ลมยามค่ำคืนหนาวเหน็บ
คุนหลุนนอนอยู่บนที่นั่งข้างคนขับด้วยลมหายใจที่รวยริน การสูญเสียเลือดมากเกินไปทำให้เขาอ่อนแออย่างมาก
บางครั้งสติของเขาก็ชัดเจน บางครั้งก็เลือนราง
เขาต้องการที่จะขัดขวางคุณชายไม่ให้พาเขาไปโรงพยาบาล ในที่สาธารณะมีผู้คนมากมาย หากคุณชายพาเขาไปโรงพยาบาล นั่นเท่ากับคุณชายเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอันตรายด้วย
แต่เขากลับไม่ได้เอ่ยปากพูด เพราะเขารู้ดี
ถ้าหากคุณชายยอมฟังคำเตือนของเขา เพื่อครู่ก็คงไม่หันหลังกลับมาช่วยเขาเอาไว้ และไม่มีทางเสี่ยงชีวิตขับรถฝ่าวงล้อมออกมาเพื่อที่จะช่วยเขา
“ผม คุนหลุน……มีดีอะไรถึงได้รับบุญนี้ ?”
เมื่อเผชิญกับสายลมยามค่ำคืนที่โชยพัดมา ริมฝีปากที่ซีดเผือดของคุนหลุน ก็เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมาตรงมุมปาก
โรงพยาบาลลี่จิง
ในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของเมือง ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ก็ยังคงเปิดไฟสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา
และมีเสียงสัญญาณฉุกเฉินของรถพยาบาลที่ดังสนั่น วิ่งเข้าวิ่งออกอยู่ตลอดเวลา
เอี๊ยด !
รถพอร์เชอที่ได้รับความเสียหาย สะบัดท้ายรถเข้าจอดในลานจอดรถของโรงพยาบาล หลังจากลงจากรถแล้ว เฉินตงก็ทนฝืนต่ออาการบาดเจ็บบนแขนซ้ายของตนเอง แล้วรีบแบกคุนหลุนขึ้นบนหลัง วิ่งตรงเข้าไปยังห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว
มีคุณหมอมองเห็นมาจากที่ไกลๆ จึงได้รีบเรียกให้คนไปนำเปลออกมาอย่างรวดเร็ว
คุนหลุนถูกส่งเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว
ส่วนเฉินตงเองก็ถูกส่งตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เพื่อจัดการกับบาดแผลที่ถูกยิงบนแขนข้างซ้าย
ถึงแม้จะเป็นเวลากลางดึก แต่อาการบาดเจ็บของทั้งสองคนสาหัสเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังเป็นบาดแผลจากการถูกยิง จึงเพียงพอที่จะทำให้โรงพยาบาลลี่จิงทั้งโรงพยาบาล เกิดความตื่นตระหนกขึ้น
ตอนที่เฉินตงยังคงนอนอยู่บนเตียงกู้ชีพภายในห้องฉุกเฉิน ผู้อำนวยการหลิวก็รีบมาในทันที
“ตงเอ๋อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”
ผู้อำนวยการหลิวรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขามองไปที่บาดแผลบนแขนซ้ายของเฉินตง แววตาของเขาดูจริงจังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“เจอเรื่องที่รับมือยากครับ ผมจะติดต่อคนให้ไปจัดการเรื่องนี้”
เฉินตงรู้ดีว่าคำพูดและแววตาของผู้อำนวยการหลิวสื่อถึงอะไร จึงได้ฝืนยิ้มออกมา
ท่าทีของผู้อำนวยการหลิวอ่อนโยนลงเล็กน้อย และได้สอบถามถึงอาการของเฉินตงกับหมอเจ้าของไข้
ถึงแม้บาดแผลจากกระสุนจะรุนแรง แต่เคราะห์ดีที่กระสุนเจาะทะลุแขนโดยตรง จึงช่วยลดทอนความยุ่งยากในการนำลูกกระสุนออกมา ทำให้อาการบาดเจ็บของเฉินตงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก
หลังจากแน่ใจว่าเฉินตงไม่มีปัญหาร้ายแรงใดๆ ผู้อำนวยการหลิวก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ : “เจ้าเด็กคนนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ แล้วจะให้ฉันไปบอกพี่กู้กับเสี่ยวหยิ่งว่าอย่างไร”
“ลุงหลิว เพื่อนของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ ?” เฉินตงเอ่ยถาม
เมื่อได้ยิน สีหน้าของผู้อำนวยการหลิวก็หมองหม่นลง
การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เฉินตงรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก
ผู้อำนวยการหลิวส่ายหัว : “อาการแย่มาก ฉันได้ส่งผู้เชี่ยวชาญจากแผนกต่างๆ เข้าไปทั้งหมดแล้ว อีกเดี๋ยวฉันเองก็จะเข้าไป แต่ว่า……คงต้องแล้วแต่โชคชะตา”
คำว่าแล้วแต่โชคชะตา ทำให้สภาพจิตใจของเฉินตงจมดิ่งลงถึงขีดสุด
คุนหลุน……เพื่อที่จะช่วยฉันแท้ๆ
ภาพเมื่อครู่ปรากฏขึ้นซ้ำๆ อยู่ในสมองของเขา เฉินตงรู้สึกโทษตัวเองอย่างรุนแรง
ถ้าไม่ใช่เพื่อเขา จะเกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าอย่างเศร้าอย่างเมื่อครู่ได้อย่างไร ?
คุนหลุนตั้งใจที่จะยอมสละชีวิตอยู่แล้ว !
เมื่อมองดูผู้อำนวยการหลิวเดินจากไป แววตาของเฉินตงก็สั่นคลอนขึ้นมา จู่ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องอะไรบางอย่าง จึงได้เรียกผู้อำนวยการหลิวเอาไว้
“ลุงหลิว เรื่องนี้ห้ามบอกพวกเสี่ยวหยิ่งนะครับ เสี่ยวหยิ่งกลับไปอยู่กับพ่อแม่แล้ว ผมกลัวว่าพวกเขาจะเป็นห่วง”
ผู้อำนวยการหลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้า : “วางใจเถอะ”
อาการบาดเจ็บบนแขนข้างซ้ายถูกจัดการจนแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว
เฉินตงถูกส่งตัวไปพักฟื้นยังห้องผู้ป่วย VIP
มีกลิ่นฉุนของน้ำยาฆ่าเชื้อ
ภายในห้อง มีเสียงดนตรีดังกังวานอยู่
เฉินตงนั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ
ภาพที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
การลอบสังหาร ที่ดึงดูดการโจมตีขั้นรุนแรงจากกลุ่มทหารรับจ้าง
ฉากที่ควรจะอยู่แต่ในภาพยนตร์ แต่กลับเกิดขึ้นกับตัวเขาทั้งหมด
และตอนนี้ คุนหลุนก็ยังถูกยื้อชีวิตอยู่ในห้องฉุกเฉิน
จะเป็นหรือได้ ต้องแล้วแต่โชคชะตา
สิ่งนี้ทำให้เฉินตงรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ตอนนี้ตนเองจะนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ความอ่อนล้าจากอาการบาดเจ็บก็ยังคงวนเวียนเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่เขากลับไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย
“พี่ชาย ต้องผ่านมันไปให้ได้นะ !”
เฉินตงถอนหายใจแรงออกมาหนึ่งครั้ง และเอามือขวาลูบเข้าที่กระเป๋ากางเกงโดยไม่รู้ตัว กลับพบบุหรี่ที่ถูกแกะเอาไว้แล้วหนึ่งซอง
ช่วงเวลาหลังจากที่แม่ของเขาจากไป เขาติดบุหรี่และเหล้าอย่างหนัก
การชี้ทางสว่างของฉินเย่ ทำให้เขาสามารถก้าวผ่านสภาวะที่หดหู่นี้ออกมาได้
แต่การลอบสังหารที่ตึงเครียดตลอดสองวันมานี้ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่น่าหวาดกลัว ทำให้เขาหยิบบุหรี่อีกครึ่งซองที่เหลือ มาใส่เอาไว้ในกระเป๋าเสื้ออีกครั้ง
เพียงแค่ไม่เคยจุดไฟเลยสักม้วน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นขนาดนี้
ฉ่า !
เปลวไฟลุกโชนขึ้นจากไฟแช็ก และจุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งม้วน
ควันอันเข้มข้นของบุหรี่ไหลลงสู่ปอด แต่ยังคงยากที่จะปิดบังความประหม่าและวิตกกังวลเอาไว้ได้
ที่กล่าวกันว่าบุหรี่ช่วยบรรเทาความกังวล บรรเทาความเหนื่อยล้า ล้วนไร้สาระทั้งสิ้น
มันก็เป็นเพียงแค่การปลอบประโลมจิตใจเท่านั้น
ทว่าเฉินตงในตอนนี้ นอกจากจะหาสิ่งที่พอช่วยปลอบประโลมจิตใจเล็กน้อยแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะช่วยให้คุนหลุนดีขึ้นมาได้
เฉินตงคาบบุหรี่เอาไว้ แล้วจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทีเคร่งขรึม
ในตอนนี้เอง
ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก
มีพยาบาลเข็นรถเข็นเดินเข้ามาในห้อง บนรถเข็นมีขวดน้ำเกลือวางอยู่
“คุณเฉินคะ มาให้น้ำเกลือคุณค่ะ”
พยาบาลสาวที่สวมหน้ากากอนามัยอยู่ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เฉินตงผงะไปเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองขวดน้ำเกลือที่แขวนเอาไว้อยู่แล้ว
นี่ก็ให้น้ำเกลืออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
พยาบาลสาวจัดการกับขวดน้ำเกลือไปพลาง พูดคุยกับเฉินตงไปพลาง : “ที่ให้เมื่อครู่คือยาแก้อักเสบ ส่วนนี่คือน้ำเกลือที่ช่วยดูแลร่างกาย รวมไปถึงตัวยาที่ใช้ในการรักษาที่แพทย์สั่งให้ภายหลังด้วยค่ะ”
“ครับ”
เฉินตงพยักหน้าพลางคาบบุหรี่เอาไว้ในปาก จากนั้นจึงพ่นควันบุหรี่ออกมา
เขามองดูพยาบาลสาวที่แขวนขวดน้ำเกลืออย่างเชี่ยวชาญ เพราะต้องเขย่งเท้า ทำให้ส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้เสื้อสีขาวของเธอดูโดดเด่นและน่าเย้ายวนมากเป็นพิเศษ
จากมุมที่เฉินตงนั่งอยู่ ยิ่งทำให้ดูพิเศษมากขึ้น
เฉินตงอดไม่ได้ที่จะพูดติดตลกขึ้นว่า : “คุณพยาบาล คุณช่างรูปร่างดีจริงๆ !”
“คุณเฉินคะ กรุณาให้เกียรติด้วยค่ะ” พยาบาลสาวโกรธจนตัวสั่น
แต่เฉินตงกลับยักไหล่อย่างไม่แยแส เขาใช้มือขวาหยิบบุหรี่ที่คาบอยู่ในปากลง จากนั้นจึงพ่นควันบุหรี่ออกมาพลางพูดว่า : “ไม่สิไม่สิ คุณนี่แรดจริงๆ !”
พยาบาลสาวขมวดคิ้วแน่น เธอจัดการกับน้ำเกลืออย่างคล่องแคล่ว จากนั้นจึงหยิบเข็มฉีดยาออกมาและตรวจสอบดูสักพัก
จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “คุณเฉิน คุณมีเงิน แต่มีเงินแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ? ขอให้คุณช่วยให้เกียรติพยาบาลอย่างพวกเราด้วย !”
น้ำเสียงแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างโจ่งแจ้ง
ในขณะเดียวกัน พยาบาลหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา และเตรียมที่จะฉีดเข้าไปในถุงน้ำเกลือ
เฉินตงก็ตีปากของเขาและหัวเราะเยาะออกมา : “มีเงินคิดจะทำอะไรก็ได้จริงๆ สาวงามที่รูปร่างดีเช่นนี้อย่างคุณ ก็คิดที่จะฆ่าคนเพื่อเงินด้วยไม่ใช่เหรอ?”
ทันใดนั้น
ภายในห้องพักผู้ป่วยก็เงียบสงัดลง
บรรยากาศหนาวเหน็บราวกับอุณหภูมิลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง
ส่วนพยาบาลสาวก็หยุดการเคลื่อนไหวลง
เพียะ!
เฉินตงใช้ก้นบุหรี่ที่ถืออยู่ในมือ จิ้มเข้าไปที่ใบหน้าของพยาบาลสาว
ตอนนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางหายไป กลายเป็นความเย็นชาและน่าสะพรึงกลัวเข้ามาแทนที่
“บุคลากรทางการแพทย์มีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดไม่ให้ผู้ป่วยสูบบุหรี่ ผมคาบบุหรี่เอาไว้นานขนาดนี้ คุณเข้ามากลับไม่ถามไถ่ คุณมันเป็นพยาบาลที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ !”
พยาบาลสาวโกรธจนตัวสั่นอีกครั้ง
ดวงตาทั้งสองข้างลุกโชนไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงทันที
มีความโกรธปะทุออกมาภายใต้หน้ากากอนามัย
“ตายซะเถอะ !”
ฟิ้ว !
แทบจะในเวลาเดียวกัน พยาบาลสาวโถมตัวเข้าไปในทันที เธอใช้มือซ้ายจับหน้าอกของเฉินตงเอาไว้ ส่วนเข็มฉีดยาที่ส่องประกายแวววาวในมือขวาของเธอ ก็แทงลงไปที่ดวงตาของเฉินตงด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า