The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – ตอนที่ 127

ตอนที่ 127

บทที่ 127 เจอผู้ใหญ่กะทันหัน

ในลานป่าไผ่

เสียงพูดคุยหัวเราะ ทำลายความเงียบสงบและความสง่างามของป่าไผ่

กู้ชิงหยิ่งนั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยที่ได้เห็นพ่อคุยและหัวเราะกับเพื่อนเก่าสองสามคน

นอกจากข้าราชการชั้นสูง ยังมีปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมจีน แพทย์ที่มีแต่คนนับหน้าถือตา

คนเหล่านี้ ไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในประเทศ แม้ในระดับโลก ก็จัดอยู่ในอันดับของโลก

และคนเหล่านี้ ล้วนเป็นเพื่อนที่ดีของคุณพ่อ

เดี๋ยวเฉินตงมาถึง จะเป็นอย่างไร?

“เหล่าหลิว ไม่เจอกันหลายปี นายที่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลลี่จิง เป็นหมอที่มีชื่อในระดับสากลแล้วนะ!”

ชายวัยกลางคนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มองชายวัยกลางคนที่ผมหงอก อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “วารสารทางการแพทย์ต่างประเทศ มักจะรายงานข่าวของแกเป็นประจำ”

“ฮ่าๆๆ………อย่าชมฉันเลย มันคือสิ่งที่ฉันพยายามจนหัวหงอกเพื่อจะได้มันมา”

ผู้อำนวยการหลิวหัวเราะกล่าว “เมื่อพูดถึงชื่อเสียงระดับนานาชาติ เจิ้งโก๋โส่วถึงจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับสากลอย่างแท้จริง”

ชายวัยกลางคนหน้าตาอ่อนโยนอีกคนหนึ่งที่สวมแว่น ตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันก็เป็นแค่นักวาดภาพที่ไม่เอาไหน จะเป็นคนที่มีชื่อระดับสากลได้ยังไง คนชื่อเสียงในระดับสากลก็คือไอ้หมากู้ คนที่คลุกคลีกับผู้ประกอบการน้ำมันและซิลิคอนวัลเลย์ ”

“อย่าพูดกันไปมาอีกเลย เหล่ากู้เรียกพวกเรามา มีเรื่องที่เป็นทางการ”

ท่านเมิ่งกล่าวอย่างจริงจัง “มาช่วยเขาดูว่าที่ลูกเขยในอนาคต”

ได้ยินคำพูดนี้ ผู้อำนวยการหลิวกับเจิ้งโก๋โส่วต่างดีใจพร้อมกัน ทยอยกันถามกู้โก๋ฮั๋วว่าที่ลูกเขยในอนาคตเป็นใคร?

กู้โก๋ฮั๋วยิ้มแต่ไม่พูด เอาแต่พูดว่าเดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จัก

ผู้อำนวยการหลิวอดไม่ได้ที่จะพูด คิดไม่ถึงเลย เมื่อก่อนเหล่ากู้ร่ำรวยในเมืองนี้ วันนี้ลูกเขยที่หาได้ก็อยู่เมืองนี้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นหนุ่มรูปงามที่มีความสามารถคนไหน สามารถทำให้หลานสาวหลงหัวปักหัวปำ

“เดี๋ยวมาแล้วก็จะรู้เองแหละ กู้โก๋ฮั๋วยิ้มๆ สายตากลับมองไปที่กู้ชิงหยิ่ง พอดีเลยจะได้อาศัยเพื่อนของฉันช่วยทดสอบดูว่าไอ้หนุ่มคนนี้เป็นทองแท้หรือเปล่า!”

กู้ชิงหยิ่งประสานมือเข้าด้วยกัน ยิ่งรู้สึกประหม่ามากขึ้น

คุณอาทั้งหลายต่างเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง มีสถานะที่ยอดเยี่ยม

สำหรับคำว่าชื่อเสียง ก็ให้ความสำคัญกับมันมาก

และเฉินตงที่ผ่านการหย่าร้างมา อยู่ต่อหน้าพวกเขา ถูกลดคะแนนลงอย่างแน่นอน

“อย่ากังวลเลย ในใจพ่อหนูมีลิมิตอยู่แล้ว”

สาวสวยมองเห็นความกังวลของกู้ชิงหยิ่ง เอามือไปวางบนหลังมือของกู้ชิงหยิ่ง ปลอบอย่างอ่อนโยน

กู้ชิงหยิ่งพยักหน้า “ขอบคุณค่ะแม่”

……

ด้านนอกคลับสี่ยิ่น

รถโรลส์-รอยซ์ที่แล่นมา หลังจากที่ยื่นเทียบเชิญที่ประตูแล้ว ก็เข้าไปข้างในคลับโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง

หลังจากจอดรถ เฉินตงหยิบของขวัญลงจากรถ ให้ท่านหลงกับคุนหลุนรออยู่ในรถ

อย่างไรก็ถามท่านเมิ่งเป็นคนเชิญ สถานะที่พิเศษของเขา เจอกันเจอตัวต่อตัวจะดีที่สุด

ภายใต้การนำทางของบอดี้การ์ด ก็ได้มาถึงยังลานป่าไผ่

เสียงหัวเราะได้ถูกส่งมา

ไม่ได้มีเพียงท่านเมิ่งคนเดียว?

เฉินตงขมวดคิ้วสงสัย

แต่กลับไม่ได้สนใจ ถือของขวัญเดินตามบอดี้การ์ดเข้าไป

“เจ้านาย คุณเฉินมาแล้วครับ”

เข้าไปในลานป่าไผ่ บอดี้การ์ดก็เดินเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว หยุดเพื่อรายงาน

ในห้องโถง ทันใดนั้นก็เงียบสงบทันที

“รีบให้เขาเข้ามา!”

น้ำเสียงที่ตื่นเต้นได้ดังขึ้น

เสี่ยวหยิ่ง?!

เฉินตงตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีทันที

เขาไม่มีทางที่ฟังเสียงของกู้ชิงหยิ่งผิด

แต่ว่าคืนนี้ท่านเมิ่งเป็นคนเชิญไม่ใช่เหรอ?

ตกใจและสงสัย

ในสายตาของเขา ที่ทางเข้าห้องโถง มีร่างที่สวยงามปรากฏขึ้น และมองเขาด้วยรอยยิ้ม

ไม่ใช่กู้ชิงหยิ่ง แล้วจะเป็นใครได้อีก?

“เจ้าทึ่ม! อิอิ…….คิดไม่ถึงใช่มั้ยล่ะ?”

คำพูดของกู้ชิงหยิ่ง ทำให้เฉินตงที่มีอาการตกใจกลับมาเป็นสู่ปกติ

เวลานี้เฉินตงตื่นตระหนกเล็กน้อย

กู้ชิงหยิ่งอยู่ที่นี่ งั้นพ่อแม่ของเธอ……

ก้มหน้ามองของขวัญในมือ เฉินตงก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที

เขานึกว่าท่านเมิ่งเป็นคนเชิญ ดังนั้นจึงได้เตรียมของขวัญพิเศษให้กับท่านเมิ่งเพียงชิ้นเดียว

ใครมันจะไปรู้ว่าจู่ๆก็กลายเป็นการเจอพ่อแม่ของฝ่ายหญิงล่ะ?

ครั้งแรกที่เจอกัน แม้กระทั่งของขวัญที่จะมอบให้กับพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่งยังไม่มีเลย!

“คุณยังมัวอึ้งอยู่ทำไมล่ะ?”

เห็นเฉินตงที่ยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิม กู้ชิงหยิ่งก็ขมวดคิ้ว เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว จับแขนของเฉินตงเอาไว้

“คุณ คุณกลับมาแล้ว ทำไมไม่บอกผมล่วงหน้าละ?” เฉินตงพูดอย่างกระอักกระอ่วน

“พ่อกับแม่ห้ามไม่ได้บอกคุณก่อนนี่นา ตอนนี้คุณก็รู้แล้วนี่?” กู้ชิงหยิ่งยิ้มอย่างอ่อนหวาน

“แต่ผมนึกว่าเป็นท่านเมิ่งเป็นคนเชิญ ดังนั้นจึงได้เตรียมของขวัญมาเพียงชิ้นเดียว ครั้งแรกที่เจอพ่อแม่ของคุณ ผมมามือเปล่า แบบนี้มันเสียมารยาทมาเลยนะ!”

เฉินตงประหม่าจนพูดจาสะดุดเล็กน้อย

“ไม่เป็นไร พ่อกับแม่อยากจะเจอคุณพร้อมกับคุณอาทั้งหลาย พวกเขาไม่ใส่ใจหรอก” กู้ชิงหยิ่งยิ้มแล้วดึงตัวเฉินตงเข้าไปในห้องโถง

เฉินตงไม่มีหนทางอื่นแล้ว ทำได้เพียงเข้าไปเจอผู้ใหญ่อย่างหน้าด้านๆ

ในเวลาเดียวกัน

กู้โก๋ฮั๋วและเพื่อนๆที่นั่งอยู่ในห้องโถงต่างมองสบตากัน

“วางใจเถอะ ไอ้หมากู้ เดี๋ยวจะช่วยแกทดสอบทองแผ่นนี้เอง” ท่านเมิ่งที่มีอำนาจและบารมี และดูน่าเกรงขามกล่าว

ผู้อำนวยการหลิวกับเจิ้งโก๋โส่วก็ทยอยกันพยักหน้าเห็นด้วย

“เหล่ากู้ วางใจเถอะ เราที่เป็นเพื่อนกันมาหลายปี ในเมื่อแกเชิญเรามา ยังไงก็ต้องช่วยแกดูให้ดีอย่างแน่นอน”

“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ตกลงเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถคนไหนของเมืองนี้ ที่สามารถพิชิตใจของลูกสาวเหล่ากู้ได้”

กู้โก๋ฮั๋วยิ้มๆ ได้ยกมือคารวะทั้งสามคน

ในเวลานี้ กู้ชิงหยิ่งที่ควงเฉินตงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เจื่อนๆเดินเข้ามา

เมื่อเห็นเฉินตง

ใบหน้าของท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวต่างแสดงความรู้สึกตกใจออกมา รูม่านตาหดลง หนังตากระตุกอย่างแรง

ในหัวสมองก็มีเสียง โครม ดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว!

คน…….คนนี้ก็คือว่าที่ลูกเขยของเหล่ากู้?

โอ้มายก็อต!

ทั้งสองคนต่างก็เป็นคนที่มีอำนาจบารมี ในเวลานี้คลื่นลูกใหญ่ก็เกิดขึ้นในใจของเขา

แผ่นทองที่ใหญ่ขนาดนี้ คืนนี้ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนเผาใครแล้ว?

ท่านเมิ่งนั้นรู้ฐานะที่แท้จริงของเฉินตง

และผู้อำนวยการหลิวเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลลี่จิง แม้ว่าตอนที่เฉินตงพาแม่ไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลนั้น เขาจะไม่ได้ปรากฏตัว

แต่ฟังจากการรายงานของคุณหมอจาง สำหรับเรื่องของเฉินตง เขากู้รู้ไม่น้อย!

“เหล่ากู้ คนนี้ก็คือคนที่แกจะให้เราช่วยดูเหรอ?” ผู้อำนวยการหลิวก็พูดออกมา

ท่านเมิ่งที่ตั้งใจมองอยู่ด้านข้าง ก็มองผู้อำนวยการหลิวด้วยความประหลาดใจแวบหนึ่ง

ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทันที ผู้อำนวยการหลิวก็น่าจะรู้ฐานะของเฉินตงแล้ว!

ความจริง ตอนที่เฉินตงเข้ามาในห้องโถง เขาก็งงเล็กน้อย

เขานึกไม่ถึงว่าคืนนี้ที่มาเจอผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง กลับมีคนที่มีชื่อเสียงหลายคนอยู่ในนี้ด้วย

ไม่เพียงแต่ท่านเมิ่งที่อยู่ ยังมีผู้อำนวยการหลิวของโรงพยาบาลลี่จิงอีก

ตอนแรกที่เขาอยู่ดูแลแม่ที่โรงพยาบาลนั้น เขาเคยเห็นรูปถ่ายของผู้อำนวยการหลิวมาแล้ว

มีเพียงชายวัยกลางคนที่หน้าตาอ่อนโยนคนนั้นที่เขาไม่รู้จัก แต่สามารถที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับท่านเมิ่งและผู้อำนวยการหลิว จะเป็นคนธรรมดาได้เหรอ?

ได้ยินเสียงพูดของผู้อำนวยการหลิว เฉินตงก็ตกใจทันที รีบร้อนส่งสัญญาณไปทางท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิว

คืนนี้เป็นคืนที่เขาเจอกับพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่ง ไม่ได้เอาของขวัญมาก็อึดอัดมากพอแล้ว เขาไม่อยากให้ฐานะของเขา มาทำให้เสียบรรยากาศ

ท่านเมิ่งเป็นคนแรกที่เข้าใจ แล้วก็กล่าวกับกู้โก๋ฮั้วแบบไม่มีพิรุธ “เหล่ากู้ นายยังไม่รีบแนะนำอีกเหรอ?”

ทันใดนั้นผู้อำนวยการหลิวก็เข้าใจทันที รีบแสร้งทำเป็นเหมือนปกติแล้วพูดว่า “ใช่ แนะนำเลย”

ภาพนี้ กินเวลาไปเพียงสั่นๆ กู้โก๋ฮั๋วไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติอะไร

ถูกท่านเมิ่งเปิดหัวข้อสนทนา ก็เป็นไปโดยธรรมชาติ กู้โก๋ฮั๋วก็ยิ้มแล้วแนะนำขึ้นมา

“มาๆๆ ฉันขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักหน่อย คนนี้เป็นแฟนลูกสาวฉัน เฉินตง”

“สวัสดีครับคุณอาทั้งหลาย”

เฉินตงยิ้มพยักหน้าทักทายตอบ จากนั้นก็ได้มอบของขวัญให้กับกู้โก๋ฮั้วกับภรรยา พูดอย่างประหม่าเขินอาย “คุณอาทั้งสอง ต้องขอโทษด้วย ผมไม่รู้จริงๆว่าคืนนี้จะเจอกับพวกท่าน ดังนั้นจึงไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ภาพวาดอักษรจีนโบราณภาพนี้ถือเป็นการแสดงน้ำใจ ครั้งหน้าผมต้องชดเชยให้อย่างแน่นอน”

ของขวัญที่เตรียมมาให้กับท่านเมิ่ง ก็ต้องใช้มันมามอบให้กับพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่งก่อนแล้ว

“ฮ่าๆ……..เจ้าทึ่มเอ๊ย เรื่องแบบนี้ยังมีการชดเชยอีกเหรอ?”

กู้ชิงหยิ่งที่ยิ้มพูดติดตลก ปกติไม่ว่าสถานการณ์อะไรคุณก็สามารถใจเย็นได้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเมื่อมาเจอพ่อแม่ฉันคุณก็ประหม่าแล้ว?”

คำพูดประโยคนี้ทำให้กู้โก๋ฮั้วและคนอื่นหัวเราะพร้อมกัน

“เรื่องนี้ต้องโทษอาทั้งสอง ตอนที่ส่งเทียบเชิญให้นายไม่ได้ระบุชื่อผู้เชิญ ทำให้นายไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน นายก็ไม่ต้องตื่นเต้น คืนนี้ก็แค่มาทานข้าวร่วมกันเท่านั้น”

กู้โก๋ฮั้วยิ้มอย่างเบิกบานใจ ก็ชี้ไปทางท่านเมิ่งกับคนอื่นๆแล้วแนะนำให้กับเฉินตงรู้จัก

ท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิวยิ้มให้กับเฉินตงอย่างเข้าใจ

ในเมื่อเฉินตงไม่ต้องการให้พวกเขาเปิดเผยตัวตนของเขา พวกเขาจึงต้องแสร้งทำเหมือนเจอกันครั้งแรก

แต่กลับเป็นเจิ้งโก๋โส่ว ที่ได้ยินว่าเฉินนั้นได้มอบ ภาพเขียนอักษรโบราณ ก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที

ถูฝ่ามือของเขา พูดกับเฉินตง หลานชาย “ฉันคนนี้ก็เป็นคนวาดภาพที่ไม่ค่อยได้เรื่องคนหนึ่ง ได้ยินคำว่าภาพเขียนโบราณ จะสามารถให้ฉันดูหน่อยได้มั้ย?”

“ได้ครับคุณอา” เฉินตงยิ้มพร้อมกับพูด

เจิ้งโก๋โส่วก็รีบมองกู้โก๋ฮั้วอย่างตาละห้อย

กู้โก๋ฮั้วก็ไม่ได้ใส่ใจ ยิ้มแล้วก็ได้ยื่นรูปภาพให้กับเจิ้งโก๋โส่ว

เจิ้งโก๋โส่วรีบเปิดกล่องภาพเขียนออก หยิบภาพเขียนออกมา

“《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ของถังป่อหู่?”

เมื่อดูภาพเขียน เจิ้งโก๋โส่วก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าของเขาก็เย็นชาลงทันที

“หลานชาย อายุยังน้อยโกหกคนนั้นไม่ดีเลยนะ!”

ภาพที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ ทำให้บรรยากาศเย็นลงมา

กู้โก๋ฮั้วใบหน้าเต็มไปด้วยความงง “เหล่าเจิ้ง แกเป็นอะไร?”

เจิ้งโก๋โส่วได้นำภาพเขียน 《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ยื่นให้กับกู้โก๋ฮั้ว “กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา เจ้าหนุ่มคนนี้เอาภาพเขียนนี้มาให้คนอื่นเป็นของขวัญ หมายความว่ายังไง?”

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท