The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – ตอนที่ 183

ตอนที่ 183

บริเวณประตูทางเข้าของเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

มายบัคกำลังจอดสนิทอยู่

คุณท่านใหญ่หลี่นั่งอยู่ที่นั่งทางด้านหลัง แววตาเต็มไปด้วยความมืดมน นิ้วชี้ด้านขวาของเขาเคาะอยู่บนไม้เท้าเบาๆ

“บางที……นี่อาจจะเป็นวิธีสุดท้ายแล้ว”

เพื่อตระกูลหลี่แล้ว เขาจึงไม่ยอมรามือง่ายๆ

ถึงขนาดที่ว่าในตอนนั้น มรดกที่เฉินเต้าหลินทิ้งเอาไว้ให้กับเฉินตงสองแม่ลูก เขาก็สามารถยักยอกได้โดยไม่รู้สึกลังเลเลยแม้แต่น้อย

สำหรับเขาแล้ว ตระกูลหลี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด !

ส่วนลูกสาว……เหอะๆ เป็นแค่สินค้าที่ใช้แลกเปลี่ยนกับเงินก็เท่านั้น

“คุณท่าน มาแล้วครับ” บอดี้การ์ดที่เป็นคนขับรถเอ่ยปากเรียก

หลี่หลานเดินออกมาจากเขตวิลล่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

กำมือถือเอาไว้ในมือแน่น

เธอมองไปยังมายบัคที่จอดห่างออกไปไม่ไกล ด้วยแววตาที่ซับซ้อน

ถือว่าเป็นการเจอกันครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน จากนี้ต่อไป จะไม่หลงเหลือความผูกพันใดๆ ต่อกันอีก

หลี่หลานคิดพลางก็เดินตรงเข้าไปหามายบัคที่จอดอยู่

กระจกรถลดต่ำลง

คุณท่านใหญ่หลี่ที่ก่อนหน้านี้แววตาเต็มไปด้วยความหม่นหมอง บัดนี้กลับยิ้มให้หลี่หลาน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยน

“ขึ้นมานั่งบนรถสิ วันนี้พ่อจะไปจากที่นี่แล้ว จะกลับเมืองหลวงแล้ว”

“ไม่ดีกว่าค่ะ” หลี่หลานส่ายหัว “หลังจากที่คุณเท่าเรื่องนั้นในตอนนั้นแล้ว พวกเราก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กันอีก”

“เกลียดไหม ?”

คุณท่านใหญ่หลี่เลิกคิ้วแล้วยิ้ม

แววตาของหลี่หลานเต็มไปด้วยความโกรธ เธอพยักหน้าอย่างแรง

คุณท่านใหญ่หลี่ส่ายหัว : “ที่พ่อทำเช่นนั้นเพื่อตระกูลหลี่ของเรา”

หลี่หลานรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าขำ

เพื่อตระกูลหลี่แล้ว ถึงขั้นทิ้งขว้างเธอและเฉินตงเลยหรือ ?

นี่เป็นเหตุผลแบบไหนกัน ?

“เจอกันแล้ว คุณก็ไปเถอะค่ะ”

หลี่หลานพูดออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นจึงหันหลังเพื่อจะเดินกลับเข้าวิลล่า

ทันใดนั้น ก็มีน้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

“แกหนีไปไหนไม่ได้แล้ว กลับบ้านกับฉัน !”

หลี่หลานตัวสั้น หน้าถอดสี

ทันใดนั้น เธอเตรียมที่จะวิ่งหนี

แต่จู่ๆ ประตูรถก็เปิดออก จากนั้นบอดี้การ์ดที่เตรียมการมาอย่างดีก็เอามือปิดปากของหลี่หลานเอาไว้ แล้วลากตัวเธอเข้าไปในรถทันที

หลี่หลานคิดที่จะต่อสู้ แต่ร่างกายของเธออ่อนแอ จึงไม่อาจขัดขืนได้

ถึงขั้นที่ว่า แม้แต่เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือของเธอ ยังดังไปไม่ถึงหูของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตูใหญ่ของเขตวิลล่าเสียด้วยซ้ำ !

“ถ้าแกไม่กลับบ้าน ตงเอ๋อไม่มีวันยอมสิโรราบแน่”

คุณท่านใหญ่หลี่ยิ้มอย่างเยือกเย็น : “ออกจากบ้านมายี่สิบกว่าปีแล้ว แกควรจะกลับไปกราบไหว้บรรพบุรุษได้แล้ว”

มายบัคสีดำเคลื่อนตัวลงจากภูเขาไป

ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นเพราะตำแหน่งที่มายบัคจอด และการลงมือที่รวดเร็วของคุณท่านใหญ่หลี่ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตูใหญ่ไม่ทันสังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย

……

ขณะที่เครื่องบินลงจอดที่ซีสู่ ก็เป็นเวลา 11 นาฬิกาแล้ว

เมื่อออกจากสนามบิน คุนหลุนได้วางแผนการทั้งหมดเอาไว้แล้ว มีรถบีเอ็มดับเบิลยูขับออกมาจากลานจอดรถ

หลังจากขึ้นรถแล้ว ท่านหลงก็พูดว่า : “ไปโรงแรมหนานซาน”

“โรงแรม ?”

เฉินตงหันมองท่านหลงด้วยความประหลาดใจ : “ไม่ได้ไปตระกูลฉินหรือ ?”

“ลูกชายคนนี้พิเศษ เขาไปพักในตระกูลฉิน” ท่านหลงยิ้มด้วยท่าทีแปลกๆ

พิเศษ ?

เฉินตงขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด เมื่อคืนตอนที่ท่านหลงเริ่มแนะนำฉินเย่ เขาก็ใช้คำว่า “พิเศษ”

ตอนนี้ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เฉินตงเริ่มคิดเรื่องนี้ขึ้นมา

ตระกูลเฉินกับตระกูลฉินเป็นคู่แข่งกัน ถึงแม้ฐานะของตระกูลจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน แต่นี่ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่สามารถกันทั้งสองตระกูลออกจากการเป็นคู่แข่งกันได้ อย่างไรเสียในการทำธุรกิจก็ต้องมีจุดที่ขัดแย้งกันเกิดขึ้น

ในเมื่อเป็นคู่แข่งกัน การที่จะเชิญอีกฝ่ายมาให้การช่วยเหลือเขา ก็ดูเป็นเรื่องที่ไม่ปกตินัก

เมื่อคืนตัวเขาเองก็คิดถึงจุดนี้ แต่เป็นเพราะเห็นความแน่วแน่ของท่านหลง เขาจึงระงับความคิดนี้เอาไว้ชั่วคราว

เฉินตงหันมองท่านหลง : “ท่านหลง ฉินเย่คนนี้มีความพิเศษตรงไหนกันแน่ ?”

ท่านหลงมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดออกมาหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย แต่กลับทำให้เฉินตงรู้สึกเสียวสันหลัง

“ไม่รู้ว่าสำหรับคุณชายแล้ว คนที่ฆ่าพ่อตัวเอง ถือว่าพิเศษพอไหม ?”

เฉินตงรู้สึกตัวสั่น เขาตกใจจนถึงขีดสุด

คนที่ฆ่าพ่อตัวเอง ?

นี่ยิ่งกว่าพิเศษเสียอีก !

ต่อให้ในช่วงเวลาที่เขาเกลียดเฉินเต้าหลินมากที่สุด เขาคิดแค่เพียงว่าชาตินี้จะไม่พบหน้ากันอีก แต่ไม่เคยคิดถึงขั้นที่จะฆ่าพ่อของตัวเองเลย !

“ท่านหลง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ?”

น้ำเสียงของเฉินตงต่ำลงเล็กน้อย ท่าทีของเขาเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก

อัจฉริยะก็ส่วนอัจฉริยะ !

แต่เรื่องที่ฆ่าพ่อของตัวเอง เขาจะต้องรู้แน่ชัดให้ได้

คนที่สามารถฆ่าพ่อของตัวเองได้ จะต้องเป็นคนที่เลือดเย็นอย่างมาก แล้วจะมีใครที่เขาจะไม่กล้าฆ่าอีก ?

ตลอดทางมีคุนหลุนเป็นผู้ขับรถ

ส่วนท่านหลงก็ค่อยๆ อธิบายต่อ

ท่าทีของเฉินตงค่อยๆ ผ่อนคลายลง

จากการบอกเล่าของท่านหลง ถึงแม้จะยังไม่รู้สาเหตุที่ฉินเย่ฆ่าพ่อของเขาอย่างแน่ชัด แต่คนภายนอกต่างคาดเดาว่า เป็นเพราะผู้เป็นพ่อคงจะทำเรื่องที่ยากจะให้อภัยได้ จึงทำให้ฉินเย่ลงมือฆ่าเขาด้วยความโกรธ

อีกทั้งหลังจากที่ฆ่าพ่อเรียบร้อยแล้ว เขายังสามารถใช้ชีวิตอยู่ภายในตระกูลฉินได้อย่างปกติ นี่ถือเป็นพิสูจน์ที่ดีที่สุด !

นี่เกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของตระกูลฉิน ทำให้เป็นการยากที่คนภายนอกจะสามารถเข้าไปสืบหาความจริงให้กระจ่างได้

แต่ทว่า เฉินตงเองก็ได้รับรู้ข้อมูลที่สำคัญบางอย่างจากคำบรรยายของท่านหลง

นั่นก็คือ การต่อสู้ในสนามรบทางด้านการเงินในตอนนั้น เงินที่เขาสามารถกวาดมาได้หลายหมื่นล้านเหรียญ เท่ากับว่าเป็นเงินที่เขาใช้ซื้อชีวิตจากตระกูลฉิน !

หมื่นล้านเหรียญสำหรับซื้อชีวิต

แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่ากลัว แต่โทษในการฆ่าพ่อของตัวเอง หากไม่มีความลับบางอย่างปิดบังซ่อนอยู่ภายในนั้น ไม่มีทางที่ตระกูลฉินจะยอมมอบโอกาสนี้ให้แก่เขาเด็ดขาด

อีกทั้ง หลังจากนั้นเป็นต้นมา ฉินเย่ก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติอยาในตระกูลฉิน

แต่อยู่ในฐานะที่พิเศษออกไป

เดิมทีเขาไม่ใช่ทายาทสายตรงของตระกูลฉิน ยิ่งเขากระทำความผิดที่รุนแรงขนาดนี้ ยิ่งทำให้ถูกตระกูลฉินกีดกันออกไป

ถึงขั้นว่า ไม่สามารถกลับไปที่บ้านตระกูลฉินได้ ต้องอาศัยอยู่ที่โรงแรมมาเป็นเวลาหลายปี

อีกทั้งหลังจากที่ฉินเย่สร้างชื่อเสียงจากสนามรบการเงินในตอนนั้นได้แล้ว ก็หลบซ่อนไม่ยอมปรากฏตัวต่อสาธารณชน ทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกว่า เขาคงถูกตระกูลฉินเลี้ยงดูปูเสื้ออย่างดีโดยไม่ต้องทำอะไรอีก

หลังจากฟังจบ เฉินตงก็รู้สึกโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอก

เขาลูบจมูก : “เป็นเพราะมีความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ นายถึงคิดว่าพวกเราอาจจะมีโอกาสเชิญเขาได้สำเร็จ ?”

ท่านหลงพยักหน้า : “กระผมได้ยินคนภายนอกลือกันว่า ถึงแม้ฉินเย่จะเป็นคนของตระกูลฉิน แต่เกรงว่าตอนนี้ก็จะเกิดความห่างเหินขึ้นแล้ว”

“เฮ้อ……”

เฉินตงถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นจึงมีรอยยิ้มเผยออกมาบนใบหน้า : “ช่างเถอะ ถ้าห่างมีความลับบางอย่างแอบซ่อนอยู่จริงๆ ฉินเย่ก็คงจะไม่ได้เป็นคนเลือดเย็นขนาดนั้น”

โรงแรมหนานซาน

ตึกใหญ่ที่สูงตระหง่าน

บริเวณรอบข้างบรรยากาศคึกคักและมีรถแล่นไปมาอย่างพลุกพล่าน

เมื่อพวกของเฉินตงทั้งสามคนเดินทางมาถึงโรงแรมหนานซาน ก็มีชายวัยกลางคนออกมาต้อนรับทันที

“สวัสดีครับคุณชาย สวัสดีครับท่านหลง สวัสดีครับพี่คุนหลุน”

เขากล่าวคำทักทายยาวเป็นชุด ทำให้เฉินตงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ท่านหลงยิ้มเล็กน้อย : “นี่คือคนที่ตระกูลเฉินส่งไปประจำการอยู่ในพื้นที่ แต่ละเมืองจะมีสำนักงานของตระกูลเฉินตั้งอยู่ และมีคนที่ตระกูลเฉินส่งมาคอยดูแล”

สีหน้าของเฉินตงนิ่งสงบ แต่กลับมีความตื่นเต้นเกิดขึ้นภายในจิตใจ

ทุกเมืองจะมีสำนักงานของตระกูลเฉินตั้งอยู่ แค่สิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้อยู่เหนือคำว่ายิ่งใหญ่ไปไกลขึ้นอีก

“ฉินเย่พักอยู่ที่ห้องหมายเลข 99999 นี่คือคีย์การ์ดห้องพักของเขา” ชายวัยกลางคนยื่นคีย์การ์ดหนึ่งใบให้แก่ท่านหลง จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไป

“ไปกันเถอะครับคุณชาย”

ท่านหลงยื่นคีย์การ์ดให้แก่เฉินตง

ทั้งสามขึ้นลิฟท์ไป แล้วหาห้องพักจนเจอ

เฉินตงหยิบคีย์การ์ดขึ้นมา แล้วยืนลังเลอยู่สักครู่ จากนั้นจึงเก็บคีย์การ์ดใส่กระเป๋า

ก๊อกก๊อกก๊อก !

เขาเคาะประตูอย่างมีมารยาท

ในเมื่อมาเพื่อที่จะเชิญคน ก็ควรที่จะมีมารยาทสักหน่อย

หากเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต คงจะเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก

หลังจากนั้น

มีเสียงหัวเราะและคำพูดล้อเล่นติดตลกดังออกมาจากภายในห้อง

“ขอร้องพวกคุณล่ะ ไม่เหลือแม้แต่หยดเดียวแล้วจริงๆ วันนี้แทบจะกินยาโด๊ปแทนข้าวอยู่แล้ว !”

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท