The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่246 สังเวียนชีวิต

บทที่246 สังเวียนชีวิต

ป้าบ!

โทรศัพท์ถูกวางสายไป!

ใบหน้าของเฉินตงมีรอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏ

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ในตอนนี้ ความอัดอั้นที่ถูกเก็บกดมาโดยตลอดก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา

“ขอแค่ผ่านวันที่ 15นี้ไป ฉันก็จะกลายเป็นเฉินตงโดยสมบูรณ์ ความพยายามทั้งหมดของตระกูลโจว ก็คุ้มค่าแล้ว !”

เสียงพึมพำแผ่วเบา สะท้อนก้องอยู่ภายในห้องของผู้ป่วย

และอีกด้านหนึ่ง

หลังจากที่กู้ชิงหยิ่งออกมาจากห้องพักผู้ป่วยของเฉินตง เธอก็ยังไม่ได้กลับไปในทันที

เธอแวะไปเยี่ยมดูอาการของฉินเย่ต่อ

“ครั้งที่แล้วนายคงทำจางหยู่หลันเสียใจเข้าให้แล้วจริงๆ”

มองไปยังห้องผู้ป่วยที่ว่างเปล่า กับโต๊ะที่รกรุงรัง กู้ชิงหยิ่งก็เอ่ยพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่? ไปก็ดีแล้ว!”

ฉินเย่นอนหนุนศีรษะบนมือทั้งสองข้าง ใบหน้าพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร :“ใครใช้ให้เธอมาทำดีกับคนที่ฆ่าพ่อตัวเองอย่างฉันกันล่ะ? ไล่ไปแบบนี้ ก็สมควรแล้ว ”

ในตอนนี้กู้ชิงหยิ่งเองก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน

หลี่หลานกับคุนหลุนก็ได้แต่ส่ายหัว

มีเพียงท่านหลงเท่านั้นที่ก่นด่า :“ไอเจ้าเด็กคนนี้ ฉันรู้ว่าแกคิดอะไร”

“ออกไปเลย!”

ฉินเย่ตกใจ แล้วเถียงกลับท่านหลงไปคำหนึ่ง

ท่านหลงได้แต่หัวเราะ แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร

ได้แต่โบกมือ :“ดูแกกระฉับกระเฉงร่าเริงแบบนี้ ไม่ได้เป็นอะไรมาก งั้นพวกเรากลับก่อนแล้วกัน”

“ไปเลยกลับไปเลย”

ฉินเย่โบกมือ แต่แล้วก็เรียกกู้ชิงหยิ่งเอาไว้

รอให้หลี่หลาน ท่านหลงและคุนหลุนออกจากห้องไปแล้ว

ฉินเย่ก็เอ่ยถามไปว่า:“เธอกับเฉินตงถูกซุ่มโจมตีจริงๆเหรอ ?”

กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้ว แล้วตอบกลับไปว่า :“จะหลอกได้ยังไง? เฉินตงก็พักอยู่ในห้อง VIP ชั้นเดียวกับนาย”

“ช่างน่าแปลกจริงๆ”

นัยน์ตาของฉินเย่ฉายแววครุ่นคิด ชายหนุ่มจิ๊ปาก

“ฉินเย่ ฉันรู้ว่านายอยากจะพูดอะไร”

กู้ชิงหยิ่งท่าทีเคร่งขรึม และเอ่ยพูดอย่างจริงจัง :“นายรู้ไหม หากไม่ใช่เพราะเฉินตงเอาตัวเข้ามาบังไว้ ฉันคงตายไปแล้ว หากเขาเป็นตัวปลอมจริง แล้วจะเอาตัวมาบังมีดนั้นทำไม ?”

“แต่ว่า……”

ฉินเย่อยากจะเถียงต่อ

กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ แล้วพูดอย่างจริงจังไปว่า:“ฉินเย่ ฉันมั่นใจว่าเฉินตงเป็นตัวจริง ไม่ใช่ใครที่ไหนปลอมตัวมา เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก อีกอย่างนายกับเฉินตงก็เป็นพี่น้องกัน ขอให้นายเชื่อในตัวเขาด้วย”

“อีกทั้งตอนอยู่ที่ไห่ย่าเขาก็เจอเรื่องร้ายๆมา มีท่าทีที่เปลี่ยนไปบ้างนั่นก็ถือว่าไม่แปลกอะไร”

เมื่อเห็นท่าทีที่มั่นใจของกู้ชิงหยิ่ง

ฉินเย่ก็ได้แต่ยิ้ม:“โอเคครับ ฉันเชื่อเขาอยู่แล้ว”

“งั้นนายก็พักผ่อนแล้วกัน ออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ นายยังต้องมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้พวกเรานะ”

สีหน้าของกู้ชิงหยิ่งผ่อนคลายลง แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป

รอจนกระทั่งประตูห้องปิดลง

ฉินเย่ก็หยิบบุหรี่ออกจากเตียงโดยไม่เดือดไม่ร้อน จุดมันอย่างชำนาญสูบไปทีหนึ่ง จึงก่นด่าพลางหัวเราะไปว่า

“เชื่อกับผีนะสิ !”

เขาไม่มีนิสัยที่จะมาโต้เถียงอะไรกับผู้หญิงแบบนี้

จึงได้เออออห่อหมกไปตามคำพูดของกู้ชิงหยิ่ง

แต่ อยากให้เขาเชื่อ ?

ฉินเย่ลูบคางไปมา พลางสูบบุหรี่ แล้วพึมพำเบาๆว่า :“ความรู้สึกของฉันไม่ผิดแน่ พี่ตงกับฉันเป็นคนประเภทเดียวกัน”

จากนั้น

เขาก็บิดขี้เกียจ แล้วพูดอย่างเอือมระอาว่า

“เฮ้อ……พี่ตง อย่าว่าผมอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ ภรรยาของพี่ ผมจะปกป้องดูแลเอง !”

ในขณะที่พูดคำนี้ ดวงตาของเขาก็เย็นชาขึ้นมา ไอสังหารรุนแรง :“เฉินตงที่ฉันรู้จัก ไม่ใช่แบบนี้แน่”

……

ภายในคุกมืด

คุก No8

เวลานี้ไม่มีเสียงใดๆ

นักโทษในเรือนจำต่างก็ตะลึงอ้าปากค้าง จ้องมองไปที่เวทีด้วยความหวาดกลัว

เวทีการต่อสู้ที่ควรจะดุเดือดนี้ แค่เพียงเวลาสั้นๆ ก็ทำให้อากาศในเรือนจำนี้จับตัวเป็นก้อน

ภาพบนเวทีนั้น ทำให้นักโทษทุกคนประหลาดใจ

นี่มัน……สังเวียนชีวิตของเหล่าจ่าฝูงเหรอ ?

บนเวที

เฉินตงยืนนิ่ง ท่าทีเฉยชา

เขาจ้องมองไปยังจ่าฝูงที่นอนอยู่บนพื้น ห่างออกไปไม่ไกลนัก ที่เท้าซ้ายบิดจนผิดรูป

การคาดเดาของหมียักษ์ ตรงเป๊ะและแม่นยำ

ภายใต้ความประมาทของคู่ต่อสู้ ทำให้เขาเอาชัยชนะได้เพียงเวลาสั้นๆ

“นาย นายรู้ได้ยังไง? นายไม่มีทางรู้เรื่องนี้แน่!”

ชายที่ร่างกายกำยำแข็งแรงบนใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เหงื่อไหลเป็นทาง ความเจ็บปวดจากเท้าซ้ายที่บิดเบี้ยว ทำให้เขาสั่นไปทั้งหน้า

แต่นี่ ก็ยังไม่เท่ากับความรู้สึกช็อกที่เกิดขึ้นในใจของเขาในตอนนี้

เท้าซ้ายของเขา เป็นแผลเก่าที่เกิดขึ้นหลังการต่อสู้ตลอดทุกครั้งที่อยู่ในคุกมืดนี้

ในคุกมืดนี้ แผลบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ก็สามารถคร่าเอาชีวิตคนได้

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะพยายามปกปิดช่องโหว่ของตัวเอง

เช่นเดียวกับสัตว์ป่าที่อยู่ในป่า เมื่อเกิดความเหนื่อยล้า ก็จะมีพวกหมาแมวมาคอยรุมขย้ำกินทันทีมันเป็นหลักเกณฑ์เดียวกัน

ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นถึงจ่าฝูง!

อาการเท้าซ้ายที่บาดเจ็บ เขาก็คอยปกปิดและระวังมันอยู่ตลอด

ในคุกมืดนี้ ไม่มีทางที่จะได้รับการรักษา สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือปกปิดมันเอาไว้ เพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายที่สุด

แต่เขาคิดไม่ถึงว่า คนที่เพิ่งจะเข้ามาใหม่ซึ่งอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งเดือนนี้ ไม่เพียงจะกลายเป็นจ่าฝูง แต่ยังรู้ไปถึงอาการบาดเจ็บที่เท้าซ้ายของเขาอีกด้วย!

ในการต่อสู้ระยะสั้นๆนี้ เห็นได้ชัดว่าจ่าฝูงอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า

แต่ประเด็นสำคัญคือ การจู่โจมทุกครั้งของเฉินตง ก็มุ่งโจมตีไปยังเท้าซ้ายที่บาดเจ็บของจ่าฝูง ต่อให้ต้องต่อสู้กันจนกระอักเลือด เขาก็ยังคงทำอยู่อย่างนั้น

การโจมตีต่อเนื่องดั่งพายุ ทำให้เท้าซ้ายของจ่าฝูงต้านรับไม่ไหว หักและบิดไป

“ไม่ยอมแพ้ ฉันฆ่านาย!”

เสียงของเฉินตงหนาวเหน็บรุนแรง ราวกับลมหนาวที่พัดมาจากนรกที่ลึกที่สุด

ท่าทีของจ่าฝูงเหมือนจะหายใจไม่ออก สัมผัสได้ถึงไอสังหารรุนแรงที่ถูกปล่อยออกมาจากร่างของเฉินตง

เขากัดฟันแน่น แล้วก้มหน้าลงด้วยความอัปยศอดสู:“ฉัน ฉันยอมแพ้!”

การมีชีวิตอยู่ก็ยังดีกว่าตาย

สิ่งสิ่งนี้ เป็นสิ่งที่นักโทษทุกคนต่างก็เห็นตรงกัน

กับจ่าฝูงเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

“ดี”

เฉินตงพยักหน้า และไม่ได้สนใจกับจ่าฝูงอีก แต่กลับหันกลับไปกวาดมองยังคนดู

น้ำเสียงที่เยือกเย็น ราวกับฟ้าร้อง

“พรุ่งนี้ เวทีที่สาม!”

เงียบ

คุกNO.8เงียบกริบ

นักโทษทุกคนต่างก็ตกตะลึง

การต่อสู้ที่ควรจะนองไปด้วยเลือด แต่กลับรู้ผลแพ้ชนะในเวลาอันสั้น

ที่สำคัญกว่านั้นคือ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของคุกมืดนี้ การสับเปลี่ยนตำแหน่งจ่าฝูง จ่าฝูงคนเก่าจะต้องตายด้วยน้ำมือของจ่าฝูงคนใหม่

แต่นี่ เฉินตงกลับหันหลังกลับ

ไม่เอาชีวิต !

แล้วนี่จะเรียกว่าเป็นสังเวียนชีวิตได้ยังไงกัน?

มองไปยังเฉินตงที่เดินลงเวที

นักโทษทุกคนต่างโห่ลั่นราวเสียงฟ้าร้องกันอย่างบ้าคลั่ง

แต่เฉินตง กลับมีรอยยิ้มที่ดูหมิ่นปรากฏที่มุมปากของเขา

เขา ไม่สนใจสายตาของนักโทษในคุกมืดที่มองมา

แต่ การต่อสู้ครั้งนี้ก็เพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเขาอย่างมาก

มีข้อมูลของหมียักษ์เป็นพื้นฐาน สังเวียนการต่อสู้นี้ก็ง่ายขึ้นมาก

แม้ว่าคู่ต่อสู้จะได้รับบาดเจ็บมากกว่าตัวเอง

แต่การเลือกจัดการกับจุดอ่อนของเขา มันก็เป็นวิธีที่สามารถลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเองให้น้อยที่สุดได้

หน้ากล้องวงจรปิดของคุกNO.8

ป๋ามองดูสถานการณ์ภายในของคุกNO.8 ด้วยท่าทีแปลกๆ

มันเป็นอะไรที่เขาเองก็คาดไม่ถึง

ทันใดนั้น

เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นภายในห้องควบคุม

“เด็กคนนี้ เกินไปแล้วจริงๆ !”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้

ท่าทีของป๋าก็เกร็งขึ้นมา แล้วรีบหันหลังกลับ

คนอื่นๆในห้องควบคุมก็ลุกขึ้นตามๆกัน โค้งคำนับด้วยความเคารพ

“คุณมาที่นี่ได้ยังไงครับ?” ป๋าเอ่ยถาม

ผู้มาเยือนยกยิ้ม ชี้ไปยังภาพในคุกNO.8:“นายว่า เด็กคนนี้จะมีโอกาสมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน แล้วสู้กับฉันไหม ?

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท