The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 315 คุณนี่แรดจริงๆ !

บทที่ 315 คุณนี่แรดจริงๆ !

ลมยามค่ำคืนหนาวเหน็บ

คุนหลุนนอนอยู่บนที่นั่งข้างคนขับด้วยลมหายใจที่รวยริน การสูญเสียเลือดมากเกินไปทำให้เขาอ่อนแออย่างมาก

บางครั้งสติของเขาก็ชัดเจน บางครั้งก็เลือนราง

เขาต้องการที่จะขัดขวางคุณชายไม่ให้พาเขาไปโรงพยาบาล ในที่สาธารณะมีผู้คนมากมาย หากคุณชายพาเขาไปโรงพยาบาล นั่นเท่ากับคุณชายเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอันตรายด้วย

แต่เขากลับไม่ได้เอ่ยปากพูด เพราะเขารู้ดี

ถ้าหากคุณชายยอมฟังคำเตือนของเขา เพื่อครู่ก็คงไม่หันหลังกลับมาช่วยเขาเอาไว้ และไม่มีทางเสี่ยงชีวิตขับรถฝ่าวงล้อมออกมาเพื่อที่จะช่วยเขา

“ผม คุนหลุน……มีดีอะไรถึงได้รับบุญนี้ ?”

เมื่อเผชิญกับสายลมยามค่ำคืนที่โชยพัดมา ริมฝีปากที่ซีดเผือดของคุนหลุน ก็เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมาตรงมุมปาก

โรงพยาบาลลี่จิง

ในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของเมือง ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ก็ยังคงเปิดไฟสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา

และมีเสียงสัญญาณฉุกเฉินของรถพยาบาลที่ดังสนั่น วิ่งเข้าวิ่งออกอยู่ตลอดเวลา

เอี๊ยด !

รถพอร์เชอที่ได้รับความเสียหาย สะบัดท้ายรถเข้าจอดในลานจอดรถของโรงพยาบาล หลังจากลงจากรถแล้ว เฉินตงก็ทนฝืนต่ออาการบาดเจ็บบนแขนซ้ายของตนเอง แล้วรีบแบกคุนหลุนขึ้นบนหลัง วิ่งตรงเข้าไปยังห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว

มีคุณหมอมองเห็นมาจากที่ไกลๆ จึงได้รีบเรียกให้คนไปนำเปลออกมาอย่างรวดเร็ว

คุนหลุนถูกส่งเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว

ส่วนเฉินตงเองก็ถูกส่งตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เพื่อจัดการกับบาดแผลที่ถูกยิงบนแขนข้างซ้าย

ถึงแม้จะเป็นเวลากลางดึก แต่อาการบาดเจ็บของทั้งสองคนสาหัสเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังเป็นบาดแผลจากการถูกยิง จึงเพียงพอที่จะทำให้โรงพยาบาลลี่จิงทั้งโรงพยาบาล เกิดความตื่นตระหนกขึ้น

ตอนที่เฉินตงยังคงนอนอยู่บนเตียงกู้ชีพภายในห้องฉุกเฉิน ผู้อำนวยการหลิวก็รีบมาในทันที

“ตงเอ๋อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”

ผู้อำนวยการหลิวรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขามองไปที่บาดแผลบนแขนซ้ายของเฉินตง แววตาของเขาดูจริงจังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“เจอเรื่องที่รับมือยากครับ ผมจะติดต่อคนให้ไปจัดการเรื่องนี้”

เฉินตงรู้ดีว่าคำพูดและแววตาของผู้อำนวยการหลิวสื่อถึงอะไร จึงได้ฝืนยิ้มออกมา

ท่าทีของผู้อำนวยการหลิวอ่อนโยนลงเล็กน้อย และได้สอบถามถึงอาการของเฉินตงกับหมอเจ้าของไข้

ถึงแม้บาดแผลจากกระสุนจะรุนแรง แต่เคราะห์ดีที่กระสุนเจาะทะลุแขนโดยตรง จึงช่วยลดทอนความยุ่งยากในการนำลูกกระสุนออกมา ทำให้อาการบาดเจ็บของเฉินตงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก

หลังจากแน่ใจว่าเฉินตงไม่มีปัญหาร้ายแรงใดๆ ผู้อำนวยการหลิวก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ : “เจ้าเด็กคนนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ แล้วจะให้ฉันไปบอกพี่กู้กับเสี่ยวหยิ่งว่าอย่างไร”

“ลุงหลิว เพื่อนของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ ?” เฉินตงเอ่ยถาม

เมื่อได้ยิน สีหน้าของผู้อำนวยการหลิวก็หมองหม่นลง

การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เฉินตงรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก

ผู้อำนวยการหลิวส่ายหัว : “อาการแย่มาก ฉันได้ส่งผู้เชี่ยวชาญจากแผนกต่างๆ เข้าไปทั้งหมดแล้ว อีกเดี๋ยวฉันเองก็จะเข้าไป แต่ว่า……คงต้องแล้วแต่โชคชะตา”

คำว่าแล้วแต่โชคชะตา ทำให้สภาพจิตใจของเฉินตงจมดิ่งลงถึงขีดสุด

คุนหลุน……เพื่อที่จะช่วยฉันแท้ๆ

ภาพเมื่อครู่ปรากฏขึ้นซ้ำๆ อยู่ในสมองของเขา เฉินตงรู้สึกโทษตัวเองอย่างรุนแรง

ถ้าไม่ใช่เพื่อเขา จะเกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าอย่างเศร้าอย่างเมื่อครู่ได้อย่างไร ?

คุนหลุนตั้งใจที่จะยอมสละชีวิตอยู่แล้ว !

เมื่อมองดูผู้อำนวยการหลิวเดินจากไป แววตาของเฉินตงก็สั่นคลอนขึ้นมา จู่ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องอะไรบางอย่าง จึงได้เรียกผู้อำนวยการหลิวเอาไว้

“ลุงหลิว เรื่องนี้ห้ามบอกพวกเสี่ยวหยิ่งนะครับ เสี่ยวหยิ่งกลับไปอยู่กับพ่อแม่แล้ว ผมกลัวว่าพวกเขาจะเป็นห่วง”

ผู้อำนวยการหลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้า : “วางใจเถอะ”

อาการบาดเจ็บบนแขนข้างซ้ายถูกจัดการจนแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว

เฉินตงถูกส่งตัวไปพักฟื้นยังห้องผู้ป่วย VIP

มีกลิ่นฉุนของน้ำยาฆ่าเชื้อ

ภายในห้อง มีเสียงดนตรีดังกังวานอยู่

เฉินตงนั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ

ภาพที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ทำให้เขารู้สึกตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

การลอบสังหาร ที่ดึงดูดการโจมตีขั้นรุนแรงจากกลุ่มทหารรับจ้าง

ฉากที่ควรจะอยู่แต่ในภาพยนตร์ แต่กลับเกิดขึ้นกับตัวเขาทั้งหมด

และตอนนี้ คุนหลุนก็ยังถูกยื้อชีวิตอยู่ในห้องฉุกเฉิน

จะเป็นหรือได้ ต้องแล้วแต่โชคชะตา

สิ่งนี้ทำให้เฉินตงรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ตอนนี้ตนเองจะนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ความอ่อนล้าจากอาการบาดเจ็บก็ยังคงวนเวียนเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่เขากลับไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย

“พี่ชาย ต้องผ่านมันไปให้ได้นะ !”

เฉินตงถอนหายใจแรงออกมาหนึ่งครั้ง และเอามือขวาลูบเข้าที่กระเป๋ากางเกงโดยไม่รู้ตัว กลับพบบุหรี่ที่ถูกแกะเอาไว้แล้วหนึ่งซอง

ช่วงเวลาหลังจากที่แม่ของเขาจากไป เขาติดบุหรี่และเหล้าอย่างหนัก

การชี้ทางสว่างของฉินเย่ ทำให้เขาสามารถก้าวผ่านสภาวะที่หดหู่นี้ออกมาได้

แต่การลอบสังหารที่ตึงเครียดตลอดสองวันมานี้ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่น่าหวาดกลัว ทำให้เขาหยิบบุหรี่อีกครึ่งซองที่เหลือ มาใส่เอาไว้ในกระเป๋าเสื้ออีกครั้ง

เพียงแค่ไม่เคยจุดไฟเลยสักม้วน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นขนาดนี้

ฉ่า !

เปลวไฟลุกโชนขึ้นจากไฟแช็ก และจุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งม้วน

ควันอันเข้มข้นของบุหรี่ไหลลงสู่ปอด แต่ยังคงยากที่จะปิดบังความประหม่าและวิตกกังวลเอาไว้ได้

ที่กล่าวกันว่าบุหรี่ช่วยบรรเทาความกังวล บรรเทาความเหนื่อยล้า ล้วนไร้สาระทั้งสิ้น

มันก็เป็นเพียงแค่การปลอบประโลมจิตใจเท่านั้น

ทว่าเฉินตงในตอนนี้ นอกจากจะหาสิ่งที่พอช่วยปลอบประโลมจิตใจเล็กน้อยแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะช่วยให้คุนหลุนดีขึ้นมาได้

เฉินตงคาบบุหรี่เอาไว้ แล้วจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยท่าทีเคร่งขรึม

ในตอนนี้เอง

ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก

มีพยาบาลเข็นรถเข็นเดินเข้ามาในห้อง บนรถเข็นมีขวดน้ำเกลือวางอยู่

“คุณเฉินคะ มาให้น้ำเกลือคุณค่ะ”

พยาบาลสาวที่สวมหน้ากากอนามัยอยู่ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เฉินตงผงะไปเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองขวดน้ำเกลือที่แขวนเอาไว้อยู่แล้ว

นี่ก็ให้น้ำเกลืออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

พยาบาลสาวจัดการกับขวดน้ำเกลือไปพลาง พูดคุยกับเฉินตงไปพลาง : “ที่ให้เมื่อครู่คือยาแก้อักเสบ ส่วนนี่คือน้ำเกลือที่ช่วยดูแลร่างกาย รวมไปถึงตัวยาที่ใช้ในการรักษาที่แพทย์สั่งให้ภายหลังด้วยค่ะ”

“ครับ”

เฉินตงพยักหน้าพลางคาบบุหรี่เอาไว้ในปาก จากนั้นจึงพ่นควันบุหรี่ออกมา

เขามองดูพยาบาลสาวที่แขวนขวดน้ำเกลืออย่างเชี่ยวชาญ เพราะต้องเขย่งเท้า ทำให้ส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้เสื้อสีขาวของเธอดูโดดเด่นและน่าเย้ายวนมากเป็นพิเศษ

จากมุมที่เฉินตงนั่งอยู่ ยิ่งทำให้ดูพิเศษมากขึ้น

เฉินตงอดไม่ได้ที่จะพูดติดตลกขึ้นว่า : “คุณพยาบาล คุณช่างรูปร่างดีจริงๆ !”

“คุณเฉินคะ กรุณาให้เกียรติด้วยค่ะ” พยาบาลสาวโกรธจนตัวสั่น

แต่เฉินตงกลับยักไหล่อย่างไม่แยแส เขาใช้มือขวาหยิบบุหรี่ที่คาบอยู่ในปากลง จากนั้นจึงพ่นควันบุหรี่ออกมาพลางพูดว่า : “ไม่สิไม่สิ คุณนี่แรดจริงๆ !”

พยาบาลสาวขมวดคิ้วแน่น เธอจัดการกับน้ำเกลืออย่างคล่องแคล่ว จากนั้นจึงหยิบเข็มฉีดยาออกมาและตรวจสอบดูสักพัก

จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “คุณเฉิน คุณมีเงิน แต่มีเงินแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ? ขอให้คุณช่วยให้เกียรติพยาบาลอย่างพวกเราด้วย !”

น้ำเสียงแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างโจ่งแจ้ง

ในขณะเดียวกัน พยาบาลหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา และเตรียมที่จะฉีดเข้าไปในถุงน้ำเกลือ

เฉินตงก็ตีปากของเขาและหัวเราะเยาะออกมา : “มีเงินคิดจะทำอะไรก็ได้จริงๆ สาวงามที่รูปร่างดีเช่นนี้อย่างคุณ ก็คิดที่จะฆ่าคนเพื่อเงินด้วยไม่ใช่เหรอ?”

ทันใดนั้น

ภายในห้องพักผู้ป่วยก็เงียบสงัดลง

บรรยากาศหนาวเหน็บราวกับอุณหภูมิลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง

ส่วนพยาบาลสาวก็หยุดการเคลื่อนไหวลง

เพียะ!

เฉินตงใช้ก้นบุหรี่ที่ถืออยู่ในมือ จิ้มเข้าไปที่ใบหน้าของพยาบาลสาว

ตอนนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางหายไป กลายเป็นความเย็นชาและน่าสะพรึงกลัวเข้ามาแทนที่

“บุคลากรทางการแพทย์มีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดไม่ให้ผู้ป่วยสูบบุหรี่ ผมคาบบุหรี่เอาไว้นานขนาดนี้ คุณเข้ามากลับไม่ถามไถ่ คุณมันเป็นพยาบาลที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ !”

พยาบาลสาวโกรธจนตัวสั่นอีกครั้ง

ดวงตาทั้งสองข้างลุกโชนไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงทันที

มีความโกรธปะทุออกมาภายใต้หน้ากากอนามัย

“ตายซะเถอะ !”

ฟิ้ว !

แทบจะในเวลาเดียวกัน พยาบาลสาวโถมตัวเข้าไปในทันที เธอใช้มือซ้ายจับหน้าอกของเฉินตงเอาไว้ ส่วนเข็มฉีดยาที่ส่องประกายแวววาวในมือขวาของเธอ ก็แทงลงไปที่ดวงตาของเฉินตงด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท