เสียงด่าที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน
ทำให้บรรยากาศเงียบสงัด
เธอเกือบจะกรีดร้องออกมา จึงยกมืออันเรียวงามขึ้นมาป้องปากเอาไว้
นี่……คือเฉินตงจริงๆ หรือ ?
ตั้งแต่ที่เธอได้กลับไปอยู่ข้างกายของเฉินตง และได้รู้จักกับคุนหลุนแล้ว
ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้วเฉินตงกับคุนหลุนจะมีศักดิ์เป็นนายจ้างกับคนรับใช้ แต่ทั้งสองคนกลับมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ราวกับเป็นพี่น้องมากกว่าเป็นนายจ้างกับคนรับใช้
อีกทั้ง เฉินตงเองก็เห็นคุนหลุนเป็นเหมือนพี่ชาย !
คำพูดและท่าทางของเขา ไม่เคยแสดงออกถึงความหยิ่งยโสในตำแหน่งผู้สืบทอดมรดกต่อหน้าคนรับใช้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น คุนหลุนเองก็ไม่ได้เป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉิน
ภายในบ้าน แต่ไหนแต่ไรมาทุกคนต่างอยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาค !
แม้แต่ท่านหลงเองที่เป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉินอย่างแท้จริง เฉินตงก็ยังคงปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพในฐานะที่อาวุโสกว่า
แต่ทว่าตอนนี้ เฉินตงกลับ……ตบหน้าคุนหลุน ? !
“คุณชาย คุณเมามากแล้ว”
เสียงของคุนหลุนดังขึ้นที่ด้านนอก
“ไม่ ฉันไม่เมา แก แกหลีกไป !”
น้ำเสียงของเฉินตงสั่นเครือและสับสน : “แก ไอ้คนรับใช้ เปิดประตูให้ฉัน คืนนี้ฉันจะนอนกับกู้ชิงหยิ่ง !”
กู้ชิงหยิ่งตกตะลึง เธอแทบไม่อยากเชื่อหูของตนเอง
“คุณชาย คุณผู้หญิงสอนให้คุณให้เกียรติคุณหนูกู้ คุณลืมไปแล้วหรืออย่างไรครับ ?”
จู่ๆ เสียงของคุนหลุนก็ดังขึ้นมา : “ถ้าหากคืนนี้คุณชายอาละวาดเพราะฤทธิ์สุรา กระผมจะโทรหาคุณผู้หญิงและท่านหลงเดี๋ยวนี้ !”
คำขู่ที่รุนแรง
ทำให้การเคลื่อนไหวด้านนอกสงบลง
“เหอะ !”
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที เฉินตงก็หัวเราะขึ้นมา : “ประคองฉันกลับห้อง !”
น้ำเสียงของเขา ฟังดูไม่มีมารยาทเลยแม้แต่น้อย เป็นน้ำเสียงที่นายจ้างใช้พูดกับคนรับใช้อย่างแท้จริง
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันอีกต่อไป
เสียงฝีเท้าดังขึ้น ไม่ช้าโถงทางเดินด้านนอกก็เงียบสงบ
กู้ชิงหยิ่งยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มือของเธอยังคงป้องปากอยู่
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมด ทำให้เธอรู้สึกสับสนจริงๆ
เธอรู้สึกราวกับตกอยู่ในภวังค์
เฉินตง……เปลี่ยนไปแล้วจริงๆหรือ ?
สมองของเธอว่างเปล่า ความสงสัยที่จางหายไป กลับทวีความรุนแรงขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้ง
พักใหญ่
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
กู้ชิงหยิ่งตัวสั่น ยังไม่ยอมเปิดปากพูดอะไร
จากนั้น เสียงเคร่งขรึมของคุนหลุนก็เข้ามาจากด้านนอก
“เสี่ยวหยิ่ง รีบนอนเถอะ คุณชายหลับไปแล้ว เขาคงจะดื่มมากเกินไป คงจะไม่เป็นไรหรอก คุณก็อย่าได้ถือสาเลยนะ”
แม้จะเป็นแค่คำปลอบใจ แค่คำว่า “คง” สองคำที่เขาใช้กันต่อเนื่องก็ทำให้กู้ชิงหยิ่งเริ่มสงสัยแล้วเหมือนกัน
“ค่ะ พี่คุนหลุน”
กู้ชิงหยิ่งตอบกลับเบาๆ : “พี่คุนหลุนอย่าโกรธเลยนะ”
“คุณชายของตัวเอง ผมจะไปโกรธได้อย่างไร ? ชีวิตของผมล้วนแล้วแต่เป็นของเจ้าบ้าน”
คุนหลุนหัวเราะออกมา จากนั้นจึงเดินจากไป
บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ
แต่กู้ชิงหยิ่งกลับรู้สึกลังเล และรู้สึกสับสน
เธอค่อยๆย่องไปที่ประตู แล้วล็อกประตูห้อง
คิดไปคิดมาคงยังไม่พอ
เธอลากเก้าอี้มาพิงเอาไว้ที่ประตู จากนั้นจึงเดินกลับมาที่เตียง แต่เธอก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้อีกต่อไป
ความคิดของเธอพลุ่งพล่านอย่างรวดเร็ว ภายใต้แสงไฟส่องสว่าง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
……
เฉินตงขดตัวอยู่ในกล่องไม้
เขามองแสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาในกล่อง ใบหน้าของเขาก็หม่นหมองและเหม่อลอย
ถูกขังอยู่เช่นนี้ ทำให้ตัวเขาเองรู้สึกงุนงง จำไม่ได้แล้วว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่
มีช่องเล็กๆ อยู่รอบตัวเขาและเหนือศีรษะของเขาเต็มไปหมด มีลมเย็นลอดผ่านเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ทำให้เขารู้สึกหนาวจนตัวสั่นและร่างกายแข็งทื่อ
อ้อ เขาจำได้แล้ว ช่องเล็กๆ ที่อยู่เหนือศีรษะของเขา ถูกเจาะโดยคนที่อยู่ด้านนอกเมื่อไม่นานมานี้
เพื่อใช้สำหรับส่งน้ำให้เวลาที่เขารู้สึกว่ากำลังจะกระหายน้ำตายและหิวตาย และให้เขาได้มีอากาศหายใจ
นี่ทำให้ลมหนาวลอดผ่านเข้ามาในกล่องไม้มากยิ่งขึ้น ทำให้กล่องไม้เป็นราวกับห้องเย็น
แต่ทว่าเขาเองไม่ได้สนใจ
เขาต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้
ถึงจะหนาวก็คงไม่ทำให้ตายโดยทันที
แต่ถ้าไม่ได้ดื่มน้ำและไม่ได้กินอาหาร ไม่มีใครสามารถทนได้แน่นอน
“ต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ ต่อให้ต้องเป็นหมาป่า ก็ต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ !”
นี่คือความคิดเพียงอย่างเดียว ที่ยังคงปรากฏอยู่ในความคิดที่กำลังเลือนรางของเฉินตง
ถึงขั้นว่า เขาไม่ได้สนใจน้ำแข็งที่เกาะอยู่ระหว่างขาของเขาเลยแม้แต่น้อย
ศักดิ์ศรี
เป็นสิ่งที่ไร้ค่าหากไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ !
มีเพียงการเอาตัวรอดที่ปราศจากความอายเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้เขาพลิกสถานการณ์ได้
หากตายไป ถึงแม้ว่าเขาจะตายอย่างสมเกียรติ แต่เขาก็ยังไม่ยอมละทิ้งคนในครอบครัวของตัวเองอยู่ดี
“เสี่ยวหยิ่ง แม่……ผม ผมจะกลับไปให้ได้ จะต้องกลับไปให้ได้……”
เฉินตงค่อยๆ ขยับริมฝีปากสีม่วงของเขา แล้วพึมพำออกมาราวกับกำลังพูดพล่ามอยู่ในความฝัน
เด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ !
หวูด……
เสียงหวูดของเรือดังขึ้น
เป็นเสียงที่อึกทึกราวกับเสียงฟ้าร้อง
เสียงที่ดังติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้เฉินตงที่กำลังสะลึมสะลืออยู่ ตั้งสติขึ้นมาได้
เปลือกตาของเขากระตุกเล็กน้อย เขาขยับตัวเพื่อให้น้ำแข็งที่เกาะอยู่บนตัวของเขาร่วงลง
เขามองเห็นทะเลและท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ภายนอกผ่านทางช่องเล็กๆ
นี่……ใกล้จะถึงฝั่งแล้วหรือ ?
ในที่สุด ก็ถึงแล้วหรือ ?
ไม่ช้า ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
เป็นเสียงฝีเท้าที่หนักและรวดเร็ว
“เร็วเข้า เร็วเข้า ทุกคนกระฉับกระเฉงกันหน่อย พวกแกอย่ามัวแต่ทำตัวเฉื่อยชาเหมือนผู้หญิง”
เสียงที่คุ้นหูดังขึ้น
ตอนนี้ เสียงที่ดังขึ้นนี้ ตะโกนสั่งเฉินตงจากด้านนอกหลายครั้ง
จากนั้น
“แก แก ยังมีแกสองคนด้วย พวกแกสี่คน ยกล่องไปไว้ข้างล่าง เร็วหน่อย ต้องทำให้ทันเวลานะ เส้นทางลับเส้นทางนี้ ถ้าหากไปช้าแล้วละก็ คิดอยากจะออกไปอีกที คงจะยากแล้ว !”
เสียงสั่งการดังกระหึ่ม
จากนั้น เฉินตงก็รู้สึกว่า กล่องไม้ที่บรรจุตนเองอยู่ภายใน ถูกยกให้ลอยขึ้น
จากนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆอยู่สักพัก
ดวงตาที่มืดมัวของเฉินตงเริ่มเป็นประกาย
เป็นเพราะเขามองลอดช่องเล็กๆ ของกล่องไม้ออกไป และมองเห็นพื้นดิน
เป็นพื้นดินที่……ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
ทันใดนั้น เขาก็กระแทกลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว
ตุ๊บ !
กล่องไม้กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง
จากนั้นก็เกิดเสียงแตกของกล่องไม้ดังขึ้น
แรงกระแทกทำให้เฉินตงรู้สึกเหมือนจะกระอักเลือดออกมา
ยังดีที่พื้นน้ำแข็งด้านล่างยังไม่แข็งมากนัก ทันทีที่กล่องไม้กระแทก น้ำแข็งก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เพราะแรงกระแทก
ฟิ่ว……
ลมหนาวพัดเข้ามากัดกินเฉินตงในทันที
ร่างกายของเขาที่ขดตัวอยู่เป็นเวลานาน ภายใต้ความหนาวเย็น จู่ๆ เฉินตงก็ออกแรงอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่แขนขาของเขาเหยียดตรง
เขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก โดยไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ทั่วทั้งแขนและขาของเขา
“โอ๊ย !”
เฉินตงส่งเสียงร้องออกมา สติสัมปชัญญะที่เลือนรางของเขา กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วในทันที
หวูด……
เสียงหวูดของรถไฟดังก้อง
เฉินตงกัดฟัน เขาออกแรงหันหน้ากลับไป แล้วจึงพบเข้ากับเรือลำใหญ่ที่สูงตระหง่านราวกับภูเขา ค่อยๆ เคลื่อนที่ และลอยออกสู่ทะเลไป
ส่วนเขา เป็นเหมือนกับขยะ ที่ถูกนำมาทิ้งเอาไว้บนพื้นน้ำแข็ง
แต่เขาก็เหลือบไปเห็นถุงเสบียงอาหารและน้ำหนึ่งกา ทิ้งเอาไว้ในกล่องไม้ที่แตกออก
นี่……คือความเมตตาที่มอบให้สุนัขจนตรอกเป็นครั้งสุดท้ายอย่างนั้นหรือ ?
หรือจะพูดว่า……ฉันสามารถอาศัยถุงยังชีพถุงนี้และน้ำที่มี เพื่อเอาชีวิตรอดต่อไปได้
มีชีวิตอยู่เพื่อจะพบกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ?
เฉินตงไม่ได้โง่
ในเมื่อตระกูลฉินกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินพาเขามาทิ้งเอาไว้ในสถานที่เช่นนี้ คงไม่ใช่เพราะต้องการให้เขาตายอย่างแน่นอน
หากต้องการให้เขาตายนั้นง่ายมาก
หลังจากที่เขาถูกตีจนสลบแล้ว มีวิธีที่จะสามารถฆ่าเขาได้เป็นร้อยๆ วิธี
หลังจากนี้ จะต้องมีอะไรบางอย่างรอเขาอยู่อย่างแน่นอน !
เขาพยายามออกแรงขยับร่างกาย เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีหยิบอาหารและน้ำเข้าปาก
จากนั้น เฉินตงก็ทำตัวราวกับนักโทษที่กำลังกินอาหารมื้อสุดท้าย
เขากลืนน้ำและอาหารลงท้องไปอย่างรวดเร็ว