The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 261 ฆ่า !

บทที่ 261 ฆ่า !

หลังจากคำพูดนี้ออกไป ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง

“เปรี้ยง” ทุกคนรู้สึกตกใจราวกับถูกฟ้าผ่า บรรยากาศภายในคลับสี่ยิ่นเงียบสงัดไปในทันที

ทุกคนต่างหันมองไปตามที่มาของเสียงด้วยความตกใจ

ฉินเย่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนรถเข็น ดวงตาของเขาจับจ้องไปด้านบนเวทีอย่างเยือกเย็น

จางหยู่หลันและกูหลังที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างก็รู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

ส่วนเฉินตงที่ยืนอยู่บนเวทีก็มีสีหน้ามืดหม่นอย่างเห็นได้ชัด

บรรยากาศงานมงคลสมรสที่กำลังรื่นเริงและสนุกสนาน จู่ๆ ก็ถูกทำลายลง และกลายเป็นความเงียบสงัดในทันที

“หยู่หลัน ยังไม่รีบมานี่อีก ?”

มีเสียงตะคอกด้วยความโมโหดังขึ้นมาท่ามกลางฝูงชน

จางหยู่หลันยืนตัวสั่น เธอหันไปมองคุณท่านใหญ่ตระกูลจางที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน และกำลังจะอ้าปากพูด

ตอนนี้คุณท่านใหญ่ตระกูลจางรู้สึกร้อนใจจนกระทั่งดวงตาแดงก่ำ เขากระทืบเท้าอย่างแรงหนึ่งครั้ง : “รีบมาหาปู่เดี๋ยวนี้เลย !”

นี่เป็นงานมงคลสมรสที่ยิ่งใหญ่ของลูกชายเจ้าบ้านตระกูลเฉิน !

คำว่า “คัดค้าน” ที่ฉินเย่พูดออกมา เท่ากับเป็นการทำลายงานแต่งของตระกูลเฉินเลยเชียวนะ !

นี่เรียกว่ากำลังรนหาที่ตายชัดๆ !

ตอนนี้คุณท่านใหญ่ตระกูลจางต้องรีบแยกจางหยู่หลันให้ออกห่างจากฉินเย่โดยเร็วที่สุด

ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลจาง ไม่อาจต้านทานต่อความโกรธเกรี้ยวของตระกูลเฉินได้

“ที่รัก คุณไปเถอะ” ฉินเย่หันไปยิ้มเล็กน้อยให้จางหยู่หลัน

จางหยู่หลันกำลังจะอ้าปากพูด แต่เมื่อเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปเป็นความเย็นชาของฉินเย่ เธอก็กลืนคำพูดของตัวเองกลับเข้าไปในทันที จากนั้นจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาคุณท่านใหญ่ตระกูลจาง

“บ้าไปแล้ว เจ้าเด็กคนนี้มันบ้าไปแล้ว”

ทุกคนมีความคิดเช่นเดียวกันหมดเมื่อหันไปมองฉินเย่

“ฉินเย่ แกกำลังทำบ้าอะไร ?”

ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เจ้าบ้านตระกูลฉินเดินก้าวออกมาจากฝูงชน เขาชี้นิ้วไปที่ฉินเย่แล้วตะโกนด่าทอว่า : “คนทรยศและอกตัญญูอย่างแก ยังคิดจะก่อเรื่องใหญ่เช่นนี้อีกหรือ ? แกอยากรนหาที่ตายหรืออย่างไร ?”

“ผมออกจากตระกูลฉินแล้ว ไม่มีความเกี่ยวอะไรกับคุณอีกต่อไป !” ฉินเย่ยิ้มอย่างดูถูก

ฮะ……

เกิดความโกลาหลขึ้น

นี่คือคนในตระกูลฉินที่ฆ่าพ่อตัวเองคนนั้นอย่างนั้นหรือ ?

ถึงแม้ภายในงานจะเต็มไปด้วยตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวยและมีอำนาจ แต่คนที่รู้จักฉินเย่จริงๆ นั้นมีอยู่น้อยมาก

“ฉินเย่ !”

แทบจะในเวลาเดียวกัน

กู้ชิงหยิ่งที่ยืนอยู่บนเวทีและท่านหลงที่ยืนอยู่ด้านข้างเวทีต่างก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน

ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งเต็มไปด้วยความโกรธ

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องที่คุยกันอย่างชัดเจนเมื่อคืนนี้ มาวันนี้ฉินเย่กลับแสดงความดื้อรั้นเช่นนี้ออกมา ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่บ้าดีเดือดอย่างมาก

นี่คืองานแต่งงานที่เธอตั้งตารอมาสามปี !

เธออยากทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อที่จะเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำที่แสนพิเศษไปตลอดกาล

ก่อนหน้านี้เธอเคยรู้สึกสงสัยในตัวเฉินตง แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เฉินตงเข้ามารับมีดแทนเธอ ความสงสัยทุกอย่างก็หมดสิ้นไป

หากเฉินตงเป็นตัวปลอมจริง แล้วทำไมต้องยอมสละชีวิตเพื่อเธอด้วย ?

แต่ สิ่งที่ฉินเย่พูดออกมา กลับทำลายความงดงามที่เธอวาดฝันเอาไว้ทั้งหมด

ท่านหลงยืนตัวสั่น เขารู้สึกตกใจจนเนื้อตัวเย็นเฉียบ

ในขณะที่เขาหันมองฉินเย่ด้วยความโมโห แผ่นหลังของเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

นี่คือการกระทำที่เหมาะสม ?

นี่มันคือการกระทำที่เหมาะสมแบบไหนกัน ?

กล่าวคัดค้านขึ้นมาระหว่างที่พิธีแต่งงานกำลังดำเนินอยู่ ฉินเย่คิดที่จะทำลายทุกอย่างหรืออย่างไร ?

“ผมขอคัดค้าน !”

มือทั้งสองข้างของฉินเย่จับอยู่ที่รถเข็น เขาพยายามลุกยืนขึ้น โดยทนฝืนต่อความเจ็บปวดของบาดแผลบริเวณช่องท้องของเขา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ : “ต่อให้ตาย ผมก็จะต้องคัดค้านให้ได้ !”

เงียบ

บรรยากาศภายในงานเงียบสงัด

ไม่มีใครคาดคิดว่า งานมงคลสมรสที่ยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นโดยตระกูลเฉินผู้กุมความมั่งคั่งของโลกเอาไว้ จู่ๆ จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้

หากเรื่องนี่แพร่งพรายออกไป ทั้งโลกคงจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน !

ขณะที่ทุกคนกำลังอยู่ในอาการตกตะลึง แววตาอันน่าสะพรึงกลัวก็ค่อยๆ เคลื่อนไปจับจ้องที่เวที

คำว่า “คัดค้าน” ไม่เพียงแต่ทำลายฉากการแต่งงานทั้งหมด แต่ยังเป็นการตบหน้าตระกูลเฉินอย่างรุนแรงอีกด้วย

เป็นการตบหน้าเฉินเต้าหลินฉาดใหญ่ ต่อหน้าเหล่าบรรดาตระกูลใหญ่ผู้มั่งคั่ง !

“ฉินเย่ ฉันรู้จักแก”

ในที่สุด เฉินเต้าหลินที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ ก็ค่อยๆ เอ่ยปากพูดออกมาพร้อมกับแสยะยิ้ม : “แต่เธอรู้ผลลัพธ์ของการทำเช่นนี้ไหม ?”

ราวกับมีลมหนาวยะเยือกพัดขึ้นมาจากขุมนรก

ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกกลัวจนเสียวสันหลัง

ทุกคนรับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรง ที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเฉินเต้าหลิน

เฉินเต้าหลินค่อยๆ หันหน้าไปมองเฉินตง : “นี่……คือคนที่ลูกเรียกว่าพี่น้องอย่างนั้นหรือ ?”

ตอนนี้การแสดงออกของเฉินตงดูเย็นชาและดุดัน แววตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

เขากำลังรอ !

รอให้งานแต่งสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และรอที่จะเข้ามาแทนที่เฉินตงได้ในที่สุด

แต่การที่ฉินเย่ยื่นขาเข้ามาขัดเช่นนี้ ราวกับว่ากำลังนำน้ำที่เย็นเฉียบมาสาดใส่เขา

เพื่อที่จะได้เข้ามายืนแทนที่ เขาถึงขั้นยอมละทิ้งความแค้นที่ตระกูลโจวต้องถูกทำลายสูญสิ้น

แล้วจะปล่อยให้ฉินเย่มาทำลายลงง่ายๆ เช่นนี้หรือ ?

“พ่อครับ เขาไม่ใช่พี่น้องของผมอีกต่อไปแล้ว” เฉินตงกัดฟันกรอด แล้วค่อยๆ ส่งเสียงพูดผ่านไรฟันออกมา : “ฆ่าเขาเถอะ !”

หลังจากคำพูดนี้หลุดออกมาจากปาก

หลี่หลานก็รีบพูดขึ้นในทันที : “เต้าหลิน เฉินตง พวกคุณใจเย็นๆ หน่อย”

ขณะที่พูด เธอก็หันไปขอโทษครอบครัวของกู้ชิงหยิ่งซ้ำแล้วซ้ำอีก

หลี่หลานเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา ยิ่งเธอได้รู้เรื่องราวบางอย่างของฉินเย่ เธอก็เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉินเย่และเฉินตงดี

ฉินเย่ขัดขวางการแต่งงานของลูกชายเธอ แน่นอนว่าเธอจะต้องรู้สึกโกรธ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องมีการเข่นฆ่ากัน

หลังจากกล่าวขอโทษแล้ว หลี่หลานรีบหันไปตำหนิฉินเย่

“ฉินเย่ เจ้าเด็กโง่ เธอบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ? ยังไม่รีบขอโทษอีก เร็วเข้า หรือไม่อย่างนั้นเธอก็พูดออกมาซิว่าทำไมเธอต้องคัดค้านด้วย ?”

นี่ถือว่าเป็นการหาทางออกให้กับฉินเย่แล้ว

ขอแค่ยอมกล่าวขอโทษ หรือไม่ก็ให้เหตุผลในการกระทำมา เพื่อให้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ผ่านไปได้อย่างราบรื่น และสามารถดำเนินพิธีแต่งงานต่อไปได้ แล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อย

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกโชคดีแทนฉินเย่

เด็กคนนี้โชคดีจริงๆ ก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ กลับยังมีคนหาทางออกให้กับเขาอีก

จากนั้น

“ไม่มีเหตุผล แค่ต้องการคัดค้าน !”

แววตาของฉินเย่จ้องมองทุกสิ่งอย่างแน่วแน่

บรรดาตระกูลใหญ่มั่งคั่งต่างตกตะลึง

หยิ่งผยอง !

ยโสโอหัง !

ไม่รู้จักรักตัวกลัวตาย !

ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถลงมือทำเรื่องเลวร้ายอย่างการฆ่าพ่อของตัวเองได้ !

“เหอะๆ……”

เฉินเต้าหลินหัวเราะออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า : “ถ้าอย่างนั้นอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน”

ทันใดนั้นเอง

มีกลุ่มคนวิ่งตรงเข้าไปหาฉินเย่อย่างรวดเร็ว ด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง

“เฉินเต้าหลิน !”

หลี่หลานร้อนใจจนดวงตาแดงก่ำ เธอกระทืบเท้าอย่างแรง : “คุณอยากจะฆ่าคนในงานแต่งงานของลูกชายตัวเองจริงหรือ คุณอยากให้ความทรงจำของเด็กทั้งสองคน เมื่อนึกถึงวันนี้ต้องเห็นแต่คราบเลือดอยู่ในความทรงจำอย่างนั้นหรือ ?”

คำพูดประโยคนี้ ทำให้เฉินเต้าหลินฉุกคิดขึ้นมาได้

แม้กระทั่งกู้ชิงหยิ่งและกู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยาเอง ก็มีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปเช่นกัน

แน่นอนว่า วันมงคลเช่นนี้ หากต้องมีการเข่นฆ่าชีวิตคนคนหนึ่ง แล้วมันจะมีความหมายอะไรกัน ?

แต่ทว่า จู่ๆ เฉินตงกลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “พ่อครับ ไม่ต้องไปสนใจหรอก คนแบบนี้ สมควรตาย !”

“เฉินตง……” กู้ชิงหยิ่งหน้าถอดสี เธอคิดที่จะห้ามปราม

เธอไม่อยากให้ความทรงจำเกี่ยวกับงานแต่งงานของเธอ ต้องเต็มไปด้วยคราบเลือด

ถึงแม้การที่ถูกฉินเย่ทำลายบรรยากาศงานแต่ง ทำให้ความทรงจำของเธอต้องมีรอยตำหนิเกิดขึ้น แต่ความทรงจำที่มีรอยตำหนิก็ยังดีเสียกว่าความทรงจำที่ต้องแปดเปื้อนไปด้วยเลือด

จากนั้น

เฉินตงกลับยกมือขึ้นมาตัดบท : “นี่คืองานแต่งงานที่ผมเตรียมให้คุณ ผมไม่อนุญาตให้ใครมาทำให้แปดเปื้อนทั้งนั้น !”

ตอนนี้เอง

กลุ่มคนเข้าไปยืนล้อมฉินเย่เอาไว้

แต่ฉินเย่กลับเริ่มแสยะยิ้มออกมา ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีความกลัวปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย

“เฉินเต้าหลิน……” หลี่หลานกัดริมฝีปากของเธออย่างแรง

“พี่เต้าหลิน……” กู้โก๋ฮั๋วเองก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

บรรยากาศเต็มไปด้วยความเหน็บหนาวและน่ากลัว

ในที่สุด

เฉินเต้าหลินเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แล้วถอนหายใจออกมา จากนั้นจึงพูดว่า : “เขาไม่เพียงแต่ทำลายบรรยากาศงานของฉัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาทำลายบรรยากาศของงานลูกชายฉัน ทำลายบรรยากาศของงานตระกูลเฉิน !”

“ถ้าฉันไม่ฆ่าเขา คนอื่นก็จะคิดว่าตระกูลเฉินของฉันสามารถรังแกได้ง่าย !”

ดำพูดประโยคนี้เป็นการชี้เป็นชี้ตาย !

ทันใดนั้นแววตาของเฉินเต้าหลินก็ปรากฏความดุร้ายขึ้นมา

ตอนนี้ เจ้าบ้านตระกูลเฉินได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วโดยไม่ต้องสงสัย

“ฆ่าเขา !”

กลุ่มคนกลุ่มนั้นพุ่งตรงเข้าไปหาฉินเย่ทันที

ฟึ่บ !

แสงแวววาวของดาบวาดอยู่บนอากาศ

ทุกคนต่างหน้าถอดสีทันที และรีบถอยห่างออกไปด้วยความตกใจ

“พี่ชาย ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนนายแล้ว !”

ฉินเย่ปิดตาลง ไม่คิดที่จะตอบโต้

อันที่จริงแล้ว ด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บของเขาในตอนนี้ การที่เขาสามารถเดินทางมาถึงงานแต่งงานได้ ก็ถือว่าทนฝืนมากพอควรแล้ว !

ในขณะที่เขาปิดตา ฉินเย่ก็เงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมาว่า : “จริงๆ แล้วเขาไม่ใช่เฉินตง !”

“ตายซะเถอะ !”

เฉินตงที่อยู่บนเวทีขู่คำรามออกมาราวกับสิงโตที่กำลังโกรธ

คนที่อยู่ในงาน ต่างก็ปิดตาลง เพราะกลัวจะต้องเห็นฉากนองเลือดที่กำลังจะเกิดขึ้น

กู้ชิงหยิ่งกรีดร้องออกมา แล้วพุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของกู้โก๋ฮั๋ว เพราะไม่กล้าที่จะมองดูอีกต่อไป

ส่วนฉู่เจียนเจีย ท่านหลง และคุนหลุนก็ค่อยๆ เบนสายตาไปมองทางอื่น

เมื่อเจ้าบ้านโกรธ ก็ไม่มีใครสามารถช่วยฉินเย่ได้อีกต่อไป !

ขณะที่คมดาบกำลังจะลงมาเชือดคอของฉินเย่

ฮึ่มๆๆ……

บทท้องฟ้าก็มีเสียงดังกระหึ่มราวกับฟ้าผ่าดังขึ้น

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว

มีเงาขนาดใหญ่เข้าปกคลุมทั่วท้องฟ้า

ทำให้ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกตะลึง

เครื่องบินรบลำหนึ่ง ส่งเสียงดังกระหึ่ม กำลังบินอยู่เหนือท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง

ในขณะเดียวกัน

มีร่างร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ ร่มชูชีพค่อยๆ กางออก และค่อยๆ ร่อนลงสู่พื้นดิน……

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท