ป้าบ!
โทรศัพท์ถูกวางสายไป!
ใบหน้าของเฉินตงมีรอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏ
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ในตอนนี้ ความอัดอั้นที่ถูกเก็บกดมาโดยตลอดก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา
“ขอแค่ผ่านวันที่ 15นี้ไป ฉันก็จะกลายเป็นเฉินตงโดยสมบูรณ์ ความพยายามทั้งหมดของตระกูลโจว ก็คุ้มค่าแล้ว !”
เสียงพึมพำแผ่วเบา สะท้อนก้องอยู่ภายในห้องของผู้ป่วย
และอีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่กู้ชิงหยิ่งออกมาจากห้องพักผู้ป่วยของเฉินตง เธอก็ยังไม่ได้กลับไปในทันที
เธอแวะไปเยี่ยมดูอาการของฉินเย่ต่อ
“ครั้งที่แล้วนายคงทำจางหยู่หลันเสียใจเข้าให้แล้วจริงๆ”
มองไปยังห้องผู้ป่วยที่ว่างเปล่า กับโต๊ะที่รกรุงรัง กู้ชิงหยิ่งก็เอ่ยพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่? ไปก็ดีแล้ว!”
ฉินเย่นอนหนุนศีรษะบนมือทั้งสองข้าง ใบหน้าพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร :“ใครใช้ให้เธอมาทำดีกับคนที่ฆ่าพ่อตัวเองอย่างฉันกันล่ะ? ไล่ไปแบบนี้ ก็สมควรแล้ว ”
ในตอนนี้กู้ชิงหยิ่งเองก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
หลี่หลานกับคุนหลุนก็ได้แต่ส่ายหัว
มีเพียงท่านหลงเท่านั้นที่ก่นด่า :“ไอเจ้าเด็กคนนี้ ฉันรู้ว่าแกคิดอะไร”
“ออกไปเลย!”
ฉินเย่ตกใจ แล้วเถียงกลับท่านหลงไปคำหนึ่ง
ท่านหลงได้แต่หัวเราะ แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร
ได้แต่โบกมือ :“ดูแกกระฉับกระเฉงร่าเริงแบบนี้ ไม่ได้เป็นอะไรมาก งั้นพวกเรากลับก่อนแล้วกัน”
“ไปเลยกลับไปเลย”
ฉินเย่โบกมือ แต่แล้วก็เรียกกู้ชิงหยิ่งเอาไว้
รอให้หลี่หลาน ท่านหลงและคุนหลุนออกจากห้องไปแล้ว
ฉินเย่ก็เอ่ยถามไปว่า:“เธอกับเฉินตงถูกซุ่มโจมตีจริงๆเหรอ ?”
กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้ว แล้วตอบกลับไปว่า :“จะหลอกได้ยังไง? เฉินตงก็พักอยู่ในห้อง VIP ชั้นเดียวกับนาย”
“ช่างน่าแปลกจริงๆ”
นัยน์ตาของฉินเย่ฉายแววครุ่นคิด ชายหนุ่มจิ๊ปาก
“ฉินเย่ ฉันรู้ว่านายอยากจะพูดอะไร”
กู้ชิงหยิ่งท่าทีเคร่งขรึม และเอ่ยพูดอย่างจริงจัง :“นายรู้ไหม หากไม่ใช่เพราะเฉินตงเอาตัวเข้ามาบังไว้ ฉันคงตายไปแล้ว หากเขาเป็นตัวปลอมจริง แล้วจะเอาตัวมาบังมีดนั้นทำไม ?”
“แต่ว่า……”
ฉินเย่อยากจะเถียงต่อ
กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ แล้วพูดอย่างจริงจังไปว่า:“ฉินเย่ ฉันมั่นใจว่าเฉินตงเป็นตัวจริง ไม่ใช่ใครที่ไหนปลอมตัวมา เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก อีกอย่างนายกับเฉินตงก็เป็นพี่น้องกัน ขอให้นายเชื่อในตัวเขาด้วย”
“อีกทั้งตอนอยู่ที่ไห่ย่าเขาก็เจอเรื่องร้ายๆมา มีท่าทีที่เปลี่ยนไปบ้างนั่นก็ถือว่าไม่แปลกอะไร”
เมื่อเห็นท่าทีที่มั่นใจของกู้ชิงหยิ่ง
ฉินเย่ก็ได้แต่ยิ้ม:“โอเคครับ ฉันเชื่อเขาอยู่แล้ว”
“งั้นนายก็พักผ่อนแล้วกัน ออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ นายยังต้องมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้พวกเรานะ”
สีหน้าของกู้ชิงหยิ่งผ่อนคลายลง แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป
รอจนกระทั่งประตูห้องปิดลง
ฉินเย่ก็หยิบบุหรี่ออกจากเตียงโดยไม่เดือดไม่ร้อน จุดมันอย่างชำนาญสูบไปทีหนึ่ง จึงก่นด่าพลางหัวเราะไปว่า
“เชื่อกับผีนะสิ !”
เขาไม่มีนิสัยที่จะมาโต้เถียงอะไรกับผู้หญิงแบบนี้
จึงได้เออออห่อหมกไปตามคำพูดของกู้ชิงหยิ่ง
แต่ อยากให้เขาเชื่อ ?
ฉินเย่ลูบคางไปมา พลางสูบบุหรี่ แล้วพึมพำเบาๆว่า :“ความรู้สึกของฉันไม่ผิดแน่ พี่ตงกับฉันเป็นคนประเภทเดียวกัน”
จากนั้น
เขาก็บิดขี้เกียจ แล้วพูดอย่างเอือมระอาว่า
“เฮ้อ……พี่ตง อย่าว่าผมอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ ภรรยาของพี่ ผมจะปกป้องดูแลเอง !”
ในขณะที่พูดคำนี้ ดวงตาของเขาก็เย็นชาขึ้นมา ไอสังหารรุนแรง :“เฉินตงที่ฉันรู้จัก ไม่ใช่แบบนี้แน่”
……
ภายในคุกมืด
คุก No8
เวลานี้ไม่มีเสียงใดๆ
นักโทษในเรือนจำต่างก็ตะลึงอ้าปากค้าง จ้องมองไปที่เวทีด้วยความหวาดกลัว
เวทีการต่อสู้ที่ควรจะดุเดือดนี้ แค่เพียงเวลาสั้นๆ ก็ทำให้อากาศในเรือนจำนี้จับตัวเป็นก้อน
ภาพบนเวทีนั้น ทำให้นักโทษทุกคนประหลาดใจ
นี่มัน……สังเวียนชีวิตของเหล่าจ่าฝูงเหรอ ?
บนเวที
เฉินตงยืนนิ่ง ท่าทีเฉยชา
เขาจ้องมองไปยังจ่าฝูงที่นอนอยู่บนพื้น ห่างออกไปไม่ไกลนัก ที่เท้าซ้ายบิดจนผิดรูป
การคาดเดาของหมียักษ์ ตรงเป๊ะและแม่นยำ
ภายใต้ความประมาทของคู่ต่อสู้ ทำให้เขาเอาชัยชนะได้เพียงเวลาสั้นๆ
“นาย นายรู้ได้ยังไง? นายไม่มีทางรู้เรื่องนี้แน่!”
ชายที่ร่างกายกำยำแข็งแรงบนใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เหงื่อไหลเป็นทาง ความเจ็บปวดจากเท้าซ้ายที่บิดเบี้ยว ทำให้เขาสั่นไปทั้งหน้า
แต่นี่ ก็ยังไม่เท่ากับความรู้สึกช็อกที่เกิดขึ้นในใจของเขาในตอนนี้
เท้าซ้ายของเขา เป็นแผลเก่าที่เกิดขึ้นหลังการต่อสู้ตลอดทุกครั้งที่อยู่ในคุกมืดนี้
ในคุกมืดนี้ แผลบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ก็สามารถคร่าเอาชีวิตคนได้
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะพยายามปกปิดช่องโหว่ของตัวเอง
เช่นเดียวกับสัตว์ป่าที่อยู่ในป่า เมื่อเกิดความเหนื่อยล้า ก็จะมีพวกหมาแมวมาคอยรุมขย้ำกินทันทีมันเป็นหลักเกณฑ์เดียวกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นถึงจ่าฝูง!
อาการเท้าซ้ายที่บาดเจ็บ เขาก็คอยปกปิดและระวังมันอยู่ตลอด
ในคุกมืดนี้ ไม่มีทางที่จะได้รับการรักษา สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือปกปิดมันเอาไว้ เพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายที่สุด
แต่เขาคิดไม่ถึงว่า คนที่เพิ่งจะเข้ามาใหม่ซึ่งอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งเดือนนี้ ไม่เพียงจะกลายเป็นจ่าฝูง แต่ยังรู้ไปถึงอาการบาดเจ็บที่เท้าซ้ายของเขาอีกด้วย!
ในการต่อสู้ระยะสั้นๆนี้ เห็นได้ชัดว่าจ่าฝูงอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า
แต่ประเด็นสำคัญคือ การจู่โจมทุกครั้งของเฉินตง ก็มุ่งโจมตีไปยังเท้าซ้ายที่บาดเจ็บของจ่าฝูง ต่อให้ต้องต่อสู้กันจนกระอักเลือด เขาก็ยังคงทำอยู่อย่างนั้น
การโจมตีต่อเนื่องดั่งพายุ ทำให้เท้าซ้ายของจ่าฝูงต้านรับไม่ไหว หักและบิดไป
“ไม่ยอมแพ้ ฉันฆ่านาย!”
เสียงของเฉินตงหนาวเหน็บรุนแรง ราวกับลมหนาวที่พัดมาจากนรกที่ลึกที่สุด
ท่าทีของจ่าฝูงเหมือนจะหายใจไม่ออก สัมผัสได้ถึงไอสังหารรุนแรงที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างของเฉินตง
เขากัดฟันแน่น แล้วก้มหน้าลงด้วยความอัปยศอดสู:“ฉัน ฉันยอมแพ้!”
การมีชีวิตอยู่ก็ยังดีกว่าตาย
สิ่งสิ่งนี้ เป็นสิ่งที่นักโทษทุกคนต่างก็เห็นตรงกัน
กับจ่าฝูงเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
“ดี”
เฉินตงพยักหน้า และไม่ได้สนใจกับจ่าฝูงอีก แต่กลับหันกลับไปกวาดมองยังคนดู
น้ำเสียงที่เยือกเย็น ราวกับฟ้าร้อง
“พรุ่งนี้ เวทีที่สาม!”
เงียบ
คุกNO.8เงียบกริบ
นักโทษทุกคนต่างก็ตกตะลึง
การต่อสู้ที่ควรจะนองไปด้วยเลือด แต่กลับรู้ผลแพ้ชนะในเวลาอันสั้น
ที่สำคัญกว่านั้นคือ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของคุกมืดนี้ การสับเปลี่ยนตำแหน่งจ่าฝูง จ่าฝูงคนเก่าจะต้องตายด้วยน้ำมือของจ่าฝูงคนใหม่
แต่นี่ เฉินตงกลับหันหลังกลับ
ไม่เอาชีวิต !
แล้วนี่จะเรียกว่าเป็นสังเวียนชีวิตได้ยังไงกัน?
มองไปยังเฉินตงที่เดินลงเวที
นักโทษทุกคนต่างโห่ลั่นราวเสียงฟ้าร้องกันอย่างบ้าคลั่ง
แต่เฉินตง กลับมีรอยยิ้มที่ดูหมิ่นปรากฏที่มุมปากของเขา
เขา ไม่สนใจสายตาของนักโทษในคุกมืดที่มองมา
แต่ การต่อสู้ครั้งนี้ก็เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเขาอย่างมาก
มีข้อมูลของหมียักษ์เป็นพื้นฐาน สังเวียนการต่อสู้นี้ก็ง่ายขึ้นมาก
แม้ว่าคู่ต่อสู้จะได้รับบาดเจ็บมากกว่าตัวเอง
แต่การเลือกจัดการกับจุดอ่อนของเขา มันก็เป็นวิธีที่สามารถลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเองให้น้อยที่สุดได้
หน้ากล้องวงจรปิดของคุกNO.8
ป๋ามองดูสถานการณ์ภายในของคุกNO.8 ด้วยท่าทีแปลกๆ
มันเป็นอะไรที่เขาเองก็คาดไม่ถึง
ทันใดนั้น
เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นภายในห้องควบคุม
“เด็กคนนี้ เกินไปแล้วจริงๆ !”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้
ท่าทีของป๋าก็เกร็งขึ้นมา แล้วรีบหันหลังกลับ
คนอื่นๆในห้องควบคุมก็ลุกขึ้นตามๆกัน โค้งคำนับด้วยความเคารพ
“คุณมาที่นี่ได้ยังไงครับ?” ป๋าเอ่ยถาม
ผู้มาเยือนยกยิ้ม ชี้ไปยังภาพในคุกNO.8:“นายว่า เด็กคนนี้จะมีโอกาสมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน แล้วสู้กับฉันไหม ?