บทที่ 143 เหมือนหัวใจพังทลายลงเลย!
ในงานเลี้ยง ผลักกันดื่ม พูดคุยและหัวเราะอย่างมีความสุข
บรรยากาศอบอุ่นมีความสุข
เผชิญหน้ากับกู้โก้ฮั้ว ท่านเมิ่งและเจิ้งโก๋โส่ว เฉินตงก็ไม่ได้มีความประหม่าหรือกลัวใดๆ
พูดคุยอย่างมีไหวพริบ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม
เมื่อมองดูภาพนี้ทำให้กู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยากับเจิ้งโก๋โส่วพยักหน้ากันซ้ำ ชื่นชมอยู่ในใจ
ต้องรู้ว่า ทั้งสามคนล้วนมีตำแหน่งที่อยู่ในระดับสูง
ปกติพวกเขาร่วมโต๊ะกับคนร่ำรวยที่อำนาจ คนรอบกายยังเอาใจประจบสอพลอ
และเช่นเดียวกับเฉินตง ที่เป็นคนรุ่นใหม่ สามารถปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสมไม่ถ่อมตนแต่ก็ไม่โอ้อวด ไม่ลนลานและใจเย็น อายุแค่นี้สามารถทำให้พวกเขาประหลาดใจ
ดื่มกินกันพอสมควรกับเวลาแล้ว
เจิ้งโก๋โส่วลุกขึ้นด้วยความมึนเมา “หลานชาย อาดื่มให้นายหนึ่งแก้ว ครั้งที่แล้วที่อาดูภาพไม่ละเอียดเข้าใจนายผิด ขอใช้เหล้าแก้วนี้ ขอโทษนาย!”
เขาไม่โง่ แต่กลับฉลาดมาก
ในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรม มีชื่อเสียงระดับสากล การสื่อสารกับกลุ่มคนจำนวนมาก ได้ฝึกฝนจนความคิดความอ่านจนชำนาญแล้ว
ก่อนหน้านั้นเพราะนิสัยกับฐานะ ทำให้เขาปล่อยวางไม่ได้ที่จะขอโทษเฉินตง
แต่เพราะ《ผิงอันเถี่ย》แผ่นเดียวก็ทำให้เขายอมจำนวนทั้งกายทั้งใจ
《ผิงอันเถี่ย》ที่มีมูลค่าสามร้อยล้าน ไม่ใช่ภาพ《ภาพการท่องเที่ยวแม่น้ำเฉียนถัง》ของถังป่อหู่จะสามารถเทียบได้ คนที่สามารถประมูลสมบัติล้ำค่าแบบนี้ได้ ไม่ใช่แค่จะมีฐานะหรืออำนาจบารมี แต่ต้องเป็นผู้มีอิทธิพลที่ทรงอำนวจอย่างแน่นอน
เฉินตงสามารถหา《ผิงอันเถี่ย》ที่ผ่านการประมูลมาได้ มอบให้กับกู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยา มันก็เป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เขาที่เป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรม ไม่มีทางที่จะประมูลมันมาได้!
สมบัติล้ำค่าระดับนี้ การประมูลในบางครั้ง ไม่ใช่จะอาศัยเงินอย่างเดียว!
เฉินตงยกแก้วเหล้าขึ้น ยิ้มพร้อมกับพูด คุณอาเจิ้งเป็นผู้อาวุโส จะมาดื่มให้ผมได้อย่างไร เรื่องครั้งก่อน เฉินตงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ คุณอาเจิ้งดื่มตามสบาย ผมจะดื่มให้คุณอาสามแก้ว
เพียงคำพูดเดียว มันไม่เพียงแต่ได้แสดงความในใจ แต่ยังทำให้เจิ้งโก๋โส่วได้หน้า แสดงความเคารพอย่างชัดเจน
“ดี!”
เจิ้งโก๋โส่วตาสว่างขึ้นมาทันที หัวเราะเสียงดัง ตบบ่าของกู้โก๋ฮั้วด้วยความเมา “ไอ้กู้ ว่าที่ลูกเขยของนาย ฉันว่าโอเคเลยละ!”
ขณะที่พูด เขาก็ดื่มเหล้าหมดในอึกเดียว
เฉินตงก็ดื่มกลับสามแก้ว
ในห้องอาหาร บรรยากาศอบอุ่น เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะที่มีความสุข
เจิ้งโก๋โส่วเพราะคำพูดของเฉินตง ดีใจอย่างมาก ดื่มเหล้าไปไม่น้อย ไม่นานนัก ก็ฟุบอยู่บนโต๊ะ ถูกท่านเมิ่งเรียกคนมาหามออกไป
ในห้องโถง เหลือเพียงแต่เฉินตงกับครอบครัวของกู้ชิงหยิ่ง
“ฮู้………”
เฉินตงถอนหายใจมีกลิ่นเหล้าลอยออกมา ดื่มไปไม่น้อย เวลานี้ก็เมาเหมือนกัน
“หวั่นชิง พาเสี่ยวหยิ่งไปทางโน้น ผมมีเรื่องจะคุยกับตงเอ๋อ”
กู้โก๋ฮั้วลูบหน้าตัวเอง เพราะว่าเมา ทำให้ลิ้นแข็งเล็กน้อย
“พ่อ……”
กู้ชิงหยิ่งตกตะลึง
หลี่หวั่นชิงกลับยิ้มๆ “เอาล่ะ เสี่ยวหยิ่ง ไปรอทางโน้นกับแม่สักครู่”
กู้ชิงหยิ่งแม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่ก็ก้มหน้าเดินตามหลี่หวั่นชิงไปด้านข้าง
พลางเดิน พลางหันหน้ากลับไปกำชับกับเฉินตง “ไม่ต้องดื่มแล้ว มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
เฉินตงยิ้มให้เป็นคำตอบ ยกชาร้อนขึ้น จิบชาขึ้นมา
ห้องอาหารเงียบจนแม้แต่เข็มหล่นลงพื้นยังได้ยิน
กู้โก๋ฮั้วใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ สายตากะพริบๆ กำลังครุ่นคิด
เฉินตงที่ถือแก้วชาไว้ในมือ รออยู่เงียบๆ
“ตงเอ๋อ ของขวัญวันนี้มันใหญ่เกินไปนะ!”
ในที่สุด กู้โก๋ฮั้วก็ทำลายบรรยากาศที่เงียบงัน
“คุณอา นี่เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆของผม สำหรับบุญคุณที่คุณอาช่วยชีวิตในครั้งนี้ เฉินตงยังรู้สึกไม่พอเลย”
เฉินตงกล่าวด้วยความจริงใจ จริงใจอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเพราะกู้ชิงหยิ่ง หรือจะเป็นเพราะบุญคุณที่ช่วยชีวิตในครั้งนี้ คำพูดประโยคนี้ของเขาไม่มีความเท็จเลยแม้แต่นิดเดียว
“เฮ้ย……..”
กู้โก๋ฮั้วชำเลืองมองเฉินตง ถอนหายใจ “มีเรื่องอะไร พูดมาเถอะ อาก็เป็นคนที่มีเหตุผล ไม่ทำให้นายลำบากใจหรอก”
เฉินตงอึ้งไปทันที
เห็นเฉินตงเงียบไป กู้โก้ฮั้วก็ยิ้มๆ ราวกับว่าได้มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งนานแล้ว สายตาที่ล้ำลึกกำลังยิ้มอยู่
“ใครไม่เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อนล่ะ? พูดออกมาอย่างกล้าหาญเลย ให้อาฟังหน่อย!”
เฉินตงยิ่งอึ้งกันไปใหญ่
จู่ๆเขาก็ว้าวุ่นเล็กน้อย
ฉันควรจะพูดอะไรนะ?
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เฉินตงก็พูดขึ้น คุณอา คุณอาดื่มเยอะไปแล้ว ผมพยุงคุณอาไปพักผ่อน”
“ฉันไม่ได้ดื่มเยอะ ยังดื่มเหล้าเหมาไถได้อีกสองขวดเลย เอ่อ……..”
กู้โก๋ฮั้วยกมือที่ใหญ่ขึ้นมา ที่แฝงด้วยความโกรธเล็กน้อย “นายมาเพราะมีเรื่อง เรื่องแบบนี้นายไม่เอ่ยปาก หรือจะให้ฉันเป็นคนพูดเหรอ?”
เฉินตง “ห๊า?”
เมื่อเห็นเฉินตงตกตะลึง กู้โก๋ฮั้วส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย ยังคงยิ้มเหมือนกับว่าได้อ่านทุกอย่างจนทะลุปรุโปร่งนานแล้ว
“วัยรุ่นก็แบบนี้แหละ ขี้อาย ตอนที่ฉันอายุเท่านาย หนังหน้านี้สามารถเอามากันกระสุนได้แล้ว!”
ขณะที่พูด เขาก็ทุบไปที่โต๊ะหนึ่งที
แรงจมลงอย่างหนัก จนทำให้จานบนโต๊ะเกิดเสียง
“หนุ่มน้อยเอ๊ยหนุ่มน้อย นายก็พูดออกมาสิ? ส่งของขวัญเยอะแยะแบบนี้ ความคิดของนาย อามองออกนานแล้ว!”
ภาพที่เกิดขึ้นกะทันหัน
ทำให้เฉินตงตกใจจนม่านตาหด
กู้ชิงหยิ่งกับหลี่หวั่นชิงที่อยู่ด้านนอกห้องอาหารก็สะดุ้งตกใจ รีบวิ่งเข้าไปในห้องอาหาร
“พ่อ………..พ่อทำอะไร?” กู้ชิงหยิ่งมองกู้โก๋ฮั้วด้วยความโกรธ อุทานออกมา
กู้โก๋ฮั้วโกรธจนหน้าแดง กัดฟันไปมา ชี้ไปที่เฉินตง “ไอ้หมอนี่วันนี้นำของขวัญมาเยอะขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่ามาคุยเรื่องสู่ขอ แต่เจ้าหมอนี่กลับไม่พูดออกมา ทำไม หรือจะให้คนเป็นพ่อเป็นคนเอ่ยเหรอ?”
สู่ขอ?!
โครม!
หัวของเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งเกิดเสียงที่ดังสนั่นพร้อมกัน
ทั้งสองมองสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนอึ้งกันไปเลย
พริบตาเดียว ใบหน้าที่แดงระรื่นของกู้ชิงหยิ่ง เหมือนเลือกจะซึมออกมาแล้ว
เธออายจนก้มหน้าลง กระทืบเท้าเบาๆ กล่าวอย่างต่อว่า “พ่อคะ พ่อกำลังพูดอะไร?”
เฉินตงก็รีบยกมือขึ้น อธิบาย “คุณอา ผม ผมมานำของขวัญมาเพื่อขอบคุณจริงๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องสู่ขอเลย”
ร่างที่บอบบางของกู้ชิงหยิ่งสั่นเล็กน้อย เงยหน้ามองเฉินตงด้วยความประหลาดใจ
สีหน้าของกู้โก๋ฮั้วเคร่งขรึมทันที “ไม่ได้คิดถึงเรื่องสู่ขอ? ไอ้หมอนี่หมายความว่าไง? ให้ของขวัญราคาหลักร้อยล้าน ยังไม่อยากสู่ขอลูกสาวฉัน? หรือว่ารู้ว่าลูกสาวฉันไม่คู่ควรกับนาย? ห๊า………..”
คำถามมาเป็นชุด ทำให้เฉินตงตื่นตระหนก
ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริง!
แค่หลักร้อยล้านเอง ทำไมต้องดึงมาเกี่ยวกับเรื่องสู่ขอด้วย?
ยังไม่ทันที่เขาจะอธิบาย
สายตาของกู้โก๋ฮั้วเหมือนไฟ ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ยอมรับมาเถอะ อารับรู้ความรู้สึกของนายมานานแล้ว ฐานะนายก็แค่นั้น หากบอกว่าเป็นของขวัญการพบหน้าหรือขอบคุณที่ช่วยชีวิต ทำไมถึงได้มอบของขวัญหลักร้อยล้านล่ะ?”
“นายยอมรับอย่างตรงไปตรงมา วันนี้ฉันก็จะเห็นด้วยกับคุณอย่างใจกว้าง!”
เมื่อคำพูดประโยคนี้ได้ถูกพูดออกมา สายตาของกู้ชิงหยิ่งก็ได้มองไปทางเฉินตง สองมือกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าเหมือนกำลังคาดหวังอะไรบางอย่างอยู่
หลี่หวั่นชิงกะพริบตาที่สวยงาม ลูบหลังของลูกสาวโดยสัญชาตญาณ
เฉินตงไม่รู้จะทำยังไง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อธิบายกล่าว “คุณอา หลักร้อยล้านมันไม่มากจริงๆ ผมนั้นเพื่อขอบคุณจริงๆ แสดงความจริงใจของผม”
ตูบ!
กู้โก๋ฮั้วโกรธจนตบโต๊ะไปหนึ่งที ฟาดขวดเหล้าไปหนึ่งขวด จากนั้นหน้าแดง พูดกับกู้ชิงหยิ่งด้วยสายตาที่มึนเมา “เสี่ยวหยิ่ง ลูกดูไอ้หมอนี่ มันรู้สึกว่าลูกไม่คู่ควรกับมัน ฮึ่ม………”ในตอนท้าย มีอาการสะอึกแอลกอฮอล์ที่รุนแรงมากอีกครั้ง
ร่างที่บอบบางของกู้ชิงหยิ่งสั่นเล็กน้อย ดวงตาที่สวยงามก็แดงขึ้นมา มองเฉินตงอย่างลึกๆแวบหนึ่ง หันกายเดินออกไปจากห้องอาหาร
“เมื่อดื่มเหล้า แม้แต่ตัวเองเป็นใครก็ไม่รู้แล้วเหรอ?”
หลี่หวั่นชิงถอนหายใจ จ้องมองกู้โก๋ฮั้วอย่างโกรธเคือง แล้ววิ่งตามออกไป
เฉินตงจ้องมองกู้ชิงหยิ่งที่วิ่งออกไปอย่างสิ้นหวัง
เขาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้
ทำไม………เหมือนหัวใจพังทลายลงเลย!