บทที่ 159 กู้ชิงหยิ่งผู้เก็บซ่อนความผิดเอาไว้ในใจ
เมื่อได้ยินเสียงกู้โก๋ฮั๋วโมโห
กู้ชิงหยิ่งกับหลี่หวั่นชิงก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที
สองแม่ลูกเห็นกู้โก๋ฮั๋วกำลังกำรูปถ่ายเอาไว้แน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“พ่อ……”
กู้ชิงหยิ่งรู้สึกใจแป้วทันที ซองจดหมายและรูปถ่ายที่ดูคุ้นตาเหล่านั้น ทำให้มีความคิดที่น่ากลัวอย่างที่สุดเกิดขึ้นมาในสมองของเธอทันที
ถูกเปิดเผยเสียแล้ว !
สองวันมานี้เธอเอาแต่นั่งเหม่อลอย ไม่กินข้าวกินปลา จริงๆ แล้วเป็นเพราะถูกเรื่องของรูปถ่ายทำให้กระทบกระเทือนจิตใจ
แต่ที่เธอไม่ยอมบอกพ่อกับแม่ เป็นเพราะเธอกลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่จนไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้อีก
อย่างไรก็ตามภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าขณะนี้ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมถึงได้โมโหขนาดนี้ ?”
หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้ว แล้วเดินก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“คุณดูนี่ ไอ้สารเลวเฉินตง เห็นว่าลูกสาวของพวกเรารังแกได้ง่ายๆ หรืออย่างไร ?” กู้โก๋ฮั๋วยื่นรูปถ่ายให้หลี่หวั่นชิงด้วยความโมโห
เมื่อหลี่หวั่นชิงเห็นรูปถ่าย ใบหน้าที่งดงามและมีเสน่ห์ของเธอก็ถูกปกคลุมด้วยความเยือกเย็นในทันที
เมื่อครู่เธอเพิ่งจะเข้าไปในห้องของกู้ชิงหยิ่งได้เพียงไม่นาน จึงยังไม่ทันที่จะได้เริ่มต้นพูดคุยอะไรนัก
แต่รูปถ่ายที่เห็นอยู่ตรงหน้า กลับให้คำตอบที่ชัดเจนแก่เธอแล้ว !
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสองวันมานี้ลูกสาวของเธอจึงอยู่ในสภาพเช่นนี้ !
ถ้าหากเป็นตัวเธอเอง เธอก็คงรับไม่ได้เช่นกัน
พ่อแม่ทุกคน มีใครบ้างที่จะไม่รักลูก ?
และยิ่งกู้ชิงหยิ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลด้วยแล้ว ก็เปรียบเสมือนไข่ในหินสำหรับพวกเขา !
ตั้งแต่เล็กจนโต สองสามีภรรยาประคบประหงมกู้ชิงหยิ่งมาอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม
ถ้าไม่ใช่เพราะกู้ชิงหยิ่งยืนกรานที่จะอยู่กับเฉินตงให้ได้ ต่อให้มีท่านเมิ่งคอยสนับสนุนอยู่ พวกเขาสองสามีภรรยาก็คงไม่คิดจะชายตามองด้วยซ้ำ
การแต่งงานครั้งที่สอง !
เป็นปัญหาที่ไม่อาจมองข้ามได้จริงๆ !
“ไอ้หมอนี่ พวกเราไม่รังเกียจที่เขาแต่งงานเป็นครั้งที่สอง ผมอุตส่าห์สนับสนุนเขา แต่เขากลับไปแอบพบกับภรรยาเก่า” กู้โก๋ฮั๋วโกรธจนตัวสั่น ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยไฟแค้น “เขาคิดว่าผม กู้โก๋ฮั๋วโกรธใครไม่เป็นหรืออย่างไร ? ไอ้บ้าเอ๊ย !”
หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้ว ใบหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เธอค่อยๆ หยิบรูปขึ้นมาดูทีละรูปๆ ความโกรธของเธอค่อยๆ เดือดดาลมากขึ้นเรื่อยๆ
กู้ชิงหยิ่งได้ยินเสียงตะคอกด้วยความโกรธของพ่อ ก็เรียกสติกลับมาได้ทันที เธอรีบเดินขึ้นไปด้านหน้าแล้วพูดว่า : “พ่อคะ แม่คะ ทั้งสองคนช่วยใจเย็นๆ กันหน่อย ไม่แน่ว่า……ไม่แน่ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่เหมือนกับที่เราคิดก็ได้”
“แล้วเป็นแบบไหนล่ะ ? แต่ไม่ว่าพวกเราจะคิดแบบไหน แต่ในเมื่อเจ้าหมอนี่ตัดสินใจที่จะขอลูกแต่งงานแล้ว เขาก็ไม่ควรที่จะแอบพบกับภรรยาเก่าของเขาอีก !”
กู้โก๋ฮั๋วรู้สึกขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมาก ความโกรธของเขายากที่จะสงบลงได้ : “เสี่ยวหยิ่งเอ๋ย ลูกเองก็มองลองในแง่ดีเกินไป ไม่ว่าจะหายใจเข้าหายใจออกก็อยากจะอยู่กับเขา แต่การที่เขายังแอบนัดพบกับภรรยาเก่าอยู่เช่นนี้ นั่นหมายความว่าเขาเป็นพวกโง่ดักดาน ยังถูกครอบครัวของภรรยาเก่าทำร้ายไม่สาแก่ใจ !
สีหน้าของกู้ชิงหยิ่งค่อยๆ ซีดเผือด
ริมฝีปากแดงระเรื่องของเธอขยับ แต่ไร้เรี่ยวแรงที่จะตอบโต้
กลับเป็นหลี่หวั่นชิงที่วางรูปถ่ายลง และหันมองกู้โก๋ฮั๋วด้วยท่าทีจริงจัง : “คุณกู้ คุณพูดอะไรระวังหน่อย”
“ผม……” กู้โก๋ฮั๋วคิดที่จะโต้เถียง
ด้วยฐานะของเขา ตำแหน่งของเขา นิสัยของเขา ไม่มีทางที่จะปล่อยให้เหตุการณ์เหมือนในรูปถ่ายนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด
เขารักลูกสาว จึงสามารถมองข้ามการแต่งงานครั้งที่สองของเฉินตงได้
แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะโมโหไม่เป็น !
เวลาที่ลูกสาวถูกทำร้าย เขาก็รู้สึกเหมือนตนเองสูญสิ้นทุกสิ่ง และต้องการระบายความโกรธแค้นที่มีออกมาเพื่อลูกสาวของเขา !
ดังนั้น กู้โก๋ฮั๋วจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วหันหลังเดินจากไป : “ผมจะไปหาไอ้หมอนั่น !”
“พ่อคะ……” กู้ชิงหยิ่งตกใจมาก เธอรีบเดินเข้าไปขวางกู้โก๋ฮั๋วเอาไว้ : “หนู หนูไม่ยอมให้พ่อไปหาเขาเป็นอันขาด !”
เธอรู้จักนิสัยของพ่อตัวเองดี ถ้าปล่อยให้พ่อไปแล้วล่ะก็ เรื่องทุกอย่างจะต้องบานปลายใหญ่โตอย่างแน่นอน !
“เด็กน้อย ลูกจะปล่อยให้พ่อนั่งมองดูลูกโศกเศร้าเสียใจอยู่อย่างนี้หรือ ?” กู้โก๋ฮั๋วโกรธจนหน้าแดง
“คุณกู้ คุณใจเย็นลงหน่อยเถอะ !”
หลี่หวั่นชิงเดินตามมา เธอหันมองกู้ชิงหยิ่งด้วยแววตาที่อ่อนโยน : “เสี่ยวหยิ่ง หลายวันมานี้ลูกกินไม่ได้นอนไม่หลับก็เพราะเรื่องนี้ ร่างกายซูบผอมลงไปมาก พ่อกับแม่เป็นห่วงลูก เรื่องนี้ลูกเองก็คงจะเข้าใจดี”
กู้ชิงหยิ่งพยักหน้าเบาๆ ดวงตาแดงก่ำเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
“ถ้าอย่างนั้น บอกความคิดของลูกให้พ่อกับแม่ฟังหน่อยสิ !” หลี่หวั่นชิงถามอย่างตรงไปตรงมา
มีรูปถ่ายเป็นหลักฐานมัดตัวแน่นหนาขนาดนี้ ต่อให้เธอจะใจดีมีเมตตาแค่ไหน ก็ยากที่จะข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ได้
ดังนั้นเหตุผลเดียวที่เธอเลือกจะพิจารณาก็คือความคิดเห็นของลูกสาว
กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความลังเล
มือทั้งสองข้างประสานกัน ในหัวมีแต่ความคิดที่สับสนวุ่นวายเต็มไปหมด
เรื่องนี้ เธอคิดมาสองวันแล้ว
ในตอนแรก เธอเองก็รู้สึกโกรธและเสียใจพอๆ กับพ่อแม่
แต่หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เธอกลับรู้สึกว่าเฉินตงไม่ใช่คนประเภทนั้น
ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เฉินตงกับหวางหนันหนันหย่าร้างกัน ทุกการกระทำที่เขาปฏิบัติต่อหวางหนันหนัน เธอก็เห็นด้วยตาตนเองมาแล้วทั้งสิ้น
ถึงขั้นที่ว่า ก่อนหน้านี้ที่เธออยู่ห่างจากเฉินตงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็เป็นเพราะเฉินตงต้องการแสดงให้คนของตระกูลหวางเห็น
อีกทั้ง ในรูปถ่าย ก็มีเพียงแค่รูปที่เฉินตงนั่งอยู่ตรงกันข้ามกับหวางหนันหนันเท่านั้น ไม่ได้มีการกระทำที่ดูเกินเลย
กู้ชิงหยิ่งสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : “หนูคิดว่า จะรอดูจนถึงปลายเดือนนี้ค่ะ”
“ปลายเดือน ?”
กู้โก๋ฮั๋วเลิกคิ้ว : “เด็กโง่เอ๋ย นี่ลูกยังจะรอให้ไอ้หมอนั่นมาขอลูกแต่งงานตอนปลายเดือนนี้อีกอย่างนั้นหรือ ? รูปถ่ายพวกนี้ ทำให้พ่อคิดว่าปลายเดือนพวกเขาสองคนอาจจะกลับไปคืนดีกันแล้วก็ได้ !”
เขาชี้นิ้วไปยังรูปถ่ายที่อยู่ในมือของหลี่หวั่นชิง
“พ่อ !”
กู้ชิงหยิ่งกระทืบเท้าของเธอ : “พ่อคิดถึงความรู้สึกของหนูสักนิดได้ไหม ? หนูบอกว่าปลายเดือนก็คือปลายเดือน หนูจะรอดูว่า เขาจะทำตามสัญญาที่เขาให้ไว้ได้หรือไม่ !”
พูดจบ เธอก็ร้องไห้แล้ววิ่งกลับเข้าห้องนอนไป
กู้ชิงหยิ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกกังวลมากกว่าใคร
เธอรู้ดีว่า หากปล่อยให้พ่อกับแม่ของเธอออกหน้าแล้วล่ะก็ เรื่องนี้จะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน
คนที่ปากแข็งเช่นเธอ เพื่อเฉินตงแล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องวิธีนี้ !
“เสี่ยวหยิ่ง……”
กู้โก๋ฮั๋วหันหลับไปตะโกนด้วยความโมโห
“พอแล้ว เลิกโวยวายได้แล้ว”
หลี่หวั่นชิงพูดปลอบใจทันที : “เคารพการตัดสินใจของลูก ถ้าหากปลายเดือนนี้ เรื่องทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เราคาดเอาไว้ เราก็จะให้หมอนั่นได้ชดใช้ทั้งต้นทั้งดอก !”
น้ำเสียงที่เย็นชาจนหนาวเข้าไปในกระดูกและทรงพลัง
เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าคำพูดพวกนี้จะออกมาจากปากของผู้หญิงที่มีเสน่ห์ สุภาพอ่อนโยนและมีเมตตาอย่างหลี่หวั่นชิง
ในดวงตาของกู้โก๋ฮั๋วคุกรุ่นไปด้วยไฟแค้น เขากำหมัดแน่น : “ได้ ! ถ้าอย่างนั้นก็รอดูปลายเดือนนี้ ถ้าหากเจ้าหมอนี่คิดไม่ซื้อจริงๆ ก็อย่าโทษว่าผมใจร้ายก็แล้วกัน ลูกสาวของตระกูลกู้ ไม่ใช่พวกกระจอกอย่างเขาจะมารังแกได้ง่ายๆ !”
“ถ้าเขากล้ารังแกแก้วตาดวงใจของผม กู้โก๋ฮั๋วแล้ล่ะก็ ผมจะทำให้เขารู้จักว่าฟ้าถล่มมันเป็นอย่างไร !”
……
เฉินตกลับไปถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง
แผนการของหวางหนันหนันทำให้เขารู้สึกเครียดและหดหู่เป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน เขาเองก็กำลังลังเลว่าเรื่องนี้จะรู้ถึงหูของกู้ชิงหยิ่งหรือไม่
ยิ่งเขารักมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากเท่านั้น ยิ่งกลัวการสูญเสีย เขาก็ยิ่งระมัดระวัง
เฉินตงโทรศัพท์หากู้ชิงหยิ่ง
แต่หลังจากเสียงเรียกดังขึ้นหนึ่งครั้ง โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายทิ้ง
เฉินตงขมวดคิ้ว เขารีบโทรกลับไปอีกสองครั้ง แต่ก็เป็นเช่นเดิมคือ เมื่อมีเสียงเรียกดังขึ้นหนึ่งครั้ง โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายทิ้งทันที
“เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า ?”
ขณะที่เฉินตงกำลังกดต่อสายอีกครั้ง ก็มีข้อความจากกู้ชิงหยิ่งส่งเข้ามาในวีแชท
“ทำไมคุณถึงไม่รับโทรศัพท์ ?” เฉินตงถาม “คืนนี้ว่างไหม ? ออกไปทานข้าวด้วยกัน ไม่ได้เจอคุณนานแล้ว ผมคิดถึงคุณ”
“ฉันกำลังแต่งหน้าอยู่ เตรียมที่จะแต่งหน้าให้สวย ไม่เช่นนั้นจะกล้าให้คุณมาขอแต่งงานปลายเดือนนี้ได้อย่างไร ?”
กู้ชิงหยิ่งตอบกลับ เพียงครู่เดียวก็มีข้อความอีกฉบับตอบกลับมาอีก
“ คนโง่ หลังจากนี้ฉันจะไม่พบกับคุณแล้ว ฉันจะรอจนถึงปลายเดือน รอให้คุณมาขอฉันแต่งงานแล้วค่อยพบกับคุณ คุณเองก็ห้ามมาเจอฉันเช่นกัน !”
เมื่อเฉินตงเห็นข้อความก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
แววตาของเขาเป็นประกาย และแน่วแน่อย่างที่สุด : “ปลายเดือนนี้ ผมจะขอคุณแต่งงานในแบบที่คุณไม่มีวันลืมได้ลงไปตลอดชีวิต !”