The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 298 ภรรยาของฉัน ไม่ใช่ใครจะมาดูหมิ่นได้ง่ายๆ

บทที่ 298 ภรรยาของฉัน ไม่ใช่ใครจะมาดูหมิ่นได้ง่ายๆ

เวลาตลอดทั้งเช้า

เฉินตงรู้สึกเหนื่อยจนแทบทรุดแล้ว

แต่กู้ชิงหยิ่งกลับยังคงมีจิตวิญญาณในการต่อสู้เต็มเปี่ยม ราวกับว่าพุ่งเข้าไปจัดการกับแต่ละร้านอย่างไม่คิดชีวิต

สิ่งนี่ทำให้เฉินตงรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย ว่าตัวเขาเองจะเป็นเหมือนสุนัขตัวเมื่อครู่หรือไม่

หลังจากสูดหายใจเข้าเต็มปอด

เฉินตงก็พูดขึ้นว่า : “เสี่ยวหยิ่ง ควรจะพักทานข้าวเที่ยงกันได้แล้วนะ”

“โธ่ ฉันลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย”

กู้ชิงหยิ่งตบหัวตัวเอง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม : “ขอโทษนะคะที่รัก ฉันลืมมื้อเที่ยงไปเสียสนิทเลย คุณอยากทานอะไรคะ ? ฉันเลี้ยงคุณเอง ถือเป็นการชดเชยให้”

“คุณอยากทานอะไร ?” เฉินตงถาม

“ฉันทานอะไรก็ได้” กู้ชิงหยิ่งตอบ

“หม้อไฟดีไหม ?” เฉินตงเสนอ

กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว : “กินหม้อไฟตอนเที่ยงแบบนี้ ทั้งตัวก็เป็นกลิ่นหม้อไฟกันพอดี เดี๋ยวก็เดินเล่นสวยๆ ไม่ได้อีกนะสิ”

เฉินตงรู้สึกจนใจ เยี่ยมมาก ฉลาดจริงๆ

คิดอยู่ครู่หนึ่ง : “ถ้าอย่างนั้น อาหารจีนล่ะ ?”

“อาหารจีนมันเกินไป กินแล้วทำให้อ้วน” กู้ชิงหยิ่งส่ายหัว

“อาหารฝรั่งล่ะ ?”

“กินแต่สเต๊กทุกวัน จนไม่อยากจะกินแล้ว”

เฉินตงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย : “แล้วคุณอยากทานอะไรล่ะ ?”

“ฉันทานอะไรก็ได้” ก็ชิงหยิ่งตอบอย่างจริงจัง

เฉินตง : “……”

ผู้หญิงหนอผู้หญิง……

หลังจากที่สอบถามด้วยความอดทน แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ

เฉินตงก็กัดฟัน แล้วเดินตรงไปยังร้านเล็กๆ ตรงทางเดิน แล้วซื้อบะหมี่เย็นสองถ้วยกับน้ำผลไม้มาสองแก้ว จากนั้นก็นั่งกินบนเก้าอี้ร่วมกับกู้ชิงหยิ่ง

ตอนที่ทั้งสองคนเรียนมหาวิทยาลัย ก็มักจะกินอาหารริมทางอยู่บ่อยๆ ดังนั้นจึงไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ

แต่ทว่า

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังรับประทานอย่างมีความสุขอยู่นั้น

ก็มีชายวัยกลางคนพุงโตเดินผ่านมาพอดี

จากนั้นจึงชำเลืองมองผ่านๆ และต้องตกตะลึงกับความงดงามของกู้ชิงหยิ่งในทันที จนต้องหยุดเดิน

หลังจากที่หันไปมองเฉินตงหนึ่งครั้ง ชายวัยกลางคนพุงโตคนนั้นก็แสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยามออกมา

“สาวน้อยหน้าตาสะสวยขนาดนี้ มานั่งกินข้าวข้างทางอยู่กับผู้ชายกระจอกๆ แบบนี้ เหมือนกับเอาดอกไม้งามไปปักอยู่บนกองขี้วัวจริงๆ”

คำพูดนี้ ทำให้อารมณ์ที่กำลังสดใสของเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งหายไปในทันที

เฉินตงลุกขึ้นด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง แล้วจ้องเขม็งไปที่ชายวัยกลางคนพุงโต

จ้องมองด้วยแววตาอันทรงพลังของเขา จนชายวัยกลางคนต้องถอยร่นไปด้วยความกลัว

เขาพูดขึ้นเสียงดัง : “ไอ้กระจอก แกคิดจะทำอะไร ? สิ่งที่ฉันพูดมันเป็นความจริง !”

กู้ชิงหยิ่งเหลือบไปมองชายวัยกลางคน

สวมใส่สร้อยทองเส้นใหญ่และนาฬิกาเรือนใหญ่ สวมใส่รองเท้าหนังและมีกระเป๋าถือใบเล็ก

สภาพของเศรษฐีหน้าใหม่ ปรากฏให้เห็นจากทั่วทั้งตัวของเขา

เธอไม่อยากให้เรื่องเล็กน้อยนี้มากระทบถึงอารมณ์ของเธอและเฉินตง

เธอดึงแขนของเฉินตงเอาไว้ : “ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลย วันนี้คุณจะต้องเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันนะ”

ท่าทีของเฉินตงผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ตอนนี้ชายวัยกลางคนเพิ่งจะสังเกตเห็นถุงทั้งใบเล็กใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ กู้ชิงหยิ่งและเฉินตง

เขาโพล่งออกมาทันที : “แหม เมื่อกี้ฉันไม่ทันได้สังเกตให้ดี ดูๆ ไปแล้วก็พอจะมีเงินเล็กน้อยเหมือนกันนี่ อย่างน้อยๆ คงจะได้เงินเดือนหมื่นกว่าหยวนใช่ไหมล่ะ ?”

ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”

เฉินตงตอบกลับอย่างเย็นชาหนึ่งประโยค จากนั้นจึงจูงมือของกู้ชิงหยิ่ง เตรียมที่จะเดินจากไป

กู้ชิงหยิ่งเป็นภรรยาของเธอ ไม่จำเป็นจะต้องให้คนอื่นมาคอยชี้แนะ

เมื่อครู่ สิ่งที่ชายวัยกลางคนพูดขึ้นประโยคแรก เห็นได้ชัดว่าจงใจที่จะหาเรื่อง

ถ้าไม่ใช่เพราะไม่ต้องการทำลายความรู้สึกของกู้ชิงหยิ่งแล้วล่ะก็ เขาคงต้องจัดการกับชายวัยกลางคนคนนี้อย่างแน่นอน

เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน ในสายตาของเขาก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น

ในเมืองนี้ เกรงว่าคงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนแล้วที่ร่ำรวยกว่าเขา

วีรบุรุษของเมืองนี้อย่างโจวเย่นชิวและโจวจุนหลง ตอนนี้ยังต้องยืมจมูกเขาหายใจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อภาพเช่นนี้ปรากฏขึ้นในสายตาของชายวัยกลางคน ทำให้รู้สึกทันทีว่าเฉินตงนั้นยอมแพ้ และคิดที่จะเดินหนีไป

เขาจึงรู้สึกสนุกขึ้นมาทันที !

เขากวาดสายตามองกู้ชิงหยิ่งตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างน่าเกลียด แววตาของเขาราวกับมีลูกไฟสองลูกกำลังลุกโชนอยู่ และแสดงความหื่นกระหายออกมาอย่างโจ่งครึ่ม

ความงดงามเช่นนี้ คู่ควรที่จะให้ไอ้กระจอกคนหนึ่งมาครอบครองอย่างนั้นหรือ ?

ชายวัยกลางคนก้าวเข้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วขวางเฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งเอาไว้

เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และพูดออกมาอย่างไร้ยางอายว่า : “สาวน้อย เธอใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายกระจอกๆ เช่นนี้ จะไปมีอนาคตอะไร ? เขาจะให้อะไรเธอได้ ? เดือนหนึ่งได้เงินเดือนแค่หมื่นกว่าหยวน ดูเหมือนว่าจะถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว เขาก็คงให้เธอได้เพียงแค่ของเล็กน้อยพวกนี้”

ภาพที่ปรากฏขึ้น

ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา

ความงดงามของกู้ชิงหยิ่ง เป็นที่สะดุดตาอย่างยิ่ง

แต่คนอื่นๆ ทำเพียงแค่รู้สึกอิจฉาอยู่ห่างๆ ไม่มีใครคิดที่จะทำเกินเลย เช่นเดียวกับที่ชายวัยกลางคนทำอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น บางคนถึงกับมองเฉินตงด้วยแววตาที่เห็นอกเห็นใจ

ดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้จะตกที่นั่งลำบากแล้ว ?

เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ เป็นคนร่ำรวยและไม่ยอมใครง่ายๆ

หลายคนเริ่มหันไปกระซิบกระซาบกัน

แต่ทว่า

หลังจากที่ชายวัยกลางคนพูดออกมาแล้ว ใบหน้าของเฉินตงก็เคร่งขรึมลงทันที แววตาของเขาฉาบไปด้วยความเย็นชา

ส่วนกู้ชิงหยิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับหลุดขำออกมา

เธอมองชายวัยกลางคนอย่างรู้สึกขำ : “คุณลุง ฉันรักเขา เขาให้ฉันได้เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ?”

เข้าใจแล้ว !

ชายวัยกลางคนฉุกคิดขึ้นมาได้

หญิงสาวรูปงามที่อยู่ตรงหน้าตั้งใจที่จะย้อนถามเขา เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับเขาใช่หรือไม่ ?

เขาพบเจอกับหญิงสาวลักษณะเช่นนี้มานับไม่ถ้วน เพียงแค่อวดความร่ำรวยออกมาให้เห็น ก็เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจได้แล้ว !

จะปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปไม่ได้ หากหลุดมือไปแล้วก็จะไม่กลับมาอีก !

ชายวัยกลางคนยืดอก แล้วเหลือบไปมองเฉินตง จากนั้นจึงชูมือขวาขึ้นมา : “เห็นนี่ไหม ? นี่เรียกว่าผีใต้น้ำเขียว ราคาไม่แพง ก็แค่แสนหยวนเท่านั้นเอง”

ขณะที่พูด เขาก็หยิบกุญแจรถออกมาจากเอว : “นี่ BMW ซีรี่ส์ 5 ก็แค่ไม่กี่แสนหยวนเท่านั้น”

เขาถอยหลังไปอีกหนึ่งก้าว ใช้มือทั้งสองข้างของเขาชี้ไปบนตัว แล้วพูดโอ้อวดตัวเองอย่างภูมิใจว่า : “เห็นรึยัง ตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนแล้วแต่ใช้ของหลุยส์ วิตตองทั้งนั้น แค่เข็มขัดหลุยส์ วิตตองเส้นนี้เส้นเดียว เกรงว่าคงเท่ากับเงินเดือนของแฟนเธอทั้งเดือน ?”

“นอกจากนี้ ตอนที่มีการปฏิวัติย่านสลัมทางภาคตะวันตกของเมือง บ้านของฉันก็ได้มีการรื้อถอนและแบ่งสร้างออกมาใหม่เป็นหลายหลัง เมื่อรวมกับสิ่งเหล่านี้แล้ว ดูเหมือนว่าชาตินี้ แฟนของเธอคงไม่มีทางเทียบได้ แต่ถ้าหากเธอยอมอยู่กับฉันแล้วล่ะก็ ของของฉันก็จะกลายเป็นของของเธอด้วย !”

คำพูดเต็มไปด้วยการคุยโวโอ้อวด

มีหลายประโยคที่เป็นการดูถูกเหยียบย่ำเฉินตงให้จมดิน

การอวดร่ำอวดรวยอย่างโจ่งแจ้ง และการกดขี่คนอื่นอย่างหยาบคาย

ทำราวกับว่าเฉินตงซึ่งอยู่ในฐานะ “แฟน” ไม่ได้อยู่ในสายตา

ผู้คนโดยรอบต่างยืนมองด้วยความตกตะลึง

ในขณะที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจเฉินตง ก็รู้สึกหมั่นไส้ชายวันกลางคนด้วยเช่นกัน

คนแบบนี้ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน ?

มีเงินแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ ?

“ฮ่าๆ !”

กู้ชิงหยิ่งหลุดขำออกมาทันที : “ถ้าเช่นนั้น ก็ถือว่าคุณลุงยอดเยี่ยมจริงๆ !”

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่เหนือกว่าแฟนของเธอแน่นอน เธอจะลองพิจารณาดูสักหน่อยไหมล่ะ ?” ชายวัยกลางคนจ้องมองกู้ชิงหยิ่งด้วยสายตาหื่นกระหาย

“มีเงินแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ ?”

เฉินตงถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เหอะๆ ! มีเงินแล้วคิดจะทำก็ได้ ! นายมีเงินหรือ นายคิดจะทำอะไรก็ได้หรือ ? ไหนนายลองมีเงินให้ฉันดูหน่อยสิ ?” ชายวัยกลางคนจ้องมองเฉินตงอย่างดูถูก

กู้ชิงหยิ่งยิ่งหัวเราะอย่างสนุกสนานมากขึ้น

ยังไม่ทันจะรอให้เฉินตงเอ่ยปากพูด

เธอก็โน้มตัวเข้าไปหาเฉินตงและพูดเบาๆ ว่า : “ที่รักคะ ดูไม่ออกเลยว่า ฉันเองก็มีราคาไม่น้อยเช่นกัน คุณไม่รู้สึกโกรธเลยหรือ ?”

เฉินตงลูบจมูก แล้วพูดอย่างจนใจ

“ต้องโทษที่ผมชดเชยให้พวกเขามากเกินไป ตอนปฏิวัติย่านสลัมทางภาคตะวันตก !”

ว้าว !

ที่เกิดเหตุเกิดความโกลาหลขึ้น

ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง และอุทานออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ส่วนชายวัยกลางคนยิ่งมีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างมาก และรู้สึกมึนงง

จากนั้น

เฉินตงก็ก้าวเข้าไปข้างหน้า แล้วก้มลงมองชายวัยกลางคน : “ภรรยาของฉัน เฉินตง ไม่ใช่ใครจะมาดูหมิ่นได้ง่ายๆ ในเมื่อคุณบอกว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ดี ผมจะทำให้คุณได้เห็นว่า มีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้จริงๆ แล้วเป็นอย่างไร !”

แววตาเฉียบคมราวกับมีด

“เฉิน เฉินตง ? ! เจ้าของบริษัทไท่ติ่ง เฉินตง ? !”

ชายวัยกลางคนรู้สึกตกใจกลัวทันที เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว : “คุณ คุณจะทำอะไร ?”

“มอบสิทธิพิเศษในการเข้าพักแบบวีไอพี ในห้องไอซียูเป็นเวลาหนึ่งเดือนที่โรงพยาบาลลี่จิงให้กับคุณไง !”

น้ำเสียงที่เคร่งขรึม มาพร้อมกับหมัดอันทรงพลัง

หมัดของเฉินตงพุ่งเข้าใส่ชายวัยกลางคนทันที

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท