้อมแขนของฟ่านลู่

“คุณป้า……”

“คุณหญิง……”

ฟ่านลู่ ท่านหลง และคุนหลุนต่างก็ตกใจจนหน้าซีดทันที

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท