The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – ตอนที่ 177

ตอนที่ 177

หลังจากได้ยิน

ท่านเมิ่ง โจวเย่นชิวและคนอื่นๆ ต่างก็แสดงสีหน้าที่ดูแปลกออกมาในเวลาเดียวกัน

ไม่มีใครกล้ารับคำขอโทษของเฉินตงจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เฉินตงมีความผิดอย่างนั้นหรือ ?

การที่เขามาถึงยังที่นัดหมายตรงตามเวลา แสดงให้เห็นว่าไม่มีความผิด

แต่กลับเป็นคุณท่านใหญ่หลี่ที่พยายามใช้อำนาจข่มเหงผู้อื่น

คุณท่านใหญ่หลี่นั่งอยู่ตรงที่นั่งหลัก ด้วยสีหน้าขึงขัง

เดิมทีเขาตั้งใจจะถือโอกาสใช้อาหารมื้อนี้ เปิดเผยความลับของตระกูลหลี่ให้เฉินตงได้รับรู้

ต่อให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้ เพียงแค่กวักมือก็สามารถเรียกผู้มีอิทธิพลของเมืองนี้มาได้ทั้งเมือง

แต่ในบรรดาคนเหล่านี้ ในสายตาของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเฉินตงจะเป็นคนที่ปกติแล้วน่าจะเชื้อเชิญมาได้ยากที่สุด

ตอนนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไท่ตงถือว่าเป็นธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้นของเมืองนี้ก็ว่าได้ แต่อย่างไรเสียก็ยังไม่อยู่ในสายตาของคุณท่านใหญ่หลี่อยู่ดี

เงินและเส้นสาย เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน อีกทั้งเส้นสายนั้นสำคัญกว่าเงินมาก !

แต่เฉินตงกลับวางมาดเหมือนคนที่ไร้สมอง

นี่ทำให้สิ่งที่เขาวางแผนมาทั้งหมดต้องสูญเปล่า

ตึง !

คุณท่านใหญ่หลี่ที่กำลังโกรธจัดเคาะไม้เท้าอย่างแรงลงบนพื้น

“เสี่ยวโจว……”

เสียงของความโมโหดังลอดออกมาจากไรฟัน

โจวเย่นชิวสะดุ้งเฮือก สีหน้าที่เดิมทีก็ดูแปลกประหลาดอยู่แล้ว ตอนนี้กลับยิ่งดูน่าเกลียดไปกว่าเดิม

เขาเดินเข้าไปหาคุณท่านใหญ่หลี่ พร้อมทั้งแสดงท่าทีสวามิภักดิ์ต่อคุณท่านใหญ่หลี่

แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ตัวเอกในการรับประทานอาหารร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นเฉินตงไปได้ !

นี่……ไม่ทำกับว่ารนหาที่ให้เขาหรอกหรือ ?

วางตัวลำบากจริงๆ !

เมื่อได้ยิน

เฉินตงก็แสยะยิ้มออกมาพร้อมทั้งหันไม่มองโจวเย่นชิวที่กำลังอยู่ไม่สุข

ครั้งก่อนที่ไปขอโทษด้วยตนเอง โจวเย่นชิวได้ถูกเขาดัดหลังเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เขายังจะกล้าอีกหรือ ?

เมื่อเห็นสายตาของเฉินตง โจวเย่นชิวก็รู้สึกวิตกกังวลทันที

เขากระเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงหันไปมองคุณท่านใหญ่หลี่ : “คุณท่านใหญ่ คุณชายเฉินตรงมาถึงที่หมายตรงเวลา ไม่ถือว่าเสียมารยาท กระผมว่าเรื่องนี้ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะครับ”

“เธอ……” คุณท่านใหญ่หลี่ใบหน้าแดงก่ำ เขาหันมองโจวเย่นชิวด้วยความโมโห

คำพูดไกล่เกลี่ยของโจวเย่นชิวยิ่งทำให้รู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่

ก่อนหน้านี้พูดเอาไว้ว่าอย่างไร ?

ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

เดิมทีเขาคิดที่จะใช้อำนาจในการกดขี่ เพื่อทำให้เฉินตงรู้ว่า ต่อให้มีเงิน ในสายตาของตระกูลหลี่แล้ว ก็เป็นได้แค่มดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น

แต่ทว่าตอนนี้ โจวเย่นชิวกับเริ่มพูดจาไกล่เกลี่ยแล้ว การขู่ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่สำเร็จเสียแล้ว

คุณท่านใหญ่หลี่แอบถอนใจเบาๆ แล้วพยายามข่มความโกรธเอาไว้ จากนั้นจึงหรี่ตาหันมองทุกคน

“ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไร ?”

“โจวเย่นชิวพูดถูกต้องครับ !”

ท่านเมิ่งเปิดปากพูดก่อนใคร

คุณท่านใหญ่หลี่ตกตึงในทันที

“คุณชายเฉินตงมาทันเวลา ไม่ถือว่าเสียมารยาทครับ” ผู้อำนวยการหลิวกล่าวเสริม

เริ่มมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาที่บริเวณหน้าผากของคุณท่านใหญ่หลี่

ส่วนคนที่เหลือ เมื่อเห็นท่านเมิ่งและผู้อำนวยการหลิวเอ่ยปากพูดแล้ว ต่างก็ค่อยๆ พยักหน้าสนับสนุน

คุณท่านใหญ่หลี่กัดฟันด้วยความโมโห

แต่ในเมื่อทุกคนต่างให้อภัย เขาเองก็ไม่อาจดึงดันต่อไปได้

มีประกายของแสงที่เย็นวาบฉาบอยู่ในดวงตาของคุณท่านใหญ่หลี่ เขาหันไปมองเฉินตงด้วยแววตาเย็นชา

“เธอมันเป็นเด็กที่ดื้อรั้นและไม่รู้จักเชื่อฟัง ต้องโทษแม่ของเธอที่ไม่รู้จักสั่งสอนเธอ เธอถึงได้เสียมารยาทขนาดนี้ แต่ในเมื่อทุกคนใจกว้างเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ขอให้จบลงเพียงเท่านี้ !”

จากนั้น

“พรวด !”

เฉินตงหลุดขำออกมาในทันที

ถึงแม้จะกำลังหัวเราะอยู่ แต่การแสดงออกเขากลับดูเย็นชามากขึ้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

ปัง !

เสียงฝ่ามือตบลงบนโต๊ะดังขึ้น

เฉินตงลุกยืนขึ้นมา จากนั้นจึงชี้นิ้วไปที่คุณท่านใหญ่หลี่พูดว่า : “คุณมีสิทธิ์อะไรมาสอนเรื่องความกตัญญูกับผม ? แม่ผมให้กำเนิดและเลี้ยงดูผมมาอย่างดี คงไม่ต้องให้คนนอกอย่างคุณเข้ามาแส่ !”

บรรยากาศภายในห้องหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็งในทันที

ท่านเมิ่งหน้าถอดสีทันที

ไม่ใช่เป็นเพราะจู่ๆ เฉินตงก็ลุกขึ้นมาตะคอกด้วยความโกรธ

แต่เป็นเพราะทุกคนที่นี่ต่างไม่ได้ใครโง่เขลา พวกเขาพอจะดูออกว่าเฉินตงกับคุณท่านใหญ่หลี่นั้นมีความแค้นต่อกัน

อาหารมื้อนี้ ดูท่าว่าคงจะไม่อร่อยจริงๆ ?

ถ้าอีกเดี๋ยวไม่ถึงขั้นล้มโต๊ะกัน ก็คงจะถือว่าโชคดีมากแล้ว !

“สามหาว ! นี่ฉันเป็นตาของแกนะ !” คุณท่านใหญ่หลี่ตะคอกด้วยความโมโหและกระหืดกระหอบ

“ตาประสาอะไรกัน !” เฉินตงทำสีหน้าดูถูก

ถ้าไม่ใช่เพราะถูกคุณท่านใหญ่หลี่ข่มขู่แล้วล่ะก็ การร่วมรับประทานอาหารในมื้อนี้เขาไม่มีทางมาโดยเด็ดขาด

ในเมื่อมาแล้ว ก็ไม่มีทางเป็นเต่าที่เอาแต่หดหัวอยู่แต่ในกระดองเด็ดขาด !

คำก็คุณธรรม สองคำก็มารยาท เขาต้องการยืนอยู่บนคุณธรรมอันสูงส่ง เพื่อจะดูถูกข่มเหงแม่ของเขาใช่หรือไม่ ?

ไปให้พ้นเลย !

หน้าด้านจริงๆ !

“แก……แกคิดจะแข็งข้อกับฉันจริงๆ ใช่ไหม !”

คุณท่านใหญ่หลี่โกรธจนตัวสั่น ท่าทีแข็งกร้าวของเฉินตง ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

การร่วมรับประทานอาหารในวันนี้ ถือว่าเป็นงานสำคัญสำหรับเขา

เป็นเวลาที่เขาจะเปิดเผยความลับของตระกูลหลี่ให้เฉินตงได้รับรู้

ไม่ใช้ให้เฉินตงมาฉีกหน้าเขาต่อหน้าทุกคนเช่นนี้

คุณท่านใหญ่หลี่โกรธจนหน้าแดง หายใจเหนื่อยหอบ เขาใช้มือข้างขวาที่สั่นเทาของเขาชี้ไปที่ท่านเมิ่ง : “แก แกรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใคร ? เขา เขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองนี้ !”

“เขา เป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองนี้”

“เขา เป็นผู้มีอำนาจในแวดวงการแพทย์”

……

มือของคุณท่านใหญ่หลี่ค่อยๆ ชี้ไปยังคนที่นั่งนิ่งด้วยความตกใจ และแนะนำตัวพวกเขาทีละคนๆ ด้วยความโมโห

แต่ในขณะที่เขากำลังอยู่ในอารมณ์โกรธนั้น คุณท่านใหญ่หลี่กับไม่ได้สังเกตเลยว่า ในระหว่างที่เขากำลังแนะนำ สีหน้าของท่านเมิ่งก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

หลังจากที่กล่าวแนะนำคนสุดท้ายเสร็จ

คุณท่านใหญ่หลี่เคาะไม้เท้าของเขาลงบนพื้นอย่างเดือดดาล

“แกไปเอาความกล้ามากจากไหน ถึงได้กล้ามาแสดงท่าทีหยิ่งผยองกับฉันที่นี่ ?”

“ตระกูลหลี่ของฉันเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวง ฉันเป็นเจ้าบ้านตระกูลหลี่ อีกทั้งยังเป็นตาของแกด้วย จะให้แกมาเสียมารยาทอย่างนี้ได้หรือ ?”

“แกเก่ง สามารถบริหารไท่ติ่งได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในสายตาของตระกูลหลี่ของฉันแล้ว แกก็เป็นได้แค่มดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น !”

คำพูดและน้ำเสียงเต็มไปด้วยพลังและความโกรธ

มีอำนาจที่แผ่ซ่านออกมาเพื่อที่จะกดขี่เฉินตงเอาไว้

“เหอะๆ !”

เฉินตงแสยะยิ้มอย่างไม่แยแส : “ในเมื่อตระกูลหลี่ของคุณยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ? แล้วทำไมคนแก่หนังเหนียวอย่างคุณ ถึงต้องยอมด้านหน้ามาเชิญผมกลับไปเป็นเจ้าบ้านด้วยล่ะ ?”

เปรี้ยง !

คำพูดที่เปล่งออกไปทำให้ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ท่านเมิ่งเหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ตระกูลหลี่เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงเชียวนะ

แล้วหัวหน้าตระกูลที่มีอำนาจล้นฟ้า จะมาเชิญเฉินตงกลับไปเป็นเจ้าบ้านง่ายๆ เช่นนี้หรือ ?

ทันใดนั้น ความคิดของทุกคนก็เปลี่ยนไป สายตาที่พวกเขามองเฉินตงเปลี่ยนเป็นความตกตะลึงถึงขีดสุด

ทางด้านหนึ่งก็ทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉิน ส่วนอีกด้านหนึ่งก็มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าบ้านตระกูลหลี่

ทำไมเมืองเล็กๆของเรา ถึงได้มีมังกรทองเช่นนี้หลบซ่อนตัวอยู่ได้นะ ?

คุณท่านใหญ่หลี่โกรธจนหน้าแดงแทบจะกระอักเลือดออกมา หายใจฟึดฟัดราวกับวัวกระทิง ในดวงตาปรากฏเส้นเลือดสีแดงเต็มไปหมด เขาจ้องมองเฉินตงอย่างไม่ละสายตา โกรธจนแทบอยากจะกลืนกินเฉินตงเข้าไปเสียตอนนี้

คำพูดประโยคนี้ทำลายความมั่นใจและความภาคภูมิใจของเขาเสียจนหมดสิ้น !

ตอนนี้เอง

จู่ๆ ท่านเมิ่งก็ลุกขึ้นมา แล้วหันไปยกมือคารวะคุณท่านใหญ่หลี่ : “ขอโทษด้วยคุณท่านใหญ่หลี่ กระผมต้องขอตัวก่อน”

พูดจบเขาไม่ได้สนใจสีหน้าของคุณท่านใหญ่หลี่เลยแม้แต่น้อย

รีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาเฉินตง พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มเพื่อแสดงความขอโทษ : “หลานชาย ขอโทษด้วย วันนี้เป็นความประมาทของลุงเอง ถ้าหากลุงรู้ว่าการรับประทานอาหารร่วมกันในมื้อนี้จัดขึ้นเพราะหลาน ลุงไม่มีทางปล่อยให้เรื่องทุกอย่างเป็นเช่นนี้แน่นอน”

พูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องอาหารไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้น ผู้อำนวยการหลิวก็ลุกขึ้นตามทันที

เขาถึงขั้นไม่ยอมกล่าวลากับคุณท่านใหญ่หลี่ แต่กลับเดินเข้าไปหาเฉินตงด้วยความเคารพ

“ขอโทษด้วยหลานชาย เรื่องนี้จะให้พ่อตาขอหลานรู้ไม่ได้โดยเด็ดขาดเลยนะ มิฉะนั้นด้วยนิสัยของเขาแล้ว จะต้องไปพังประตูโรงพยาบาลของลุงแน่ๆ”

หลังจากกล่าวขอโทษเสร็จ ผู้อำนวยการหลิวก็รีบเดินออกไปในทันที

คนหนึ่งก็เป็นผู้มีอิทธิพล ส่วนอีกคนก็เป็นผู้มีอำนาจในวงการแพทย์

เมื่อลองแยกแยะฐานะของทั้งสองคนดูอย่างชัดเจนแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้งสองไม่จำเป็นต้องไว้หน้าคุณท่านใหญ่หลี่จริงๆ

ถึงแม้ตระกูลหลี่จะร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงก็จริง แต่ที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวงเสียหน่อย !

การไว้หน้ากัน หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้อง ก็เห็นทีว่าไม่จำเป็นต้องไว้หน้า

หลังจากที่ทั้งสองกลับ คุณท่านใหญ่หลี่ก็นั่งนิ่งราวกับท่อนไม้ด้วยความตกตะลึง ร่างกายของเขาสั่นเทา รู้สึกราวกับว่าเพิ่งสูญเสียอะไรบางอย่าง

เมื่อเห็นผู้อำนวยการหลิวกำลังจะเดินออกไป คุณท่านใหญ่หลี่ก็ตะคอกออกมาด้วยความรู้สึกสงสัยในชีวิต : “ผู้อำนวยการหลิว เจ้าเด็กคนนี้ก็เป็นแค่เด็กเมื่อวานซืนหัวรั้นคนหนึ่งที่ร่อนเร่พเนจรอยู่นอกตระกูลของฉันก็เท่านั้น ทำไมพวกคุณจะต้องขอโทษเขาด้วย ?”

ผู้อำนวยการหลิวหยุดเดิน

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “เฉินตงเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉิน อีกทั้งยังเป็นลูกเขยของประธานกู้แห่งบริษัทชิงหยิ่งอีกด้วย คุณว่า……ทำไมพวกเราจะต้องขอโทษด้วย ?”

เปรี้ยง !

คุณท่านใหญ่หลี่ตัวสั่น ทันใดนั้นใบหน้าสีแดงก่ำของเขาก็ซีดเผือดทันที

เฉินตง……เป็นลูกเขยของประธานบริษัทชิงหยิ่ง ?

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท