น้ำเสียงเย็นชาและน่าเกรงขาม
คนที่อยู่ในห้องวีไอพี แสดงความไม่พอใจออกมาทันที
สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่คนคนเดียว
นั่นคือชายหนุ่มเพียงคนเดียวในห้องวีไอพี ที่ยังคงโอบกอดหญิงสาวเอาไว้อยู่
ชายหนุ่มมีใบหน้าที่เหี้ยมโหด แสดงให้เห็นถึงความดุร้ายและหยิ่งผยอง ในปากของเขาคาบซิการ์เอาไว้ และเอนกายอย่างสบายอยู่บนโซฟา และโอบกอดหญิงสาวเอาไว้
เขาแสยะยิ้มแล้วเหลือบมองผู้จัดการล็อบบี้ “มัวแต่ทำอะไรอยู่ ? ถึงปล่อยให้หมาแมวเข้ามาเดินเพ่นพ่านอยู่ที่นี่ได้ ?”
ผู้จัดการล็อบบี้มีสีหน้าตื่นตระหนกในทันที “ประธานอู๋ ผมไม่ได้ปล่อยเข้ามา แต่พวกเขาดึงดันที่จะเข้ามา เป็นโจวเย่นชิว คนที่ถูกคุณสั่งสอนไปเมื่อช่วงบ่ายคนนั้น !”
อู๋จุนหาวหัวเราะออกมา เขาทำเสียงกระแอมและถ่มน้ำลายลงบนพื้น และพูดอย่างดุดันว่า “วันๆ ฉันสั่งสอนคนไปตั้งมากมาย จะต้องคอยจดจำชื่อด้วยหรือยังไง ?”
ผู้จัดการล็อบบี้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขารีบหลบไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
เฉินตงค่อยๆ ยกมือขึ้น และชี้ไปที่อ๋จุนหาว “แก ออกมาเดี๋ยวนี้ !”
“ถุย !”
อู๋จุนหาวนั่งพิงอยู่บนโซฟาอย่างเย่อหยิ่ง ในปากคาบซิการ์ ด้วยท่าทีที่ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา “แกเป็นใคร ? มาเห่าอะไรในที่ของฉัน ถ้าฉันออกไปจริงๆ วันนี้แกจบเห่แน่ !”
กูหลังซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของเฉินตงโมโหขึ้นมาทันที
ขณะที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า กับถูกเฉินตงรั้งเอาไว้
“ไม่ใช่ว่าแกบอกให้คนของฉัน ไปบอกฉันว่าให้ยกเหล้ามาขอโทษหรอกหรือ ?”
เฉินตงหรี่ตาลง และมีแววตาที่โหดเหี้ยม “ตอนนี้ฉัน เฉินตง มาแล้ว”
“เฉินตง ? ไม่เคยได้ยินมาก่อน ในหลิ่งตงนี้ ยิ่งใหญ่กว่าหลินหลิ่งตงเจ้านายของฉันไหม ?”
ใบหน้าของอู๋จุนหาวเต็มไปด้วยความดูถูก เขาถูขมับ แล้วจู่ๆ ก็ส่งเสียงหัวเราะที่ดังกังวานออกมา “อ้ออ้ออ้อ ฉันนึกออกแล้ว พวกแกคือคนที่มาขอพบพี่ใหญ่ของฉันเมื่อตอนบ่าย เป็นสุนัขที่อยากจะแย่งชิงที่ดินไปจากมือของพี่ใหญ่ฉันใช่ไหม ?”
ปัง !
ลูกสมุนที่นั่งอยู่ข้างๆ อู๋จุนหาวตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น จากนั้นจึงชี้นิ้วด่าเฉินตง “ไอ้พวกสวะ พวกแกไม่รู้หรือว่าพวกแกกำลังพูดอยู่กับใคร ? พวกขยะอย่างพวกแก ไม่รู้ว่าวันวันหนึ่งประธานอู๋ต้องจัดการไปกี่ราย ?”
“ให้ตายเถอะ ปีนี้น้ำคงจะตื้นเขิน เศษสวะจึงลอยอยู่เยอะ ถึงได้มีพี่ใหญ่อยู่ทุกหนทุกแห่ง”
“ประธานอู๋ คุณพูดอะไรหน่อยสิ แค่เพียงประโยคเดียว วันนี้พวกมันทั้งสามคนก็คงต้องถูกหามออกไปจากที่นี่ !”
“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ ตอนบ่ายเพิ่งจะถูกต่อยไป กลางคืนยังจะกล้ามาอีก ประธานอู๋ ในเมื่อพวกเขายืนข้อเสนอที่ยากเกินรับได้เช่นนี้ คุณก็ช่วยใช้ความเมตตาสนองให้พวกเขาหน่อยเถอะ !”
ภายในห้อง มีเสียงพูดด้วยความโมโหดังขึ้นอย่าต่อเนื่อง พร้อมกับใบหน้าที่ขึงขัง
สีหน้าของโจวเย่นชิงและกูหลังเคร่งขรึมลงทันที
คนพวกนี้ ไม่รู้จักจบจักสิ้นจริงๆ !
กูหลังเดินเข้าไปยืนข้างๆ เฉินตงด้วยใบหน้าที่ดุดัน และกำลังจะเอ่ยปากพูด
ทันใดนั้น
“ฮ่าๆ !”
จู่ๆ เฉินตงก็หลุดขำออกมา
เพียงแต่ในเสียงหัวเราะฉาบไปด้วยความโหดเหี้ยม เขาหรี่ตาทั้งสองข้างลง และปรากฏเจตนาฆ่าที่รุนแรงขึ้น
ตอนนี้ แววตาของเฉินตงดูเหมือนนักฆ่ามือพระกาฬ !
ภาพนี้ ทำให้คนที่กำลังพูดจาด้วยความหยิ่งยโสอยู่ภายในห้อง หุบปากลงทันที
แม้กระทั่งอู๋จุนหาวเองก็รู้สึกตกใจกลัว
“ในเมื่อแกไม่ออกมา ฉันก็จะเข้าไปเอง”
เฉินตงค่อยๆ เดินเข้าไปอย่างสบายๆ พร้อมทั้งแสยะยิ้มมุมปากด้วยท่าทีเย็นชาและเคร่งขรึม “ในเมื่อแกไม่รู้จักฉัน เฉินตง ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอแนะนำตัวเองสักหน่อย”
“บ้าเอ๊ย ลงมือ !”
จู่ๆ อู๋จุนหาวก็มีท่าทีดุดันขึ้น เขาขว้างซิการ์ลงบนพื้นอย่างแรงทันที
ทันใดนั้น คนที่อยู่ในห้องวีไอพีสิบกว่าคน ก็รีบวิ่งเข้ามาล้อมเฉินตงไว้ทันที
“ตัวตลก!”
เฉินตงส่ายหัวอย่างดูถูก ทันใดนั้น เขาก็พุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว ราวกับเสือที่กระโจนลงจากภูเขา
ตุบตุบตุบ !
มีเสียงดังติดต่อกันสามครั้ง
ลูกสมุนสามคนร้องโหยหวนออกมา แล้วล้มลงไปบนพื้น
การเคลื่อนไหวของทุกคนชะงักลง และแสดงความหวาดกลัวออกมา
คนโหดเหี้ยม !
ทันใดนั้น คนในห้องวีไอพีต่างมีความคิดเช่นเดียวกันออกมา รวมไปถึงอู๋จุนหาวด้วย
จู่ ๆ เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง
กลับกลายเป็นแววตาของโจวเย่นชิวที่ยังคงเคลื่อนไหวด้วยความตื่นเต้น
ส่วนกูหลัง กลับรีบวิ่งเข้าไปหาเฉินตงอย่างรวดเร็ว และยืนเคียงบ่าเคียงไหล่
“ถอยไป !”
เฉินตงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย
กูหลังยังคงดึงดัน “คุณเฉิน ผม……”
“แค่ฝูงหมาฝูงแมว ฉันคนเดียวก็พอแล้ว” น้ำเสียงของเฉินตงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ทำให้กูหลังไม่อาจโต้แย้งได้อีก
แต่ประโยคที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งนี้ กลับเหมือนเข็มแหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วน ที่เข้ามาทิ่มแทงเส้นประสาทของพวกอู๋จุนหาวในทันที
“บ้าเอ๊ย มัวยืนนิ่งอยู่ทำไม ? เข้าไปเร็วสิ !”
อู๋จุนหาวออกคำสั่ง
ลูกสมุนที่กำลังอยู่ในอาการหวาดกลัว ต่างหันมองหน้ากันในทันที จากนั้นจึงพุ่งเข้าโจมตีเฉินตงอย่างรุนแรง
เฉินตงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทั้งหมัดและเท้าถูกปล่อยออกมาอย่างทรงพลัง
เคยเห็นมานักต่อนักแล้ว
พวกอันธพาลที่พบได้ตามท้องถนนพวกนี้ ไม่ได้อยู่ในสายตาของเฉินตงเลยแม้แต่น้อย
บางทีคนพวกนี้อาจดูน่ากลัวสำหรับคนธรรมดาทั่วไป
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา แม้กระทั่งเป็นรองเท้าก็ยังเทียบไม่ติด
ตุ้บตุ้บตุ้บ……
เหมือนมเสียงกระสอบทรายดังก้องกังวานทั่วห้อง
และมีเสียงสิ่งของแตกกระจายอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ลูกสมุนก็ค่อยๆ ลงไปนอนอยู่บนพื้นทีละคนๆ
การโจมตีของเฉินตง ตรงไปตรงมาและรุนแรง ทุกครั้งที่ปล่อยหมัดหรือเตะออกไป จะต้องมีคนล้มลงไปนอนบนพื้น ไม่ปล่อยให้มีโอกาสได้ปล่อยหมัดครั้งที่สอง
เพียงแค่สิบวินาที
ทุกคนก็ลงไปนอนอยู่กับพื้น และกรีดร้องโหยหวน
เฉินตงยืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ ใบหน้าของเขาแสดงความดุดันออกมา
เขาดูเด็ดขาดราวกับเป็นนักฆ่ามือพระกาฬ
จากนั้นจึงค่อยๆ เหลือบไปมองอู๋จุนหาว
เมื่อสัมผัสได้ถึงแววตาของเฉินตงที่มองมา อู๋จุนหาวก็ตัวสั่น เขารู้สึกเหมือนน่ากลัวกำลังคืบคลานเข้ามาด้านหลังของเขา ทำให้เขานั่งไม่ติดอีกต่อไป
รวดเร็วเกินไปแล้ว !
เร็วจนเขาไม่อาจตั้งสติได้ทัน
คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นลูกน้องฝีมือดีของเขา ปกติแล้วคนเดียวต่อสู้กับคนหลายคนก็ไม่ใช่ปัญหา แต่คืนนี้ ทำไมจึงไร้น้ำยาเช่นนี้ได้ ?
ตอนนี้อู๋จุนหาวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาจ้องมองไปที่เฉินตง และรู้สึกเหมือนตนเองตกลงไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
กูหลังแอบตกใจจนอ้าปากค้าง ส่วนโจวเย่นชิวกลับตื่นเต้นดีใจ
ปฏิกิริยาของทั้งสองคน แตกต่างกับอู๋จุนหาวที่อยู่ในห้องวีไอพีอย่างสิ้นเชิง
ภายในห้องวีไอพี เมไปด้วยบรรยากาศที่น่ากลัว
เฉินตงค่อยๆ เดินเข้าไปหาอู๋จุนหาวอย่างสบายๆ แล้วใช้สายตาจ้องมองลงมายังอู๋จุนหาวอย่างเหยียดหยาม “แกทำร้ายคนของฉัน ฉันทำร้ายแก คงไม่ถือว่าเกินไปหรอกใช่ไหม ?”
น้ำเสียงเย็นชา แต่แฝงไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง
สีหน้าของอู๋จุนหาวซีดเผือด และโพล่งถามออกมา “แก แกเป็นใครกันแน่ ? ทั้งทั้งเมืองหลิ่งตง ไม่มีทางที่จะมีคนอย่างแกอยู่แน่นอน”
“แซ่เฉิน ส่วนชื่อคือคำว่าตง !”
เฉินตงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ตอนนี้ พาฉันไปพบเจ้านายของแก หลินหลิ่งตง”
พบเจ้านาย ? !
อู๋จุนหาวตกใจเป็นอย่างมาก ในใจของเขานั้น หลินหลิ่งตง ก็เปรียบเสมือนพระราชาแห่งเมืองหลิ่งตง ทั้งสูงส่ง และเปรียบเสมือนมังกรที่ยิ่งใหญ่
หากไม่ได้รับคำสั่งจากหลินหลิ่งตง ใครก็ไม่อาจเข้าพบหลินหลิ่งตงได้ !
“แก แกคิดว่าแกเป็นใคร ? เจ้านายของฉัน หลินหลิ่งตง……”
อู๋จุนหาวตะคอกออกมาเสียงดัง
เพียงแต่ ยังไม่ทันจะพูดจบ
ตุ้บ !
เฉินตงคว้าศีรษะของอู๋จุนหาว แล้วฟาดลงไปบนโต๊ะกระจกที่วางอยู่ตรงหน้าทันที
เพล้ง……
หลังจากเสียงร้องโหยหวนของอู๋จุนหาวดังขึ้น ก็เกิดเสียงของกระจกที่แตกออก และกระจัดกระจายลงบนพื้น
เมื่อดึงศีรษะของอู๋จุนหาวขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของเขาก็เปียดโชกไปด้วยเลือดเรียบร้อยแล้ว
เฉินตงค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปหาอู๋จุนหาว แววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย น้ำเสียงฟังดูเยือกเย็นราวกับลมหนาวที่พัดออกมาจากในนรก
“แกคิดว่า เจ้านายของแกเป็นใครกัน ?