The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 255 จลาจล?บดขยี้!

บทที่ 255 จลาจล?บดขยี้!

ปัง!

หมัดนี้พุ่งตรงไปยังใบหน้าของเต้าจูน

ด้วยพลังอันมาก ทำให้ใบหน้าของเต้าจูนเสียรูป

แต่สีหน้าของเขา ก็ไม่ได้แสดงความเจ็บปวดออกมาเลยแม้แต่น้อย

ตรงกันข้าม กลับเผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนออกมา !

เฉินตงตกตะลึง

มองดูเต้าจูนด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ ในตอนนี้เขาไม่รู้สึกถึงไอสังหารที่มีในตัวของเต้าจูน หรือแม้แต่ความเด็ดเดี่ยวก็ไม่มีเหลืออยู่

มีเพียง ความอ่อนโยน และเข้าถึงง่าย

“คุณ ทำไมถึงไม่หลบ ? ”

น้ำเสียงของเฉินตงสั่นเครือเล็กน้อย นี่เป็นหมัดสุดท้ายของเขา

ความอ่อนล้าของกำลังในหมัดสุดท้าย ด้วยสภาพร่างกายและความสามารถที่มีของเต้าจูน หากจะหลบ ก็เพียงแค่เบี่ยงหน้าเท่านั้น

“แล้วทำไมต้องหลบ?”

เต้าจูนยิ้ม แล้วพูดว่า :“พ่อของนาย สบายดีไหม?”

พ่อ?!

ในใจเฉินตงเหมือนมีคลื่นลูกใหญ่ เขาก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว :“สบาย สบายดี”

จู่ๆ ในหัวก็ยุ่งเหยิงไปหมด

เต้าจูน……รู้จักพ่อ ?

ในเวลานี้ ภายในคุกมืดก็เงียบกริบ

ภาพเมื่อครู่นี้ เกินความคาดหมายของทุกคน

บรรดานักโทษ รวมไปถึงผู้คุมในคุกมืดทุกคนต่างตกตะลึงอ้าปากค้างทำอะไรมาถูก

นี่คือเต้าจูนผู้อยู่เหนือคนทั้งปวง ?

ผู้กุมอำนาจที่น่ากลัวในเรือนจำนี้เลือกที่จะรับหมัดนี้ไว้ ?

“ฟู่~”

เต้าจูนพ่นลมหายใจ ยกมือขึ้นลูบไปยังใบหน้าที่เจ็บปวด พึมพำว่า :“ฝีมือนายไม่เลว ต่อยได้เจ็บจริงๆ สังเวียนนี้ นายชนะ!”

อะไรนะ?!

ร่างกายเฉินตงสั่นไหว จ้องมองไปยังเต้าจูนด้วยความตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

ทันใดนั้น

เต้าจูนก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองไปยังกล้องวงจรปิดเหนือศีรษะ

จากนั้น ภายใต้สายตาของทุกคน เขายกมือขวาขึ้น ชูนิ้วกลางอย่างเปิดเผยและไม่มีปิดบังอะไร

“เย็บแม่ง!”

พอด่าเสร็จ เขาก็หันหลังแล้วกระโดดลงเวที

“เด็กน้อย นายเก่งมาก !”

เต้าจูนเดินไป ยิ้มแล้วก่นด่าไปว่า :“คนอย่างเฉินเต้าหลินมีลูกชายแบบนายได้ ทำไมเขาถึงได้พบเจอแต่เรื่องอะไรที่มันดีๆกัน?”

นี่เขากำลังชมเรา ? หรือกำลังด่าพ่อเรากัน ?

เฉินตงรู้สึกสับสนและมึนงง

เพียงไม่นานเขาก็ได้สติและคิดขึ้นมาได้ว่า ……เขาชนะแล้ว!

ราวกับฝันไป สิบสังเวียนและสิบชัยชนะ!

ตึกตัก!

เฉินตงล้มลงไปบนเวที ความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย แม้แรงที่จะลุกขึ้นนั่งก็ยังไม่มี

แต่ใบหน้าของเขา ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แวววาวสดใส

“ได้กลับบ้านแล้ว ในที่สุดก็ได้ไปแต่งงานกับคุณซะที !”

การต่อสู้เวทีสุดท้าย ทำให้คุกมืดเกิดความโกลาหล

หลังจากความตื่นตกใจผ่านไป สิบคุกที่เสียงดัง ก็กึกก้องไปด้วยเสียงคำรามที่ไม่พอใจ

ในการต่อสู้กันระหว่างเฉินตงกับเต้าจูน คนโง่ก็ยังมองออกว่าเต้าจูนจงใจอ่อนข้อให้

สิ่งนี้ทำให้นักโทษทุกคน ต่างก็รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม

ทำไมเฉินตงสามารถเอาชนะได้ทั้งสิบสังเวียน และออกไปจากคุกมืดนี้ได้ ?

แล้วทำไมเต้าจูนถึงต้องอ่อนข้อให้เฉินตงด้วย ?

การลุกฮือในคุกมืด

ทำให้ผู้คุมในห้องควบคุมจำนวนมากต่างก็มีท่าทีเคร่งขรึม สุขุมและหนักแน่นขึ้นมาทันที

นักโทษที่ถูกคุมขังในคุกมืดนี้ล้วนเป็นเทพสังหารทั้งนั้น

นับตั้งแต่ที่ก่อตั้งคุกมืดมา ก็อาศัยสิบคุกที่เสียงดังคอยถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน เพื่อรักษาความมั่นคงภายใน

แต่ตอนนี้ การต่อสู้กันระหว่างเต้าจูนกับเฉินตง ทำให้ความโกรธของนักโทษสิบคุกที่เสียงดังพันกันจนเป็นเกลียว

ความโกรธแค้นนี้ ผู้คุมของคุกมืด ต่างก็ไม่มีใครแบกรับมันได้ !

“ท่านพัศดี การต่อสู้ครั้งนี้ไม่นับ!ไม่เช่นนั้นคุกมืดได้เกิดจลาจลแน่ !”

“ท่านพัศดี ตัดสินใจเร็วๆเถอะ เฉินตงจะออกไปจากคุกมืดนี้ไม่ได้ หากเขาออกไปแล้ว การต่อสู้สิบสังเวียนที่ต้องได้รับเพียงชัยชนะหลังจากนี้ก็จะไม่มีศักดิ์ศรีอีกต่อไป !”

“เต้าจูนทำแบบนี้ ก็เพื่อต้องการทำลายคุกมืดให้ราบคาบ !”

……

ในชั่วพริบตา สถานการณ์ในห้องควบคุมก็ชุลมุนขึ้นมา

ต่างก็เอ่ยพูดห้ามปรามกับชายชราผมหงอก

“ฟู่……”

ชายชราผมหงอกถอนหายใจออกมาอย่างแรง กำลังจะยกมือขึ้นพูด

แกร็ก!

ประตูห้องถูกเปิดออก

เต้าจูนเดินเข้ามาช้าๆ เลิกคิ้วแล้วยิ้ม:“โอ้ คึกคักกันจัง ?”

หลังจากพูดจบ ทุกคนต่างก็เงียบลง

ชายชราผมหงอกยิ้มแล้วหันกลับมา:“นายมาได้จังหวะพอดี ผลการต่อสู้สังเวียนเมื่อกี้นี้ นายคิดว่าทำยังไงดี ?”

“ง่ายนิดเดียว!”

เต้าจูนเดินไปยังแท่นเวทีในห้องควบคุมอย่างใจเย็น

หยิบไมโครโฟนขึ้นมา ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่กระจายเสียงไปยังเรือนจำในคุกมืดทั้งหมด

หลังจากนั้น

เขายิ้มเยาะแล้วพูดว่า :“ฉันรู้ว่าทุกคนไม่พอใจ แต่ฉันพอใจที่จะปล่อยให้เฉินตงออกไป ใครที่ไม่พอใจก็สามารถมาลองดูว่าจะทำให้ฉันพอใจได้หรือไม่ ”

“ฉันไม่ได้จะเจาะจงใครในคุกมืด กฎของการออกไปจากคุกมืดก็มีอยู่ ทุกคนสามารถมาท้าประลองได้ หรือจะมาท้าประลองกับฉันเต้าจูนก็ได้ !”

น้ำเสียงที่หยาบกระด้าง พูดแบบไม่ได้ประโยชน์แก่ผู้ฟังแต่ก็เป็นคำพูดที่ไม่ได้ผิดอะไร

คำเดียว “ฉันพอใจ”ทำให้คนที่รู้สึกอัดอั้น พูดอะไรไม่ออก

จาก คุกมืดที่เสียงดังกึกก้อง ก็กลับมาเงียบสงบลงอีกครั้ง

นักโทษทุกคนต่างก็รู้สึกจะกระอักเลือดกันขึ้นมา ท้าประลองกับเต้าจูนคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วละมั้ง ?

เต้าจูนพอใจที่จะปล่อยเฉินตงออกไป แต่เต้าจูนก็ไม่ใช่คนที่จะอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลานี่นา !

คนที่มีกำลังมากพอที่จะควบคุมทั้งเรือนจำไว้ได้ ตอนนี้ออกมาพูดเปิดเผยแบบนี้ !

ป้าบ!

เต้าจูนโยนไมโครโฟนทิ้ง

หันกลับไปมองผู้คนที่อยู่ในอาการตกใจ แล้วยิ้มเย้ย :“เรียบร้อย หากพวกนายยังปัญหา ก็สามารถมาลองทำให้ฉันพอใจได้ ?”

คำพูดเดียว ทำให้ทุกคนเสียวสันหลังไปตามๆกัน

ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า คำว่า “พอใจ”ของเต้าจูนหมายถึงอะไร

ท้าประลองกับเต้าจูน เพื่อโอกาสที่จะได้ทำให้เต้าจูนพึงพอใจ ?

ตลกละ!

นั่นมันตายสถานเดียว!

แต่สิ่งที่ผู้คุมทั้งหลายต่างก็ประหลาดใจนั้นก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเต้าจูนกับเฉินตงนี่มันยังไงกัน ?

ไม่มีสาเหตุและเหตุผลที่จะพอใจหรือไม่พอใจ

ทุกคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว และใช้ชีวิตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันมามาก

และต่างก็รู้ดี ความสามารถส่วนตัวนั้นสำคัญมาก แต่บางครั้งเมื่อเจอคนที่ถูกใจ ต่อให้ความสามารถไม่มากพอ ก็สามารถที่จะบินทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้าได้

เห็นได้ชัดว่า เฉินตงเมื่อได้เจอกับเต้าจูน ถึงได้ออกไปจากคุกมืดนี้ได้

“โอเค ลงไปกันได้แล้ว ”

ชายชราผมหงอกก็พูดออกมา :“ช่วงนี้ทุกเรือนจำก็เสริมกำลังเวรยาม เพื่อป้องกันการเกิดจลาจลด้วย ส่วนเต้าจูนกับป๋าอยู่ก่อน ”

ผู้คุมทุกคนต่างพยักหน้า ทำความเคารพแล้วถอยกลับไป

เต้าจูนที่ควบคุมทั้งเรือนจำ ไม่เพียงแต่กับนักโทษเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คุมในเรือนจำนี้ด้วย

เมื่อห้องควบคุม เหลือเพียงเต้าจูนกับชายชราผมหงอก และป๋าสามคนเท่านั้น

เต้าจูนก็นั่งไปบนเก้าอี้อย่างสงบนิ่ง เอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน หยิบซิการ์ออกจากกระเป๋าแล้วจุดสูบ

ป๋าขมวดคิ้ว แล้วมองไปยังเต้าจูนกับชายชราผมหงอกด้วยความสงสัย

ไม่กี่วินาทีต่อมา

เมื่อเต้าจูนพ่นควันแรกออกมา ชายชราผมหงอกก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

“ฉันไม่คิดว่า นายจะปล่อยเฉินตงไปง่ายๆแบบนี้”

โครม!

ร่างกายของป๋าสั่นไหว ภายในใจหวาดวิตก

คำพูดเดียวของท่านพัศดี เผยถึงบางอย่าง สำหรับเขาแล้วมันราวกับฟ้าผ่าตอนกลางวัน

ตั้งแต่ต้นจนจบ……มันมีการวางแผนเอาไว้แล้วงั้นเหรอ ?

เต้าจูนเหลือบมองไปยังชายชราผมหงอกแวบหนึ่ง :“คุณ เคยขู่ผมเอาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ?”

ชายชราผมหงอกยักไหล่ :“นายก็รู้ คำขู่ของฉันไม่เคยมีผลอะไรกับนาย”

เต้าจูนยิ้มเยาะออกมา

แล้วเงยหน้าขึ้นมองป๋า :“ตอนนี้นายคงจะกำลังสงสัยอยู่ใช่ไหม ? ”

“ใช่แล้วเต้าจูน”ป๋าตอบไปตรงๆ

“สงสัยว่าทำไมฉันถึงจงใจปล่อยเฉินตงไป ? และรู้อยู่ว่าเฉินตงไม่สามารถมีชีวิตรอดมาขึ้นสังเวียนสุดท้ายกับฉันได้ และฉันก็ยังช่วยเขาปูทางกำจัดเสี้ยนหนามที่มี?”

ป๋าพยักหน้าอย่างเงียบๆ

เต้าจูนยักไหล่:“คนอื่นสงสัยก็ไม่แปลก แต่ทำไมนายถึงสงสัยด้วย ? เหตุการณ์เดียวกัน สิบปีที่แล้วนายก็เคยเห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ? ”

ความสงสัยที่มีของป๋าก็ยิ่งทวีมากขึ้น

แต่ชายชราผมหงอกกลับตบไปที่ไหล่ของป๋า

“ไปพาตัวเฉินตงมาเถอะ เขาเองก็คงสงสัยเหมือนกันกับคุณ”

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท