The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 332 ลุงเต้าจูนของฉันกลับมาแล้ว!

บทที่ 332 ลุงเต้าจูนของฉันกลับมาแล้ว!

ลานป่าไผ่

บรรยากาศเงียบสงัด

เฉินตงแทบจะนั่งไม่ติด

กูชิงหยิ่งช่วยประคองเขานั่งลงบนรถเข็น แล้วเข็นเข้าไปในห้องนั่งเล่น

กูชิงหยิ่งชงน้ำชาหลงจิ่งเกรดดีหนึ่งกา พร้อมทั้งจุดธูปไม้จันทน์ขึ้นมาหนึ่งก้าน

ส่วนคุนหลุนและท่านหลงนั่งรออยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ

รสสัมผัสอ่อนๆ ของชา

และบรรยากาศที่เงียบสงบ

“น่าจะกลับมาแล้วนะ?”

เฉินตงจิบชาและเอ่ยถามอย่างใจเย็น

“ไปครึ่งชั่วโมงแล้ว น่าจะกลับมาแล้วนะครับ” ท่านหลงพยักหน้า

เฉินตงยิ้มเล็กน้อย แล้ววางแก้วชาลง : “คิดไม่ถึงเลยว่า ระยะเพียงแค่สามวัน เคียวของยมราชจะมาแล้ว ครั้งนี้เป็นใครกัน ?”

เฉินตงแสยะยิ้มออกมา : “ไม่รู้ว่าหากเขาพบกับพี่เสี่ยวลู่เข้า เขาจะตกใจหรือไม่ ?”

อาการบาดเจ็บของฟ่านลู่นั้นไม่รุนแรง ถึงแม้พลังในการต่อสู้จะลดลง แต่ก็ยังเหลือพลังเพียงพอในการต่อสู้อีกหนึ่งครั้ง

กูหลังมีประสบการณ์ในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้น้อยเกินไป จึงยากที่จะวางใจได้

ทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ถึงแม้จะมีจำนวนคนอยู่มาก และมีการประสานงานที่ดี แต่อย่างไรเสียก็ขาดหัวหน้าไปหนึ่งคน จึงยากที่จะแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในช่วงวิกฤตได้

การลอบสังหารในช่วงกลางดึกของชินโกะ โดโมโตะเมื่อคราวก่อน ถือเป็นตัวอย่างได้อย่างดีที่สุด

ตอนนี้ ฟ่านลู่เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นหัวหน้าของทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ไม่ว่าจะความสามารถ หรือด้วยเห็นแก่หน้าคุนหลุน คนของทีมรักษาความปลอดภัยคงไม่กล้าสบประมาทได้

หลังจากพูดจบ

มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านนอกลาน

ฟ่านลู่และกูหลังเดินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“คุณเฉิน จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ” ฟ่านลู่รายงานด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม: “ขณะที่โจมตีกลับ ฉันพบว่ายังมีอีกคนที่หลบซ่อนตัวอยู่ น่าจะเป็นคนที่อยู่ในอันดับยมราชคนนั้น แต่หลังจากที่โจมตีกลับได้สำเร็จแล้ว คนคนนั้นก็ล่าถอยออกไป”

“มีพี่เสี่ยวลู่อยู่ คนคนนั้นคงตกใจจนหัวหด”

เฉินตงยิ้มออกมาด้วยท่าทีเรียบเฉย และไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย

ถึงแม้ฐานะ “ยายเมิ่ง” ของฟ่านลู่จะถูกปกปิดมานาน แต่ความสามารถในการต่อสู้ที่เธอมีอยู่ ก็ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว

นักฆ่าระดับท้ายๆ ของระดับยมราชสองคนร่วมมือกันเพื่อรุมฆ่า แต่เมื่อได้เห็นนักฆ่าระดับพระกาฬอย่างฟ่านลู่ อีกคนกลับตกใจกลัวจนวิ่งหนีไป ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ

“คุณเฉินกล่าวเกินไปแล้ว”

ฟ่านลู่ยังคงมีท่าทีเรียบเฉย ใบหน้าของเธอดูน่าเกรงขาม เผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่เย็นชาและเคร่งขรึม

ยากที่จะเชื่อเหลือเกินว่า ฟ่านลู่ที่อยู่ตรงหน้า คือคนที่ปกติแล้วใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม คือพี่เสี่ยวลู่คนที่วันๆ ง่วงอยู่กับงานบ้าน

เฉินตงลูบจมูก : “ถ้าเช่นนั้น นักฆ่าระดับพระกาฬที่เรารู้ตัวแล้วตอนนี้ ก็เหลือเพียงแค่ยิวหมินที่อยู่ในระดับยมราชแล้วสิ”

ทันทีที่ได้เย็น

ใบหน้าของทุกคนก็ดูเคร่งขรึมลง

นักฆ่าในระดับยมราชทั้งสองคนเมื่อครู่ ไม่มีใครให้ความสำคัญเลยแม้แต่น้อย

ด้วยความสามารถของทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลเฉิน คงมีเพียงนักฆ่าระดับพระกาฬที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของอันดับยมราชเท่านั้น พี่พอจะมาดหมายเอาชีวิตเฉินตงได้จริงๆ

ยิวหมิน……ไม่มีใครกล้าประมาทจริงๆ !

นักฆ่าที่สามารถขึ้นไปอยู่ในอันดับที่สิบของอันดับยมราชได้ เพียงแค่ลงมือ จะต้องเป็นการโจมตีที่รวดเร็วและแม่นยำอย่างแน่นอน และต้องน่ากลัวกว่าชินโกะ โดโมโตะคนก่อนหน้านี้แน่นอน

และสิ่งที่ยิ่งทำให้รู้สึกสิ้นหวังยิ่งขึ้นก็คือ คุนหลุนและฟ่านลู่ซึ่งถือเป็นที่พึ่งเดียวที่พอจะรับมือกับยิวหมินได้ คนหนึ่งก็นั่งอยู่บนรถเข็น ส่วนอีกคนก็มีพลังในการต่อสู้ที่อ่อนแอ

ส่วนทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ไม่เพียงแค่เฉินตง แม้แต่ท่านหลง หรือแม้กระทั่งกู้ชิงหยิ่งเองก็รู้ดี

หากยอดฝีมือมาถึงจริงๆ เทคโนโลยีและอาวุธที่ขึ้นชื่อว่ายอดเยี่ยมที่สุดในยุคนี้ ก็จะกลายเป็นเพียงแค่ของเด็กเล่นเท่านั้น

เหมือนกับการปรากฏตัวขึ้นของชินโกะ โดโมโตะ

“ท่านหลง ทางฝั่งคุณพ่อมีการเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหม?” เฉินตงหรี่ตาแล้วเอ่ยถาม

ท่านหลงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากพูดว่า : “คุณชาย เหมือนที่กระผมคาดไว้ตั้งแต่ต้น เรื่องการชี้นำในการลอบสังหารครั้งนี้ ไม่พบร่องรอยการลงมือของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเลยแม้แต่น้อย”

“ไม่ใช่เธอ แล้วยังจะมีใครอีก?” เฉินตงลูบจมูก แล้วก้มหน้าก้มตาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ในตอนนี้เอง

มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาในโทรศัพท์

เฉินตงรับโทรศัพท์

เสียงที่ดังขึ้นจากปลายสายเป็นเสียงที่แหบพร่า และทรงพลังอย่างยิ่ง : “ออกมาแล้ว !”

เฉินตงตัวสั่นและผงะไปในทันที

เสียงนี้……เฉินเต้าจูน ? !

เฉินตงรู้สึกปั่นป่วนภายในจิตใจขึ้นมาทันที

เขาถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า : “คุณออกมาจากที่นั่นแล้ว? ที่นั่น……”

“ฉันอยากไปก็ไป อยากอยู่ก็อยู่ ในโลกนี้ มีใครกล้าขังฉัน เฉินเต้าจูนบ้าง?”

ประโยคนี้แสดงออกถึงความหยิ่งผยองอย่างชัดเจน

แต่เฉินตงรู้ดีว่า ผู้ชายที่สามารถควบคุมคุกทั้งหมดเอาไว้ในมือได้ ย่อมที่จะมีความมั่นใจที่จะพูดคำพูดเช่นนี้ออกมา !

เฉินตงสูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง เริ่มมีความคิดต่างๆ เกิดขึ้นในสมองของเขา รวมไปถึงรู้สึกปีติยินดีอยู่ลึกๆ

เขารีบถามว่า : “อยู่ที่ไหน ?”

“หน้าหลุมศพของแม่นาย!”

ตู้ด !

โทรศัพท์ถูกตัดสาย

เฉินตงยิ้มออกมาอย่างสบายใจ : “ท่านหลง เตรียมรถให้ผมหน่อย ผมจะไปไหว้แม่”

เปรี้ยง !

ราวกับเสียงฟ้าผ่า

ทุกคนต่างตกตะลึงไปพร้อมกัน

เสียสติไปแล้วเหรอ?

มีอันตรายอยู่รอบด้านเช่นนี้ อีกทั้งยังมีนักฆ่าจำนวนนับไม่ถ้วนที่คอยจ้องจะลอบสังหารอยู่ แล้วยังคิดจะออกไปข้างนอกอีกเหรอ?

นี่ไม่เท่ากับว่าส่งตัวเองออกไปเป็นเป้านิ่งต่อหน้านักฆ่าทุกคนที่กำลังจ้องจะเล่นงานอยู่อย่างนั้นเหรอ?

“เฉินตง ออกไปไม่ได้นะ!” กู้ชิงหยิ่งพูดขึ้นทันที

ส่วนพวกของท่านหลงและคุนหลุนที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างก็แสดงท่าทีเห็นด้วย

โดยเฉพาะท่านหลง เอ่ยเตือนขึ้นด้วยความหวังดีว่า : “คุณชายคิดให้ดีๆ ก่อนเถอะครับ ! มีอันตรายอยู่รอบด้านเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังมียอดฝีมืออย่างยิวหมินที่พร้อมจะปรากฏตัวขึ้นได้ทุกเมื่ออีก แม้กระทั่งพักอยู่ในคลับสี่ยิ่น ก็ยังไม่ถือว่าปลอดภัยมากพอ แล้วตอนนี้คุณชายจะไปไหว้นายหญิงอีก นี่มัน……”

คำพูดในตอนท้ายว่า “รนหาที่ตาย” ท่านหลงไม่ได้พูดออกมา

เพราะว่าเข้าเป็นบ่าว ส่วนเฉินตงนั้นเป็นนาย หากพูดเช่นนี้ออกไป เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

“รนหาที่ตายใช่ไหม?” เฉินตงแสยะยิ้มออกมา เขากวาดสายตามองทุกคน และสุดท้ายไปหยุดอยู่ที่กู้ชิงหยิ่ง จากนั้นจึงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เบิกบานว่า : “ถ้าฉันบอกว่า การที่ฉันออกไปครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเอาชีวิตรอดกลับมาได้ แต่จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ความเป็นความตายที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ได้ด้วยล่ะ ?”

อะไรนะ ? !

ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอีกครั้ง

ทั้งไม่ทันที่ทุกคนจะได้พูดอะไร

เฉินตงก็หัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า : “ฉันหาคนที่จะรับมือกับยิวหมินเจอแล้ว !”

……

สิบนาทีผ่านไป

รถโรลส์-รอยซ์ที่ถูกดัดแปลงให้กันกระสุน ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากคลับสี่ยิ่น

ด้านหลังของรถโรลส์-รอยซ์ มีรถบีเอ็มดับเบิลยูอีกยี่สิบคันขับตามหลังมาติดๆ

ขบวนรถวิ่งไปอย่างแข็งแกร่งและทรงพลัง

เฉินตงมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นขบวนรถที่ยาวสุดลูกหูลูกตาที่ตามมาทางด้านหลัง แล้วพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า : “ท่านหลง ยิ่งทำแบบนี้ ยิ่งไม่เป็นการบอกให้คนอื่นรู้หรือว่า ฉัน เฉินตงออกมาจากคลับสี่ยิ่นแล้ว ? ตกลงต้องการคุ้มกันฉันจริงๆ หรือต้องการดึงดูดให้นักฆ่ามาฆ่าฉันกันแน่ ?”

ท่านหลงซึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับหน้าแดงขึ้นมา พร้อมยิ้มอย่างหดหู่ และพูดว่า : “กระผมเองก็จนใจ ถึงแม้จะรู้ว่าทำเช่นนี้ไม่สมควรนัก แต่นี่ถือเป็นวิธีที่จะรักษาความปลอดภัยให้กับคุณชายได้อย่างดีที่สุดแล้ว”

เฉินตงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

เขาเหลือบมองฟ่านลู่ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทีเคร่งขรึม รวมไปถึงกูหลังที่ขับรถไปพลาง และคอยระแวดระวังไปพลางอยู่ตลอดเวลา

สถานการณ์เช่นนี้ ดูแล้วเหมือนมีอันตรายอยู่รอบด้านจริงๆ !

แต่ตอนนี้ระแวดระวังไว้ถือเป็นเรื่องดีที่สุด

“คุณชาย ครั้งนี้คุณใช้เรื่องไปไหว้คุณแม่เป็นข้ออ้าง จริงๆ แล้วคุณไปหาใครกันแน่?” จู่ๆ ท่านหลงก็เอ่ยถามขึ้นมา

กูหลังและฟ่านลู่เองก็แสดงท่าทีสงสัยออกมาพร้อมกัน

พวกเขารู้นิสัยของเฉินตงดี

สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างเช่นตอนนี้ คนที่จะทำให้เฉินตงยอมเสี่ยงชีวิตออกไปพบได้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน !

“ท่านหลงน่าจะรู้จัก”

เฉินตงลูบจมูก จากนั้นจึงยิ้มแล้วหันมองไปนอกหน้าต่าง น้ำเสียงเผยให้เห็นถึงความสบายใจที่หาได้ยากยิ่งในช่วงที่ผ่านมา : “ลุงเต้าจูนของฉันกลับมาแล้ว”

คำพูดที่ฟังดูสบายๆ แต่กลับทำให้ท่านหลงซึ่งนั่งอยู่ในที่นั่งข้างคนขับ รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาตัวเกร็งด้วยความตกใจทันที

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท