หลังจากคุนหลุนพูด
บรรยากาศภายในเทียนเก๋อเหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งในทันที
“ที่นี่คือเทียนเก๋อ จะมีกลิ่นเลือดได้อย่างไร ?”
คุณท่านใหญ่ตระกูลจางหัวเราะเสียงดังขึ้นมา จากนั้นจึงเหลือบไปมองเฉินตงด้วยความรู้สึกยินดีในใจ
ตอนนี้อ้อยมาอยู่ตรงหน้าแล้ว แค่รอให้เข้าปากช้างเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เฉินตงมีอาการมึนเมาหนักขึ้น จนรู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุน
เขาส่ายหัว จากนั้นเขาจึงเอ่ยปากพูดด้วยสติสัมปชัญญะที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย : “ลองไปดูซิ เชื่อคุนหลุน”
คุณหลุนเคยเป็นทหารรับจ้างฝีมือดีมาก่อน ตอนนี้ยังทำหน้าที่เป็น “หัวหน้าผู้ฝึกสอน” ของตระกูลเฉินอีก ดังนั้นเขาจึงมีประสาทสัมผัสในการรับรู้กลิ่นเลือดได้รวดเร็วกว่าใคร
กูหลังจึงเดินไปที่ประตูใหญ่อย่างระมัดระวัง
ส่วนคุนหลุนเองก็ขยับประชิดเข้ามาอีกหนึ่งก้าวเพื่อคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ เฉินตง
ภาพที่ปรากฏขึ้นนี้
ทำให้คุณท่านใหญ่ตระกูลจางและจางหยู่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความรำคาญใจ
ส่วนฉู่เจียนเจียที่นั่งอยู่ตรงข้ามกลับขมวดคิ้วแน่น แล้วพยายามสูดดมกลิ่น
ภายในเทียนเก๋อ นอกจากคุนหลุนและกูหลังแล้ว ก็มีเธอที่ดูจะมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนที่สุด แต่เมื่อลองพยายามดมกลิ่นดูแล้ว กลับยังคงไม่ได้กลิ่นของเลือดอยู่ดี
ขณะที่กูหลังเดินไปถึงประตูใหญ่
ทันใดนั้น
มีเงาสีดำพุ่งตรงเข้ามาจากด้านนอก
กูหลังหน้าถอดสีทันที เขายังไม่ทันได้ระวังตัว จึงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทัน
“วิ่ง !”
กูหลังตะโกนด้วยความโกรธ แล้วชูมือทั้งสองข้างวิ่งออกไปเพื่อสกัดกั้น
ตุ๊บ !
มีเสียงดังอู้อี้เกิดขึ้น กูหลังเดินโซเซถอยร่นลงมา ตอนนี้ถึงได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่คว้าเอาไว้ได้ในมือคือคน
คนที่ตายแล้ว !
มีรอยเชือดตรงบริเวณคอ เลือดสีแดงสดไหลออกมาไม่หยุด และเขาไม่หายใจแล้ว
กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งไปทั้งเทียนเก๋อทันที
ตอนนี้เอง แม้กระทั่งคุณท่านใหญ่ตระกูลจางและจางหยู่หลันก็สร่างเมาในทันทีและตั้งสติได้
“กูหลังระวัง !”
คุนหลุนตะโกนด้วยความโกรธจัด
กูหลังตัวสั่นไปทั้งตัว ทันใดนั้นก็มีเงาสีดำปรากฏผ่านสายตาของเขาอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน ภายใต้แสงสว่างของไฟสลัวๆ จู่ๆ ก็มีแสงสะท้อนแวววาวปรากฏขึ้น
ทันใดนั้นเอง
กูหลังเหงื่อกาฬแตกพล่าน ประสบการณ์ในการต่อสู้ที่ผ่านความเป็นความตายมา ทำให้เขารับรู้ได้ถึงภัยคุกคามที่หมายจะเอาชีวิตที่กำลังย่างกรายเข้ามาได้ในทันที
เขาออกแรงทั้งหมดที่มี ใช้เท้าเตะศพที่อยู่ในมือจนลอยกระเด็นออกไป
ศพลอยไปกระแทกเข้ากับเงาดำนั้น
แต่ดูเหมือนเงาดำจะคาดการณ์เอาไว้แต่ต้นแล้ว จึงสามารถปลีกตัวหลบได้อย่างง่ายดาย
ฟิ้ว !
กริชอันเย็นเฉียบและแหลมคม เชือดเข้าที่หน้าอกของกูหลัง
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น
กูหลังเดินโซเซถอยร่นไปด้านหลัง จากนั้นจึงจ้องมองบาดแผลตรงหน้าอกด้วยความหวาดกลัว
ถ้าไม่ใช่เพราะการตอบสนองที่รวดเร็ว อาศัยจังหวะที่โยนศพออกไปถอยร่นลงมา กริชเล่มนี้ก็คงพอที่จะเฉือนหน้าอกของเขาจนแยกออกได้
“ฆ่ามัน !”
หลังจากเสียงตะโกนที่เยือกเย็นเข้าไปถึงกระดูกสันหลัง
ทันใดนั้น นักฆ่าจำนวนสิบกว่าคน ก็กรูกันเข้ามาในเทียนเก๋อ
รวดเร็วปานสายฟ้า และเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
นักฆ่าตรงเข้าไปล้อมเฉินตงที่ยังคงอยู่ในอาการมึนเมาเอาไว้
“ว้าย !”
ภาพที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันตรงหน้า ทำให้จางหยู่หลันกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจกลัวในทันที
ในระหว่างช่วงจังหวะชุลมุน จางหยู่หลันและคุณท่านใหญ่ตระกูลจางก็รีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานไปหลบอยู่ด้านข้างทันที
แต่ทว่า นักฆ่าทั้งสิบกว่าคนนั้นทำราวกับมองไม่เห็นพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น กลับเดินผ่านปู่หลานทั้งสองคนไป แล้วมุ่งตรงไปยังเฉินตง
เห็นได้ชัดว่า นักฆ่าทั้งสิบกว่าคนนี้ ต่างพุ่งเป้าไปที่เฉินตงเพียงคนเดียวเท่านั้น !
คุนหลุนหน้าถอดสี รูปร่างที่สูงใหญ่กำยำของเขาก้าวเดินไปข้างหน้า เขาใช้มือยกเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้น แล้วฟาดลงไปยังนักฆ่าที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณชาย หนีเร็ว !”
เปรี้ยะ !
เสียงเก้าอี้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
นักฆ่าสองคนเดินโซเซถอยหลังไป
แต่นักฆ่าที่เหลือ ยังคงพุ่งตรงเข้ามาราวกับหมาป่าและเสือที่ดุร้าย
คุนหลุนตะโกนด้วยความโกรธ แล้วพุ่งเข้าต่อสู้กับนักฆ่าจำนวนสิบกว่าคนนั้น
ส่วนกูหลังที่ได้รับบากเจ็บก็รีบกลับมาช่วยอย่างรวดเร็ว และเข้ามาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคุนหลุน
ทั้งสองไม่ใช่พวกอ่อนหัด ล้วนแล้วแต่ผ่านการต่อสู้ที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพันมาแล้วทั้งสิ้น
พวกเขาสามารถถ่วงเวลานักฆ่าสิบกว่าคนนี้เอาไว้ที่เดิมได้ชั่วขณะหนึ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาร้อนใจก็คือ เฉินตงยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ ค่อยๆ ส่ายหัว สายตายังคงพร่ามัว
“โถ่เว่ย ขยับ ขยับไม่ไหวแล้ว……”
เฉินตงสบถออกมา สติสัมปชัญญะที่ยังพอหลงเหลืออยู่ทำให้เขารู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอันตรายแค่ไหน
เขาเองก็อยากจะวิ่ง แต่ทำไม่ได้ !
ร่างกายของเขาอ่อนปวกเปียกไปหมด มือเท้าชา สติสัมปชัญญะเลือนราง จนไม่อาจควบคุมแขนขาของตัวเองให้ขยับได้
“พาคุณชายหนีไป !”
คุนหลุนเตะนักฆ่าคนหนึ่งกระเด็นลอยออกไป จากนั้นจึงวิ่งเข้าไปหากูหลัง
กูหลังมีท่าทีหดหู่ : “ถ้าฉันไป นายรับมือไม่ไหมหรอก !”
ถ้าหากพวกเขามามือเปล่า หรือหากพวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆ สิบกว่าคนที่มีอาวุธอยู่ในมือ กูหลังจะไม่พูดอะไรเลยสักคำ
แต่เขารู้ดีว่า นักฆ่าสิบกว่าคนที่เป็นมืออาชีพและมีอาวุธครบมือน่ากลัวขนาดไหน
คุนหลุนคิดจะเผชิญหน้ากับนักฆ่าที่มีอาวุธครบมือด้วยมือเปล่าเพียงคนเดียว จุดจบคงน่าอนาถแน่นอน !
“ฉันตายไม่เป็นไร แต่ฉันต้องการให้คุณชายรอด !”
คุนหลุนแสดงท่าทีดุร้าย เขาคว้าคอเสื้อของกูหลัง และเตรียมที่จะโยนเขาออกจากวงล้อม
“ระวัง !”
กูหลังตะโกนเสียงดัง พร้อมกับเขามือทั้งสองข้างกอดแขนของคุนหลุนเอาไว้ จากนั้นจึงออกแรงเตะนักฆ่าที่อยู่ด้านหลังของคุนหลุน จนลอยกระเด็นออกไป
เขารู้สึกว่ามีความเย็นพัดผ่านหลังศีรษะของเขาไป ทำให้เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
กูหลังกลับลงมายืนอยู่บนพื้น จากนั้นจึงสั่งเสียงเข้มว่า : “พวกคุณสามคน พาคุณชายหนีไป !”
เห็นได้ชัดว่าตะโกนบอกจางหยู่หลัน คุณท่านใหญ่ตระกูลจาง และฉู่เจียนเจีย
จากนั้น
สถานการณ์ก็ชุลมุนวุ่นวาย
จางหยู่หลันและคุณท่านใหญ่ตระกูลจางขดตัวหลบอยู่ตรงมุมห้องนานแล้ว
แววตาของจางหยู่หลันเป็นประกาย เธออยากที่จะใกล้ชิดกับเฉินคงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่กลับถูกคุณท่านใหญ่ตระกูลจางดึงเอาไว้
ตอนนี้เอง
“แย่แล้ว !”
คุนหลุนและกูหลังอุทานออกมาพร้อมกัน
มีนักฆ่าคนหนึ่งแอบฝ่าแนวป้องกันของพวกเขาเข้ามาได้ ในมือของเขาถือกริชอยู่ แล้ววิ่งตรงเข้าไปหาเฉินตงที่นั่งไม่ได้สติอยู่อย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลาคับขัน
ฟิ้ว !
ตุ้บ !
แก้วน้ำชาใบหนึ่งลอยมา กระแทกเข้ากับศีรษะของนักฆ่า
แก้วน้ำชาแตก ส่วนฆาตกรเองก็ศีรษะเอียง และเดินโซเซถอยร่นไปเช่นกัน
“ไป !”
ฉู่เจียนเจียปรากฏตัวขึ้นข้างๆ เฉินตง เธอออกแรงอย่างสุดกำลังจากร่างกายอันผอมบางของเธอ เพื่อยกเฉินตงขึ้นมา
ใบหน้าที่เย็นชาและภูมิฐาน บัดนี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น และไม่ปรากฏความกลัวขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“ขอบ ขอบคุณ……”
เฉินตงตะโกนออกมาอย่างแผ่วเบา ค่อยๆ มีสีแดงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา และรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว
“ถ้าคุณตาย ก็ไม่มีใครเจรจาธุรกิจกับฉันนะสิ”
ฉู่เจียนเจียแบกเฉินตงขึ้น พลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทั้งสองเดินโซเซไปมา แต่ก็สามารถเดินออกจากเทียนเก๋อไปได้ในที่สุด โดยมีคุนหลุนและกูหลังคอยเปิดทางให้
นักฆ่าสิบกว่าคนโบกสะบัดกริชที่อยู่ในมือ พร้อมกับตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง
เมื่อคุณท่านใหญ่ตระกูลจางเห็นว่าไม่มีใครสังเกตเห็นเขาและจางหยู่หลัน เขาจึงลากจางหยู่หลันแล้วค่อยๆ แอบย่องออกจากมุม และตรงออกไปด้านนอกเทียนเก๋อ
ตุ้บ !
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังเกิดขึ้น
มีนักฆ่าคนหนึ่งลอยมาตกลงตรงหน้าของสองปู่หลานอย่างแรง
ตาทั้งหกข้างประสานกัน
แววตาของนักฆ่าเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง กริชที่ถืออยู่ในมือพุ่งตรงเข้าใส่จางหยู่หลันทันที
จางหยู่หลันตกใจจนหน้าถอดสี เธอกรีดร้องแล้ววิ่งตรงเข้าไปหาเฉินตงและฉู่เจียนเจียทันที
ขณะที่กำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัว จางหยู่หลันก็วิ่งเข้าไปที่ด้านหลังของคนทั้งสอง จากนั้นจึงใช้มือทั้งสองข้างผลักอย่างแรง
นี่คิดจะใช้ฉันบังมีดอย่างนั้นหรือ ?
เฉินตงหัวใจเต้นแรง
เขาและฉู่เจียนเจียถูกจางหยู่หลันผลักจนสูญเสียการทรงตัว ทำให้ตัวของเขาพุ่งตรงไปด้านหน้า
และสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็คือ นักฆ่าที่ถือกริชคมกริบกำลังวิ่งตรงเข้ามา
ทันใดนั้น
มีเงาหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเฉินตง
เป็นฉู่เจียนเจียที่เข้ามากอดเขาเอาไว้
เฉินตงตกใจ
เด็กสาวคนนี้ไม่ต้องการชีวิตแล้วหรืออย่างไร ?
เฉินตงในตอนนี้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง สมองของเขาก็ลือนลางไปหมด ทุกอย่างดูเหมือนค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง
เขาเห็นกริชกำลังจะแทงเข้าที่ตัวของฉู่เจียนเจียที่อยู่ตรงหน้า
เฉินตงกัดฟันกรอด เขากอดฉู่เจียนเจียเอาไว้แน่น แล้วออกแรงหันตัวกลับในทันที
ซวบ !
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกมา