The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 296 ชั่วชีวิตนี้จะมีเพียงแค่คุณเท่านั้น

บทที่ 296 ชั่วชีวิตนี้จะมีเพียงแค่คุณเท่านั้น

ภายในห้องนอน แสงไฟสลัวๆ

มีเพียงแค่โคมไฟตรงหัวเตียงเท่านั้น ที่ส่องแสงสลัวๆ อยู่

กู้ชิงหยิ่งยังคงนั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง ใบหน้าที่อ่อนล้าและซีดเซียวของเธอ กลับไม่เผยให้เห็นความง่วงเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดง

ท่าทีที่ดูหงอยเหงา โศกเศร้า จนทำให้รู้สึกสงสาร

อันที่จริงแล้ว ตลอดระยะเวลาสามวันมานี้ เธออยู่ในท่าทีเช่นนี้แทบจะทั้งคืน

เธอกำลังข่มอารมณ์ กำลังควบคุมอารมณ์ และกำลังอดกลั้น

เป็นเพราะเธอรู้ดีว่า เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้น สำหรับเฉินตงแล้ว ถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส

ในเวลาเช่นนี้ หากเธอไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ คงจะทำให้เฉินตงต้องรู้สึกสิ้นหวังเพิ่มขึ้นก็เท่านั้น

หากแม้กระทั่งภรรยาของเขาเองก็ไม่ช่วยเหลือเขา แล้วจะมีใครช่วยเหลือเขาอีก ?

เธอเป็นภรรยาของเฉินตง ด้วยเหตุผลที่มีอยู่ ทำให้เธอรู้ดีว่า ตอนนี้เธอควรจะยืนอยู่ข้างหลังเฉินตงอย่างเงียบๆ และคอยสนับสนุน !

เธอรู้ดีว่าเฉินตงมีทุกวันนี้ได้อย่างไร

ระหว่างทางไม่เพียงแต่ต้องสูญเสียหยาดเหงื่อเท่านั้น แต่ถึงขั้นต้องสูญเสียเลือดเนื้อด้วย

เธอรักเฉินตง ดังนั้นจึงเต็มใจที่จะรอคอยอย่างยากลำบากเป็นเวลาสามปี

ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการที่จะแทงข้างหลังผู้ชายที่ตนเองรัก ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ และทำให้เฉินตงต้องสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง

กู้ชิงหยิ่งทำไม่ลงจริงๆ !

เธอรู้นิสัยของเฉินตงดี แต่เรื่องที่เฉินหยู่เฟยเปิดเผยออกมานั้น มีอานุภาพแข็งแกร่งดุจภูเขา

เธอไม่อยากนึกสงสัย แต่เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง และเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกเช่นนี้

อารมณ์ที่ขัดแย้งกันไปมา เป็นเหมือนกับดาบแหลมคม ที่ค่อยๆ ทิ่มแทงทุกโสตประสาทของเธอ จนทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

คำสัญญาที่เฉินตงเคยให้ไว้กับเธอ ยังคงดังก้องอยู่ในหู

สิ่งที่เขาพูดในตอนนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นความจริงหรือไม่ ?

ความคิดเช่นนี้ เอาแต่วนเวียนอยู่ในหัวของกู้ชิงหยิ่งไม่หยุด

แอ๊ด !

ประตูเปิดออก

กู้ชิงหยิ่งยังคงนิ่งเฉย

เพราะเธอรู้ดีว่า สองสามวันมานี้ คนที่จะเข้ามาในห้องของเธอ นอกจากฟ่านลู่แล้ว ก็มีเพียงแค่เฉินตงเท่านั้น

อีกทั้งตอนนี้ ฟ่านลู่ไม่มีทางที่จะมาที่ห้องของเธอแน่นอน

“เสี่ยวหยิ่ง……”

เมื่อเห็นกู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่บนเตียง เฉินตงก็รู้สึกสงสารจับใจ

เขาเดินไปที่เตียงด้วยความรู้สึกผิด แล้วคุกเข่าลงบนพื้น จากนั้นจึงเผยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นออกมา : “ขอบคุณนะ !”

“ฉันไม่เป็นไร คุณไปจัดการธุระของคุณเถอะ” กู้ชิงหยิ่งหันมองเฉินตงแล้วฝืนยิ้มออกมา

แต่ทว่าดวงตาที่เต็มใบด้วยเส้นเลือดสีแดงก่ำ และใบหน้าที่อิดโรย กลับทำให้เฉินตงรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดเชือดเฉือนที่หัวใจ

แต่ไหนแต่ไรมา กู้ชิงหยิ่งงดงามที่สุด !

เป็นเพราะเรื่องนี้ ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

เผียะ !

เฉินตงตบหน้าตัวเองทันที

เป็นการออกแรงอย่างสุดกำลัง

กู้ชิงหยิ่งหน้าถอดสี : “คุณทำอะไร ?”

ในขณะที่กำลังอุทานด้วยความตกใจอยู่นั้น เธอก็รีบยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าของเฉินตงเบาๆ

ถึงกระทั่ง รอยนิ้วมือสีแดงก็บวมเป่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ขอโทษนะที่หลายวันมานี้ ทำให้คุณต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้” เฉินตงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก

เขารับปากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เอาไว้ว่าจะทำให้เธอมีความสุข !

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไรจริงๆ” กู้ชิงหยิ่งลูบใบหน้าของเฉินตงด้วยความสงสาร พลางส่ายหัวและพูดออกมา

ทันใดนั้น

เฉินตงก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้กู้ชิงหยิ่ง

“พวกเราชนะแล้ว !”

ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น เขาก็ใช้นิ้วโป้งขวาของเขากดเข้าไปในคลิปวิดีโอกล่าวขอโทษของเฉินหยู่เฟย

กู้ชิงหยิ่งเหม่อลอยไปทันที

เธอไม่สนใจติดตามสื่อต่างๆ มาหลายชั่วโมงแล้ว

หลังจากเสียงกล่าวขอโทษของเฉินหยู่เฟยดังขึ้นจากคลิปวิดีโอ

ร่างกายอันบอบบางของกู้ชิงหยิ่งก็สั่นเทา มืออันเรียวงามของเธอที่ลูบอยู่บนใบหน้าของเฉินตงก็ค่อยๆ ร่วงหล่น

เธอรับโทรศัพท์ไป แล้วจ้องมองด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

ดวงตาของเธอค่อยๆ เลือนราง มีน้ำตาหยดใสๆ ราวกับคริสทัลไหลรินลงมา

ส่วนร่างกายของเธอก็ยังคงสั่นเทาอยู่เล็กน้อย

หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายจากเฉินหยู่เฟย เกี่ยวกับเรื่องในคืนนั้นทั้งหมดจากคลิปวิดีโอ

ก็มีหยดน้ำตาไหลรินออกมาจากหางตาทั้งสองข้างของกู้ชิงหยิ่ง

ร่างกายของเธอยิ่งสั่นเทามากยิ่งขึ้น

แต่เธอยังคงฝืนดูคลิปวิดีโอจนจบ

ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินตงแอบมองดูอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา

เขาไม่รีบร้อน

ก็เพียงแค่ได้รับการให้อภัยจากกู้ชิงหยิ่ง สามารถแก้ปมที่ขมวดอยู่ในใจของเธอได้ ต่อให้ต้องใช้เวลานานกว่านี้ เขาก็ยินดีที่จะรอ

ในที่สุด

คลิปวิดีโอก็จบลง

บรรยากาศภายในห้องกลับไปเงียบสงบเหมือนเดิม

กู้ชิงหยิ่งยังคงไม่ขยับเขยื้อน น้ำตาของเธอไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย

เฉินตงหยิบทิชชูขึ้นมา แล้วค่อยๆ ซับน้ำตาให้กับกู้ชิงหยิ่ง พลางพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า : “อันที่จริงแล้ว……”

“ฮือ~”

ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร จู่ๆ กู้ชิงหยิ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็ร้องไห้ฟูมฟายเสียงดังออกมา

ภาพนี้ทำให้เฉินตงตกใจจนนิ่งไป

ยังไม่ทันจะรอให้มีปฏิกิริยาตอบโต้

จู่ๆ กู้ชิงหยิ่งก็โผเข้าไปในอ้อมกอดของเฉินตง แล้วร้องไห้เสียงดังออกมาทันที

“ฮือฮือฮือ……เจ้าคนบ้า เจ้าคนโง่ ฉันรู้อยู่แล้วว่า ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ใช่คนแบบนั้น ฮือฮือฮือ…… คุณรู้ไหม สองสามวันมานี้ ฉันทุกข์ทรมานใจแค่ไหน ? ฮือฮือฮือ…… คุณรู้ไหม สองสามวันมานี้ฉันแทบจะทรุดลงไปหลายครั้งแล้ว……”

ฟังเสียงร้องดังลั่นของกู้ชิงหยิ่ง

รับรู้ถึงอาการสั่นเทาของร่างกายที่อยู่ในอ้อมแขน

ทำให้ความคิดในหัวของเฉินตงหายไปในทันที

เขารู้สึกเหมือนหัวใจของเขาหลอมละลาย

เขาค่อยๆ กอดกู้ชิงหยิ่ง แล้วใช้มือขวาตบหลังของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ

และพูดปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นว่า : “เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้วนะ ทุกอย่างจบลงแล้ว”

เขารู้ดีว่า ภาพของกู้ชิงหยิ่งที่ร้องไห้ฟูมฟายราวกับเด็กที่ปรากฏขึ้นตรงหน้านี้ เป็นผลมาจากอารมณ์ที่ระเบิดออกมาจากการอดทนอดกลั้นเอาไว้จนถึงขีดสุด

มีเพียงแค่การปลดปล่อยอารมณ์ออกมาทั้งหมดเท่านั้น ถึงจะทำให้กู้ชิงหยิ่งรู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้

“ฮือฮือฮือ……”

ขณะที่กู้ชิงหยิ่งร้องไห้อยู่นั้น เธอก็กำหมัดทุบที่หน้าอกของเฉินตงไปพลาง

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น เขาพูดปลอบประโลมกู้ชิงหยิ่งไปพลาง และตบหลังของกู้ชิงหยิ่งเบาๆ ไปพลาง โดยไม่ได้สนใจหน้าอกที่ถูกทุบตีอยู่เลย

เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ

ภายในห้องนอน ก้องกังวานไปด้วยเสียงร้องไห้ของกู้ชิงหยิ่ง

ความเก็บกดและความคับข้องใจตลอดระยะเวลาสามวัน ความชัดเจนที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ทำให้กู้ชิงหยิ่งปลดปล่อยอารมณ์ออกมาหมดสิ้น

เสียงร้องค่อยๆ เบาลง

กู้ชิงหยิ่งค่อยๆ ผลักตัวเองออกจากอ้อมแขนของเฉินตง ดวงตาของเธอแดงก่ำและบวมเป่ง เธอหันมองเสื้อที่เปียกชื้นของเฉินตงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

“ฉันทำคุณเปียกหมดแล้ว”

เฉินตงก้มหน้าลงไปมองเสื้อที่เปียกโชกอยู่ จากนั้นจึงยิ้มแล้วยักไหล่ : “ใช่แล้ว เปียกพอดูเลย”

ใบหน้าอันงดงามของกู้ชิงหยิ่งแดงก่ำ จู่ๆ ก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าคำพูดนี้ฟังดูคลุมเคเครือเล็กน้อย

เธอรีบแย่งทิชชูที่อยู่ในมือของเฉินตงมา และเช็ดน้ำตาจนแห้งสนิท

“เวลาฉันร้องไห้คงจะน่าเกลียดมากใช่ไหม ? เหมือนกับเด็กขี้แย คุณจะรังเกียจฉันไหม ?”

“สำหรับผมแล้ว คุณเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่จะต้องคอยทะนุถนอมเอาไว้ในมืออยู่ตลอดเวลา”

เฉินตงยิ้มอย่างอ่อนโยน มีภรรยาแบบนี้ จะรู้สึกรังเกียจได้อย่างไร ?

กู้ชิงหยิ่งกลอกตา แล้วพูดตัดพ้อว่า : “ไม่ต้องมาพูดแบบนี้เลย ใครจะไปรู้ว่าคุณจะไม่พูดกับผู้อีกคนอื่นแบบนี้ด้วย”

เฉินตงรีบปฏิญาณตนในทันที : “ผมขอสาบานกับฟ้า ถ้าหากผม……”

ยังไม่ทันจะพูดออกมา

กู้ชิงหยิ่งก็ยกมืออันเรียวงามของเธอขึ้นมาปิดปากเฉินตงเอาไว้ทันที แล้วพูดอย่างจริงจังว่า : “ฉันไม่ต้องการให้คุณสาบาน ฉันแค่อยากรู้ว่า คุณจะไม่ทรยศต่อความรักที่ฉันมีให้ต่อคุณก็พอ”

เฉินตงยิ้มอย่างอ่อนโยน

“รีบนอนเถอะ”

กู้ชิงหยิ่งพูดขึ้นเบาๆ

เฉินตงถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง ในที่สุดทุกอย่างก็จบสิ้นลงเสียที

ไฟดวงเดียวที่เปิดอยู่ถูกปิดลง

ภายในห้องนอนมืดสนิท

อาจเป็นเพราะการปลดปล่อยอารมณ์และการร้องไห้อย่างรุนแรงเมื่อครู่

ทำให้กู้ชิงหยิ่งหลับไปในอ้อมแขนของเฉินตงอย่างรวดเร็ว

เมื่อรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่คงที่และผ่อนคลายของกู้ชิงหยิ่งที่อยู่ในอ้อมแขน

เฉินตงก็เผยรอยยิ้มอันแสนหวานออกมาภายใต้ความมืด

เขาค่อยๆ ก้มหน้าลง แล้วบรรจงจูบลงไปที่หน้าผากของกู้ชิงหยิ่ง

“ที่รัก ขอบคุณนะ ชั่วชีวิตนี้จะมีเพียงแค่คุณเท่านั้น”

ดูเหมือนว่าการจูบจะรบกวนการนอนหลับลึกของกู้ชิงหยิ่งเข้า

กู้ชิงหยิ่งส่งเสียงครางออกมาแล้วพลิกตัว จากนั้นจึงมุดหัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเฉินตงเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยๆ

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท