นักฆ่าที่แท้จริง ทุกสิ่ง ล้วนแล้วแต่ใช้เป็นอาวุธได้ทั้งสิ้น
เข็มเพียงเล่มเดียว ก็เพียงพอจะฆ่าคนได้ !
นักฆ่าสาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า จนเกิดเสียงลมพัดผ่าน
ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน
เฉินตงรู้สึกตกใจจนถึงขีดสุด
เขารีบพลิกตัว เพื่อให้หลุดพ้นจากมือของนักฆ่าสาวที่กดอยู่บนหน้าอกของเขาในทันที และกลิ้งตัวลงไปกับพื้น
ยังไม่ทันจะลุกขึ้น เขาก็รู้สึกเหมือนแสงที่อยู่ตรงหน้ามืดลงทันที
นักฆ่าสาวกรีดร้อง แล้วพุ่งตัวไปที่เตียงผู้ป่วย จากนั้นจึงกดเขาลงไป
“ออกไป !”
เฉินตงยกเท้าขึ้นทันที แล้วเตะขึ้นไปบนอากาศ กล้ามเนื้อขาที่น่ากลัว ระเบิดพลังอันมหาศาลออกมา และเตะนักฆ่าสาวจนลอยกระเด็นออกไป
เฉินตงอาศัยจังหวะนี้ รีบลุกขึ้น และดึงเข็มน้ำเกลือที่เสียบอยู่บนหลังมือข้างซ้ายออกมาด้วยความโมโห
เป็นเพราะเมื่อครู่มีการเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินไป ทำให้มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลบนแขนของเขา และจากรอยเข็มบนหลังมือ
ตอนนี้ เลือดสีแดงสดหยดลงบนพื้นตามแขนข้างซ้ายของเขาที่ห้อยอยู่
“แกไม่เรียกคนอื่นเหรอ?”
นักฆ่าสาวลูบหน้าอกแล้วยืนขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้เรี่ยวแรง แสดงให้เห็นว่าได้รับบาดเจ็บจากการเตะเมื่อครู่ไม่น้อย
เฉินตงยืนอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าที่เย็นชา และปล่อยให้เลือดจากมือข้างซ้ายหยดลงบนพื้น
เขาแสยะยิ้มออกมา : “คุณแสดงเก่งขนาดนี้ ผมตะโกนให้คอแหบจะมีประโยชน์อะไร ?”
เขาไม่ได้โง่
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามาเพื่อที่จะฆ่าเขา
โศกนาฏกรรมที่ปรากฏขึ้นในเขตวิลล่าเขาเทียนซาน ยังคงติดตาเขาอยู่
อีกทั้งในโรงพยาบาล นอกจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามนายแล้ว จะให้เรียกหมอกับพยาบาลเข้ามาเพื่อรับมือกับนักฆ่าสาวหรืออย่างไร ?
แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่สองสามคนเหล่านั้น ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนักฆ่าสาว
นักฆ่ามืออาชีพ ต่างมุ่งเป้าไปที่การฆ่าคนเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ ในสายตาของพวกเขาแล้ว ชีวิตคนก็ดูราวกับผักปลา
หากเรียกคนอื่นมาตอนนี้ ก็จะเป็นการทำร้ายคนอื่นเสียเปล่าๆ
“เหอะๆ !”
นักฆ่าสาวแสยะยิ้มออกมา แต่กลับเดินตรงไปยังรถเข็น
ท่าทางดูมีเสน่ห์แตกต่างไปจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง ตอนนี้กลับดูงดงามและยั่วยวนยิ่งขึ้น
ฉึบ !
นักฆ่าสาวใช้มือควานหาภายใต้รถเข็นอยู่สักครู่ และดึงมือออกมาทันที ปรากฏเป็นเสียงโลหะเสียดสีกันขึ้นมา
มีดปาแวววาวปรากฏขึ้นในมือของนักฆ่าสาวทันที
“แกไม่เรียกคนเข้ามา คิดหรือว่ามือเดียวจะเอาชนะฉันได้ ?”
เสียงหัวเราะเยาะที่เต็มไปด้วยการดูถูกดังขึ้น
ในความเห็นของเธอแล้ว มือข้างซ้ายของเฉินตงได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถใช้การได้ จึงเหลือมือเพียงแค่ข้างเดียว ไม่ต่างอะไรกับหมูในอวยชัดๆ
ทว่า
เฉินตงกลับไปแสดงท่าทีตกใจกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่ในขณะที่นักฆ่าสาวกำลังหัวเราะเยาะอยู่นั้น เขากลับค่อยๆ ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ยืดตัวขึ้นและตั้งท่าเตรียมต่อสู้
ภาพที่ปรากฏขึ้นนี้ ทำให้นักฆ่าสาวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ
ความรู้สึกเยาะเย้ยภายในใจของเธอก็ลดลงไปส่วนหนึ่ง
หรือว่า……เขาจะมีลูกไม้อะไร ?
ขณะที่กำลังนึกสงสัยอยู่นั้น
จู่ๆ เสียงหัวเราะเยาะที่เย็นชาก็ดังขึ้น
“เข้ามาฆ่าฉันสิ ?”
เร้าใจ !
เกรี้ยวกราด !
รนหาที่ตาย !
“ตายซะเถอะ !”
ปรากฏความเกรี้ยวกราดขึ้นในดวงตาคู่งามของนักฆ่าสาวในทันที เธอตะโกนออกมาด้วยความโกรธ และพุ่งเข้าหาเฉินตงราวกับลูกธนู
มีดปาที่อยู่ในมือกวัดแกว่งไปมาจนเกิดเป็นภาพติดตา
เฉินตงที่กำลังเผชิญหน้ากลับนักฆ่าสาวที่เข้ามาอย่างดุดัน กลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ร่างกายยังคงอยู่ในท่าเตรียมพร้อมต่อสู้อยู่ตลอดเวลา แต่แววตากลับเผยความเย็นชาออกมา
ยิ่งไปกว่านั้น มุมปากก็ค่อยๆ แสยะยิ้มขึ้น
ภาพนี้ปรากฏขึ้นในสายตาของนักฆ่าสาว ดูราวกับมีค้อนขนาดใหญ่ทุบเข้าในดวงตา ทำให้เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงดูใจเย็นเช่นนี้ ?
ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน นักฆ่าสาวได้พุ่งเข้าไปอยู่ตรงหน้าเฉินตงเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินตงที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ซึ่งอยู่ห่างออกไปแค่เอื้อม นักฆ่าสาวก็ไม่ลังเลอีกต่อไป
เสียงฟัน “ฉึบ” ของมีดปาในมือดังขึ้น ส่งแสงประกายแวววาว และพุ่งตรงไปที่เฉินตง
ตอนนี้เอง
ในที่สุดเฉินตงก็เคลื่อนไหว
นิ่งให้เหมือนขุนเขา รุกให้เหมือนเปลวไฟ
เขาขยับร่างกาย และลอดผ่านคมมีดไปได้อย่างหวุดหวิด
“ตายซะเถอะ !”
ดวงตาคู่งามของนักฆ่าสาวเบิกโพลง และฉาบไปด้วยความดุร้าย
เธอยกมีดปาที่ถืออยู่ในมือขึ้น แล้วฟันลงไปที่เฉินตงทันที
คมมีดสะท้อนแสงเป็นประกายออกมา
นักฆ่าสาวแสยะยิ้มออกมา : “แกยังจะหนีพ้นอีกเหรอ?”
จากมุมนี้ และจากความเร็วเช่นนี้
ด้วยการวิเคราะห์จากประสบการณ์ในการต่อสู้ของเธอ เฉินตงสามารถหลบการฟันครั้งแรกได้ แต่ไม่มีทางหลบการฟันครั้งที่สองได้ทัน
ความตาย อยู่ตรงนี้แล้ว !
ยังไม่ทันจะพูดจบ ก็มีเสียงหัวเราะเยาะดังก้องขึ้นในหูของนักฆ่าสาวเช่นเดียวกัน
“แกยังจะหลบพ้นอีกเหรอ?”
เปรี้ยง !
นักฆ่าสาวตัวสั่น เธอรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า ดวงตาคู่งามเบิกโพลงด้วยความตกตะลึงทันที
ฟิ้ว !
แทบจะในเวลาเดียวกัน จู่ๆ ก็มีเสียงพุ่งทะลุผ่านอากาศเข้ามา
ดวงตาคู่สวยของนักฆ่าสาวมองเห็นเลือนรางว่า มีแสงประกายแวววาวเส้นเล็กๆ เคลื่อนผ่านด้านข้างของเธอไป
จากนั้น
“เกิดอะไรขึ้น ?”
นักฆ่าสาวตกใจจนหน้าถอดสี เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า เธอไม่สามารถควบคุมมีดปาที่อยู่ในมือของตนเองได้ และด้วยแรงดึงอันมหาศาล มีดปาก็ตรงเข้าปาดที่คอของเธอทันที
ฉึบ !
คมมีดส่องประกายออกมา
ร่างกายของนักฆ่าสาวหยุดนิ่ง มีดปาที่อยู่ในมือของเธอ กระเด็นหลุดออกจากมือด้วยแรงมหาศาล แล้วปักเข้าไปที่ผนังห้อง
ส่วนลำคอเรียวขาวของเธอ กลับมีรอบบาดแผลสีแดงสดปรากฏขึ้นมา เลือดไหลทะลักออกมาราวกับน้ำพุ
จนกระทั่งเสียชีวิต บนใบหน้าของนักฆ่าสาวก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสับสน
ฟิ้ว !
เสียงเก็บเส้นเอ็นดังขึ้น
ตุ้บ !
เมื่อสูญเสียแรงที่ดึงเอาไว้ ร่างของนักฆ่าสาวก็ล้มลงไปจมอยู่ในกองเลือด
เฉินตงเดินโซเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว เขายกมือขวาขึ้นมาปิดบาดแผลบนแขนข้างซ้ายเอาไว้ เขาขมวดคิ้วแน่น เหงื่อกาฬไหลออกมาราวกับสายฝน
ถึงแม้เขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้แขนซ้ายได้รับการกระทบกระเทือน แต่การเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเมื่อครู่ ยังคงส่งผลต่อความเจ็บปวดของบาดแผลอยู่ดี
เขาก้มลงมองกล่องโลหะที่อยู่บนข้อมือด้านขวา ดวงตาของเขาเป็นประกาย และยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ : “คุนหลุนเคยบอกว่าของสิ่งนี้สามารถฆ่าคนโดยไร้ร่องรอย มันคือความจริง”
สิ่งที่สวมอยู่บนข้อมือ อันที่จริงแล้วเป็นของที่คุนหลุนค้นเจอมาจากในพุ่มไม้บริเวณประตูใหญ่ของเขตวิลล่าเขาเทียนซาน เป็นเครื่องมือลอบสังหารที่ชื่อว่า——เอ็นเกล็ดปลา !
เขาเหลือบมองร่างของนักฆ่าสาวอย่างเย็นชา
เฉินตงไม่ได้สนใจ แต่กลับเดินโซเซไปนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย
การต่อสู้ที่ดูเหมือนจะรวดเร็ว แต่กลับต้องใช้พลังแทบทั้งหมดที่เขามีอยู่
โดยเฉพาะความเจ็บปวดของบาดแผลที่ถูกยิง ทำให้เขารู้สึกยากที่จะทนไหว เขานั่งลงบนเตียงและหายใจหอบออกมาไม่หยุด
ในตอนนี้เอง
มีเสียงฝีเท้าที่ฟังดูรีบร้อนดังขึ้นต่อเนื่องที่บริเวณโถงทางเดินด้านนอก
เฉินตงสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที
กลางดึกเช่นนี้ โรงพยาบาลต้องการความเงียบ
คนจำนวนมากส่งเสียงดังขนาดนี้หรือว่าจะเป็น……ทหารรับจ้างเดดพูล ?
ความคิดที่น่ากลัวผุดขึ้นมาในหัว ทำให้เฉินตงรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวทันที
เฉินตงมองดูห้องพักที่ว่างเปล่า ก็รู้สึกสิ้นหวังทันที
ที่นี่คือชั้นเจ็ด !
ไม่มีทางหนี !
สูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง
จู่ๆ ท่าทางของเฉินตงก็ดุดันขึ้น : “จะจับโจรก็ต้องจับหัวหน้าโจรให้ได้เสียก่อน !”
เขาฝืนลุกขึ้น แล้วเดินไปด้านหลังประตูห้องพักอย่างเงียบๆ
ในขณะเดียวกันก็ยกมือขวาขึ้นมา เขากัดปลายเส้นของเอ็นเกล็ดปลาที่อยู่ในกล่องโลหะเอาไว้ ด้วยท่าทีหดหู่และแววตาที่เย็นชา
ในพจนานุกรมของเขาไม่มีคำว่ารอความตายบัญญัติเอาไว้
เขายอมที่จะเจ็บตัวเพื่อดึงพระราชาลงมาจากหลังม้าให้ได้ ต่อให้เป็นทหารรับจ้างเดดพูลจริง ถ้าหากเขาสามารถจับหัวหน้าของทหารรับจ้างในขณะที่เดินเข้าประตูเอาได้ ไม่แน่ว่าจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตหลงเหลืออยู่
ปัง !
ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกคนเตะเข้ามาอย่างแรง
และในตอนนี้เอง !
เฉินตงกระโจนเข้าไปหาคนที่เดินเข้าประตูห้องพักมาด้วยท่าทีดุดัน ราวกับเสือโคร่งที่กระโจนลงจากภูเขา