The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 377 การก้มหัวของราชาใต้ดิน

บทที่ 377 การก้มหัวของราชาใต้ดิน

คำพูดของเจิ้งโก๋โส่ว เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้

ทำให้ทุกคนตกตะลึงกันอย่างมาก

“เจ้านาย ยังจะวาดรูปอะไรอีก………”

อู๋จุนหาวคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด

“หุบปาก!”

หลินหลิ่งตงมองด้วยสายตาที่คมกริบ พูดตัดบทอย่างขุ่นเคือง

จากนั้น เขาก็มองกวาดไปทางเฉินตงแวบหนึ่ง หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าเฉินตงไม่ได้มีท่าทีที่แปลกไป จึงได้มองไปทางเจิ้งโก๋โส่ว

“ท่านเจิ้ง เชิญครับ!”

นี่มัน………

ทุกคนต่างตกตะลึง ยืนนิ่งอยู่กับที่

หลินหลิ่งตงจะเชิดชูเจิ้งโก๋โส่วให้สูงถึงขั้นไหน?

คนก็ได้บุกมาฉีกหน้าถึงที่แล้ว ยังสามารถวางเฉยได้อีกเหรอ?

ในความทรงจำของพวกเขา ราชาใต้ดินของเมืองหลิ่งตง มันเต็มไปด้วยความดุร้าย แค่พูดไม่ถูกใจคำเดียวเลือดก็จะกระเด็นทันที!

ดูไม่ออกเลย ว่าไอ้หมอนี่จะเคารพคุณอาเจิ้งขนาดนี้?

เฉินตงเองก็แปลกใจไปครู่หนึ่ง สามารถเป็นถึงราชาใต้ดิน ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องวิธีการ เพียงแค่หัวใจก็ต้องเป็นคนที่ทะนงตัวอย่างมาก

เสียหน้าขนาดนี้ ยังสามารถตอบรับคำขอของเจิ้งโก๋โส่ว นี่ไม่ใช่การเคารพนับถือโดยทั่วไปแล้ว

เห็นแก่หน้าของเจิ้งโก๋โส่ว เฉินตงก็ไม่ได้รีบร้อนแล้ว

“ดี”

เจิ้งโก๋โส่วตอบรับไปหนึ่งที ก็ได้ลงมือวาดภาพ

ภายใต้สายตาที่น่าสะพรึงกลัวของทุกคน หลินหลิ่งตงไม่ได้แสดงอาการโกรธเคืองใดๆ ตรงกันข้ามเขาก้มเข้าไปมองด้วยความจ่อจดและจริงจัง มองอย่างเพลิดเพลิน

ไม่นานนัก สีหน้าของหลินหลิ่งตงก็เปลี่ยนไปทันที

เปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ ตกใจ ไม่อยากจะเชื่อ

ภาพนี้ ถูกทุกคนมองเห็นแล้ว ล้วนตกใจกันอย่างอธิบายไม่ถูก

เจิ้งโก๋โส่ว…………วาดอะไรเนี่ย?

เพราะระยะห่าง จึงทำให้มองเห็นไม่ชัด

เมื่อทุกคนเข้ามามองดูใกล้ๆ

เมื่อดูแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

บนกระดาษที่ขาวดั่งหิมะ ได้วาดรูปหมูออกมาหนึ่งตัว!

ปราศจากแนวคิดทางศิลปะ เหมือนกับวาดอย่างส่งๆ

วาดธรรมดาไม่กี่ที จนกลายเป็นรูปหมูรูปหนึ่ง!

“ท่านเจิ้ง นี่มัน?”

หลินหลิ่งตงระงับความกลัวเอาไว้ แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ

เจิ้งโก๋โส่วโน้มตัวไปเป่าหมึกให้แห้ง จากนั้นก็หยิบภาพวาดขึ้นมา ยื่นให้กับมือของหลินหลิ่งตง

“รู้จักกับน้องหลิ่งตงมีความสุขมาก ขอมอบภาพวาดนี้ให้น้องหลิ่งตงเป็นของขวัญ หวังว่าน้องจะไม่โง่เหมือนหมู!”

โครม!

หลินหลิ่งตงเหมือนถูกฟ้าผ่า พริบตาเดียวสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ

ภาพวาดและคำพูดของเจิ้งโก๋โส่ว เห็นได้ชัดว่าด่าเขา!

อีกทั้งยังต่อหน้าทุกคน ด่าอย่างเปิดเผย!

ชั่วขณะ ในห้องโถงก็เงียบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่น

ทุกคนต่างกลัวจนไม่กล้าส่งเสียง

กล้าด่าราชาใต้ดินแบบนี้ ความโกรธของราชาใต้ดินต่อจากนี้…….

“คุณ คุณกล้าด่าพี่ใหญ่ของผม? ผม………..”

อู๋จุนหาวที่สีหน้าดุร้าย ใบหน้าเปื้อนไปด้วยเลือดดูแล้วน่ากลัวมาก

“หุบปาก!”

หลินหลิ่งหันหน้าไปตะคอกใส่ ดวงตาลึกและทรงพลัง

ในเวลานี้ เจิ้งโก๋โส่วเดินมาตรงหน้าเขา ทำท่าคารวะให้เขา จากนั้น ก็เดินออกไปโดยตรง

“ท่านเจิ้ง………”

หลินหลิ่งตงมึนงงและไม่รู้จะทำอย่างไร

เจิ้งโก๋โส่วกลับยกมือขึ้นเพื่อห้าม กล่าวอย่างรีบเฉย “คุณพิจารณาให้ดี”

“ผม……….” หลินหลิ่งตงพูดไม่ออก

จากนั้น

ภายใต้สายตาที่เหลือเชื่อของทุกคน

เจิ้งโก๋โส่วก็เดินมาถึงด้านหน้าของเฉินตง รอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ไม่แยแสของเขา ยกมือคารวะ

“หลานชาย เสี่ยวหยิ่งสบายดีมั้ย?”

โครม!

ภาพนี้ ราวกับถูกค้อนหนักทุบ ทุบมาที่ดวงตาของหลินหลิ่งตงและพวกอย่างแรง

โดยเฉพาะหลินหลิ่งตง ถึงขนาดปากค้างเล็กน้อย ตกใจจนไม่รู้สึกตัว

เฉินตงยิ้มเล็กน้อยแล้วคารวะกลับ “สบายดีครับ เสี่ยวหยิ่งเพิ่งจะตั้งครรภ์”

“ตั้งครรภ์? เป็นข่าวที่น่ายินดีอย่างมาก ดีๆๆ กู้โก๋ฮั๋วสองสามีภรรยาทราบเรื่องหรือยัง?” เจิ้งโก๋โส่วที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข

“ตอนนี้ยังไม่ทราบครับ” เฉินตงส่ายหัว ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นตั้งมากมาย ทำให้เขารับมือไม่ทัน

“อืม ต้องบอกเขาสองคน เขาสองคนรู้แล้ว ต้องดีใจจนนอนไม่หลับอย่างแน่นอน”

เจิ้งโก๋โส่วกะพริบตา ยิ้มอย่างสบายอารมณ์ “นายให้พวกเขาบินมาที่นี่ พวกเราเพื่อนเก่า จะได้ใช้เรื่องน่ายินดีนี้ในการดื่มฉลองให้มันสะใจไปเลย!”

“ไม่ได้แล้ว หลานสาวของฉันตั้งครรภ์เรื่องที่น่ายินดีเช่นนี้ หลังจากกลับไปแล้ว ฉันต้องตั้งใจวาดภาพ มอบให้กับหลานสาวและเหลนชายที่อยู่ในท้อง”

มองดูเจิ้งโก๋โส่วที่เดินจากไป

เฉินตงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

ไม่เสียทีที่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงนับหน้าถือตาของผู้คน การกระทำนี้ ไม่ว่าด้านจิตใจหรือด้านหน้าตาก็ได้ดูแลอย่างทั่วถึงแล้ว

มันคือการช่วยเขาอย่างไร้ร่องรอย และก็ช่วยหลินหลิ่งตงด้วย

ภาพที่สั่นๆ กลับทำให้หลินหลิ่งตงและพวก มึนงงเหมือนฝัน

สายตาแต่ละคู่ได้มาหยุดอยู่บนภาพวาดที่อยู่ในมือของหลินหลิ่งตง รวมทั้งตัวหลินหลิ่งตงด้วย

การขอร้องให้วาดภาพเช่นนี้ ผู้วาดภาพระดับชาติที่สง่างามกลับโบกพู่กันไปสองสามที วาดหมูอย่างส่งๆ

เฉินตงที่ไม่ได้ขอร้อง นักวาดภาพระดับชาติกลับจะตั้งใจวาดภาพ เพื่อจะมอบเป็นของขวัญ

ความต่างขนาดนี้ ต่างกันฟ้ากับเหว!

“ฮู้……….”

หลินหลิ่งตงนวดขมับตัวเองเบาๆ พ่นลมหายใจออกมา แล้วเผยรอยยิ้มอีกครั้ง

คนที่อยู่ในนี้ต่างก็ตื่นตัวกันแล้ว

เจิ้งโก๋โส่วไปแล้ว ตอนนี้……….เรื่องสนุกๆกำลังจะเกิดขึ้นแล้วใช่มั้ย?

อู๋จุนหาวที่คลานอยู่บนพื้น ก็ได้ยิ้มอย่างชั่วร้าย

เขาเหลือบซ้ายแลขาวมองเฉินตง โจวเย่นชิวและกูหลัง สายตากลับเหมือนคนมองคนที่ตายไปแล้ว

ตั้งแต่ที่เขาติดตามหลินหลิ่งตงมา เขายังไม่เคยเห็นคนปฏิบัติเช่นนี้กับหลินหลิ่งตงแล้ว ยังสามารถที่จะมีชีวิตอีก!

ท่าทางของโจวเย่นชิวกับกูหลังนั้นสงบมาก

“คงไม่สู้แล้วล่ะ”

โจวเย่นชิวยิ้มอย่างลึกซึ้ง กระซิบไปที่ข้างหูของกูหลัง

เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด

จู่ๆหลินหลิ่งตงก็ถามขึ้นมา “ต้องการที่ดินผืนนั้นหรือ?”

“ถูกต้อง”

เฉินตงพยักหน้า ชี้ไปทางอู๋จุนหัวที่ยิ้มอย่างชั่วร้าย “คนของฉันต้องการเจรจากับพวกคุณ หมาของคุณ กัดคนของฉัน”

“เหลวไหล!”

อู๋จุนหาวด่าอย่างโกรธเคือง

เพิ่งจะพูดออกมา

หลินหลิ่งตงสีหน้าก็อ่อนโยนลงมาทันที “ขอโทษด้วยครับ สร้างความยุ่งยากให้คุณแล้ว ที่แปลงนั้นเป็นของพวกคุณแล้ว!”

ตรงไปตรงมา โดยไม่มีความลังเลเลย

เมื่อเข้าสู่หูของผู้คน กลับดังเหมือนสายฟ้าฟาด เกือบทำให้คนหูหนวก

มันเรื่องอะไรกัน?

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

นี่มันไม่ใช่กิริยาท่าทางของราชาใต้ดินเลยนะ!

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองหลิ่งตง และก็เคยเห็นกิริยาท่าทางของราชาใต้ดินอย่างหลินหลิ่งตงอย่างลึกซึ้งมาแล้ว

แต่ตอนนี้การพูดการปฏิบัติของหลินหลิ่งตง เกินความเข้าใจของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง!

พริบตาเดียว แต่ละคนก็นิ่งงันเหมือนไก่ไม้ ปากอ้าตาค้าง

“เจ้านาย คุณกำลัง……….” อู๋จุนหาวคำรามอย่างตกตะลึง

เขาไม่เคยเห็นหลินหลิ่งตงก้มหัวขนาดนี้มาก่อน ใช่ ก็คือการยอมก้มหัว!

“หุบปาก! ไอ้ขยะ ไสหัวไป!”

หลินหลิ่งตงตะคอกด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็โบกมือให้ฝูงชนที่งุนงงพร้อมกับกล่าวอย่างเฉียบขาด “กลับไปกันได้แล้ว วันหลังผมค่อยเรียนเชิญทุกท่านมาร่วมงานอีก”

“ขอบคุณ”

เฉินตงยิ้มอย่างเรียบเฉย ก็หันหลังจากไป

จนกระทั่งทุกคนได้ออกไปจากห้องโถงแล้ว

หลินหลิ่งตงจึงได้หันหลัง มองลึกเข้าไปในทิศทางของประตู

จากนั้น ก็ดังขึ้นด้วยเสียงพรึบ ตัวอ่อนทรุดลงบนเก้าอี้

ในความเงียบ เม็ดเหงื่อหนาทึบไหลออกมาจากหน้าผากของเขา

สามารถเป็นราชาใต้ดินของเมืองหลิ่งตง ต้องเป็นคนที่สุขุมและมีแผนการในใจอย่างดีเยี่ยม คนทั่วไปนั้นไม่สามารถเทียบได้เลย

ภาพวาดของเจิ้งโก๋โส่ว และคำพูดของเขา คนอื่นดูแล้วเหมือนกำลังด่าเขา

แต่เขา ไม่ว่าจะฟังยังไงมันก็คือการเตือน?!

มันคือการช่วยเขา!

ผู้ที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ เตือนเขาเช่นนี้ ถือว่าได้ให้เกียรติเขาอย่างมากแล้ว

ท่านเจิ้งกับเฉินตงนั้นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดขนาดนี้ แต่เขานั้นกลับต้องอาศัยความเมาถึงสามารถเข้าใกล้ได้ ระยะต่างนี้ ยังห่างชั้นกันมาก

ประเด็นสำคัญคือ ขณะที่เจิ้งโก๋โส่วสนทนากับเฉินตงนั้น ข้อมูลที่เปิดเผยในคำพูด ทุกถ้อยคำนั้นดังกระหึ่ม

สิ่งนี้ทำให้หลินหลิ่งตง คิดได้ในทันทีว่าเมืองที่อยู่ด้านข้างมีคนที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มีชื่อเสียงดังไปทั่วเมือง

ตัวเขาคือนักเลงหัวไม้

เฉินตงคือ……มังกรตัวจริง!

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท